พระอรหันต์นิพพานแล้วไปไหน
#1
โพสต์เมื่อ 17 January 2007 - 09:28 AM
คนธรรมดาตายแล้วย่อมเกิดในภพต่าง ๆ ตามกรรม ส่วนพระอรหันต์ผู้สิ้นกรรมแล้วไปเกิดที่ไหน ?
พุทธดำรัสตอบ “....ดูก่อนวัจฉะ คำว่า จะเกิดดังนี้ไม่ควรเลย....คำว่า ไม่เกิดดังนี้ ก็ไม่ควร.... คำว่าเกิดก็มี ไม่เกิดก็มี ดังนี้ก็ไม่ควร.... คำว่าเกิดก็มิใช่ ไม่เกิดก็มิใช่ ดังนี้ก็ไม่ควร
“.....ธรรมนี้เป็นธรรมลุ่มลึก ยากที่จะเป็น ยากที่จะรู้ สงบระงับประณีตไม่ใช่ธรรมที่จะหลั่งถึงได้ด้วยความตรึกละเอียดบัณฑิตจึงจะรู้ได้ ธรรมนั้นอันท่านผู้มีความเห็นเป็นอย่างอื่นมีความพอใจเป็นอย่างอื่น มีความชอบใจเป็นอย่างอื่น มีความเพียรในทางอื่น อยู่ในสำนักของอาจารย์อื่น รู้ได้โดยยาก ดูก่อนวัจฉะ......เราจักย้อนถามท่านในข้อนี้..... ถ้าไฟลุกโพลงอยู่ต่อหน้าท่านท่านจะพึงรู้หรือไม่ว่าไฟนี้ลุกโพลงอยู่ต่อหน้าเรา”
วัจฉะ “ข้าพเจ้าพึงรู้ว่า ไฟนี้ลุกโพลงอยู่ต่อหน้าเรา”
พุทธะ “...... ไฟที่ลุกโพลงอยู่ต่อหน้าท่านนี้อาศัยอะไรจึงลุกเล่า ท่านถูกถามอย่างนี้แล้ว จะพึงพยากรณ์ว่าอย่างไร ?
วัจฉะ “......ข้าพเจ้าถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์อย่างนี้ว่าไฟที่ลุกโพลงอยู่ต่อหน้าเรานี้ อาศัยเชื้อคือหญ้าและไม้จึงลุกอยู่”
พุทธะ “......ถ้าไฟนั้นพึงดับไปต่อหน้าท่าน ท่านพึงรู้หรือว่าไฟนี้จะดับไปต่อหน้าเราแล้ว ?”
วัจฉะ “ ...... ข้าพเจ้าพึงรู้ว่าไฟนี้ดับไปต่อหน้าเราแล้ว.....”
พุทธะ “......ไฟที่ดับไปต่อหน้าท่านแล้วนั้นไปยังทิศไหนจากทิศนี้....ท่านถูกถามอย่างนี้แล้ว จะพึงพยากรณ์ว่าอย่างไร ?”
วัจฉะ “...... ข้อนั้นไม่สมควร เพราะไฟนั้นอาศัยเชื้อคือหญ้าและไม้จึงลุกแต่เพราะเชื้อนั้นสิ้นไปและเพราะไม่มีของอื่นเป็นเชื้อ ไฟนั้นจึงถึงความนับว่า ไม่มีเชื้อดับไปแล้ว”
พุทธะ “......ฉันนั้นเหมือนกัน วัจฉะ บุคคลเมื่อบัญญัติว่าเป็นสัตว์พึงบัญญัติเพราะรูปใด...... เพราะเวทนาใด....... เพราะสัญญาใด........เพราะสังขารใด เพราะวิญญาณใด รูป...... เวทนา...... สัญญา.....สังขาร.....วิญญาณนั้น ตถาคตละได้แล้ว มีมูลรากอันขาดแล้ว ทำให้เห็นดุจตาลยอดด้วนถึงความมี มีความไม่เกิดขึ้นต่อไปเป็นธรรมดา ตถาคตพ้นจากการนับว่ารูป.......เวทนา...... สัญญา.... สังขาร...... วิญญาณ มีคุณอันลึกอันใครๆ ประมาณไม่ได้ หยั่งถึงได้โดยยาก เปรียบเหมือนมหาสมุทรฉะนั้นไม่ควรจะกล่าวว่าเกิด ไม่ควรจะกล่าวว่าไม่เกิด ไม่ควรจะกล่าวว่าเกิดก็มีไม่เกิดก็มีไม่ควรจะกล่าวว่าเกิดก็หามิได้ ไม่เกิดก็หามิได้”
#2
โพสต์เมื่อ 18 January 2007 - 02:12 AM
#3
โพสต์เมื่อ 19 January 2007 - 04:06 PM
ขอให้ได้ * อ่าน + ฟัง ธรรมะ * บ่อยๆ
ขอให้ได้ * พิจารณาธรรมะ * บ่อยๆ
ขอให้ * ถอนความเห้นผิดออก * บ่อยๆ
ขอให้ * รู้สึก * หลุด * ออกมาจากสมมุติ * บ่อยๆ
ขอให้ ปรากฎการณ์ของการ * เห็นตน พ้นจากสมมุติ * เกิดขึ้นบ่อยๆ
ขอให้ * สงบเย็น เป็นอิสระได้ * บ่อยๆ
*** คุณเคยขอสิ่งเหล่านี้ ให้แก่ตนเองบ้างไหม
ถ้ายังไม่ได้ขอ ก็ขอให้เริ่ม * ขอ *
เพราะเมื่อคุณขอให้ตนเองได้สิ่งเหล่านี้
วัหนึ่ง คุณจะเลิกเป็น * ผู้ขอ * อย่างเด็ดขาด
คุณจะเริ่มเป็น * ผู้ให้ *
ให้อะไรหรือ
ให้คนทั้งหลาย ขอ สิ่งที่กล่าวมาแล้วข้างต้น 6 ประการนั้น.
ขอความเจริญในธรรมมีแก่ทุกๆท่าน.
*** หมายเหตุ 1. ถ้าอ่านผ่าน คุณจะไม่ได้อะไรเลย.
2. ถ้าอ่านแล้วคิดก็พอได้นิดหน่อย.
3. ถ้าอ่านแล้วเข้าใจก็ได้มากหน่อย.
4. ถ้าอ่านแล้วทำตาม 6 ประการนี้ ก็ได้ทั้งหมด.
โลกอยู่ภายใต้การครอบงำของชรา ก้าวเข้าไปสู่ชรา ไม่ยั่งยืน
โลกไม่มีผู้ต้านทาน ไม่มีผู้เป็นใหญ่
โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวง
โลกพร่องอยู่เป็นนิจ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา.
- สละโลกได้ ก็พ้นทุกข์ได้
#4
โพสต์เมื่อ 26 January 2007 - 05:09 AM
ข้าพเจ้าขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูล ให้กับ ท่านผู้ที่สนใจ ทุกๆท่าน ได้พิจารณากันตามสะดวก และเหมาะสมนะครับ
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7
.
รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า: คลิ๊กที่นี้คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
#5
โพสต์เมื่อ 29 January 2007 - 08:16 AM
#6
โพสต์เมื่อ 27 September 2007 - 06:54 PM