ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

จะบอกยังไงดีคุณพ่อบอกว่าวัดนี้ไม่ได้ทำบุญด้วยการซื้อบุญ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 16 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 in_the_boon

in_the_boon
  • Members
  • 50 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 August 2007 - 03:21 PM

คือ มีหลายคนที่แอนตี้ที่นี่รวมทั้งคุณพ่อหนูด้วย บอกว่า วัดนี้ชวนคนมาทำบุญด้วยการซื้อบุญ คือกะเกณฑ์ว่า ต้องบริจาคเท่านั้นเท่านี้ ตัวหนูมีความศรัทธา ในวัดนี้ แต่บางทีก้อ พูดไม่ออกเพราะว่า อย่างบางอย่างเช่นดอกไม้บูชา ที่ตั้งราคาไว้ที่ 150 บาท ซึ่งค่อนข้างสูงเหมือนกัน คุณพ่อรวมทั้งหลายๆคนจะคิดว่า ทำไมวัดอื่นถึงให้บริจาคตามจิตศรัทธา แต่วัดนี้ต้องมากำหนดกฏเกณฑ์ หนูจะอธิบายอย่างไรดีคะ

#2 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 17 August 2007 - 03:47 PM

อ่อ ต้องเปิดเพลงนี้ให้ท่านฟังครับ "บุญนั้นไม่มีขาย อยากจะได้ ก็ต้องทำเอง.. ตามพ่อ ตามแม่ ไปวัด เอาละวา ตามพ่อ ตามแม่ ไปวัด เอาละวา เดี๋ยวพระท่านจัดให้.. เราเอง..."

พอฟังเพลงแล้วต้องอธิบายเรื่องการทำทานตามหลักพระพุทธศาสนาให้ท่านฟังครับ หรือจะหาซื้อหนังสือให้ท่านก็ได้ ปูพื้นฐานเรื่องการทำทานเสียก่อน ที่ท่านไม่เข้าใจ เพราะขาดความรู้ ว่าทานคืออะไร บุญคืออะไร

ถ้าคุณพ่อยังติดค้างคาใจเรื่องที่การกำหนดยอดทำบุญ คราวต่อไปจะมาวัด ก็ซื้อดอกไม้มาเองก็ได้ครับ แล้วปัจจัยจะหยอดตู้ทำบุญเท่าไรก็ได้ ส่วนที่ทางวัดจัดไว้ให้นั้น ทางวัดก็มีค่าใช้จ่าย ต้องซื้อดอกไม้ ต้องมีรถไปซื้อ ต้องเติมน้ำมัน ต้องมีเจ้าหน้าที่จัดดอกไม้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้ปัจจัยสี่ เพราะชีวิตมีค่าใช้จ่าย แต่เขาก็จัดให้สาธุชนด้วยความประณีต ทางวัดไม่ได้บังคับ ว่าต้องใช้ดอกไม้จากทางวัดเท่านั้น

ส่วนในเรื่องของกฏแห่งกรรม ตรงนี้สำคัญมาก เราทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ทำไปตามใจชอบ ทำตามความพอใจ อยากใส่มากใส่น้อยตามแต่อารมณ์ เวลาบุญส่งผลก็จะได้แบบนั้นเช่นกันครับ คือเดี๋ยวได้มาก เดี๋ยวได้น้อย แต่โครงการของทางวัดส่วนมาก จะคำนวนค่าใช้จ่ายเอาไว้แล้ว แล้วมาหารแบ่งเป็นส่วนๆ เช่นทำบุญวิหารคด ตารางเมตรละเท่านั้น เท่านี้ ก็คำนวนกันมาแล้วครับ ถ้าบริจาคครบจำนวนเต็มตามนี้ ก็จะเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายการก่อสร้างครับ

#3 คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย

คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย
  • Members
  • 335 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:บุญ หยุดนิ่ง นั่งสมาธิ ฟุตบอล คอมพิวเตอร์

โพสต์เมื่อ 17 August 2007 - 04:03 PM

happy.gif ก็ไม่เป็นไรครับ ถ้าเรามีกำลังทรัพย์น้อยแต่มีศรัทธาก็ทำเต็มกำลังของเราสิครับ ถ้ามาวัดบ่อยๆ จะรู้เองครับว่า เราจะทำบุญเท่าไหร่ก็ได้ อธิษฐานก่อนแล้วค่อยหยอดตู้ก็ได้นะ เป็นการตั้งผังน่ะครับ laugh.gif
หลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย ให้ใจหยุดนิ่ง ที่ศูนย์กลางกาย

นิ่งๆ นุ่มๆ นานๆ

#4 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 17 August 2007 - 04:52 PM

ไม่แน่ใจว่า คุณ in-the-boon หมายถึง จุดอธิษฐานธรรม หรือเปล่านะครับ ถ้าเป็นจุดอธิษฐานธรรมละก็ เขามีไทยธรรม สองแบบ เป็นเรื่องปรกติอยู่แล้วนะครับ

แบบแรก คือ ไทยธรรม ทั่วไปๆ ถวายตามกำลังศรัทธา มีดอกไม้ ธูปเทียน นมกล่องบ้างนิดหน่อย
แบบที่สอง คือ ไทยธรรม ที่มีกำหนดจำนวนเงิน เพราะของที่นำมาถวาย มีความประณีตขึ้น จึงมีราคาสูงขึ้นมา เช่น ผ้าไตรจีวร ผ้าอาบน้ำฝน

ผมว่า นี่เป็นเรื่องปรกตินะครับ เพราะมีทั้งสองแบบพร้อมอยู่แล้ว ไม่ได้มีเพียงแบบใดแบบหนึ่งเพียงแบบเดียว
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#5 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 18 August 2007 - 08:26 AM

ไม่มีวัดใดในโลก ที่ไม่ต้องการเงินหรอกครับ ทุกวัด ทุกศาสนา ย่อมต้องการเงินมาบำรุงศาสนสถานทั้งนั้น
เพราะฉนั้นเมื่อเราจะทำบุญ เราก็ต้องใช้เงินเป็นธรรมดา แต่ขอบอกว่าที่วัดพระธรรมกายไม่มีบุญเอาใส่ถุงไว้ขายทีละถุงๆๆแบบนั้น ใครอยากได้บุญก็มาแสวงหาเอาเอง ตามหลักกิริยาวัตถุ10ประการครับ




#6 -_-@"ผาดำ"@-_-

-_-@"ผาดำ"@-_-
  • Members
  • 25 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 August 2007 - 09:57 AM

ให้คิดเสมือนว่าไม่ว่าเงิน หรือ สิ่งของอื่นๆมันก็เป็นของนอกกายครับ
ทำบุญด้วยอะไรก็ได้อย่าไปยึดติดว่า ทำด้วยเงินไม่ดี
ก็บางทีเราไม่รู้วัดต้องการอะไร เราก็ให้เป็นเงินไป
เดี๋ยวท่านต้องการอะไรที่จำเป็น ไปใช้ในศาสนา ท่านก็ไปซื้อเอา
มันก็กลายเป็นสิ่งของที่เกิดประโยชน์แล้ว


#7 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 August 2007 - 10:03 AM

smile.gif ขอแนะนำ คุณ in_the_boon ว่าอันดับแรกจะต้องทำตัวของเราให้ดีก่อน เช่น ปรับปรุงนิสัยที่ไม่ดี มีความรับผิดชอบ อ่อนน้อมถ่อมตน มีความเคารพพ่อแม่ มีปิยวาจา เป็นต้น ทำให้ท่านเห็นว่าเรามาวัดแล้ว ทำให้เราพัฒนาในด้านที่ดีขึ้น ก็จะเป็นสิ่งที่สามารถเปิดใจท่านได้ ค่อยๆ ทำอย่างใจเย็น ทุกอย่างจะต้องใช้เวลา ค่อยเป็นค่อยไป ที่สำคัญนั่งธรรมะให้ใจใสๆ แล้วความคิดดีๆ ก็จะเกิดขึ้นเอง ขณะเดียวกันก็หมั่นสั่งสมบุญแล้วอธิษฐานให้ท่านมีสัมมาทิฏฐิ บ่อยๆ ก็จะสำเร็จได้ในที่สุด (เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น ให้แก้ไขตามพุทธวิธี จะแก้ไขได้ทุกเรื่อง) ขอเป็นกำลังใจให้ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ...สาธุ rolleyes.gif

#8 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 18 August 2007 - 01:21 PM

เอ๋ น้องไม่ลองถามคุณพ่อน้องดูล่ะจ๊ะ ว่าทำบุญที่วัดอื่นเขาไม่มีกำหนดราคาบ้างหรือ เพราะพี่เคยไปทำบุญที่วัดอื่นก็เห็นเขามีกำหนดราคาเช่นกันนี่ เช่าพระบางองค์100 บางองค์200 เป็นหมื่นเป็นแสนยังมี ถ้าเขาคิดว่าวัดอื่นที่ตั้งราคาเช่นนี้ไม่ใช่ซื้อขายบุญอย่างนี้ก็ไม่แฟร์น่ะสิจริงไหมจ๊ะ ทำบุญจตุคามองค์ละเป็นหมื่นเป็นแสนได้แค่150บาทมันซื้อขายบุญที่ไหนกันจริงไหมจ๊ะ
อีกอย่างดอกไม้ของทางวัดเขาเลือกเขาคัดสรรมาเป็นอย่างดี น้องเอาดอกไม้ของทางวัดไปให้คุณพ่อและคนอื่นๆเทียบกับวัดอื่นดูสิแล้วจะเห็นว่าดอกไม้ของเราสวยกว่าเป็นไหน แค่รูปแบบการจัดก็กินขาดแล้ว ของวัดอื่นเอาหนังยางมัดถ้ากำหนดราคา150เหมือนเราบ้านจะมีใครเอาจริงไหมจ๊ะ เหอะๆๆ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#9 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 August 2007 - 01:57 PM

QUOTE
มีหลายคนที่แอนตี้ที่นี่บอกว่า วัดนี้ชวนคนมาทำบุญด้วยการซื้อบุญ คือกะเกณฑ์ว่า ต้องบริจาคเท่านั้นเท่านี้ หลายๆคนจะคิดว่า ทำไมวัดอื่นถึงให้บริจาคตามจิตศรัทธา แต่วัดนี้ต้องมากำหนดกฏเกณฑ์
- เรื่องนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวเราเหมือนกัน
- ประการแรกต้องยืนยันกับเขาเหล่านั้นว่า การทำบุญนั้นต้องทำด้วยแรงศรัทธา ตามกำลัง
- ประการที่สองบอกถึงมุมมองที่ว่า ถ้าเรานั้นเป็นผู้ได้รับมอบหมายให้สร้างและทำนุบำรุงศาสนสถาน เราควรมีแผนงานระยะสั้นระยะยาว เพื่อให้ความปรารถนาของเราบรรลุโดยง่ายหรือไม่ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเข้าใจ
- ดังจะเห็นได้จากศาสนสถานหลายๆแห่งนั้นมีตู้บริจาคตามศรัทธา ไม่กำหนดงานแล้วเสร็จ หากปัจจัยไม่พอแล้วจะสร้างเสร็จเมื่อใด เพราะสาธุชนหลายท่านบริจาคแบบขอไปทีเสมือนมาเลี้ยงเด็กกำพร้านานๆครั้งแล้วไม่ได้ติดตาม สุดท้ายสิ่งปลูกสร้างนั้นก็อาจจะร้าง ไม่ปะติดปะต่อ เพราะอาจไม่มีผู้สืบทอดมาสร้าง
- โครงการของวัดพระธรรมกาย เป็นไปเพื่อประโยชน์ของโลกในปัจจุบันและอนาคต ในอายุขัยอันสั้นของมนุษย์ยุคนี้
- การบอกบุญสำหรับคนใกล้ตัวเรา ที่อธิบายแล้วไม่เข้าใจ เราก็บอกบุญเขาตามปกติ แล้วเพิ่มบุญเขาให้เต็ม บอกกับเขาว่าเราขอร่วมบุญด้วย สักวันหนึ่งเมื่อศาสนสถานนั้นสำเร็จ เราจะพาเขามาให้เขาภูมิใจว่าตอนนั้นเขามีส่วนร่วมด้วย เพียงแต่หวังไว้ว่าเขายังคงรักษาลมหายใจอยู่
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#10 tep072

tep072
  • Members
  • 32 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 August 2007 - 02:26 PM

อยู่ที่คุณพ่อมีความอคติเดิมกับวัดอยู่หรือไม่ มีข้อมูลจากสื่อหรือจากคนอื่นๆพูดให้เข้าใจไขว้เขว พอมาเห็นอะไร
ใกล้เคียงหรือสอดคล้องกับคนอื่นเขาว่าไว้ก็จะสรุปไปว่า เห็นไหมล่ะเหมือนที่เขาพูดไว้ไม่มีผิด ไม่มีเวลาพิจารณาถี่ถ้วน
แล้วเมื่อความเชื่อนี้ฝังใจลึก ต่อให้หาคำอธิบายมาดีอย่างไรก็จะไม่เปิดใจทันที แล้วลูกด้วยเห็นกันมาตลอดจะมาอธิบายดี
อย่างไร ก็ไม่สามารถแก้ปมทิษฐิ อาจฟังแต่ใจไม่เปิด คนในบ้านเดียวกันมันจะเป็นเหมือนไม่นับถือความคิดกัน
เราจึงไม่ควรอธิบายอะไรมากไปกว่านี้ การกระทำเรานั่นแหละจะเป็นข้อพิสูจน์ โดยส่วนตัวเคยโดนเหมือนน้องมา
แล้ว พาไปวัดก็ต้องมานั่งตอบมาคำถามสารพัด ก็ไม่พยายามเซ้าซี้อีกแต่เราต้องทำตัวเราให้เห็นว่าวัดเปลี่ยนแปลงตัวเรา
มีความสุขขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แล้วค่อยๆหาคำอธิบายมาเติมให้ตัวเองมั่นคงก่อนก่อนจะไปตอบใคร มีข้อมูลจนมั่นใจว่า
เราหยิบมาตอบได้โดยไม่ต้องนึกอยู่นานสองนานว่าจะเอาอะไรมาตอบ การทำสมาธิมากๆจะช่วยได้ดีทีเดียว

#11 Apple072

Apple072
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 August 2007 - 08:24 PM

พาคุณพ่อมาวัดบ่อยๆ คำถามนี้จะหมดไป แล้วคุณพ่อจะถามใหม่ว่าอาทิตย์นี้ไม่ไปวัดเหรอ**อดทนนิดหนึ่งน่ะจ๊ะ**เพราะคำถามนี้พี่ก็เคยถามมาก่อน



#12 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 August 2007 - 09:22 PM

ดอกไม้ 150 บาทเหรอคะ? ไม่ใช่ 50 บาทเหรอ omg_smile.gif ที่หอฉันท์คุณยายอาจารย์ฯ ทำทุกทีก็ 50 บาทน้า งง งง ค่ะ
เอ.........หรือว่าจุดอื่น unsure.gif happy.gif

#13 Maak

Maak
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 August 2007 - 10:09 AM

"วัดนี้ชวนคนมาทำบุญด้วยการซื้อบุญ คือกะเกณฑ์ว่า ต้องบริจาคเท่านั้นเท่านี้ "

ใช่ครับ..... ถ้าคิดว่าการจ่ายเงินออกไป คือ"การซื้อ"
แต่..... การจ่ายเงินค่าขนม-อาหารให้หนูไปโรงเรียน จะเรียกว่าซื้ออะไรดี ?

เมื่อหนูทำงานมีรายได้ แล้วหนูจ่ายเงินให้คุณพ่อ-คุณแม่ผู้มีอุปการะเลี้ยงดูหนูมา
โดยตั้งเป้าหมายว่าจะจ่ายให้ท่านเดือนละ 3,000 บาท จะเรียกว่าซื้ออะไรดี ?

จะเห็นได้ว่าการจ่ายเงินในบางกรณีแม้จะมีกำหนดกฏเกณฑ์ ก็ไม่ใช่การ"ซื้อ"
การตั้งกำหนด คือการตั้งเป้าหมาย เพื่อที่ใช้เป็นจุดหมายที่จะทำให้เป็นผลสำเร็จ
แต่เมื่อทำเต็มที่แล้ว ยังไม่สามารถทำได้ตามเป้า เราจะได้หาเหตุผลว่าเป็นเพราะเหตุใด ?

"ทำบุญเต็มกำลังศรัทธา" ต่างกับ "ทำบุญตามกำลังศรัทธา"

#14 เด็กสมบูรณ์

เด็กสมบูรณ์
  • Members
  • 173 โพสต์
  • Location:ไม่ค่อยแน่นอนเท่าไหร่อ่ะ
  • Interests:-

โพสต์เมื่อ 20 August 2007 - 10:25 AM

อิอิ...เหมือนคุณพ่อนู๋แนนเลยค่ะ ท่านก็ยังติดภาพเก่าๆ ติดข่าวเดิมๆ อยู่ค่ะ แต่นู่แนนก็พยายามเปิดเสียงหลวงพ่อให้ท่านฟังค่ะ ต้องพยายามต่อไปค่ะ อิอิ
...ความรักก็เหมือนการจับไฟนั่นแหละ
ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคือ...อย่ารัก...

#15 nena

nena
  • Members
  • 43 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 August 2007 - 10:40 AM

เห็นด้วยกับทุกคำตอบและการตอบทำให้เราเกิดดวงบุญที่ขยายมากๆในแตะข้อความที่เราอ่านเพราะว่าเรานึกภาพตามกรณีนี้เราเคยเจอเพราะว่าเราเข้าวัดเมื่อปี 2536 เราเจอสารพัด ทั้งครอบครัวเลยแต่เราต้องเป็นต้นบุญต้นแบปย่างที่คุณครูไม่ใหญ่ของเราบอกเพราะถ้าเราไม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้เขาเขาก็ไม่รู้จักวัดจากคนใกล้ตัวเพราะดูจากสื่อไม่สามารถสัมผัสได้ แต่คนในครอบครัวบางครั้งการมีภาพคนในครอบครัวเป็นตัวอย่างมันให้คำตอบมากกว่าการบรรยาย ปัญหาของการตอบคำถามผู้มีทิฐิไม่มีอะไรมากนอกจากทำใจหยุด นิ่ง แล้วจะสำเร็จ บวกกับการกระทำที่บริสุทธิ์สำเร็จอย่างที่ทุกท่านเคยฟังในรายการสู้ต่อไป รายการนี้เป็นกำลังใจให้คนที่เกิดอาการเบื่อ เซ็งในการชวนคนทำบุญจะทำให้อยากทำ อยากบอกบุญมากขึ้น เราเป็นเด็กต่างจังหวัดแต่ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราไม่เคยห่างศูนย์กลางกาย ห่างกัลยาณมิตรเลย เราชักชวน คนทำบุญ บางจังหวัดก็จัดรถมาวัดเอง เรารู้ว่าที่ไหนให้เราที่สุด เป็นที่สุด และที่ไหนเป็นที่สัปปายะ(ไม่แน่ใจว่าสะกดถูกหรือเปล่าขออภัยนะ)จนกรทั่งเราสามารถพาคุณแม่วัด พาพี่ๆในครอบครัวมาทำบุญ และที่เราปลื้มที่สุดเราทำบุญสร้างองค์พระให้คุณแม่สำเร็จด้วยการเก็บหอมรอมริบของเราเอง ในวันคล้ายวันเกิดของคุณครูไม่ใหญ่ที่ผ่านมาเมษางัย เราปลื้ม ที่เห็นคุณแม่หยอดมหาสุวรรณนิธิ เราทำทุกบุญมากน้อยตามที่เราเต็มที่เต็มกำลัง แต่ไม่ใช่ตามศรัทธาเพราะถ้าเราเป็นลูกหลวงพ่อ หลานหลวงปู่ คุณยายอาจารย์ เราจะใช้ว่าเต็มที่เต็มกำลัง และเอาชีวิตเป็นเดิมพัน .... อยากให้ทุกท่านสมหวัง เข้าถึงธรรม ในพรรษานี้ สาธุ สาธุ

#16 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 August 2007 - 02:35 PM

คุณ maak เปรียบเทียบได้ดีมากๆเลยครับ

แต่ขอขยายความนิดนึง การซื้อ เราจะใช้ กับกรณี มีการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการกัน ในสมัยโบราณที่ยังไม่มีเงินตรา สำหรับเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เขาก็ใช้ สินค้านั้นแลกเปลี่ยนกันจริงๆ เช่น เอาปลา3ตัว แลกข้าว1หม้อ เป็นต้น

ต่อมามีการใช้เงินตราเป็นสื่อกลาง เพื่อตีค่าราคาสินค้าหรือบริการนั้น จึงเรียกว่ามีการ"ซื้อ-ขาย" เกิดขึ้น

การให้ โดยไมไ่ด้ สินค้าหรือบริการเป็นการตอบแทน เราเรียกว่า ให้(เฉย) เช่น พ่อแม่ให้เงินลูก ลูกให้เงินพ่อแม่ การทำบุญ ให้ทาน เป็นต้น

ส่วนถ้ามีสินค้าหรือบริการเป็นสิ่งตอบแทนจึงเรียกว่า ซื้อ-ขายครับ

บางอย่างมันต้องตีความนิดนึงว่าเป็นการให้ (ทาน) หรือว่า ซื้อ-ขาย เช่น ซื้อพระสมเด็จ ราคาองค์ละ 1 ล้านบาท หรือ ทำบุญ 1 ล้านบาท แล้วทางวัดให้พระสมเด็จมาเป็นที่ระลึก(ถึงบุญ) 1 องค์

จะเห็นว่า 2 อย่าง คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันนะครับ

#17 น้ำใส

น้ำใส
  • Members
  • 778 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 21 August 2007 - 01:34 PM

สาธุค่ะ แต่ละท่านให้ความเห็นที่ดี ส่วนของดิฉันคิดว่า เมื่อจะพาใครมาวัดโดยเฉพาะเรารู้ว่าเขาแอนตี้วัดอยู่ด้วย ควรจะอธิบายและแนะนำการร่วมบุญให้ทราบก่อน และพาไปกราบหลวงปู่ คุณยายด้วย ให้เขานั่งสบาย ๆ สงบ ๆ เดี๋ยวจะมีจิตรศรัทธาเองค่ะ

เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม

น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม