ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

รอยยิ้ม....เคล็ดลับความสุข


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 18 July 2007 - 08:47 AM

happy.gif laugh.gif smile.gif happy.gif laugh.gif smile.gif happy.gif laugh.gif smile.gif happy.gif laugh.gif smile.gif happy.gif laugh.gif smile.gif happy.gif laugh.gif smile.gif happy.gif laugh.gif smile.gif happy.gif laugh.gif smile.gif

รอย smile.gif ....เคล็ดลับความสุข

.....คนส่วนมากคิดถึงแต่ความสุข มักไม่ค่อยคำนึงถึงคุณภาพแห่งความสุขนั้น
แต่ในทางพระพุทธศาสนาสอนให้คิดถึงคุณภาพแห่งความสุข และมุ่งแสวงหาความสุข
อันประณีตที่สุดที่ไม่กลับทุกข์อีกคิอพระนิพพาน แต่ทว่าในทางปฏิบัตินั้น จำเป็นต้อง
ค่อยๆ ก้าวทีละก้าว เป็นขั้นเป็นตอนไป จึงจะได้รับความสุขอันถาวร เมื่อมองให้ลึกซึ้ง
จะพบว่า ฐานแห่งความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ซ้อนกันไปเป็นชั้นๆ จนถึงแก่นของชีวิต


....โดยเริ่มตั้งแต่ความสุข ที่เกิดจากความประพฤติที่ดีงาม เกื้อกูลซึ่งกันและกัน
มีจิตใจผ่องใสบริสุทธิ์เบิกบานนึกคิดในทางที่ดีงาม สิ่งเหล่านี้จะเป็นฐาน และเป็นหลัก
ประกันความสุขที่บริสุทธิ์ แท้จริงไม่มีวันกลับกลายได้ ความสุขมิใช่สิ่งของที่ส่งให้กันได้
แต่ความสุขจะเกิดขึ้นได้ด้วยการสร้างสื่อแห่งความสุข ซึ่งไม่มีสื่อใดจะยิ่งไปกว่ารอยยิ้ม
ที่ออกมาจากใจที่บริสุทธิ์ผ่องใส หากได้ลงมือปฏิบัติจนเป็นนิสัย จะพบว่าชีวิตนี้
ช่างร่ำรวยจริงๆ คือรวยความสุข จะหันไปทางใด จะสัมผัสสิ่งใด จะกลายเป็นความสุข
ไปทั้งหมด


....ยิ้มมิใช่คุณสมบัติทั่วไปแก่สัตว์อื่น แต่เป็นคุณสมบัติเฉพาะของมนุษย์แต่แรกเกิด
ดูแต่สุนัขหริอแมวเมื่อมันแสดงไมตรีจิตต่อเรา ก็หาได้ยิ้มเป็นไม่ คงมีแต่สัญลักษณ์
อย่างอื่นที่แสดงให้เราเห็นว่ามันดีใจหรือชอบใจ


....โบราณท่านว่า เราจะรู้มนุษย์ก็ที่ยิ้มเป็นหัวเราะได้ จะรู้ใจกว้างขวางก็ที่เอื้อเฟื้ออารี
จะรู้ม้าดี ก็ที่หู จะรู้มณีก็ที่รัศมี


.....นี่ยิ่งทำให้เรารู้ชัดว่ามนุษย์เท่านั้นที่ยิ้มเป็น ยิ้มเป็นวัฒนธรรมของมนุษย์ เป็นประดุจ
แสงอาทิตย์ ส่องแสงสว่าง มายังพื้นโลก ให้ความร่าเริงแก่ชาวโลก อาการยิ้มแย้มนั้น
เป็นลักษณะแห่งโสมนัสหรรษากอปรด้วยเมตตาการุณย์ นับเป็นคุณสมบัติสูงสุด
ไหลมาแต่น้ำใจอันเป็นบุญ มิใช่ยิ้มเยาะ อันเป็นลักษณะแห่งโทมนัสเกิดจากน้ำใจขุ่น
วุ่นวาย


.....โลกเรานี้ก็เปรียบเสมือนกระจกเงา เมื่อเรายิ้มเขาจะยิ้มตอบ เมื่อเราบึ้งเขาจะบึ้งตอบ
เราทุกคนชอบหน้ายิ้ม และเกลียดหน้าบึ้ง เพราะยิ้มเป็นคุณก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวและ
คนอื่นมากมาย ทำให้ผู้รับได้กำไร และผู้ให้มิต้องหมดเปลืองอะไร ยิ่งให้ไปเท่ากับยิ่งได้รับ
มากยิ่งขึ้น ยิ้มช่วยสร้างสรรประโยชน์อย่างมากมาย ดังที่จะได้กล่าวต่อไปนี้คือ


๑. ยิ้มปลุกกำลังใจ คือช่วยทำให้ใจมีกำลังกล้าแข็งไม่กลัวต่อการงานใดๆ
๒.ยิ้มช่วยซ่อมกำลังกาย อาการยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นเสมือนยาบำรุงกำลัง
และเป็นยาบำรุง ความงามที่สำคัญ
๓.ยิ้มเพิ่มเสน่ห์ เมื่อใครเห็นก็ย่อมเกิดความนิยม นับถือ รักใคร่ ไว้วางใจ
๔.ยิ้มดับความโกรธ
๕.ยิ้มทำให้โลก สดใส เป็นสุข


.....จะเห็นได้ว่า รอยยิ้มก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาล ดังนั้นการที่เราหมั่นทำจิตใจ
ให้แจ่มใสอยู่เสมอก็จะไม่หวั่นไหวไปกับสถานการณ์รอบตัว และยังสะกดให้คนรอบข้าง
เกิดความมั่นใจ ไว้วางใจ ปัญหาที่ยากก็จะสามารถคลี่คลายได้อย่างง่ายดายนั่นเอง


อิกคิวซัง

#2 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2007 - 04:03 PM

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุๆๆ

#3 jumily

jumily
  • Members
  • 42 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2007 - 02:22 PM

บางครั้งเจอเรื่องที่ทุกข์มากๆเราก็ยิ้มไม่ค่อยออก แต่เราต้องฝืนยิ้มค่ะ
พอยิ้มแล้ว ทุำกอย่างก็สดใสขึ้น
sleepless

#4 yohuman

yohuman
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 July 2007 - 11:17 PM

อนุโมทนาด้วยคร๊าบ สาธุ

#5 usr17116

usr17116
  • Members
  • 24 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 July 2007 - 01:40 AM

อนุโมทนาบุญด้วยครับ ... สาธุ

#6 secret072

secret072
  • Members
  • 38 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 July 2007 - 02:31 PM

สาธุ ยิ้มกันหรือยังจ๊ะ

#7 น้ำใส

น้ำใส
  • Members
  • 778 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 23 July 2007 - 11:48 AM

สาธุ.ยิ้มแล้วค่ะ

เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม

น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม