อยากได้กำลังใจทำ module ค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 01:40 PM
เสียใจ จังเลย......
โดนหลายๆ คนว่ามา อ่วมเลยทีเดียว
ทั้งที่ ก็พูดเรียบๆ ชวนเรียบๆ
เขาก็ขุดเรื่องเก่าๆ ของวัดมาด่า
แถมขุดเอาดวงหลวงพ่อ ออกมาดูชะตาเศรษฐีอีกด้วย
bias มากๆๆๆๆๆ
ไม่ได้ศึกษา กาลามสูตรกันเลย.... หรืออย่างไร
ศึกษาแต่ โหราศาสตร์ และ มาตุคาม กามเทพ หรืออย่างไรหนอ......
เศร้าจริง.....คน หนอ คน ช่างสับสนวุ่นวาย
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#2
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 02:16 PM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#3
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 02:19 PM
อธิบายให้เค้าเข้าใจว่า บุญกฐิน สร้างหลังคามหาวิหารคตนี้
ทำไปเพื่อสิ่งใด และเป็นสมบัติของพุทธศาสนา
ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง เพียงแต่วัด และพวกเราเป็นคนดูแล
สุดท้าย อธิบายเข้าใจเสร็จแล้ว ถ้ากลัวว่า เค้าจะว่าเอา ก็บอกบุญตามกำลังปัจจัยของเค้าก่อน(ในกรณีเป็นคนใหม่หรือผู้ที่ยังไม่เข้าใจวัดดี) ถ้าพูดแล้ว เค้าเข้าใจเราก็อนุโมนาและเชิญชวนให้เค้ามาดูการก่อสร้าง
มาวัด มาทำบุญนั่งสมาธิ
ส่วนคนที่พูดเรื่อง ข่าวลือ หรือเรื่องไม่จริงในอดีต คำเดียวที่ ผมใช้คือ * ไม่จริงหรอกคับ* และก็อธิบายให้เค้าฟัง ให้เค้าถามข้อสงสัย แล้วเราก็ชี้แจงไป แค่ให้เค้าเข้าใจวัดให้ถูกต้อง รู้เรื่องที่เป็นเรื่องจริง ถึงแม้ว่าเค้าไม่ร่วมบุญ เราก็ได้บุญแล้ว เพราะทำให้คนๆหนึ่งได้รู้มี สัมมาทิฐิมากขึ้นกว่าเดิมและช่วยให้วัดได้ถูกเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิมอีกตั้ง 1 คน
เลือกเอา ใจใสๆ
#4
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 02:26 PM
http://www.kalyanami...n...82&Itemid=4
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#5
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 02:32 PM
ทำใจใสๆไว้นะคะ
#6
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 02:45 PM
#7
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 03:59 PM
#8
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 04:08 PM
ขอบคุณทุกท่านนักหนา
ที่ให้กำลังใจ
พวกเราลูกพระธัมฯ พันธุ์ หัวใจไม่เกี่ยง เคียงข้างไปดุสิตบุรี......
ขออำนาจเฉียบขาด ของพระธรรมกาย
ที่มากมายกว่าท้องพระมหาสมุทร ทั้ง 4
โปรดคุ้มครองทุกๆท่านค่ะ
สาธุ
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#9
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 04:09 PM
รอบๆ ตัวเราก็มีแต่คนที่ไม่เข้าใจ ตัวเราเองบารมีก็ยังไม่พอ ที่จะไปเดินบอกบุญ
เดี๋ยวจะไปโมโห อารมณ์เสีย ให้ใจหมองไปอีก
#10
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 04:25 PM
ทั้ง ธรรมทาน อภัยทาน (ทานบารมี)
ศีลบารมี ปัญญาบารมี (รักษาอยู่ทุกวัน)
ขันติบารมี (เป็นพิเศษ ในวันนี่)
วิริยะบารมี
ขันติบารมี
เมตตาบารมี
อุเบกขาบารมี
ขอให้บุญนี้ ที่ได้กระทำไว้ดีแล้ว ได้พุ่งตรงไปที่ศุนย์กลางกายของนักเรียนอนุบาลฝันในฝัน ทุกท่าน
ให้มีกำลังใจเข้มแข็งในการสร้างบารมี
สมกับที่เราเตือนตัวเองอยู่ทุกวัน ทุกคืน ว่า
เราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง
แสวงบุญ สร้างบารมี
และแบ่งบุญนี้ให้แก่ผู้ที่ยังไม่เข้าใจวัด
ให้ lock บุญของเขาเปิด และ มีดวงตาเห็นธรรม
ด้วยเถิด.....สาธุ
และให้อโหสิกรรมแก่ทุกท่านที่ไม่เข้าใจ
ขอครูบาอาจารย์ มหาปูชนียจารย์ อดโทษแก่พวกเขาด้วยเถิด
สาธู
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#11
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 05:35 PM
#12
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 06:00 PM
#13
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 07:51 PM
ส่วนตัวดิฉันไปบอกบุญคน ก็ใช้วิธี มองหน้าคนนั่นก่อนว่า พอจะพูดได้หรือไม่ แล้วค่อยหยิบแผ่นใบปลิวให้เขาดู
แล้วก็พูดไปว่า คุณเคยเห็นพระเยอะๆมะ ฉันนะได้เห็นมาแล้วนะ เป็นหมื่นๆ รูปเลย เกิดมาคุณเคยเห็นไหม
เนี่ย แล้วจะมีการรวมพระอีกที หลายแสนรูปเลยนะ แต่ตอนนี้ กำลังสร้างที่สำหรับให้พระมาร่วมเทออยากร่วมบุญมะหละ
ดีนะ สุดยอดเลยละ เท่าไรก็ได้นะ
แล้วก็ได้คำตอบว่าได้ บางคนก็ 20 บาท 50 บาท 100 บาท แล้วแต่กำลังของเขานะ แล้วเราก็ขอชื่อ จริง นาสกุลจริงด้วยนะ เพราะเราจะเอาใบโมทนามาให้นะ จะได้ระลึกถึงบุญไง
แต่แปลกนะ ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า ไม่เอาหรอก ทำบุญไม่หวังอะไร แต่ดิฉันก็จะเอาชื่อเขามาจนได้ และก็ไปเอาใบโมทนาให้เขาวันหลัง
ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใด มีวิธีบอกบุญดีๆ ก็มาให้ธรรมทานกันบ้างนะค่ะ เผื่อว่า จะได้เอาวิธีการขอแต่ละคน ไปใช้ในการทำหน้าที่ ได้บางนะค่ะ
#14
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 08:22 PM
ไม่คาดหวังได้พบอะไรใหม่
เป็นใจเพียงไม่อยากได้ต่อสิ่งใด
ก็จะได้ทุกสิ่งที่ต้องการ
#15
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 09:02 PM
ที่สำคัญ หนังสือ "อะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ" ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ลองพกหนังสือเล่มนี้ไปบอกบุญนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้สำเร็จนะคะ ก่อนไปทำหน้าที่ให้นั่งสมาธิอธิษฐานจิตอาราธนามหาปูชนียาจารย์ไว้ที่ศูนย์กลางกายนะคะ
อนุโมทนาบุญกับความตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จด้วยนะคะ สาธุๆๆ
เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)
#16
โพสต์เมื่อ 30 August 2007 - 11:39 PM
ส่วนคนไม่มีบุญ ไม่ทำบุญ ชอบทำบาป แม้ตายไปแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกอะไร เพราะแม้ต้องไปตกนรก มันก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันต้องมาตกนรก คนแบบนี้น่าสงสารมากๆ
#17
โพสต์เมื่อ 31 August 2007 - 10:24 AM
#18
โพสต์เมื่อ 31 August 2007 - 10:39 AM
ล่าสุด..
#19
โพสต์เมื่อ 31 August 2007 - 11:24 AM
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#20
โพสต์เมื่อ 31 August 2007 - 01:02 PM
#21
โพสต์เมื่อ 31 August 2007 - 01:31 PM
#22
โพสต์เมื่อ 31 August 2007 - 04:36 PM
จะเสียใจไปทำไมครับ ต้องดีใจสิถึงจะถูก เพราะเราได้พยายามเพื่อเป้าหมายเพื่อคุณครูไม่ใหญ่แล้ว แม้จะถูกทำให้เจ็บกลับมา ก็ควรยืดอกอย่างภาคภูมิ เพราะเราได้ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรไปแล้ว ส่วนอีกฝ่ายจะรับหรือไม่รับอย่าไปสนครับ
เหมือนกับขุนศึกนักรบที่กล้าหาญ ที่อาสาออกรบสู้ศึกที่ยากลำบากที่ไม่มีใครกล้าอาสาสักคน มีเราเพียงผู้เดียวที่กล้าอาสาออกไปทำศึก แม้จะแพ้กลับมาก็สามารถยืดอกได้อย่างภาคภูมิ เพราะเรากล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าทำ พ่ายศึกเพียงแค่ครั้งเดียวสามารถแก้ตัวใหม่ได้ครับ ฝึกฝนการพูดของตัวเองให้มากยิ่งขึ้น ฝึกสมาธิให้กล้าแกร่งจะได้มีสติพร้อมตั้งรับและแก้ปัญหารุกกลับไปได้
การพูดเปรียบเสมือนดาบ หากดาบแกร่งและคมเราก็เป็นต่อ แต่ต้องระวังมันย้อนกลับมาทำร้ายเราเองด้วยนะครับ
สมาธิเปรียบเสมือนเกราะ คอยป้องกันและรับอาวุธของข้าศึกที่จะทำร้ายเรา
อุปกรณ์พรีเซ็นต์ เปรียบเสมือนโล่กันไม่ให้เขาใช้อาวุธทำอันตรายเราได้
หลวงปู่ คุณครูไม่ใหญ่ คุณยาย เก็บไว้กลางท้อง เปรียบเสมือนเครื่องรางของขลัง ปกป้องคุ้มครองเรา หากเราอธิฐานดีๆก็จะเป็นสิ่งดึงดูดใจให้อีกฝ่ายใจอ่อนต่อเราก็ได้นะครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#23
โพสต์เมื่อ 31 August 2007 - 08:28 PM
#24
โพสต์เมื่อ 01 September 2007 - 12:28 PM
- ดังนั้นในเวลาอันจำกัดของอายุขัยมนุษย์ในยุคนี้ เราจึงต้องทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร แสวงหาบุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปัญญาอันเป็นสัมมาทิฐิ(แต่ด้อยเวลาและโอกาส)ไว้ก่อน
- วจีกรรมใดๆที่เกิด เราควรใช้หลักวิชาให้อภัยทานแก่เขาผู้ไม่รู้หรือไม่เปิดโอกาสที่จะรู้ ส่งความปรารถนาดีให้เขาเหล่านั้นได้รู้ถึงมโนปณิธานของหมู่คณะก่อนจะหมดลมหายใจในชาตินี้ เทอญ
#25
โพสต์เมื่อ 01 September 2007 - 07:46 PM
ปลื้ม ไม่จบ จริงๆ .......
"เราคือ...ผู้สถาปนา มหารัตนวิหารคต...
โมดูล คุณทำได้ ชิตังเม "
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#26
โพสต์เมื่อ 02 September 2007 - 10:34 PM