ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

พระพุทธเจ้า 5 พระองค์


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 กัลฯสดใส

กัลฯสดใส
  • Members
  • 7 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 05:06 AM

เปรียบเทียบรูปร่างสรีระตามอัตราส่วนของพระพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้ตามตำรา



รูปที่ 1 องค์แรกสุดเปรียบเป็น พระกกุสันธพุทธเจ้า เมื่อทรงยืนสูง 40 ศอก หรือประมาณ 20 เมตร อายุไขย 40,000 ปี

รูปที่ 2 ถัดมาเปรียบเป็น พระโกนาคมพุทธเจ้า เมื่อทรงยืนสูง 30 ศอก หรือสูงประมาณ 15 เมตร อายุไขย 30,000 ปี

รูปที่ 3 ถัดมาเปรียเป็น พระกัสสปพุทธเจ้า เมื่อทรงยืนสูง 20 ศอก หรือสูงประมาณ 10 เมตร อายุไขย 20,000 ปี

รูปที่ 4 ถัดมาเปรียบเป็น พระโคดม(พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) เมื่อทรงยืนสูง 4 ศอก หรือสูงประมาณ 2 เมตร อายุไขย 80 ปี

รูปที่ 5 ถัดมาเปรียบเป็นพระศรีอริยเมตไตร(ในอนาคต) เมื่อทรงยืนสูง 80 ศอก หรือสูงประมาณ 40 เมตร อายุไขย 80,000 ปี

หมายเหตุ 1.สรีระสูงใหญ่อย่างไรหาได้เป็นสาระสำคัญไม่ สำคัญอยู่ที่มีรูปร่างที่เหมาะสมสมบูรณ์มีองค์ประกอบครบทุกประการเป็นสำคัญ

หมายเหตุ 2.อายุขัยจะมากหรือจะน้อยในแต่ละยุคแต่ละสมัยก็หาได้สำคัญเกินไปไม่ สำคัญอยู่ที่การรื่อขนสรรพสัตว์ออกจากทุกข์ ได้จำนวนมากหรือน้อย และพุทธศาสนาดำรงณ์อยู่บนโลกมนุษย์ได้ยาวนานเท่าใด

ข้อสังเกตุ พุทธศาสนาดำรงค์ได้ยาวนานเท่าใด หาใช่จำนวนปีเป็นสำคัญ สำคัญอยู่ที่พระพุทธศาสนาตกทอดไปถึงกี่ช่วงอายุขัยของมนุษย์ในเวลานั้น ซึ่งพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน(พระโคตมพุทธเจ้า)ได้ทรงกระทำให้ปรากฏขึ้นแล้ว และพระพุทธศาสนาของพระองค์จะตกทอดไปถึง 50 ช่วงอายุคนในขณะที่อายุขัยของมนุษย์ อยู่ที่ 100 ปี ก็คือ 5000 ปี ถือได้ว่าเป็นการตกทอดที่ยาวนาน และในสมัยที่พระองค์มีพระชนชีพอยู่ ก็โปรดเทศนาให้แก่เหล่าสรรพสัตว์ได้บรรลุพระนิพพานจนคณานับไม่ได้ (ร่วมทั้งเทพเทวดาและพระพรหม) ถึงแม้พุทธภูมิของพระองค์ในภพมนุษย์ ในสายตาของมนุษย์บางจำพวกที่ศึกษาหรือได้ยินได้ฟังมาในเรื่องพระพุทธศาสนา แล้วไปเปรียบเทียบกับพระพุทธเจ้าในอดีต หรือที่จะมีในอนาคตอันใกล้ ว่าพระพุทธศาสนาในปัจจุบันยังไม่สมบูรณ์เท่า ก็อยู่ที่มุมมองของแต่ละท่าน

เราเอามาจาก link http://www.geocities...th/bodyput.html ตามนี้จ้า


#2 กัลฯสดใส

กัลฯสดใส
  • Members
  • 7 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 06:05 AM

เพิ่มเติมจ้า



ความแตกต่างของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในภัทรกัปนี้


1.พระกกุสันธพุทธเจ้า หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า เมื่อสมัย เป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 8 อสงไขยแสนกัป
ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 37,027 พระองค์
เป็นศรัทธาพุทธเจ้า อายุไขย 40,000 พรรษา
พระสรีระสูง 40 ศอก หรือ 20 เมตร
บำเพ็ญทุกรกิริยาชาติสุดท้าย 10 เดือน
พุทธรังสีสร้านไปไกล 10 โยชน์ (160 กิโลเมตร)


2. พระโกนาคมพุทธเจ้า หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็น
ครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า เมื่อ สมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 8 อสงไขยแสนกัป ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 37,028 พระองค์
เป็นศรัทธาพุทธเจ้า อายุไขย 30,000 พรรษา
พระสรีระสูง 30 ศอก หรือ 15 เมตร
บำเพ็ญทุกรกิริยาชาติสุดท้าย 1 เดือน
พุทธรังสีสร้านไปไกล ตามแต่พระประสงค์


3. พระกัสสปพุทธเจ้า หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า เมื่อ สมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 8 อสงไขยแสนกัป
ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 37,029 พระองค์
เป็นศรัทธาพุทธเจ้า อายุไขย 20,000 พรรษา
พระสรีระสูง 20 ศอก หรือ 10 เมตร
บำเพ็ญทุกรกิริยาชาติสุดท้าย 7 วัน
พุทธรังสีสร้านไปไกล ตามแต่พระประสงค์


4. พระศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า
หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 4 อสงไขยแสนกัป
ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีก 24 พระองค์ ซึ่งน้อยมาก
เป็นปัญญาพุทธเจ้า อายุไขย 80 พรรษา
พระสรีระสูง 4 ศอก หรือ 2 เมตร
บำเพ็ญทุกรกิริยาชาติสุดท้าย 6 ปี
พุทธรังสีสร้านไปข้างละ 1 วา เป็นปกติ


5. พระอริยเมตตรัยพุทธเจ้า
หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 16 อสงไขยแสนกัป
ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 477,032 พระองค์
เป็นวิริยะพุทธเจ้า อายุไขย 80,000 พรรษา
พระสรีระสูง 80 ศอก หรือ 40 เมตร
บำเพ็ญทุกรกิริยาชาติสุดท้าย 7 วัน
พุทธรังสีสร้านไปไกล ยังกำหนดไม่ได้


เอามาจากเวป http://www.rakpratat...a...3&No=392058

#3 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 09:17 AM

QUOTE
อายุขัยจะมากหรือจะน้อยในแต่ละยุคแต่ละสมัยก็หาได้สำคัญเกินไปไม่


QUOTE
สำคัญอยู่ที่การรื่อขนสรรพสัตว์ออกจากทุกข์ ได้จำนวนมากหรือน้อย และพุทธศาสนาดำรงณ์อยู่บนโลกมนุษย์ได้ยาวนานเท่าใด


น่าจะมีความสัมพันธ์กันนะครับ อายุขัยยืนนานโปรดสัตว์โลกได้นาน
พุทธรังสีสร้านไปไกลมาก การแสดงธรรมย่อมโปรดสัตว์โลกได้ครั้งละมากๆ

ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ

#4 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 10:51 AM

พระพุทธเจ้าบำเพ็ญสุขกิริยานั่งสมาธิอย่างมีความสุข
ไม่ใช่ทุกกิริยาครับ

#5 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 02:34 PM

Sa Thu Krub

#6 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 04:43 PM

QUOTE
พระพุทธเจ้าบำเพ็ญสุขกิริยานั่งสมาธิอย่างมีความสุข
ไม่ใช่ทุกกิริยาครับ


สุขกิริยานั้นพระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญหลังตรัสรู้ครับ แต่ทุกกิริยาที่เจ้าของกระทู้กล่าวไว้นั้นเป็นการบำเพ็ญตนที่ผิดทางในช่วงก่อนที่จะตรัสรู้ครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#7 กัลฯสดใส

กัลฯสดใส
  • Members
  • 7 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 08:35 PM

สาธุกับผู้มีบุญทุกท่านที่ให้ความเห็นนะคะ
เราคัดลอกมาจากเวปอื่นน่ะค่ะ ที่น่าสนใจก็คือคนทำเค้าเปรียบเทียบรูปร่างของพระพุทธเจ้าแต่ละยุคให้เห็นเป็นภาพค่ะ ส่วนเรื่องจะรื้อสัตว์ขนสัตว์ได้มากเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับการสั่งสมบุญบารมีของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ค่ะ
ที่สำคัญคือเราสามารถเกิดแล้วเจอกับพระสัมมา ทำบุญกับท่านที่เป็นเนื้อนาบุญได้หรือไม่

#8 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 09:20 PM

ได้ความรู้ดีมากๆเลย
ขอบคุณค่ะ
สาธุ
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#9 *YTTRA*

*YTTRA*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 04 January 2008 - 10:47 PM

ดีๆครับ
สาธุ

#10 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2008 - 01:25 AM

ขอขอบคุณคุณเคยเข้าวัดมากครับ
ข้อคิดเห็นของคุณเคยเข้าวัดจะตรงกับกรณีของพระพุทธเจ้าศรีศากยมุนีโคดมครับ
แต่
ถ้าเราสังเกตุบทความของกระทู้ทั้งหมดโดยละเอียด
จะเห็นว่าใช้คำว่าทุกกิริยากับพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
ซึ่งผิด
ประเด็นนี้สำคัญมาก
เพราะนักเรียนใหม่หรือคนไทยจำนวนหนึ่ง(เช่นเพื่อนๆผมที่ทำงาน)
ซึ่งไม่รู้บุพกรรมของทุกกิริยา(ที่ถูกต้องเขียนว่าทุกรกิริยาหรือทุกกรกิริยา)
ก็จะมีความเห็นผิดว่า
การนั่งสมาธิ(การเห็นได้เป็นบรรลุธรรมฯลฯ)เป็นเรื่องที่ยากเกินอาจเอื้อม
จึงไม่แม้แต่ที่จะคิดลองทำดู
(บางแห่งก็สอนนั่งสมาธิอย่างเคร่งเครียดมากตามความเห็นนั้น)
ดังนั้นวัดเราจึงพยายามสอนให้นั่งสมาธิอย่างง่ายๆและได้ผลดี
เพราะใจเป็นใหญ่เป็นประธาน สำเร็จด้วยใจ
เมื่อผมได้เล่าให้เพื่อนๆฟังเรื่องบุพกรรม
และพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ๗วันตรัสรู้โดยไม่มีทุกกรกิริยาด้วย
พวกเขาก็เลยมีกำลังใจเริ่มต้นหัดนั่งสมาธิ
ขอขอบคุณคุณเคยเข้าวัดอีกครั้งครับ


#11 กัลฯสดใส

กัลฯสดใส
  • Members
  • 7 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2008 - 04:34 AM

อย่างที่บอกค่ะ เราคัดลอกมาจากเวปอื่นน่ะค่ะ ไม่ได้เขียนคำว่าทุกกิริยาเอง
แต่ว่าก็แก้ให้แล้วนะคะ ขอบคุณที่บอกค่ะ

#12 usr17578

usr17578
  • Members
  • 161 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2008 - 10:34 AM

อนุโมทนาบุญค่ะสาธุ สาธุ สาธุ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย

#13 อรชุน

อรชุน
  • Members
  • 24 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 January 2008 - 06:30 PM

happy.gif ดีแล้วครับที่ชี้แจงว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไม่จำเป็นต้องบำเพ็ญทุกรกิริยา เพราะการที่สมเด็จพระศรีศากยมุนีโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานี้ต้องต้องบำเพ็ญทุกรกิริยา ก็มีเหตุมาจากเมื่อสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ(พระพุทธเจ้าองค์ก่อน)พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงเสวยพระชาติเป็น โชติปาลมาณพ และทรงเคยกล่าวลบหลู่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ ว่าสมณะศีรษะโล้นจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างไร เพราะการเป็นพระพุทธเจ้ายากนัก ทำให้ทรงได้รับวิบากกรรมแบบนี้คือ ต้องบำเพ็ญทุกรกิริยาครับ แต่ภายหลังโชติปาลมาณพ ได้ละทิฐิและบวชช่วยพระกัสสปะพุทธเจ้าประกาศพระศาสนาต่อไป เมื่อพระโชติปาละมรณภาพลงก็ได้เสวยพระชาติสร้างบารมีเรื่อยมา และมาตรัสรู้ในพระชาติสุดท้ายในที่สุด ถ้าข้อมูลผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ nerd_smile.gif

ไฟล์แนบ