ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

....


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr19743

usr19743
  • Members
  • 27 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 October 2007 - 07:32 AM









ถาม : บุญที่สามารถส่งเสริมให้ผู้ชายก็ดี ผู้หญิงก็ดี เข้าถึงธรรม คือผมไม่ทราบว่า ในชาติหน้าเราจะได้เกิดเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ต้องทำบุญอย่างไร ?


ตอบ : ทาน ศีล ภาวนา สามอันนี้เป็นบุญใหญ่ที่สุดในพระศาสนา ท่านบอกว่าบุญกริยาวัตถุ คือ การกระทำที่เป็นบุญ มี ๑๐ อย่าง

ทานมัย การให้ทาน

ศีลมัย การรักษาศีล

ภาวนามัย การปฏิบัติภาวนา สามอย่างนี้ใหญ่ที่สุด ถัดจากนั้นก็เป็น

อปจายนมัย คือ การนอบน้อมถ่อมตน

เวยยาวัจมัย คือ การช่วยเหลืองานบุญของคนอื่นให้สำเร็จลง

ปัตติทานมัย การทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้เขา

ปัตตานุโมทนามัย เห็นเขาทำดีแล้ว โมทนากับเขา

ธัมมัสวนมัย ฟังธรรมแล้วนำไปปฏิบัติ

ธัมมเทสนามัย ปฏิบัติได้แล้วไปสอนคนอื่นต่อ แล้วตัวสุดท้าย

ทิฏฐุชุกัมม์ มีความเห็นถูกว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมานั้นถูก เราจะปฏิบัติตาม


ถาม : แล้วต้องอธิษฐานด้วยหรือเปล่าครับ ?

ตอบ : คำว่า อธิษฐาน คือ ความตั้งใจ ถ้าหากว่าเรามีความตั้งใจมั่นคงเท่าไร ผลมันก็เกิดได้ง่ายเท่านั้น


ถาม : ก็คือว่า ถ้าเราอธิษฐานให้เกิดเป็นผู้ชายทุกชาติ ?

ตอบ : อ๋อ...โอกาสนั้นยาก การจะได้เกิดเป็นผู้ชาย ต้องสร้างบารมี จนถึงระดับอุปบารมีขั้นปลาย จำไว้ ผู้หญิงกับผู้ชาย จะมีความต่างกัน ตรงจุดที่ว่า ถ้าหากว่าเป็นผู้หญิงที่ตั้งใจสร้างบารมีต่อกันมาจริง ๆ ถ้ายังไม่ถึงอุปบารมีขั้นปลายเมื่อไรจะยังไม่เกิดเป็นผู้ชาย จะเกิดเป็นผู้หญิงเรื่อยไป

ยกเว้นผู้หญิงบางประเภท อย่างเช่นผู้ตั้งใจจะเป็นพุทธมารดา อย่างหนึ่ง ผู้ที่ตั้งใจจะเป็นเนื้อคู่ของพระโพธิสัตว์อย่างหนี่ง ท่านเหล่านี้ จะเป็นปรมัตถบารมีแล้วก็จะเกิดเป็นผู้หญิง แต่ถ้าไม่ใช่ท่านทั้งหลายเหล่านี้แล้ว จะเกิดเป็นผู้ชายได้ต่อเมื่อเป็นอุปบารมีขั้นปลาย

การสร้างบุญ มีอยู่ ๓ ระดับ ๙ ขั้น ก็คือ สามัญบารมี (ขั้นต้น) มีหยาบ กลาง ละเอียด อุปบารมี(ขั้นกลาง) มีหยาบ กลาง ละเอียด ปรมัตถบารมี (ขั้นปลาย) มีหยาบ กลาง ละเอียด เราต้องถึงอุปบารมีขั้นกลาง ผู้หญิงจะเริ่มค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นผู้ชาย

คราวนี้ตอนค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นผู้ชาย นิสัยห้าวเริ่มปรากฏ สมัยนี้เขาเลยเรียกกันว่าทอม แล้วพอเริ่มเปลี่ยนเป็นผู้ชายใหม่ ๆ นิสัยผู้หญิงก็ยังอยู่ ก็เลยกลายเป็นตุ๊ดไป จริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพียงแต่ว่าระยะนี้พวกนี้ปรากฏเยอะหน่อยเท่านั้นเอง ถ้าเรารู้ในเรื่องของกรรมว่า ยถากรรมมุตาญาณ คือว่า คนเราทำอะไรแล้วจะได้ผลอะไร

การกระทำทุกอย่างจะส่งผลแบบไหน ๆ ก็จะเห็นเป็นเรื่องปกติ คืออยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง ถ้าหากว่าทั่ว ๆ ไป อันดับแรกไม่ใช่ผู้หญิง ที่ตั้งใจจะเกิดเป็นพุทธมารดา ไม่ใช่ผู้อธิษฐานจะเกิดเป็นเนื้อคู่พระโพธิสัตว์โดยตรงแล้ว ถ้าถึงอุปบารมีขั้นกลางก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นผู้ชาย ดังนั้นว่า ๆ ไปแล้ว ผู้หญิงจะสร้างบารมีมาน้อยกว่า


ถาม : คนเราถ้ามีคู่บารมีแล้ว จะลาขาด กันได้เมื่อไร ?

ตอบ : อยู่ที่ว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ความมุ่งมั่นมีเท่าไร

ถาม : ถ้าเกิดว่าฝ่ายผู้ชาย เขาไม่ยอมให้ลา ?

ตอบ : มันไม่เกี่ยวกัน การลาอยู่ที่ความตั้งใจของเรา ถ้ากำลังของเราสูงพอ ก็ไปแน่บอยู่แล้วแหละ เอาอย่างนี้สิ หาทางทำบุญใหญ่ ถ้าหากว่าใครสร้างพระประธานหน้าตัก ๔ ศอก เราสร้างด้วย พอสร้างเสร็จก็อธิษฐานบอกว่าผลบุญนี้ขอให้เราละความปราถนาพระโพธิญาณ ขอละความปรารถนาเดิมทุกอย่าง ขอเข้านิพพานในชาตินี้ อะไรก็ว่าไป





คือ อาตมาธุดงค์ไปเจอสถานที่หนึ่ง ที่หลวงพ่อท่านบอกไว้ในหนังสืออ่านเล่น ท่านบอกว่า ภูเขาลูกนั้นจากจุดกึ่งกลางออกไป ๑๕ กิโล เป็นทองคำหมด อาตมาก็เพิ่งเห็นทองคำธรรมชาติเต็ม ๆ ตา ก็จากที่หลวงพ่อบอกนั่นแหละ ตักขึ้นมาก็เป็นทรายทองเลย แล้วขุดไม่ลึกด้วย หมอนพพรแกจัดแจงไปเอาเครื่องบินขึ้นไปสำรวจแล้วเอาเครื่องวัดแร่ไปวัด พอเราบอกแล้วแกมาร์คจุดในแผนที่ทหารเลย

คราวนี้ของแก แกเป็นผู้บังคับกองพันอยู่ ก็มีอำนาจสั่งให้พวกเครื่องบินมันขึ้นได้ กำหนดเส้นทางบินให้เขาเสร็จสรรพ แต่ไม่บอกหรอกว่าไปทำอะไร กลับมาถึง บอกหลวงพี่ครับมหาศาลจริง ๆ เลยครับ พอเครื่องบิน ๆ ผ่าน ตรงจุดนั้นเครื่องวัดแร่มันตีเกจ์เลย ก็เลยขอตรงจุดนี้ บอกว่าได้ก็เอาไปสิ บอกว่าเอาใครเป็นผู้ร่วมงานบ้างละงานนี้ ก็บอกว่าคงต้องสอบถามหลวงพ่อก่อนว่า จะนิมนต์พระองค์ไหนบ้าง เพราะว่าการสังคยานาพระไตรปิฎกอย่างน้อย ก็ต้องมีพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ รวมกันเป็นร้อย ๆ หลวงพ่อบอกว่าอีกสององค์ที่อยู่ในป่าเฉพาะตรงจุดนั้นรวบรวมไว้ ๖๐ กว่าองค์แล้ว

ปรากฏว่างานนี้ไม่ทันจะลงมือ หลวงพ่อไปเสียก่อน ก็รอดูแล้วกันว่าหมอนพพรเขาจะทำได้เมื่อไร อาตมาเป็นนายทุน จะให้ทองไปภูเขาหนึ่ง หาบุญอะไรก็ได้ที่เป็นบุญใหญ่ในพระศาสนา แล้วก็ทำไปสิ มันส่งผลทั้งนั้นแหละ นั่นก็แค่อ้างเท่านั้นแหละ พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าลูกสาวเราไม่เต็มใจด้วย มันอ้างให้ตายก็ไม่สำเร็จหรอก มันสำคัญตรงลูกเราจะเต็มใจด้วย



#2 arraya

arraya
  • Members
  • 298 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 October 2007 - 09:28 AM

งงอ่ะ
ทอม ตุ๊ด นี่วิบากกรรมกาเมยังส่งผลอยู่นี่นา มากด้วย



#3 nuntawatee

nuntawatee
  • Members
  • 118 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 October 2007 - 02:45 PM

อ่านแล้วไม่อยากผ่านไปเฉยๆ

เท่าที่ได้ศึกษาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จาก DMC
ทอม กระเทย ตุ๊ด หรือ คุณแอบ หรื่ออื่นๆ ที่เป็นเพศที่ 3
ยังมีวิบากกรรมกาเมฯ ส่งผลอยู่มากจึงทำให้เป็นเช่นนี้ นะคะ
ไม่น่าจะใช่ ที่ว่าได้บำเพ็ญบารมีมาในขั้นอุปบารมี จะขั้นใหนก็เหอะ ไม่น่าใช่

และโอกาสได้เกิดเป็นชายนั้น ต้องบำเพ็ญถึงขั้นอุปบารมี ขั้นกลาง???????
วัดกันด้วยเกณฑ์อะไรคะ ที่เรียกว่าขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลาย

ผู้รู้ใน WEBBOARD ช่วยให้ความกระจ่างหน่อยค่ะ ไม่อยากให้เข้าใจกันผิดๆ


#4 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 12 October 2007 - 08:27 PM

ในกรณี การเกิดเป็น สตรี/หญิง นั้น หากเทียบกับพระไตรปิฎก
ทราบมาว่า
เป็นเศษวิบากแห่ง กาเมสุมิจฉา คือ เศษกรรมเจ้าชู้ ที่เคยประพฤติผิดในกาม หรือในสตรี ต้องห้าม

ไม่เคยทราบมาก่อนว่า เกิดเป็น สตรี/หญิง เพราะ
ยังสร้างบารมีไม่ถึงอุปบารมีขั้นปลาย หรือ เพราะผู้หญิงจะสร้างบารมีมาน้อยกว่าผู้ชาย

ส่วนข้อความด้านท้ายกระทู้

QUOTE
คือ อาตมาธุดงค์ไปเจอสถานที่หนึ่ง ที่หลวงพ่อท่านบอกไว้ในหนังสืออ่านเล่น ท่านบอกว่า .....


ดูเหมือน จะไม่ค่อยปะติดปะต่อ อ่านแล้วสรุปใจความยากครับ

ถ้าจะให้ดี เจ้าของกระทู้ น่าระบุที่มาของ เนื้อหา สาระธรรม ว่า เป็นการสนทนา ปุจฉา - วิสัชานาของท่านใด ก็ดีนะครับ

รวมถึงการตั้งชื่อกระทู้ ก็ระบุข้อความให้ชัดเจน ก็จะดีครับ ขอบคุณ

ไฟล์แนบ



#5 usr19743

usr19743
  • Members
  • 27 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 October 2007 - 06:23 AM

http://www.grathonbo.../book/24.5.html

#6 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 13 October 2007 - 04:05 PM

ตามเนื้อหาจาก Post ข้างบนที่ว่า

"คราวนี้ตอนค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นผู้ชาย นิสัยห้าวเริ่มปรากฏ สมัยนี้เขาเลยเรียกกันว่าทอม แล้วพอเริ่มเปลี่ยนเป็นผู้ชายใหม่ ๆ นิสัยผู้หญิงก็ยังอยู่ ก็เลยกลายเป็นตุ๊ดไป จริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพียงแต่ว่าระยะนี้พวกนี้ปรากฏเยอะหน่อยเท่านั้นเอง ถ้าเรารู้ในเรื่องของกรรมว่า ยถากรรมมุตาญาณ คือว่า คนเราทำอะไรแล้วจะได้ผลอะไร"

ประโยคนี้ไม่ตรงกับ พระไตรปิฎกครับ และแน่นอนว่า ย่อมไม่ตรงกับที่หลวงพ่อสอนไว้ เพราะหลวงพ่อท่านสอนตรงตามพระไตรปิฎก

ดังเรื่องราวของการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ ในชาติที่ทรงเกิดเป็น มหาพรหมนารท ผู้ยิ่งด้วยอุเบกขาบารมี ซึ่งกำลังออกอากาศใน DMC ขณะนี้ ผมจะยกตัวอย่างมาตอนหนึ่งนะครับ

เป็นตอนที่พระราชธิดารุจา กำลังอธิบายให้ฟังว่า พระองค์ทรงระลึกชาติได้ โดยย้อนไปในอดีต พระองค์เคยเกิดเป็นชาย เพลิดเพลินในกามราคะ ลอบเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่นเป็นอาจิณ เมื่อบาปส่งผล ก็ไปรับกรรมในมหานรก พ้นจากนรกก็มาเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นลาตัวผู้ที่ต้องถูกตอน พ้นจากลาก็เป็นเกิดเป็นลิงตัวผู้ที่ถูกกัดอวัยวะสืบพันธุ์ทิ้งจนขาดสะบั้น พ้นจากลิง ก็มาเกิดเป็นวัวตัวผู้ที่ต้องถูกตอนอีกเช่นกัน

พ้นจากวัว กรรมเริ่มเบาบาง จึงได้มาเกิดเป็นคน แต่เป็นคนที่ร่างเป็นชายใจเป็นหญิง ซึ่งก็คือ ตุ๊ด นั่นเอง
จากตุ๊ด กรรมเบาบางอีก บุญเริ่มส่งผล จึงได้ไปเกิดเป็นเทพธิดา ละจากเทพธิดา ก็ได้มาเป็นเจ้าหญิง รุจา
ต่อจากเจ้าหญิง รุจา ชาติต่อไป ก็จะได้ไปเป็น พระอินทร์ (เทพบุตร)

จะเห็นว่า เศษกรรมส่งผล (ส่วนไม่พูดถึง) จากชาย เป็น กระเทย แล้วไปเป็นหญิง พอบุญส่ง จากหญิงแล้วเป็นชายเลยครับ

ดังนั้นตามพระไตรปิฎก จึงไม่ีใช่ จากหญิง ค่อยๆ กลายเป็นทอม แล้วค่อยๆ กลายเป็นตุ๊ด จนกระทั่งกลายเป็น ชาย ไม่ใช่เช่นนั้น แน่นอนครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร