ทำงานแบบนี้ ผิดศีลไหม?
#1
โพสต์เมื่อ 08 December 2007 - 06:14 AM
#2
โพสต์เมื่อ 08 December 2007 - 08:58 AM
แต่ถ้ามีวิบากรรมมั้ย ผมว่าอาจจะมีเศษๆอ่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 08 December 2007 - 09:08 AM
ถ้าทำแล้วใจมันกังวล ตะขิดตะขวงใจ ก็ถือว่าอาชีพนั้นไม่บริสุทธิ์
แต่ถ้าทำแล้วสบายใจ ใจเราก็บริสุทธิ์ ปราศจากความกังวลใดๆ อาชีพนั้นบริสุทธิ์
เราต่างหากที่ต้องเลือกงาน ไม่ใช่้ให้งานเลือกเราค่ะ ทำอาชีพอะไรที่ทำแล้วใจใส เป็นทางมาแห่งบุญ ยิ่งนึกก็ยิ่งปลื้ม ก็ควรจะแสวงหาอาชีพนั้น แต่ถ้าตรงกันข้าม ทำแล้วใจยิ่งหมอง ก็อย่าทำเลยค่ะ เพราะการผลิตถุงยางอนามัย ถึงมันจะเพื่อวัตถุประสงค์ ป้องกันการตั้งครรภ์ หรือ ป้องกันโรคก็ดี แต่ทั้งนี้แล้ว วัตถุประสงค์ท้ายสุดที่คนเขาไม่พูดกันนั่นก็คือ
สนับสนุนการมีเพศสัมพันธ์?
ให้คนมักมากในกาม?
ชิงสุกก่อนห่าม?
คิดเองนะคะ โตๆ กันแล้ว ว่าอะไรดี ไม่ดี
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#4
โพสต์เมื่อ 08 December 2007 - 12:18 PM
ขอถามว่าตอนที่คุณจขกท.เข้าทำงาน หรือตอนที่คุณรู้จักถุงยาง คุณคิดอย่างไรกับถุงยางครับ เวลาเห็นถุงยางแล้วรู้สึกเช่นไร ชวนให้นึกถึงเรื่องเพศหรือไม่ ผมมั่นใจ80%ของมนุษย์เมื่อได้เห็นได้รู้เรื่องถุงยาง ต้องมีความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับเรื่องเพศขึ้นมาอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นแหล่ะครับ คือบาป ถุงยางนั้นหากลองพิเคราะห์ดูดีๆแล้ว จะคล้ายกับเหล้า สุราหรือของมึนเมาครับ นั่นคือมอมเมาจิตใจมนุษย์ ให้คิดว่าผิดเป็นชอบครับ
แต่อย่าได้วิตกไปเลยครับ หากไม่จำใจทำ วิบากกรรมก็เกิดน้อยครับ หากเลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็ให้มันมีผลกับเราน้อยที่สุด คือไม่ยินดีที่จะทำ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#5
โพสต์เมื่อ 08 December 2007 - 02:47 PM
#6
โพสต์เมื่อ 08 December 2007 - 03:38 PM
#7
โพสต์เมื่อ 08 December 2007 - 03:51 PM
#8
โพสต์เมื่อ 09 December 2007 - 12:21 AM
โมทนาสาธุกับทุกคน
#9
โพสต์เมื่อ 10 December 2007 - 10:45 AM
#10
โพสต์เมื่อ 10 December 2007 - 12:28 PM
http://www.dmc.tv/pa...2550-12-07.html
ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใส่ของคนใส่ ถ้าใส่เพื่อปกปิดร่างกาย และให้เหมาะสมกับการออกกำลังกาย ผู้ผลิตก็ไม่มีวิบากกรรม แต่ถ้าใส่เพื่อยั่วยวนเพศตรงข้าม ผู้ใส่ก็จะมีวิบากกรรมกาเม และผู้ผลิตก็ย่อมมีส่วนในวิบากกรรมนั้นด้วย
ดังนั้นจึงขึ้นกับวัตถุประสงค์ แต่เพื่อความสบายใจ ให้ผู้ผลิต สั่งสมบุญมากๆ แล้วอธิษฐานให้พ้นจากวิบากกรรมที่อาจมีในอนาคต
ซึ่งเมื่อย้อนมาถึงเรื่องถุงยาง ก็ทำนองเดียวกัน สำหรับ รายที่เป็นสามีภรรยากันถูกต้องอยู่แล้ว แต่ไม่ปราถนามีบุตร จึงซื้อไปใช้ อย่างนี้ผู้ผลิต ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้า ผู้บริโภคนำไปใช้เสพกามไม่เลือก ผู้ผลิตย่อมมีวิบากกรรมด้วยครับ ก็เพื่อความสบายใจ ให้สั่งสมบุญมากๆ แล้วอธิษฐานให้พ้นจากวิบากกรรม ตามแบบเคสข้างบนนะครับ
ทีนี้มาเรื่่อง ไปทำงานในบริษัทฆ่าสัตว์ แต่ไม่ได้ฆ่าโดยตรง แค่ทำบัญชี ทำการเงิน อย่างนี้ หากจิตใจไม่คิดถึงเรื่องบาปเลย ก็จะไม่มีวิบากกรรมครับ
เรื่องเคยมีมาแล้วในสมัยพุทธกาลที่ ภรรยาเป็นพระโสดาบัน แต่ส่งคันธนูให้สามีซึ่งเป็นนายพรานออกไปล่าสัตว์ทุกวัน เพียงเพราะมีจิตปรารถนาจะทำหน้าที่ภรรยาที่ีดี เตรียมข้าวของให้สามีให้พร้อมทำงาน ภรรยานั้นไม่บาปเลยแม้แต่น้อย เพราะพระโสดาบันเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ครับ
#11
โพสต์เมื่อ 11 December 2007 - 12:53 PM
เริ่มตั้งแต่ สัมมาทิฐิ (มีความเข้าใจถูก) สัมมาสังกัปปะ( คิดถูก คิดดี ) ...
หนึ่งในนั้นคือ สัมมาอาชีพ ควรมีอาชีพที่ถูกทั้งกฎหมาย และ ศีลธรรม
บางอย่าง อาจไม่นับว่าเป็นบาป แต่เข้าข่าย เป็นเวรเป็นกรรม
บุญรักษาค่ะ ^0^
#12
โพสต์เมื่อ 11 December 2007 - 01:37 PM
เจตนา ดี ผลก็จะดี
เจตนา ไม่ดี ผลก็จะไม่ดีครับ