ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เรื่องของเด็กชายฝรั่งคนหนึ่ง


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Singha

Singha
  • Members
  • 87 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 May 2007 - 11:10 PM

ข้าพเจ้าตั้งใจจะเล่าให้ฟังหลายทีแล้ว คราวนี้ถึงเวลาที่ต้องเล่าสู่กันอ่าน เพื่อที่กัลยาณมิตรทุกท่านที่มุ่งมั่นทำความดี จะได้มีกำลังใจยิ่งๆขึ้นไปหลายล้านล้านล้านเท่า นี่เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่ง ได้ออกรายการทอคโชว์ทางสหรัฐอเมริกามาหลายปีแล้ว ซึ่งคนที่เป็นแม่ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ทอคโชว์โอปร่า วินฟรีย์ ได้เชิญแม่ของเด็กมาออกรายการ ทำให้พวกเราที่ได้ชมรายการสำคัญนี้ รับรู้สิ่งมหัศจรรย์ และมาตรงกับสิ่งที่คุณครูไม่ใหญ่แนะนำตลอดเวลาดั่งที่บอกมาต้นๆนั้นแล้ว ถ้าข้าพเจ้าไม่รู้จักเว็ปนี้ ข้าพเจ้าก็คงจะมืดมนตาบอดไปอีกนาน

พวกท่านคงจะจำเด็กฝรั่งคนหนึ่งที่เป็นโรคมะเร็งได้ เขามีชื่อเสียงมากๆ (ขออภัยจำชื่อไม่ได้) เด็กคนนี้เป็นเด็กผู้ชาย พอรู้ตัวว่า เป็นมะเร็งรักษาไม่หาย และผ่าตัดสมอง มะเร็งหายไปแล้วเกิดขึ้นมาอีก ถึงขั้นต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต แม่ของเขาถามเขาว่า "อะไรคือความฝันของลูก บอกแม่ได้ไหม" เด็กก็ตอบว่า "ความฝันของลูกคือ อยากจะเดินทางไปพบกับผู้นำประเทศที่สำคัญๆในโลกนี้ และอยากมีมูลนิธิเป็นชื่อของตนเอง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนที่เป็นมะเร็งอย่างลูก" สิ่งที่แม่ทำคือ ลงหนังสือพิมพ์ ออกข่าวไปทั่วสหรัฐ เพราะอยากให้ความฝันของลูกเป็นความจริงก่อนที่ลูกจะตาย

หลังจากที่ประชาชนอ่านข่าวนี้ พากันมีเมตตาช่วยเหลือบริจาคเงินเข้ามูลนิธิของเด็กอย่างมากมาย มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลในสหรัฐยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ด้วยการให้เด็กได้พบกับท่านประธานาธิบดีของสหรัฐสมัยนั้น (ขออภัยจำไม่ได้) เด็กคนนี้ได้เดินทางไปพบกับผู้นำระดับประเทศหลายๆประเทศในโลกนี้ ทำบุญทุกบุญ ความฝันที่เด็กน้อยต้องการนั้นเป็นความจริงทุกอย่าง เขามีความสุขมากที่สุด เขาได้เข้าออกรพ. ตลอดชีวิตของเขา จนกระทั่งเด็กจบชีวิตของตัวเองไป ผู้คนรับรู้ไปทั่วโลก นสพ.ลงข่าวของเด็กคนนี้ไปทั่วทุกประเทศที่รู้จักเขามาก่อน

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครได้รับรู้ความจริง นอกจากผู้เป็นแม่เท่านั้น ถ้าเธอไม่ได้ออกรายการทอคโชว์ของบุคคลนี้ พวกเราก็จะไม่รู้เรื่องใดๆทั้งสิ้น เจ้าของทอคโชว์ได้เชิญตัวแม่เด็กมาเล่าเหตุการณ์ในรพ.และวันสุดท้ายของเด็ก หลังจากหนึ่งปีที่เด็กจากไป เจ้าของรายการให้แม่เล่าเหตุการณ์ในวันนั้น เธอเล่าว่า....

ทีแรกฉันเป็นแม่ที่เห็นแก่ตัวมากๆ ไม่ยอมปล่อยลูกไป เพราะความรัก แต่ความรักนั้นเป็นความรักที่เห็นแก่ตัว ลูกยอมทรมานร่างกายเพราะแม่ เขาเคยจะไปหลายทีแล้ว แต่ฉันขอร้องลูกให้อยู่กับฉัน อยู่เป็นเพื่อนฉันมาเป็นเวลาหลายครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกชายพูดช้าๆว่า "แม่ครับ อีกโลกหนึ่งสวยมากๆ ผมจะไปอยู่ที่นั่นนะครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผม โลกนั้นสวยจริงๆ มีคนเยอะแยะรอผมอยู่ พวกเขามารอผม มารับผม แม่ไม่ต้องห่วงผม" ฉันฟังแล้วเกิดเอะใจว่า นี่ฉันทำให้ลูกต้องมาทรมานเพราะตัวเองเห็นแก่ตัว มันไม่ยุติธรรมกับลูกเลย หลายครั้งที่ฉันขอร้องลูกอย่าไปจากฉัน แต่วันนั้นเป็นวันที่ฉันคิดได้ ฉันได้พูดกระซิบที่หูของลูกว่า "ลูกรัก ลูกจะไปก็ไปเถอะ อย่าอยู่เพื่อแม่อีกเลย แม่ยอมปล่อยให้ลูกไปได้แล้ว" ไม่นานนัก ลูกก็จากไปอย่างสงบในอ้อมกอดของแม่ในรพ. หน้าตามีรอยยิ้ม ฉันพูดย้ำกับลูกว่า"ไปเถอะลูก อย่าอยู่เพื่อแม่อีกเลย แม่เข้าใจ" เขาจากไปอย่างสงบมากๆ แล้วฉันรู้ว่า "เขาไปสู่สุคติ"

ตลอดชีวิตไม่กี่ปีสุดท้ายของเด็กคนนี้ เขาอยู่ในบุญทุกวันเวลา ทำแต่สิ่งดีๆช่วยเหลือเพื่อน สิ่งนี้หนุนจิตใจเขาเป็นพลังให้เขาไปสู่สุคติในช่วงสุดท้ายของลมหายใจ

จริงอย่างที่คุณครูไม่ใหญ่และพระอริยสงฆ์ได้แนะนำมาตลอดว่า "ให้พวกเราคิดถึงบุญ หรือบุญเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะพาเราไปสู่สุคติ ในห้วงลมหายใจสุดท้าย หรือที่เรียกว่า ศึกชิงภพ"

หลังจากที่ข้าพเจ้าได้ดูรายการนี้ แล้วมารู้จักเว็ปนี้ได้อ่านข้อความ ได้ดูรายการต่างๆมากเข้า ทำให้นึกถึงเด็กชายคนนี้ทันที ยิ่งเห็นความจริง สัจจะธรรมของชีวิตว่า คนเราตายหมดทุกคน ไม่ใครอยู่ค้ำฟ้า สิ่งที่เรานำติดตัวไปกับเราได้คือ "บุญ" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น พลังอะไรจะยิ่งใหญ่กว่า "พลังบุญ"

สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้ข้อคิดคือ "เราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งมองการกระทำของเราอยู่ทุกย่างก้าว ทุกการกระทำที่ออกมาจากการคิด การพูด การทำ" พวกเราคิดเอาเองว่า สิ่งนั้นคืออะไร และใครที่กำลังจัองพวกเราอยู่ในทุกวันนี้ และเขาก็จะจ้องเราอยู่ตลอดชีวิตของเรา จนกระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้าย แล้วเขาก็จะพาเราไปสู่สุคติ หรือทุคติ ด้วยเช่นกัน

ฉะนั้นสิ่งที่คุณครูไม่ใหญ่เน้นเสมอๆว่า ให้พวกเรานึกถึงบุญตลอดเวลา ทั้งตื่นนอนและก่อนนอน แล้วเราจะหลับอยู่ในอู่ทะเลบุญ เหล่านี้เป็นอย่างไร นอกจากผู้ปฏิบัติเท่านั้นจะรู้ อย่างเด็กฝรั่งคนนี้ไงล่ะ ชีวิตสุดท้ายเขาอยู่ในทะเลบุญจริงๆ และเบื้องบนมองเขาอยู่ตลอดเวลา ถึงเวลาก็ลงมารับเขาไปอยู่ด้วย เพราะบุญของเขาเยอะมากๆ

สวรรค์มีจริง และนรกก็มีจริง เราจะรู้ตอนเป็น หรือจะเห็นตอนตายล่ะ เลือกกันเอาเอง คงจะได้ข้อคิดเกี่ยวกับชีวิตกันบ้างจากชีวิตของเด็กคนนี้ในรพ. ช่วงสุดท้ายของชีวิต

ถ้าข้อความไม่กระชับเท่าใดนัก ได้โปรดอภัยให้ข้าพเจ้าด้วย



#2 สิงโตเกเร

สิงโตเกเร
  • Members
  • 164 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 May 2007 - 03:46 PM

สาธุ...

#3 tor

tor
  • Members
  • 356 โพสต์
  • Location:BKK
  • Interests:meditation

โพสต์เมื่อ 19 May 2007 - 10:55 PM

ใช่แล้วครับ ความตายล้วนแน่นอน
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ = กายเป็นที่พึ่งแห่งกาย

#4 Jengiskhan

Jengiskhan
  • Members
  • 560 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กุงเท่

โพสต์เมื่อ 21 May 2007 - 10:24 AM

ถ้าได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญ ก็คงดีกว่านี้

#5 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 21 May 2007 - 12:15 PM

สาธุ
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#6 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 June 2007 - 09:36 PM

สาธุๆๆ