นั่งสมาธิแล้วรู้สึกว่าลมหายใจจะหมดจะต้องทำอย่างไร
#1
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 11:51 AM
#2
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 12:24 PM
นั่งแล้วจะหมดลมหายใจใช่มะ จะหมดก็ให้หมดไป อยากหมดให้มันหมดไป ร่างกายมันไม่อยากหายใจแล้วก็ช่างมัน ถ้ามันถึงคราวจะตายก็ให้มันตายในท่านั่งนี่แหล่ะ
ว่าแล้วก็นั่งสมาธิต่อปาย
มันคือบททดสอบที่ส่งมาจากใจส่วนลึกของเราครับ เพราะส่วนลึกของใจมันไม่อยากนั่งมันเลยส่งความรู้สึกออกมาเป็นอาการ ถ้าเรายอมแพ้เราก็ไม่มีทางพบทางสว่างได้หรอกครับ เอาชีวิตเป็นเดิมพันไปเลยครับ เหมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เอาชีวิตเป็นเดิมพัน "แม้ร่างกาย เลือดเนื้อจะเหือดแห้งเหลือแต่หนังหุ้มเอ็นกระดูกก็ตามที หากไม่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญานจะไปลุกจากที่เป็นอันขาด"
เหมือนพระเดชพระคุณหลวงปู่ของเรา หากคืนนี้ไม่ได้เข้าถึงธรรมที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้บรรลุ จะไม่ขอลุกไปไหนเด็ดขาด
ว่าแล้วก็สู้ต่อปายนะ ทาเคชิ ( ทุกงานเลยนะพี่ท่าน - -" )
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 12:49 PM
#4
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 12:52 PM
#5
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 02:07 PM
วิธีการที่ตัวเองผ่านมาได้คือ อย่าตกใจค่ะ ใจยังอยู่ที่ 072
แต่ให้พิจารณาดูลมหายใจด้วย แต่ยังวางใจที่ 072 นะคะ
อย่ากระโตกกระตากค่ะ แล้วจะเห็นว่า จริงๆ ลมหายใจยังมีอยู่ แต่ว่า เบา และ ละเอียดค่ะ
เมื่อเห็นแล้ว ก็วางใจเฉยๆ ต่อไปที่ 072 เลิกสนใจเรื่องลมหายใจเสีย
แล้วก็จะผ่านไปได้ค่ะ เป็นเพียงสภาวธรรมหนึ่งเท่านั้นค่ะ เดี๋ยวก็มีสภาวธรรมใหม่ให้เห็นให้รู้สึกอีกค่ะ
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#6
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 02:38 PM
#7
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 02:45 PM
#8
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 04:12 PM
- หยุดกับนิ่ง
- เข้าสิบแล้วเห็นศูนย์
#9
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 04:29 PM
"เข้าสิบแล้วเห็นศูนย์"
คำว่า เข้าสิบ คืออะไรคะ
#10
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 04:53 PM
เที่ยงแท้แน่นักหนา ตั้งอนิจจาเป็นอาจิณ จุติแล้วปฏิสนธิ ย่อมเวียนวนอยู่ทั้งสิ้น สังขาราไม่ยืนยิน ราคีสิ้นเป็นตัวมา นี่สิบ ศูนย์นี้ เป็นตัวสำคัญนัก
สัตว์โลกจะเกิดในโลกได้ ต้องอาศัยเข้าสิบแล้วตกศูนย์ จึงเกิดได้ ถ้าเข้าสิบไม่ตกศูนย์แล้ว เกิดไม่ได้ นี่โลกกับธรรมต้องอาศัยกันอย่างนี้
ส่วนทางธรรมเล่าก็ต้องเข้าสิบ เข้าสิบแล้วก็ตกศูนย์ ตกศูนย์ คือ ใจหยุด พอใจหยุดเรียกว่าเข้าสิบ เห็นเป็นดวงใสเท่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ผุดขึ้นที่ใจหยุดนั้น นั่นตกศูนย์แล้ว เข้าสิบแล้ว เห็นศูนย์แล้ว เรียกว่า เข้าสิบแล้วเห็นศูนย์ พอเห็นศูนย์ ใจก็หยุดอยู่กลางศูนย์นั้นแหละ กลางดวงใส เท่า ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์นั้น ดวงนั้นแหละเรียกว่า ดวงธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน หรืออีกนัยหนึ่งดวงนั้นแหละเรียกว่า ดวงปฐมมรรค หนทางเบื้อง ต้นมรรค ผล นิพพาน จะไปสู่มรรคผลนิพพาน ต้องเข้ากลางดวงนั้นแห่งเดียว ไปได้ ทางเดียวทางอื่น ไม่มี
#11
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 04:54 PM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#12
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 05:44 PM
#13
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 06:05 PM
หยุดสงสัย และ ตั้งใจปฏิบัติ
#14
โพสต์เมื่อ 19 December 2007 - 08:36 PM
ไม่ต้องสนใจอะไรนะ ทำหยุดนิ่งอย่างเดียวพอ ไม่ต้องไปสน เรื่องลมหายใจ ถ้าไปสนใจปั๊บ ก็จะไปติดที่ลมหายใจ
เวลาทำสมาธิ ร่างกายจะปรับของมันเองโดยอัตโนมัติ
ให้เราปรับร่างกายให้สบาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ถ้าตึงมันจะเครียด และ เหนื่อย
ทำสมาธิอยู่ก็ทำต่อไป เอาใจ และความรู้สึก ไว้ที่กลางท้อง เหนือสะดือ 2 นิ้วมืออย่างเดียวพอ ให้ทิ้งร่างกายไปเลย
มาถูกทางแล้วทำต่อไปนะ
#15
โพสต์เมื่อ 20 December 2007 - 10:19 AM
ละเอียดจนผู้ปฏิบัติเอง ยังหลงไปว่าลมหายใจกำลังจะหมดไป ทั้งที่ใจกำลังจะหยุดนิ่ง
ผลที่สุดก็ต้องถอนสมาธิออกมา หลวงปู่ฯ ถึงได้สอนว่าให้นั่งเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพื่อตัดความกังวลในส่วนนี้ไงครับ
เพราะคนนั่งฟุ้ง นั่งอย่างทรมานใจ ลมหายใจจะไม่ละเอียดหรอกครับ
#16
โพสต์เมื่อ 20 December 2007 - 10:21 AM
#17
โพสต์เมื่อ 20 December 2007 - 12:30 PM
#18
โพสต์เมื่อ 20 December 2007 - 12:52 PM
ภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรนั้น ผมจะอธิบายเพิ่มเติมให้ในหลักการทางวิทยาศาสตร์น่ะครับ
ปรกติแล้วคนเราต้องหายใจ นำอากาศดีเข้าไปเผาผลาญอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เพื่อให้เกิดพลังงานหล่อเลี้ยงเซลต่างๆ ทั่วร่าง ยิ่งเราออกกำลังกาย ใช้แรงงานมาก ร่างกายยิ่งต้องการพลังงานมาก ปริมาณอากาศที่ต้องการไปใช้เผาผลาญอาหารก็ยิ่งมากขึ้น เป็นเงาตามตัว เราจึงสังเกตได้ว่า ช่วงที่เราออกกำลังกาย เราจะหายใจถี่ๆ และรุนแรงมากกว่า เวลาปรกติ
ทีนี้พอเรามาทำสมาธิ ร่างกายจากสภาวะหายใจปรกติ จะเริ่มผ่อนคลาย พลังงานที่ต้องใช้หล่อเลี้ยงเซลต่างๆ ก็จะค่อยๆ ลดลง เพราะร่างกายไม่ได้ใช้พลังงาน เมื่อพลังงานที่ต้องใช้ลดลง อัตราการเผาผลาญอาหารในร่างกายให้ไปเป็นพลังงานก็ลดลง เมื่ออัตราการเผาผลาญลดลง อัตราการใช้อากาศก็จะค่อยๆ ลดลงตามไปด้วย ดังนั้น เราจะค่อยๆ หายใจช้าลงๆ แผ่วเบาลงๆ จงถึงจุดที่อากาศค่อยๆ ไหลเข้าไหลออกอย่างสบาย โดยที่ร่างกายก็ไม่กระทบ เพราะกำลังผ่อนคลายไม่ได้ใช้พลังงาน
จึงเกิดสภาวะดังที่ถามมานั่นแหละครับ
#19
โพสต์เมื่อ 20 December 2007 - 02:22 PM
#20
โพสต์เมื่อ 21 December 2007 - 10:16 PM
คุณครูไม่ใหญ่ตอบว่า
(สรุปมาอีกทีนะ ผิดไปบ้างก็อย่าถ้าสา.. ประมาณว่า)
การที่รู้สึกเช่นนั้น คือลมหายใจเราเริ่มละเอียดขึ้นเรื่อยๆ
และกำลังจะเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
(คือใจเราก็ละเอียดขึ้นเรื่อยๆนั่นแหละ และกำลังจะเข้าถึงธรรม)
ประมาณว่า หายใจทีเดียวสุดขอบจักรวาลเลย ประมาณนั้น
ให้ปล่อยให้มันเป็นไปแล้วจะดีเอง
อีกอย่างคือ เราว่านะ อย่าไปกังวลเลย
เพราะพระที่ท่านนั่งสมาธิ 7 วัน 7 คืน
หรือ 2 เดือนโดยไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ทานอาหารเลย
ท่านยังไม่มรณภาพเลย
ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
แต่อย่างเราๆยังไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้
เพียงแต่อย่ากังวลกับเรื่องเล็กๆน้อยๆไปเลย
กายไม่สงบ.. ใจจะไปสงบได้อย่างไร..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#21
โพสต์เมื่อ 24 December 2007 - 10:16 AM