ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เหนื่อยใจมากเลย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 24 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr18804

usr18804
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 12:13 PM

หลังกฐินมามีแต่เรึ่องไม่ดีตลอดทั้งอุบัติเหตุโดนโกงเงินโกง บาดเจ็บและัต้องรีบทำงานเก็บเงีนอีก ทุกทีเลยพอทำบญใหญํตองมีเื่รึ่องทุกฃ๊ใจเสมอ หนื่อยหน่ายใจแหลือเกิน นั่งธรรมะก็อดคิดไม่ได้ว่า จะำบุญทั้งทีทำไมเรื่องเดือดรัอนเขัามามากมายอย่างนี้ ตอนนี้ไม่สบายใจเลยครับ ไม่น่าต้องมาประดังเฃ้ามาหลังบุญกฐินเลย เหนื่อยใจมากเลย

#2 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 12:24 PM

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ทำใจใสๆ ไว้นะครับ จะได้ถูกหลักวิชา เหมือนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนไว้ คือหลังจากทำบุญแล้วให้นึกถึงบุญบ่อย ๆ ปลื้มบ่อย ๆ บุญจะได้ส่งผลเต็มที่นะครับ อนุโมทนาบุญนะครับ...สาธุ

#3 นายน้อยที่ สาม

นายน้อยที่ สาม
  • Members
  • 24 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 12:27 PM

อย่าคิดมากน่ะครับ เพราะชีวิตมันแบบนี้ล่ะ มีสุข มีทุกข์ นายน้อยก้อเป็นบ่อยครับ ตอนนี้ม่ะมีตัง มาหลายวันแล้ว แต่ยังคิดจะทำบุญไม่ให้พลาด ครับ เพราะช่วงนี้กรรมมันได้ช่อง อย่าท้อ ครับ อารายจะเกิดมันก้อเกิด ครับ สุขทุกข์ คู่กันอ่ะ เอาใจช่วย สู้สู้ ครับ มีไรบอกมาเลยน่ะ ครับ

#4 เด็กผู้น้อย

เด็กผู้น้อย
  • Members
  • 436 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 12:48 PM

เคยมีเคสทำนองนี้นะครับ แต่จำไม่ได้ว่าเรื่องใด คือทำบุญใหญ่แล้วจะมีทุกข์ประดังเข้ามาเสมอ ใครพอจำได้เอามาโพสนะครับ

#5 รัก แล้ว ทุกข์

รัก แล้ว ทุกข์
  • Members
  • 270 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 02:30 PM

เดี๋ยวก็ดีขึ้นนะครับ
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
อย่างน้อยเรายังมีชีวิตอยู่ครับ


#6 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 02:48 PM

ต้องนั่งสมาธิมากๆ ไปปล่อยปลาด้วยครับ
หลังนั่งสมาธิ ก็อธิษฐานว่า ขอให้อานุภาพ บุญบารมีรัศมีกำลังฤทธิ์ อำนาจสิทธิเฉียบขาดแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทั่วอายตนะนิพพาน อานุภาพแห่งหลวงปู่หลวงพ่อคุณยาย และอานุภาพบุญบารมีที่ข้าพเจ้าได้ทำมา ขอให้อานุภาพเหล่านั้น มาช่วยกลั่นแก้ ธาตุธรรมเห็นจำคิดรู้ ทั้งหยาบละเอียด ให้ข้าพเจ้าพ้นจากวิบากกรรม วิบากมาร วิบัติบาปศักศิทธิ์ ให้อุปสรรคต่างๆนานาในชีวิตจงมลายหายสูญไป ทั้งโจรภัยราชภัย อัคคีภัย ศัตรูหมู่มารทั้งหลายจงอย่าได้มากล้ำกราย และขอให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและธรรม ให้มีสมบัติหลั่งไหลมา เพิ่มพูนทับทวี ให้ชีวีมีสุขทุกคืนวันเทอญ..

ผมอธิษฐานแบบนี้ทุกวันที่นั่งสมาธิ อธิษฐานก่อนที่เราจะลืมตาครับ ขอให้ลองทำแบบนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นครับ การเจริญสมาธิ เป็นบุญบารมีใหญ่ที่คนเรามองข้ามกัน ถ้าทำทุกวันนั่งทุกวันให้ใจสงบจริงๆ บุญใหญ่นี้จะไปตัดรอนเวรกรรมเก่าๆที่เราเคยทำมา เรื่องร้ายๆก็จะกลับกลายเป็นดีไปหมด ลองดูสิครับ ขอเอาใจช่วยนะครับ




#7 sunshining

sunshining
  • Members
  • 111 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 03:27 PM

ขอเอากำลังใจช่วยให้เรื่อง เหนื่อย ๆ ผ่านไปโดยเร็วพลันค่ะ

และ ให้มีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิตค่ะ



#8 p'kun

p'kun
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 05:31 PM

เป็นกำลังใจให้คะ ขอให้อดทนมากๆนะคะ เดี๋ยวเรื่องต่างๆก็คลี่คลายไปคะหากไม่เก็บมาคิดและไม่ใส่ใจมาก
ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดคะ เพราะว่าตัวดิฉันเคยเป็นมาก่อน แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยเก็บมาคิดคะ
ยิ้มไว้คะ

#9 muwhan

muwhan
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 05:40 PM

Everything is gonna be fine . No matter what . Do belived in luang Phu and Luang Poa na krub

#10 Pungpa

Pungpa
  • Members
  • 458 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ผ่านการอบรมมัชฌิมธรรมทายาทหญิง รุ่นที่ 13 /2549 แล้วค่ะ<br /><br />รับบุญ : ฝึกงานอยู่ที่ ศูนย์ประสานงานโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 05:54 PM

เค้าอาจเห็นเราทำบุญใหญ่ เลยส่งงานใหญ่ๆมาวัดใจเรา ว่าเราจะใจใสได้มากน้อยแค่น้อย

หนูก็มีคะใจไม่ค่อยใสหลังกฐิน แต่ก็ปรับได้เยอะแล้วละคะ หนู Pungpa เป็นกำลังใจให้นะคะ
หยุดนั่นแหละเป็นตัวสมถะ
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด

#11 tep072

tep072
  • Members
  • 32 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 07:06 PM

เป็นขุนศึกย่อมเจอเสมอศึก
ยิ่งบุกลึกยิ่งเผชิญเมื่อเดินหน้า
ทำลายขวัญมั่นคงให้ลงมา
เพื่อชาติหน้าอย่าคิดสู้อย่ารู้จริง

ให้สะเปะสะปะจะท้อแท้
ให้ป้อแป้อย่าคิดกล้ามาหยุดนิ่ง
ให้สับสนจนไม่กล้ามาพึ่งพิง
ให้ทอดทิ้งความสำคัญอันตั้งใจ

เป็นทหารพระนิพพานต้องชาญเชี่ยว
ต้องขับเคียวอุปสรรคสักเพียงไหน
เชาทำลายง่ายนักจักเข้าไป
ทำลายขวัญมั่นใจให้หวั่นวน

อย่าให้กรรมเก่าเขาย้อนมาซ้อนตี
เราก็มีความดีที่มากผล
หมั่นรำลึกนึกถึงคนึงตน
บุญเรายังไม่ล้นจึงวนพบ

ข้าศึกเขาโจมตีสักกี่ครั้ง
ให้สิ้นหวังทำลายให้คลายจบ
ยังยิ้มได้เมื่อภัยมาทุกครารบ
เป็นนักสู้ผู้สยบวิบากกกรรม


#12 ว่างว่าง

ว่างว่าง
  • Members
  • 200 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 08:13 PM

วันนี้ทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือมาครับ เอาบุญมาฝากทุกๆคนเลยครับ

#13 cat....ka

cat....ka
  • Members
  • 55 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 08:32 PM

สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ร้องเอาไว้นะคะว่า "ถ้าเธออยากจะหัวเราะพูด ว่า 55555" เอาจริงแล้ว ก็อย่าไปใส่ใจเลยทุกๆคนย่อมมีปัญหาเป็นปกติ ธรรมดา อย่าไปคิดว่ามันเป็นปัญหา อย่าลืมเป้าหมายใหญ่ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต ทุกๆ เรื่องล้วนเป็นเรื่องจร เป็นเรื่องรองทั้งนั้นแหล่ะค่ะ ลองไปฟังทันโลกทันธรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ดูนะคะ เรื่อง the secret ค่ะ ดีมากๆเลยค่ะ

#14 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 08:48 PM

QUOTE
หลังกฐินมามีแต่เรึ่องไม่ดี
- เรื่องไม่ดีคงไม่ใช่เป็นผลจากกฐินหรอก
QUOTE
ตลอดทั้งอุบัติเหตุ โดนโกงเงินโกง บาดเจ็บ
- คงต้องถือเป็นบทเรียน เตือนตัวเองให้มีความระมัดระวังมากขึ้นนะ
QUOTE
และัต้องรีบทำงานเก็บเงินอีก
- เหนื่อยก่อนแล้วสบายทีหลังนะ
QUOTE
ทุกทีเลยพอทำบญใหญํต้องมีเื่รึ่องทุกฃ๊ใจเสมอ เหนื่อยหน่ายใจแหลือเกิน
- คงต้องเตรียมตัว วางแผนก่อนมาทำบุญใหญ่
QUOTE
นั่งธรรมะก็อดคิดไม่ได้ว่าจะำบุญทั้งทีทำไมเรื่องเดือดรัอนเขัามามากมายอย่างนี้ ตอนนี้ไม่สบายใจเลยครับ ไม่น่าต้องมาประดังเฃ้ามาหลังบุญกฐินเลย เหนื่อยใจมากเลย
- นั่งแล้วก็ต้องหยุด ต้องนิ่ง ใจสบาย กายสงัด การมาทำบุญใหญ่จึงจะคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป
ขอเป็นกำลังใจให้พร้อมเสมอ ราบรื่นต่อการสร้างบุญบารมี ปราศจากอุปสรรคทั้งมวล
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#15 usr20090

usr20090
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 10:02 PM

หลวงพ่อเคยบอกไว้ว่า ยิ่งมืดมากเท่าไหร่แสดงว่าใกล้จะสว่างแล้วครับ ขอให้อดทนอีกนิด แล้วชีวิตจะดีขี้นเองครับ ขอเป็นกำลังใจให้อีกหนึ่งแรงนะครับ

#16 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2007 - 11:09 PM

รถติดแต่จิตไม่ตก ...พระไพศาล วิสาโล
เรื่อง รถติดแต่จิตไม่ตก โดย พระไพศาล วิสาโล
คัดจากหนังสือ เริ่มต้นชีวิตใหม่...เริ่มที่ใจของเรา

คนกรุงเทพฯเวลานี้มิได้ปรารถนาอะไรมากไปกว่าขอให้ได้นั่งเมื่อขึ้นรถเมล์หรือขอให้ไปไหนมาไหนได้โดยรถไม่ติด

เพียงเท่านี้ชีวิตก็มีความสุข และสามารถเล่าเรื่องนี้ให้ใครต่อใครฟังได้เป็นวันๆ (นับว่าผิดกับคนนิวยอร์กอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ กล่าวกันว่าผู้คนที่นั่นมักจะคุยแข่งกันว่า ใครเคยถูกปล้นทรัพย์หรือถูกทำร้ายหนักกว่ากัน)

มองในแง่นี้ คนกรุงเทพฯ ก็นับว่าสมถะอย่างยิ่งที่มิได้เรียกร้อวอะไรจากชีวิตมากไปกว่านี้ ทั้งๆที่คนเมืองอื่นปรารถนาสิ่งต่างๆมากมาย โดยถือว่าการได้นั่งรถเมล์หรือการสัญจรบนถนนที่ปลอดรถราเป็นเรื่องพื้นๆเสียเหลือเกิน
แต่สำหรับคนกรุงเทพฯ แม้มักน้อยถึงเพียงนี้แล้ว ก็ยังไม่ค่อยได้สมปรารถนาเท่าใดนัก รถติดคือความจริงของชีวิตที่คนกรุงเทพฯปฏิเสธไม่ได้เสียแล้ว มันกลายเป็นสัจธรรมในระดับที่รองลงมาจากความ เกิด แก่ เจ็บ ตาย

เราถูกสอนมาให้รู้จักทำใจเผชิญกับสิ่งนั้นๆ ด้วยความสงบซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องทำอะไรเลย

หากเจ็บป่วยเราก็ต้องรู้จักดูแลรักษา ความจริงท่านสอนให้รู้จักป้องกันก่อนที่โรคภัยไข้เจ็บจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ โดยต้องรู้ก่อนว่าเหตุปัจจัยของโรคนั้นมาจากอะไร จะได้ป้องกันหรือแก้ไขได้

ความตายก็เช่นกัน คนเราไม่ใช่ว่าจู่ๆก็จะตาย หากแต่ต้องมีสาเหตุ
พระท่านสอนให้เราพยายามรักษาชีวิตเพื่อทำกิจที่เป็นประโยชน์ให้ได้นานที่สุด แต่เมื่อถึงคราวที่เลี่ยงไม่ได้ก็ต้องทำใจพร้อมรับความตายโดยไม่คิดหน่วงเหนี่ยวชีวิตหรืออาลัยทรัพย์สินเงินทอง ตลอดจนญาติมิตรที่จะต้องจากกันชั่วกัลปาวสาน

ความจริงการนั่งรถในกรุงเทพฯ เป็นคนละเรื่องกับความตาย (เว้นเสียแต่ว่ามีความประมาทเป็นเจ้าเรือน พูดภาษาสมัยใหม่คือสวมวิญญาณนักซิ่ง) แต่ในแง่หนึ่งก็สัมพันธ์กันอย่างยิ่ง

นอกจากเหตุการณ์ทั้งสองจะกลายเป็นสัจธรรมที่คนกรุงเทพฯหลีกเลี่ยงไม่ได้ดังกล่าวแล้ว ความเกี่ยวเนื่องอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทั้งสองเหตุการณ์ต้องอาศัยศิลปะอย่างเดียวกันในการเอาชนะ

หากทำใจไม่ได้กับปัญหารถติด ก็ยากที่จะทำใจได้เมื่อเผชิญกับความตาย ส่วนใครที่เชื่อว่าเตรียมใจไว้แล้วกับความตาย ก็ควรทดสอบด้วยการนั่งรถสี่แยกอสมท. ช่วงเย็นวันศุกร์ขณะที่ฝนตกหนัก และกำลังมีนัดตอนหนึ่งทุ่ม

เมื่อเราเจอสภาพจราจรแน่นขนัด ทำไมเราจึงต้องหงุดหงิดและทุกข์ร้อนเสียเหลือเกิน?
คำตอบก็คือ เพราะมันทำให้เราผิดนัด เสียงานเสียการและจะต้องไปเจอกับเจ้านายหน้ายักษ์ที่คอยแต่จะหักเงินเดือนเรา ฯลฯ
คำตอบมีมากมาย แต่คำถามข้อต่อมาก็คือ หงุดหงิดแล้วช่วยอะไรได้หรือไม่?
ถ้าเราหงุดหงิดมากแล้วจะทำให้รถแล่นไปได้เร็วขึ้นกว่าเวลาไม่หงุดหงิดกระนั้นหรือ?

ในสภาพเช่นนี้ อย่างเดียวที่เราสมควรทำก็คือ หาหนทางไปให้เร็วขึ้น เช่น เปลี่ยนเส้นทาง หรือทิ้งรถแล้วควบมอเตอร์ไซด์ หรือไม่ก็ลงเดินเลย

แต่ถ้าเงื่อนไขไม่เปิดโอกาสให้ทำได้ สิ่งที่ควรทำก็คือ ทำใจให้สงบและเป็นสุข เพราะหงุดหงิดมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นทุกข์แก่ตัวเอง ไม่ใช่แค่ทุกข์ใจเท่านั้น หากยังทุกข์กายด้วย

โรคกระเพาะ โรคหัวใจ โรคความดัน เป็นกันมากก็เพราะความเครียดความหงุดหงิดอย่างไร้ประโยชน์แบบนี้แล
แต่การอยู่เฉยๆบนรถโดยไม่ให้เครียดหรือหงุดหงิด เป็นเรื่องทำได้ยาก เพราะใจนั้นคอยแต่จะคิดกังวลต่างๆนานา เปิดช่องให้โทสะเข้ามาครอบงำ

ดังนั้นการหาทางดึงจิตให้ไปจดจ่อกับเรื่องอื่น จึงเป็นวิธีที่จะช่วยคลายเครียดได้มาก
บางคนอาจเลือกฟังเพลงหรือฟังข่าวจากวิทยุ หรือเปิดเทปธรรมะกล่อมใจ แต่สำหรับบางคนการฟังเทปบรรยายธรรมอาจทำให้จิตฟุ้งซ่านยิ่งขึ้นอีก เพราะใจไม่มีนิสัยไปทางนั้น จิตจึงอยากแส่ส่ายไปคิดเรื่องอื่นมากกว่า ซึ่งในที่สุดก็หวนมาคิดถึงเรื่องรถติด หรือกังวลกับสิ่งที่จะตามมากับปัญหารถติด

แต่สำหรับผู้ที่ฝึกมาดีแล้ว เพียงแค่ตามลมหายใจเข้าออกอย่างต่อเนื่องก็สามารถทำจิตให้สงบได้แม้ผู้คนรายรอบจะรุ่มร้อนรำคาญใจที่รถไม่เคลื่อนเลยก็ตาม

ทางเลือกมีมากมาย ข้อสำคัญก็คือ ควรหาอะไรทำเพื่อดึงจิตให้เป็นสมาธิกับสิ่งอื่นจะได้ไม่จดจ่อกับสภาพรถติด พร้อมกันนั้นก็ควรฝึกจิตให้รู้จักปล่อยวางกับปัญหานี้ โดยเตือนใจไว้เสมอว่าหงุดหงิดเพียงใดก็ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

ในยามนี้ สิ่งที่ควรทำอีกอย่างคือแผ่เมตตาแก่ตนเองให้มากพยายามตั้งจิตปรารถนาดีต่อตนเอง ถ้ารักตนอย่างแท้จริงแล้วขออย่าได้นำความทุกข์ ความหงุดหงิดมาทำร้ายจิตใจและร่างกายของตนเลย

การฝึกจิตให้ปล่อยวางกับปัญหาในยามที่ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้นหรือดีกว่านั้น ถึงที่สุดแล้วก็คือการฝึกตนให้พร้อมเผชิญกับปัญหาชีวิตนานาประการที่ร้ายแรงและยิ่งใหญ่กว่าปัญหารถติด เป็นการเผชิญด้วยจิตใจที่สงบ มีสติและพร้อมที่จะใช้ปัญญาเข้าแก้ไข

และหากถึงคราวที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่แก้ไขอะไรไม่ได้ก็สามารถยิ้มรับได้อย่างเป็นสุข แม้ภัยที่ย่างเข้ามานั้นจะเป็นความตายก็ตาม

พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#17 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 22 November 2007 - 08:36 AM

ถือเสียว่าเป็นบททดสอบใจเราให้มีความมุ่งหมั่นเชื่อหมั่นในการสร้างความดีของเรานะครับ

เหมือนอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราเมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ ที่ถูกพญามารพยายามขัดขวางไม่ให้ตักบาตรพระปัจเจกพุทธเจ้าในอดีตชาติ เรื่องมีอยู่ว่า

สมัยนั้นพระองค์ได้เกิดเป็นเศรษฐีผู้ใจบุญ วันหนึ่งมีพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ได้ออกจากนิโรธสมาบัติ และเห็นด้วยฌานถึงวาระจิตของเศรษฐีท่านนี้ที่มุ่งหมายจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต จึงได้เหาะมายืนอยู่ที่หน้าบ้านของเศรษฐี เมื่อเศรษฐีได้ทราบว่ามีพระปักเจกพุทธเจ้ามา จึงสั่งให้คนใช้นำเครื่องอาหารหวานคาวไปใส่บาตรให้พระปัจเจกพุทธเจ้า พญามารได้รู้และเห็นว่าพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปนี้ไม่ได้ฉันอาหารมาหลายวันแล้ว หากไม่ได้ฉันอาหารอีกเพียงวันเดียวก็จะสิ้นอายุขัยทันที จึงเนรมิตหลุมถ่านเพลิงขนาดใหญ่ร้อนเสมือนไฟนรกมาขวางไว้ เพื่อไม่ให้เศรษฐีท่านนี้ใส่บาตรได้ เมื่อความทราบถึงเศรษฐี ท่านจึงออกมาด้วยตัวของท่านเอง และเห็นหลุมเพลิงขนาดใหญ่ขวางทางท่านอยู่ แต่ท่านก็ไม่หวั่นไหวและไม่ได้เกิดความกลัวขึ้นในใจเลยแม้แต่น้อย ท่านจึงตั้งจิตอธิฐาน ว่าแม้ศรีษะของท่านจะต้องถูกฝังในหลุมถ่านเพลิงนี้ท่านก็จะไม่ย่อท้อในการสร้างมหาทานบารมี เพื่อพระสัมมาสัมโพธิญานในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า ครั้งอธิฐานจบ ท่านเศรษฐีจึงถือสำหรับอาหารจับกระชับให้หมั่น แล้วก้าวเดินข้ามหลุมถ่านเพลิงนั้นไป ขณะที่ท่านก้าวเดินข้ามหลุมถ่านเพลิงนั้นเอง ก็ปรากฎดอกบัวทิพย์ผลุดออกมาจากถ่านเพลิงนั้นรองรับท่านเศรษฐีด้วยอำนาจบุญบารมีที่ท่านสั่งสมมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ทำให้ท่านเศรษฐีได้ใส่บาตรพระปัจเจกพุทธเจ้า เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้ารับบาตรเสร็จจึงให้พรท่านเศรษฐีและเหาะกลับไป

การทำความดีย่อมมีอุปสรรค ทั้งก่อนและหลังทำเป็นธรรมชาติของภพ3นี้ หากเราสร้างความดีแล้วไม่มีอุปสรรคเราจะได้บารมีหรือจริงไหมครับ ขอเพียงเราไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้นเสียก่อน เราย่อมมีทางแก้ไขอุปสรรคนั้นอย่างแน่นอนครับ

สู้เขาต่อไปนะ ทาเคชิ! (ทาเคชิเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย - -")
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#18 ยามเย็น

ยามเย็น
  • Members
  • 53 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 November 2007 - 11:54 AM

สุดยอดเว็บบอร์ดก็คือเว็บนี้แหละค่ะ ขนาดไม่ใช่ปัญหาของตัวเองอ่านแล้วยังน้ำตาซึม แงแง.... พอว่างปุ๊บก็ต้องหัมมาหาที่นี่ทันที เหมือนอยู่กับคนในครอบครัวเดียวกันค่ะ รักทุกๆคนค่ะ ขอให้คุณ18804หายเหนื่อยใจเหนื่อยกายโดยเร็วพลันนะคะ ให้ได้สร้างบารมีโดยมีกำลังใจเต็มเปี่ยม และสนุกสนานบุญบันเทิงค่ะ

#19 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 22 November 2007 - 12:24 PM

ร่วมเป็นกำลังให้อีกแรงครับ

คุณ WISH แนะนำไว้ดีมาก
ทั้งความเข้าใจถูกเรื่องบัญชีบุญกุศล แยกกับบัญชีอกุศล
รวมถึงวิธีการแก้ไข แยกเป็นเรื่อง ๆ น่านำไปปรับใช้นะครับ

คิดซะว่า ยิ่งมืด ก็ยิ่งดึก ยิ่งดึก ก็ยิ่งใกล้สว่าง สิครับ

คือ ช่วงใดของชีวิตเจอมรสุมปัญหาสารพัด มีข้อคิดว่า

1 ) วิบากอกุศล กำลังส่งผล อยู่ อุปมาเหมือนกำลังใช้หนี้กรรมเก่า เดี๋ยวความทุกข์ ปัญหาก็เบาบางไปตามลำดับ

2 ) เป็นสัญญาณเตือนให้ เราต้องขยัน ละชั่ว ทำความดี กลั่นใจใส / ไม่ประมาทในการดำรงชีพและการสร้างบารมี

3 ) เมื่อหนี้กรรมเก่าเบาบาง เหมือนฟ้าใกล้สาง + ทำความดีต่อเนื่อง ใจอยู่ในบุญ เดี๋ยวฟ้าก็สว่างครับ

4 ) ต้องอาศัยตัวช่วย คือ อธิษฐานบารมี สิครับ

5 ) อย่าลืม ตรวจสอบมงคลชีวิต 38 ว่าเราบกพร่องตรงไหน แก้ไขอะไรบ้าง เช่น
ยังคบคนพาลอยู่ไหม ? ใกล้บัณฑิต คบกัลยาณมิตร หรือเปล่า เป็นต้นครับ

*** ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ มีปัญญา สร้างบุญญาบารมีสม่ำเสมอ
เดี๋ยวคุณภาพชีวิตก็จะทุกข์น้อย เพิ่มพูนสุขครับ ***
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#20 Smiling Girl

Smiling Girl
  • Members
  • 550 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 November 2007 - 03:18 PM

หมั่นนึกถึงบุญบ่อยๆ อย่าให้มารได้ช่องเข้ามาทำให้ใจหมอง บุญแรง.. บาปก็แรงเช่นกัน

ตัวเองก็ประสบปัญหาเหมือนกันค่ะ หลังบุญใหญ่มีแต่เรื่องทำให้ใจขุ่น

"เขา" มาทดสอบเรา อย่าไปใส่ใจนะคะ (คำแนะนำจากผู้ประสานงาน)

"หยุด" เป็นตัวสำเร็จ คิดอะไรไม่ออกก็นึกถึง มหาปูชนียาจารย์ไว้ที่ศูนย์กลางกายนะคะ happy.gif

เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)


#21 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 22 November 2007 - 05:05 PM

หาก เรือรั่ว น้ำกำลังเข้าเรือ คนในเรือคงต้องช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือ และหาทางอุดรอยรั่วให้ได้

ตอนนั้น ทุกคนในเรือ คงกำลังเหนื่อยมากๆ แต่จะไม่มีใครบ่นแน่นอนว่า วิดน้ำออกจากเรือทีไร น้ำใหม่ก็เข้าเรือทุกทีเลย ทำไมน้ำต้องไหลเข้าเรือ ตอนวิดน้ำออกจากเรือด้วยนะ
และก็จะไม่มีใครบ่นว่า อุดรอยรั่วที่เรือทีไร น้ำใหม่ก็เข้าเรือทุกทีเลย ทำไมน้ำต้องไหลเข้าเรือตอนอุดรอยรั่วด้วยนะ

เหตุที่ไม่มีใครบ่นเช่นนี้ เพราะทุกคนเห็นชัดเจนว่า สาเหตุที่น้ำเข้าเรือนั้น ไม่ใช่เพราะการอุดรอยรั่ว และการวิดน้ำออกจากเรือ แต่เป็นเพราะเรือแตกต่างหาก น้ำถึงเข้าเรือได้ ฉันใด

เรือชีวิตก็ฉันนั้น วิบากกรรมได้ช่องตามมาส่งผลช่วงใด ก็มีสภาพเหมือนเรือแตกน้ำกำลังเข้าเรือฉันนั้น แต่น่าเสียดายที่มนุษย์ไม่เห็นถึงผลของบุญและบาป ทำให้มนุษย์ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง เวลามีปัญหา ก็ไปโทษว่า เป็นเพราะทำบุญใหญ่ถึงมีปัญหา หากมนุษย์เห็นสาเหตุที่แท้จริง มนุษย์จะทราบชัดว่า เหตุที่กำลังมีปัญหา เพราะวิบากกรรมกำลังส่งผล ต้องรีบสร้างบุญให้มากยิ่งขึ้นไปอีก

เปรียบเสมือนคนที่เรือแตกน้ำกำลังเข้าเรือ ก็จะยิ่งเร่งวิดน้ำออกจากเรือ และหาทางอุดรอยรั่วที่เรือให้ได้นั่นเองครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#22 NONGPAKOUW

NONGPAKOUW
  • Members
  • 28 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 November 2007 - 05:49 PM

ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ สู้ๆค่ะ นึกถึงบุญที่เราสั่งสมมา ทำใจใสๆนะค่ะ

#23 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 23 November 2007 - 12:53 AM

At least you are still alive....and can collect more boonbaramee and redesign your life for this life and make a better design for your next life happy.gif althoug I wish you all the best and share all my boon baramee with you kah... pls keep on fight ting ! สู้ต่อไป
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง

#24 บี

บี
  • Members
  • 151 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 November 2007 - 10:17 AM

ไม่ต้องคิดมาก ปัญหามีกับทุกคนครับ ทางออกมีเสมอครับ รอแค่เวลาไม่นาน

#25 pp_dmc

pp_dmc
  • Members
  • 93 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 November 2007 - 07:28 PM

คุณยาย กล่าวไว้ว่า หาบุญได้ ใช้บุญเป็น ลองคิดตามคำคุณยายนะคะ ถ้าจิตตกมารจะแทรกผังไม่ดีทันที ยิ่งจะทำให้แย่หนักเข้าไปอีก ต้องใจใส ใส ใส นะคะ เป็นกำลังใจให้นักรบกองทัพธรรมค่ะ