มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[น้องแต๋ม]

ดิฉันเป็นคนโกรธง่ายมาก โมโหทีไม่กลัวอะไรเลย ทั้งพระและเทพไม่เคยอยู่ในสายตา(เฉพาะเวลาโกรธนะ) ซึ่งเวลาปกติเป็นคนชอบทำบุญ ชอบวาดภาพรพะพุทธเจ้าถวายตามวัดบ่อยๆ เพราะดิฉันเคยฝันเห็นพระพุทธรูปและพระแม่กวนอิม หลายครั้ง เวลาทำบุญดิฉันจะอธิฐานให้ควบคุมตัวเองได้ ให้มีสติ แต่ไม่สำเร็จ ดิฉันเลือกวิธีนั่งสมาธิเพื่อฝึกการควบคุมตัวเองให้ได้ แต่ไม่เคยนั่งได้เลยค่ะ ทุกครั้งที่กำหนดจิตถึงขั้นที่สงบ ตัวเริ่มเบา ดิฉันจะเจ็บบริเวณกลางอกมาก เหมือนมีอะไรมาแทงอย่างแรง แรกๆดิฉันทนไม่ได้จึงหยุด แต่พอช่วงหลังดิฉันลองฝืนนั่งต่อไป คิดว่าจะหายไปเอง แต่กลับหนักกว่าเก่า ดิฉันเจ็บหน้าอกอย่างมาก แล้วร้อนซ่าไปทั่วตัวเลย ซ้ำร้ายดิฉันลืมตาไม่ขึ้น เริ่มเห็นอะไรบางอย่างเป็นสถานที่ๆไม่เคยไปมาก่อน ดิฉันรู้สึกเหมือนโดนกระชากออกจากร่าง นิ้วมือเต้นตุบๆตลอดเวลาเลย หน้าผากชาและรู้สึกเหมือนบวมมาถึงตา ดิฉันรีบหาทางสบัดออก ใช้เวลาพอสมควรค่ะ แต่ก็ไม่กล้านั่งสมาธิอีกเลย ใครพอให้คำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ้างคะ แล้วดิฉันจะทำอย่างไรให้ควบคุมตัวเองได้ ที่สำคัญคนที่ดิฉันมักโกรธและอารมณ์เสียใส่บ่อยๆ คือคนที่ดิฉันควรบูชายิ่งกว่าพระอีก คือ พ่อแม่ของฉันเองค่ะ ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ดิฉันรู้สึกละอายที่จะไหว้พระ และหยุดการทำบุญเป็นพักๆเลย พอลืมก็หันไปทำบุญอีก เพราะชอบและรักในพุทธศาสนา

[เด็กผู้น้อย]

ควรหันมาทำบุญให้มากในทุกบุญและรักษาศีลอย่างเคร่งครัดไปก่อน แล้วอธิษฐานจิตให้พ้นจากการโดนและเป็นแบบนี้ ให้หายไปให้หมด จิตใจผ่องใส เวลานั่งสมาธิควรหาผู้ครูบาอาจารย์ที่สมาธิดีคอยควบคุมครับ หรือไหมก็เมื่อนั่งสมาธิถึงขั้นจะเจ็บก็พยายามนึกถึงมหาปูชนียาจารย์แล้วแผ่เมตตาไปเรื่อย ๆ

[Dd2683]

ทุกครั้งที่กำหนดจิตถึงขั้นที่สงบ ตัวเริ่มเบา ดิฉันจะเจ็บบริเวณกลางอกมาก
เหมือนมีอะไรมาแทงอย่างแรง แรกๆดิฉันทนไม่ได้จึงหยุด
แต่พอช่วงหลังดิฉันลองฝืนนั่งต่อไป คิดว่าจะหายไปเอง แต่กลับหนักกว่าเก่า
ดิฉันเจ็บหน้าอกอย่างมาก แล้วร้อนซ่าไปทั่วตัวเลย

ซ้ำร้ายดิฉันลืมตาไม่ขึ้น เริ่มเห็นอะไรบางอย่างเป็นสถานที่ๆไม่เคยไปมาก่อน
ดิฉันรู้สึกเหมือนโดนกระชากออกจากร่าง นิ้วมือเต้นตุบๆตลอดเวลาเลย
หน้าผากชาและรู้สึกเหมือนบวมมาถึงตา ดิฉันรีบหาทางสบัดออก ใช้เวลาพอสมควรค่ะ

เท่าที่อ่านเนื้อกระทู้ ทำให้ผมนึกถึง เพื่อนคนหนึ่ง ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับ ไสยเวทย์ เลยนะครับ

ขอถามเจ้าของกระทู้ ตรงๆนะครับว่า
? เคยไปรับขันธ์ ไปรับองค์อะไรตามสำนักเจ้าเข้าทรง บ้างหรือเปล่าครับ

แต่ถ้าไม่สะดวกตอบ ก็ไม่เป็นไรนะครับ

งั้นขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับ เพื่อนคนหนึ่ง ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับ ไสยเวทย์ สักนิด นะครับ

เพื่อนคนนี้ผมรู้จักคุ้นเคยพอสมควร แต่ไม่สนิทกับผมนัก
เพื่อนสนิทอีกคนของผม สนิทกับท่านนี้
จึงพอทราบเรื่องราวเหล่านี้ และถ่ายทอดความรู้ ให้ผมอีกทอดหนึ่ง

จากคำบอกเล่าของเพื่อนท่านนี้ ผ่านเพื่อนสนิทของผม

ท่านยอมรับว่า นับถือ ไสยเวทย์ มีองค์พ่อปู่ฯ มาอยู่ด้วยเพื่อคอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
โดยไม่มีการทำร้าย หรืออาศัยไสยเวทย์ ไปทำร้ายใคร

เมื่อมาวัดพระธรรมกาย มาฝึกสัมมาสมาธิ แบบพุทธวิธี
ก็จะมีอาการทุกข์กาย ไม่สบายใจผิดปกติ
เช่น เพียงนั่งสมาธิ จู่ๆก็ปวดหัวรุนแรงบ้าง เจ็บอวัยวะตรงนั้นตรงนี้บ้าง ใจว้าวุ่น เป็นตัน

และรู้ว่า พ่อปู่ฯ ไม่ชอบให้นั่งสมาธิ แบบจริงจัง ตามพุทธวิธี
( เดี๋ยว จะรู้มาก รู้เบื้องหลัง ที่มาของ วิชาไสยเวทย์ แล้วจะนับถือน้อยลง หรือ เลิกนับถือ )

อาการแบบนี้ สมัยก่อนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทัตตชีโว จะบวชพระ
ก่อนเจอคุณยาย อาจารย์ มหาอุบาสิกา จันทร์ ขนนกยูง

ท่านก็เคยฝึกวิชา ไสยเวทย์ประเภท คงกระพันชาตรี มาก่อน
ภายหลังเมื่อ ท่านมาฝึกสัมมาสมาธิ ตามพุทธวิธี กับคุณยาย
เวลาท่านนั่งสมาธิ ใจสงบนิ่งก็ยาก
บางครั้งเห็น อมนุษย์ มีกายดำสูงใหญ่ มาตืบ อกท่าน จนกระอักเลือด เลยทีเดียว

คุณยายบอกว่า อาจารย์เก่า เค้าไม่ยอม ไม่อยากให้ท่านฝึกสมาธิ
( รายละเอียด ลองค้นหา หนังสือ เดินไปสู่ความสุข ตอน ผจญมาร ศึกษาดูนะครับ )

ที่เล่ามานี้ เพราะเรื่องราวที่เจ้าของกระทู้บอกเล่ามา คล้ายกับกรณีเพื่อนคนหนึ่งที่ผมรู้จัก
จึงนำมาให้ศึกษากันครับ

ผมสันนิษฐานว่า หากเจ้าของกระทู้ เคยไปรับขันธ์ ไปรับองค์อะไรตามสำนักเจ้าเข้าทรง
อาการที่เกิดขึ้น อาจเป็นสาเหตุที่ อาจารย์เก่า ของคุณเค้ายังไม่ยอมปล่อยคุณ ก็ได้นะครับ

อย่างไรก็ตาม หากในชาตินี้เจ้าของกระทู้ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับ สำนักทรง ตำหนักเทพอะไร
ก็สันนิษฐานว่า

1 ) สภาพสิ่งแวดล้อมความเป็นอยู่ ที่เจอคน สัตว์ สิ่งของ เหตุการณ์ที่ทำให้ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ

2 ) เป็นเรื่องของการเสื่อมแห่งวัย , โรคภัยทางร่างกาย และการดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย ในปัจจุบัน

ส่วนเรื่อง เจ้าโทสะ มักโกรธ หงุดหงิดใจง่ายอารมณ์เสียบ่อย จนเป็นเหตุให้ทะเลาะกับ บุพการี
เรื่องนี้ เรื่องใหญ่มาก นะครับ เพราะคู่กรณี เป็นบุพการี

ขอแนะนำให้ ฟังหรืออ่านธรรมะ เกี่ยวกับ พระคุณมารดา บิดา ให้มากๆ
เช่น มงคลชีวิต ข้อที่ ๑๑ การบำรุง มารดา บิดา ของพระภาวนาวิริยะคุณ ( หลวงพ่อ ทัตตชีโว ) เป็นต้น ครับ

เบื้องต้น เชิญแวะไปที่ นี่สิครับ
http://www.dhamma.net/mongkol/11.htm
มงคลชีวิต ข้อที่ ๑๑ บำรุงมารดา บิดา

[tor]

ต้องเอาให้แน่ ลองหาประวัติของหลวงพ่อทัตตะฯ ท่านมาศึกษาอ่านดู ถ้าแน่ใจแล้วให้นั่งไปเรื่อยๆ เกิดอะไรก็อย่าไปสน นั่งอย่าเลิก ไม่ได้ตายซะ อะไรทำนองนี้แหละครับ เรื่องนี้เป็นผลที่เกิดจากเหตุ เราคงเคยประกอบเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งมาก่อน ต้องอดทนมากๆ ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ สาธุ

[jane_072]

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุๆๆ

[เคยเข้าวัด]

ขอเสริมความเห็นที่2สักนิดนะครับ อยากให้ลองสังเกตุดูว่า เวลามานั่งปฏิบัติธรรมที่วัดมีอาการหรือไม่ สถานที่ๆนั่งเป็นห้องที่ปิดหรือไม่เช่นไม่มีหน้าต่าง หรือช่องระบายอากาศ มีอากาศถ่ายเทหรือไม่ เพราะเป็นได้หลายสาเหตุมากๆ นอกเหนือจากคุนไสยที่คห.2ว่าแล้ว ฮวงจุ้ยหรือทำเลก็มีส่วน เช่นหลักในการถ่ายเทอากาศของห้องเป็นสิ่งสำคัญ การทำสมาธินั้นหากจิตสงบจะมีความรู้สึกเหมือนหลับอยู่ในภวังค์ คล้ายกับเมื่อเรานอนใกล้จะหลับ ซึ่งหากห้องเราเป็นห้องปิดไม่มีอากาศถ่ายเถ หรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก ก็อาจจะมีอาการเหมือนผิอำได้ เช่นเหมือนถูกกดทับที่หน้าอก ตัวชาไร้เรี่ยวแรง ที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องพระส่วนใหญ่มักจะทำเป็นห้องปิดคือไม่มีหน้าต่าง มีแต่ช่องระบายอากาศ และควันธูปนี่แหล่ะครับตัวสำคัญ เพราะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการทำให้เกิดอาการผีอำ อีกประการที่สำคัญคือท่านั่งครับ นั่งไหล่ห่อนั่งตัวงอก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดอาการ เช่นปวดหน้าอกปวดหัวใจได้ เพราะหัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่เนื่องจากถูกกดทับเป็นเวลานาน จะพบมากกับคนที่มีหัวใจบอบบางหรือเป็นโรคหัวใจที่สำคัญอ้วนด้วยน่ะครับ
ความรู้สึกในช่วงที่หากใจตกศูนย์จะให้ความรู้สึกได้หลายแบบ บางคนจะรู้สึกเหมือนถูกดูดลงล่าง แต่บางคนก็จะรู้สึกเหมือนดูดขึ้นบน บางคนเหมือนถูกกระชากไปในทิศทางต่างๆก็มีครับ ขึ้นอยู่กับการวางใจของเราเท่าที่ผมลองสังเกตุมา หากกำหนดใจแบบเบาๆสบายๆ ใจก็จะตกสูงอย่างเบาๆสบายๆ แต่หากนั่งหลับตาปุ๊บวางใจให้อยู่กลางท้องปั๊บ บางที่ก็มีอาการเหมือนกับตกจากที่สูงหรือถูกกระชากเหมือนกันครับ

อยากให้คุณเจ้าของกระทู้ลองดูแบบนี้สักนิดนะครับ ลองนั่งเก้าอี้ที่มีพนักผิงแล้วทำสมาธิดูนั่งผิงไปเลยนะครับ ไม่ต้องกลัวไม่ต้องไปสนใจว่าจะหลับหรือเปล่า แล้วลองสังเกตุดูว่ายังเป็นอยู่อีกไหม ถ้ายังเป็นอยู่ก็อาจจะเข้าข่ายความเห็นที่2ล่ะครับ หากเป็นอย่างความเห็นที่2 แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการรักษาศีลและกำหนดใจโดยไม่ต้องนั่งสมาธิก่อนนะครับ หากกายเราบริสุทธิ์กว่าคุนไสยคุนไสยก็อยู่ไม่ได้เองแหล่ะครับ

[ลีดเดอร์]

หรืออาจจะเป็นสภาวะจิตรวมก็ได้นะ บางคนมีอาการเหมือนใจจะขาด
นั่งสมาธิ แล้วไม่ตายหรอก ลองตายดูแล้วเกิดใหม่ด้วยธรรมกาย....
เราเคยได้ยินมา อาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้นะ