ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

กุมารทองหนูแดง (10 ธันวาคม 2546)


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 April 2007 - 08:13 PM

ย่อเรื่อง กุมารทองหนูแดง (10 ธันวาคม 2546) โดย Extra happy.gif



เพลงกุมารทอง

“ทำกรรมใช้ไสยเวทย์ เลยมาเป็นเหตุให้ใจเศร้าหมอง บาปกรรมตามมาสนอง ต้องตายในท้อง เมื่อตอนเล็ก ๆ ถูกเขาใช้แรงงานเด็ก ตั้งแต่เล็ก ๆ เป็นกุมารทอง ถูกเขาใช้แรงงานเด็ก ตั้งแต่เล็ก ๆ เป็นกุมารทอง”



เจ้าของเคสเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันมาตั้งแต่เปิดโรงเรียน ปัจจุบันยังเรียนชั้นอนุบาลอยู่ ชอบโรงเรียนนี้มาก และยิ่งชอบมากที่คุณครูไม่ใหญ่อนุญาตให้เรียนที่บ้านได้ ทำให้เธอซึ่งอยู่กับแม่ พี่ชาย น้องชาย และหลานอีก 3 คน ได้เรียนกันแบบครอบครัวหรรษา ถ้าไม่เจอกับตัวเอง เธอก็คงไม่เชื่อว่า ไม่มีชั้นเรียนไหนที่ทุกคนเรียนร่วมกัน รายการที่ทุกคนโหวตขึ้นชาร์จอันดับหนึ่งคือ case study เพราะจะคุยกันต่อในหมู่เพื่อนนักเรียนด้วยกัน โดยเฉพาะเมื่อปลายอาทิตย์ที่มีลูกเป็นกุมารทองมาเกิด



เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2546 ครอบครัวของเจ้าของเคสออกไปทานข้าวนอกบ้าน ก็รีบกลับบ้านเพื่อจะได้ไปฟังกุมารทองต่อ พอกลับถึงบ้าน ทุกคนก็มานั่งรอหน้าทีวีพร้อมกัน ที่เธอสนใจเรื่องนี้มากเพราะป้าของเธอเลี้ยงกุมารทองมาไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้ว กุมารทองชื่อหนูแดง เป็นเด็กผู้ชาย ตอนป้าได้หนูแดงมาใหม่ ๆ ยังเด็กมาก ชอบร้องหิวนมและขอดูดนมป้าด้วย ป้าบอกว่า อายเขาแต่ก็ให้ดูด เจ้าของเคสไม่ทราบว่าหนูแดงมีตัวตนจริง ๆ หรือเป็นเพียงความรู้สึก บางที แม่เล่าว่าคนใช้ที่บ้านป้าออกอีกแล้ว เพราะกลัวหนูแดง ทั้ง ๆ ที่ตอนกลางวันไม่มีใครอยู่บ้าน เขาขึ้นไปถูบ้านชั้นบน ได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นตึงตัง และยังเคยมาเข้าสิงลูกสาวของลูกชายป้าแล้วบอกหวยถูกด้วย ที่รู้ว่าหลานถูกหนูแดงเข้าเพราะปกติหลานต้องเรียกป้าว่าอาม่า แต่พอถูกเข้าจะเรียกว่าอาแหมะ เนื่องจากป้าเลี้ยงหนูแดงเป็นลูก พอหลานคนนั้นโตขึ้น หนูแดงก็จะไม่เข้าคนนั้น จะไปเข้าหลานคนที่เล็กกว่าซึ่งอายุ 5-6 ขวบ แล้วบอกว่าอยากกินโน่น อยากกินนี่ ป้าก็บอกว่า วันนี้ให้ช่วยขายของให้ได้ 40,000-50,000 บาทก่อน เดี๋ยวจะพาไปกิน แล้วก็ขายดีจริง ๆ บางครั้งป้าไปเที่ยวนอกบ้านกับเพื่อน ๆ หนูแดงยังตามไปเข้าเพื่อนป้าได้ด้วย คนอายุ 50-60 ปี ตัวเล็กกว่าตุ่มนิดหน่อย ดิ้นปัด ๆ เหมือนเด็ก พูดเสียงเล็ก ๆ แบบเด็ก ว่าจะกินน้ำแดง พอกินเสร็จแล้วก็คุยขอหวยหรือหาของหายเจอ เพราะชอบกินน้ำแดง จึงได้ชื่อว่าหนูแดง ลูก ๆ ของป้าคุ้นเคยกับหนูแดงเป็นปกติ ทุกคนเห็นว่าเป็นของมีค่า ลูกสาวของป้าเมื่อแต่งงานมีครอบครัว ทุกคนจะหากุมารทองไปเลี้ยงไว้เป็นของตนเองตามที่แม่ทำ ลูกสาวป้าขายเฟอร์นิเจอร์เงินผ่อน เวลาทวงหนี้ไม่ได้ก็จะใช้กุมารทองไปทวงหนี้ ไม่นานก็ได้หนี้คืนจริง ๆ แล้วก็ต้องซื้อของเล่นให้กุมารทอง เช่น จักรยาน แล้วคืนนั้นทุกคนจะได้ยินเสียงเด็กขี่จักรยานดังลั่น ปัจจุบันหนูแดงเริ่มโตเป็นหนุ่ม เพราะผ่านมา 20 ปีแล้ว แม่เล่าให้ฟังว่าได้ถามหนูแดงว่าใครมาขโมยของที่บ้านของเรา หนูแดงบอกว่าขโมยเป็นคนงานในบ้านป้า อย่าลืมซื้อน้ำหอมให้หนูแดงด้วย แม่ถามว่าจะเอาน้ำหอมไปทำไม เป็นเด็กเป็นเล็ก หนูแดงตอบว่า จะใส่น้ำหอมไปจีบสาว



คำถาม

1. คนที่เลี้ยงกุมารทองเพราะเห็นมีแต่คุณประโยชน์ จะมีโทษหรือไม่ อย่างไร เพราะเจ้าของเคสรู้สึกว่าน่าจะมีโทษมากกว่าคุณ แต่ไม่รู้จะบอกป้าอย่างไร

2. คนที่เลี้ยงกุมารทองจะไปเกิดเป็นกุมารทองหรือไม่

3. หนูแดงเป็นผู้ชาย แต่ทำไมชอบไปเข้าสิงเด็กผู้หญิง หรือเพื่อนผู้หญิงของป้า และมีกุมารีทองหรือไม่

4. เด็กที่ถูกกุมารทองเข้าบ่อย ๆ จะเป็นอะไรหรือไม่

5. ครอบครัวที่ชอบเลี้ยงกุมารทอง ทำกรรมอะไรมา จะแก้ไขได้อย่างไร เราเป็นญาติกันแต่ทำไมความคิดเห็นแตกต่างกันมาก (เพราะเจ้าของเคสสร้างบารมีรวมกันมากับหมู่คณะ แต่ป้าไม่ได้สร้างบารมีร่วมกันมา จึงไปเชื่อมคนละอย่าง)

6. ลุงเสียชีวิตไปแล้ว ลุงไม่เคยห้ามป้าเลี้ยงกุมารทองเลย ก่อนเสียชีวิตเจ้าของเคสได้ชวนคุณลุงสร้างพระ แต่ลุงบอกว่าไม่มีเงิน ทั้ง ๆ ที่มีเงินอยู่ในธนาคารนับสิบล้าน ท่านได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่



คำตอบ ก่อนหนูแดงมาเป็นกุมารทอง มีวิบากกรรมที่ทำแท้งมาก่อน จึงถูกทำแท้งบ้าง ประกอบกับเคยนับถือทรงเจ้าเข้าผีเป็นสรณะ เมื่อตายแล้ว เพราะมีเชื้อสายทางนี้ อาจารย์ที่เป็นวิทยาธรที่เป็นภุมเทวาก็มาเอาตัวไปเป็นเด็กในความปกครอง เนื่องจากอายตนะดึงดูดกัน วิทยาธรที่ดูแลด้านสิง ๆ ทรง ๆ หรือกุมารทอง มีหลายประเภท อาจารย์ที่เป็นภุมเทวาสายวิทยาธรเอาหนูแดงมาผูกไว้กับมนต์ ต่อมาอาจารย์มนุษย์ได้มาเรียนวิชชานี้โดยมีอาจารย์วิทยาธรกำกับ อาจารย์มนุษย์นำเอาตุ๊กตามาผูกด้วยมนต์กับเด็ก คือเอาตุ๊กตามาเป็นสื่อ แล้วมอบให้กับลูกศิษย์ที่มีความเชื่อมั่นทางนี้ บอกวิธีการเลี้ยงคือเหมือนเลี้ยงเด็ก ก็คือเซ่นนั่นเอง กินผลไม้ กินโน่นกินนี่ และใช้ง่าย ส่วนใหญ่ก็มักมีวัตถุประสงค์ ใช้ขายของ เฝ้าบ้านเป็นหลัก เรื่องบอกหวยเป็นเรื่องรอง แม้ตัวเจ้าของบ้านไม่อยู่ ก็เหมือนมีคนอยู่ในบ้าน มีเด็กวิ่ง หรือบางทีก็แปลงกายเป็นสุนัขตัวใหญ่บ้าง แต่ทุกตัวแปลงกายไม่ได้หมด ขึ้นอยู่กับมีเชื้อมากหรือน้อย เช่น เราสนใจอะไรมากก็จะเชี่ยวชาญด้านนั้นเป็นพิเศษ



เหตุที่หนูแดงชอบเข้าเด็กผู้หญิงหรือเพื่อนป้าที่เป็นผู้หญิง เพราะสิงง่าย เนื่องจากจิตใจอ่อนไหวง่ายกว่าเด็กผู้ชาย



เด็กที่ถูกเข้า ต้องมีเชื้อทรงเจ้าเข้าผีเหมือนกัน ถ้าไม่มีเชื้อก็เข้าไม่ได้ เป็นเพราะอายตนะดึงดูด จึงจะเข้าได้ นั่นคือ ต้องเป็นพวกเดียวกันเอง และมีจิตใจอ่อนไหว



ตอนหนูแดงมาอยู่ด้วยใหม่ ๆ ที่อ้อนขอกินนม เป็นเรื่องที่ป้าคิดไปเอง มีบางครั้งที่เขามาขอหรือเข้าฝัน ที่ป้าถูกหวยหรือขายของดีเพราะบุญเก่าของป้าเป็นหลัก กุมารทองแค่เสริมนิดหน่อยเท่านั้น บุญเก่าของป้าตอนนี้ก็เหลือไม่มากแล้ว ผู้ที่ได้สร้างทานมา เมื่อถึงจังหวะทานให้ผล อะไรก็ดีทั้งนั้น แต่ไม่ได้รวยทุกวัน



ลูกสาวคนโตของป้าขายเฟอร์นิเจอร์ผ่อน แล้วกุมารทองไปทวงหนี้ได้ เพราะบุญเก่าของลูกสาวป้าประจวบเหมาะพอดี จึงเลยทวงได้ กุมารทองเสริมนิดหน่อยเท่านั้น



กุมารทองบางตัวโตเร็ว บางตัวโตช้าเหมือนกับเด็ก เพราะกรรมไม่เท่ากัน ถ้าตัวไหนจะหมดกรรมก็จะโตเร็ว ตัวไหนกรรมมากก็จะโตช้า ที่ต้องการน้ำหอมเพราะกุมารทองโตเร็ว ส่วนกุมารีที่เป็นภุมเทวา หรือที่เป็นกุมารีทองก็มี คนที่เลี้ยงกุมารทอง มักจะเอากุมารทองเป็นที่พึ่ง ไม่คิดที่จะทำความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ไม่คิดที่จะให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา หรือไม่ตั้งใจให้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว จะวน ๆ เวียน ๆ อย่างนี้กับกุมารทอง เมื่อตายแล้วก็จะวนเวียนอยู่กับพวกนี้ อยู่ในเครือของสายวิทยาธร หรือไปเข้าสิง ๆ ทรง ๆ ถ้าหากพอมีทำบุญบ้าง ไม่ได้ทำบาป อย่างมากก็ได้ไปเป็นวิทยาธรอยู่ในป่าหิมพานต์ จะไม่ไปสูงกว่านี้ และมีสิทธิไปเกิดเป็นกุมารทองให้เขาใช้ ถ้ามาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเป็นร่างทรง ถ้าไม่ยอมให้เป็นร่างทรงก็จะต้องป่วยไข้ จะต้องให้องค์ครอบหรือม้าทรง



ที่เรียกว่า ม้าทรง เพราะให้ทำอะไรก็ต้องทำ คือข่มร่างมนุษย์ หรือขี่ร่างมนุษย์ เหมือนขี่ม้า จึงเรียกม้าทรง



หากกุมารทองมีกรรมกาเมเสริมด้วย คือนอกจากชอบสิง ๆ ทรง ๆ แล้ว มีกรรมกาเมเจ้าชู้ ใช้ไปทำเสน่ห์ยาแฝด ก็จะเป็นกุมารเทย หรือกุมารีเทย



ลุงตายแล้วยังอยู่ที่บ้าน เพราะใจท่านเป็นห่วงครอบครัว ได้รับบุญก็มีความเป็นอยู่ดีขึ้นบ้าง ท่านเป็นคนตระหนี่ ปัจจุบันที่อยู่ได้เพราะเครื่องเซ่นที่ครอบครัวเซ่นไหว้ ไม่สบายนัก หน้าตาเหมือนตอนที่ตายใหม่ ๆ เพราะไม่ได้ทำบุญอะไร ไม่ได้เป็นหนุ่มขึ้น คนที่ตายตอนแก่ ถ้ามีบุญก็จะหนุ่มขึ้น แต่ถ้าไม่มีบุญตายตอนแก่ก็จะแก่อย่างนั้น



น่าสงสารจริง ๆ ถึงเวลาปลดปล่อยกุมารทองแล้ว ให้เอาออกจากบ้านแล้วบอกว่า ลูกเอ๋ยถึงเวลาไปเกิดแล้ว เอาไว้ตามต้นไม้ใหญ่ ๆ ตรงไหนก็ได้ที่คนเขาไม่ค่อยเห็น อย่าให้หยิบไปอีก ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ แล้วหันมานับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง และบอกกับกุมารทองให้ยึดมั่นพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ที่มีโทษกันอย่างนี้เป็นเพราะไม่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง และไปยึดสิ่งที่ไม่ใช่พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ถึงเวลาที่จะหมดเวรหมดกรรมกันแล้ว อย่าได้มีเวรมีกรรมกันเลย ให้ไปเกิดใหม่หรือให้มีชีวิตใหม่ที่พ้นจากการควบคุมของวิทยาธร แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ ให้พูดดี ๆ ไม่ใช่ว่ารังเกียจลูกกุมารทอง แต่ถึงเวลาที่ลูกพ้นเวรพ้นกรรมตรงนี้แล้ว อย่าไปอยู่ตรงนี้เลย ให้ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง แล้วให้ลูกว่าตามแม่ ให้ถือศีล 5 ข้อหนึ่งว่าอย่างนี้ ให้ว่าตาม เราก็ว่าเองเออเองจนครบ 5 ข้อ ลูกรับศีลเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไป ลูกจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ให้มีชีวิตที่ดี พ้นเวรพ้นกรรมจากไสยเวทย์ และให้รับบุญที่อุทิศส่วนกุศลให้ จากนั้นก็ปัดกวาดออกจากหิ้ง เราจะได้หมดจากเชื้อเหล่านี้ ถ้าตอนที่พระรัตนตรัยยังไม่บังเกิดขึ้น เราก็ยังอะลุ่มอล่วย แต่ตอนนี้พระรัตนตรัยบังเกิดขึ้นแล้ว ให้หันมายึดสิ่งนี้เป็นสรณะเถิด ชีวิตจะได้มีความสุขอย่างแท้จริง



#2 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 24 April 2007 - 08:50 AM

สาธุ

#3 bunlang009

bunlang009
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 April 2007 - 07:56 PM

ดีอะน่ะครับจะได้รู้