อธิษฐานอย่างไร เรื่องยากๆ เรื่องใหญ่ จึงจะสำเร็จ
#1
โพสต์เมื่อ 16 August 2010 - 07:01 AM
ต้องใช้อะไรบูชาบ้าง
ต้องอธิฐานนานไหม
รับรองผลได้หรือไม่
ช่วยแนะนำหน่อยครับ
#2
โพสต์เมื่อ 16 August 2010 - 10:59 AM
แนะนำให้เขียนคำอธิษฐานใส่ในกระดาษไว้
สวดมนต์ นั่งสมาธิให้ใจใสๆ แล้วอธิษฐานค่ะ เอาบุญของตัวเองเป็นที่ตั้งค่ะ ทำทุกวัน วันละกี่เวลาก็ได้ ตามความต้องการ
จะอธิษฐานนานเท่าไหรก็ได้ เช่น ๗ วัน, ๑๕ วัน, ๓๐ วัน, ๖๐ วัน, ๙๐ วัน เป็นต้น
อธิษฐานกับใคร?
กับพระรัตนตรัย กับครูบาอาจารย์
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#3
โพสต์เมื่อ 16 August 2010 - 11:29 AM
นึกถึงบุญกุศลที่ตนเองกระทำนั้นแหละ เป็นที่พึ่งของตัวจริงช่วยตัวได้จริง
โอวาทพระมงคลเทพมุนี
ไฟล์แนบ
#4
โพสต์เมื่อ 16 August 2010 - 12:36 PM
แต่ในที่นี้ก็จะตอบแนวกว้างๆ สำหรับคนทั่วๆไป ที่ใช้ได้ครอบคลุมน่ะครับ
การอธิษฐาน เปรียบเสมือนการ ตั้งเป้าหมายชีวิต ดังนั้น การตั้งเป้าหมายชีวิต จะสำเร็จได้ง่ายหรือยาก เร็วหรือช้า ย่อมขึ้นกับเหตุปัจจัยหลายประการ ดังนี้
1) เป็นเป้าหมายที่ทำได้ง่าย หรือ ยาก หากง่ายก็สำเร็จเร็ว หากยากก็สำเร็จช้า เช่น ตั้งเป้าหมายว่า พรุ่งนี้จะถือศีลแปดตลอดทั้งวัน ย่อมสำเร็จง่ายกว่า คนที่ตั้งเป้าหมายว่า เดือนหน้าจะขอถือศีลแปดทั้งเดือน
2) วิธีการไปสู่เป้าหมายนั้น มีหลายวิธีหรือวิธีเดียว หากเราคิดอยู่แค่วิธีเดียวสองวิธี ก็ย่อมสำเร็จช้ากว่า คนที่คิดหลายๆ วิธี เช่น หากคิดจะขายที่ดิน ก็ต้องคิดต่อว่า ควรจะไปบอกให้ใครได้ทราบบ้าง หากบอกอยู่แค่ คนสองสามกลุ่ม เป้าหมายนั้น ย่อมสำเร็จช้ากว่า บอกเรื่องขายที่ดินไปยังคนหลายๆ กลุ่ม เป็นต้น
3) มีใจมุ่งมั่นในเป้าหมายเพียงใด ข้อนี้ผมว่า สำคัญที่สุด ที่จะให้ทุกเป้าหมายสำเร็จไม่ว่าจะยากเพียงใด คือ ใจที่มุ่งมั่นถึงที่สุด ดังตัวอย่าง ของผู้พันแซนเดอร์ ผู้มุ่งมั่นขายสูตรไก่ทอด ของแก ให้กับร้ายขายไก่ทอด หลายต่อหลายร้าน แต่ละร้านล้วนปฏิเสธแกทั้งหมด แกถูกปฏิเสธถึง 71 ครั้ง (เท่าที่ผมจำได้) นั่นก็คือ ล้มเหลวถึง 71 ครั้ง แต่แกไม่ท้อ มุ่งมั่นขายสูตรไก่ทอดของแก่ต่อไป จนในที่สุด ในครั้งที่ 72 มีร้านรับซื้อสูตรไก่ทอดของแก ปัจจุบัน สูตรไก่ทอดของแก มีขายไปทั่วโลก ในชื่อของร้าน KFC ในเมืองไทยก็มีหลายจังหวัดแล้ว
ถ้าอีกคนหนึ่ง ก็นายเอดิสัน ผู้ซึ่งล้มเหลวจากการประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าถึงพันครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จ เคยมีคนไปสอบถามเขาว่า อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสำเร็จ แม้จะล้มเหลวมาตั้งพันครั้ง เขากลับตอบว่า ใครบอกว่า เขาล้มเหลว เขาแค่ค้นพบวิธีการต่างๆ ที่ไม่ซ้ำกัน ที่เป็นไปได้ ในการประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าต่างหาก นั่นคือ คำว่า ล้มเหลวไม่ได้มีอยู่ในหัวเขาเลย มีแต่คำว่า ประสบการณ์ต่างหาก
4) อดทนพากเพียรให้ได้บรรลุเป้าหมาย ข้อนี้ ไม่ขอขยายความ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องทำกันเป็นปรกติอยู่แล้ว ในการบรรลุเป้าหมายที่ยากๆ
#5
โพสต์เมื่อ 16 August 2010 - 05:23 PM
#6
โพสต์เมื่อ 16 August 2010 - 08:38 PM
#7
โพสต์เมื่อ 16 August 2010 - 08:40 PM
#8
โพสต์เมื่อ 16 August 2010 - 08:53 PM
เพื่อนทำอย่างที่บอกข้างต้น อธิษฐานเป็นเวลา ๒ เดือน (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) ปรากฏว่าสำเร็จตามที่เพื่อนอธิษฐานค่ะ แต่ในทางหยาบเพื่อนก็ทำด้วยนะคะ คือ ชี้ ชวน เชียร์ แถมขู่ด้วย
ถ้าจะอธิษฐานกับครูบาอาจารย์ ที่เราเคารพนับถือ อาจจะนึกถึงท่านที่กลางท้อง ให้ใสสว่าง และอาราธนาท่านให้ช่วย ขอบุญบารมีท่าน แล้วจึงอธิษฐานจิต
ยังไงคุณตำรวจรักบุญ อย่าเพิ่งท้อนะคะ ความเพียรอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#10
โพสต์เมื่อ 17 August 2010 - 01:06 AM
#11
โพสต์เมื่อ 17 August 2010 - 01:31 AM
#12
โพสต์เมื่อ 17 August 2010 - 01:37 AM
ความปรารถนาจึงจะสำเร็จโดยเร็วทันใช้
จะสำเร็จทันชาตินี้ได้ไหม
#13
โพสต์เมื่อ 17 August 2010 - 09:35 PM
แล้วเวลาเจอปัญหาอะไร ก็ให้นึกถึงบุญของเราที่เคยทำไว้ดีแล้ว ทั้งในชาติปัจจุบัน ตั้งแต่เล็กแต่น้อย ทั้งที่จำได้ก็ดี จำไม่ได้ก็ดี รวมทั้งบุญทึ่เคยทำในอดีตนับภพนับชาติที่ผ่านมา
ลองฟังวิธีการนึกถึงบุญได้จาก นำนั่งสมาธิแผ่เมตตาประจำวันของหลวงพ่อ http://www.dmc.tv/in...tepisode&pid=47
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#14
โพสต์เมื่อ 17 August 2010 - 10:00 PM
...การอธิษฐานเป็นเพียงเข็มทิศน่ะท่าน ว่าจะใช้บุญเพื่อการใดสิ่งใด ถ้ากำลังบุญถึง เข็มทิศชัดเจน ก็ไปได้ไว เร็ว และถูกต้องไม่คลาดเคลื่อน แต่จะส่งมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกำลังบุญอีกทีนึง มันก็ค่อนข้างละเอียดและต้องอาศัยหลายสิ่งมารวมกัน
...ทำบุญกับใครก็ตามที่คุณตำรวจได้เคยศึกษามานั่นแหละครับ ให้เชื่อครูบาอาจารย์ น่ะดีแล้ว
..สำเร็จทันชาตินี้ไหม ก็ขึ้นอยู่ว่าจะมีอะไรมาชิงช่วงก่อนหรือเปล่านั่นแหละ คือ ชาตินี้รวย แต่ บาปชิงตัดรอนชีวิตไปก่อน ก็รวยไม่ทันไงจ๊ะ หรือ ชาตินี้อายุจะยืน แต่วิบากตระหนี่ชิงช่วงก่อน ก็จนแบบอายุยืนไงครับ หุหุ
#15
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 01:20 AM
การนึกถึงบุญที่เคยทำ ก็ทำนะ
แต่จะทำอะไรได้มากกว่านี้ไหม
ถ้าครูบาอาจารย์ มีความศักดิ์สิทธิ์
และบุญมีจริง
ที่ยังไม่สมหวังก็น่าจะเป็นที่เราทำอะไรผิดไป
แต่ผิดตรงไหนล่ะ
ทำบุญก็ทำเต็มที่ ศีสก็รักษา สมาธิก็นั่ง
ทุกต้นเดือนก็มาวัด อธิฐานอ้อนหลวงปู่ก็ทำ
ผมทำอะไรผิด หรือขาดอะไร
#16
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 02:11 AM
ถ้าคุณตำรวจจะพิสูจน์ เรื่องบุญ เรื่องคำอธิษฐานจิต เรื่องครูบาอาจารย์ ดิฉันขอแนะนำ ให้พิสูจน์ด้วยเรื่องเล็กๆ เพราะไม่ต้องรอเวลานาน อาจสำเร็จทันที หรือภายในไม่กี่วัน
ถ้าคิดว่าทำทุกอย่างเข้มข้นแล้ว ทับทวีแล้ว ดีที่สุดที่สามารถทำได้แล้ว ก็คงไม่มีทางอื่น นอกจาก "อดทน" คำเดียวเท่านั้น
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#17
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 07:26 AM
ก็ทำแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันมาตลอด
พยายามทำตามหลักวิชาเสมอมา
แม้ในยามที่เดือดร้อนก็พยายามรักษาใจ
และอธิฐานให้บุญมาช่วย
แต่ก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เวลาผ่านปัญหาก็หมดความสำคัญไปเอง
ไม่จำเป็นต้องอธิฐานอะไรอีก
เพราะมันสายไปแล้ว หรือไม่ก็ผมเลิกหวังไปเอง
เจอแบบนี้ตลอด
วันนี้ไฟไหม้บ้าน อธิฐานขายที่เอามาสร้างบ้าน
แต่ถ้าครอบครัวผมตายกันหมดก่อน ก็คงไม่จำเป็นต้องขายแล้ว
บุญจะช่วยแบบนี้หรือ
หรือมีวิธีการใดที่จะช่วยได้บ้าง
ทำไมถึงไม่สำเร็จ ต้องให้ทำอะไรอีกบ้าง
ถ้าบุญช่วยได้จะมีใครกล้ารับประกันไหมว่าจะขายได้
#18
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 07:42 AM
ท่านอาจมีบุญมากกว่าหรืออาจทำถูกหลักวิชชามากกว่า
อยากขายให้ได้ก่อนออกพรรษาจะได้ทันกฐิน
พอจะเมตตากันหน่อยได้ไหมครับ
หรือไม่ก็ลองบอกวิธีการที่คุณกล้ารับรองผลมาให้ทีครับ
#19
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 08:20 AM
คราวนี้คุณ ณ 072 ซักถามตำรวจ ซะเอง
เท่าที่อ่านจากการซักถาม และการตอบ
ทราบว่า
คุณ ตำรวจรักบุญ ก็ได้่ประกอบเหตุไว้แล้ว
เพียงแต่
ผลยังไม่เกิดทันใจ ทันสถานการณ์ ตามที่คุณ ตำรวจคาดหวัง ตั้งใจไว้
ที่จริงถ้าศึกษาและเข้าใจเรื่อง การส่งผลของกรรม บ้างตามสมควร
ก็ไม่ควร
เสียกำลังใจในการทำความดี หรือ แสดงอาการ คำพูดที่ทำให้คนอ่าน เข้าใจว่า
คนทำความดี ขาดความเชื่อมั่นในผลของการทำความดี เช่น ทำไมทำดีแล้ว ยังไม่เห็นได้ดี ทำไมบุญยังไม่ช่วย หรือช่วยช้า ฯล
ควร
ที่จะทำความเข้าใจ ,ยอมรับความเป็นจริงของกฎแห่งกรรมและลำดับการส่งผลของกรรม
รวมถึงสู้ สถานการณ์ ด้วย
การตื้อความดี ( กุศลกรรมบท ๑๐ , บุญกิริยา ๑๐ ) ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
การปรับใจ ให้ใส ตรึกอยู่ในบุญ ตั้งแต่นึกทบทวนภาพบุญ กระทั่งใจสอดเข้าไปในดวงบุญ ได้จริง ๆ
ถ้ามองแบบผู้ไม่เห็นแจ้งแบบผม
ขอสันนิษฐานในมุมมองที่ว่า
ในเมื่อคุณ ทำความดีมาตลอด ๒๐ ปี แต่ดูเหมือนยังไม่มีผล
อาจแสดงว่า
ยังอยู่ในช่วงเสวยวิบากอกุศลกรรมเก่าในอดีตชาติ
พูดสั้น ๆ คือ คุณเคยแสบมาพอสมควร
หรือคุณก็ไม่แสบเท่าไหร่
เพียงแต่ วิบากมารยังรังแกคุณอยู่
วิธีแก้ไข คุณก็ทราบดีอยู่แล้ว และได้ประกอบเหตุไว้แล้ว
จะมาก จะน้อย จะถูกดี ถึงดีหรือไม่ ,ทานบารมีจะเต็มเปี่ยมหรือยัง
คุณคงพอประเมินเองได้ ในเบื้องต้น
ผมคงไม่เสนอวิธีอะไรเพิ่ม
แต่อยาากจะเสริม ข้อคิดส่วนตัวว่า
การที่คนทำความดี ในชาตินี้มากมาย แล้วชีวิตยังผจญปัญหา ทุกข์กาย ไม่สบายใจ เนือง ๆ นั้น
๑
วิบากอกุศลกรรมเก่าในอดีต นับร้อยชาติ แสนชาติ ฯล ยังส่งผลต่อเนื่องอยู่ คือ วิบากอกุศลกรรมยังมีแรงอยู่
๒
กุศลกรรมในปัจจุบันชาติ ยังไม่มากพอ
แม้เราอาจคิดว่า ชีวิตนี้ เราทำดีมามาก
แต่จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่ว่า
เราเทียบกับอะไร เช่น เทียบกับคนในครอบครัว ที่โรงเรียน ที่ทำงาน
แต่ถ้าเทียบกับ นักสร้างบารมี พระโพธิสัตว์ในกาลก่อน และกาลนี้ เช่น พระเดชพระคุณ หลวงปู่ฯ หลวงพ่อฯ คุณยายฯ
เราจะยอมรับเลยว่า
ที่เราคิดว่า เราทำความดีไว้มาก นั้น
มันไม่มากพอเลย
โดยเฉพาะ คนที่เคยแสบมามาก เหมือนคนมีหนี้สินมาก
เห็นการทำดีเพียงชาตินี้ ที่คิดว่ามาก เหมือนนำทรัพย์ไปใช้หนี้สินมากแล้ว
แต่ไอ้ที่เคยแสบไว้หลายๆชาติมันมากกว่า ก่อหนี้สินไว้มากกว่า
ดังนั้นปัจจุบันนี้ ชีวิตจึงยังไม่ราบรื่นด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ อย่างที่ควรจะมี จะเป็น
๓
บุญเก่า กับบุญใหม่ ยังไม่เชื่อมกัน
วิบากกุศลกรรม คือ ผลของการทำความดีในอดีตชาติกับปัจจุบันชาติ ยังไม่เชื่อมกัน
วิธีที่ทำให้บุญเก่า(ดวงบุญ ผลบุญ)เชื่อมกับบุญใหม่
คงมีหลายวิธี เช่น
๑ )
ทำทานกุศลกับผู้ที่มีใจ ธาตุธรรมบริสุทธิ์ มาก ๆ เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยเจ้า ที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ
แล้วยุคนี้ จะเจอไหมเนี่ย ?
๒ )
อาศัยบารมีธรรม การอนุเคราะห์ช่วยเหลือจากผู้ที่มีบารมีธรรมแก่ ๆ มีใจ บริสุทธิ์ เข้าถึงวิราคะธาตุ วิราคะธรรม
กระทั่งสามารถมากพอที่จะ รื้อผังวิบากกรรม วิบากมาร และตั้งผังสำเร็จในการการสร้างบารมี ในมั่นคงแน่นหนา ได้
ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลไว เพราะแก้ไขกันที่เหตุ ในที่ของจุดเกิดเหตุ
๓ ) ประกอบเหตุด้วยตนเอง
วิธีเชื่อมบุญเก่ากับบุญใหม่ด้วยตนเอง
ความรู้ที่เคยทราบมา คือ
ละชั่ว ทำแต่ดี กลั่นใจให้ใส , ทาน ศีล ภาวนา ศีล สมาธิ ปัญญา
ละอกุศลกรรมบท ๑๐ + ขยันบำเพ็ญกุศลกรรมบท ๑๐ + บุญกิริยา ๑๐ , วัตถุทาน
ทบทวนบุญบ่อย ๆ อธิษฐานบ่อย ๆ
ซึ่งวิธีนี้ คุณก็รู้ เข้าใจ และทำอยู่แล้ว
เพียงแต่ ข้อด้อยของการที่ยังไม่เข้าถึงดวงบุญ อู่แห่งทะเลบุญ ด้วยตนเอง จึงทำให้ต้องรอการส่งผลของกรรม ตามกฎแห่งกรรม
คือ ต้อง รอคิว การส่งผลของการทำความดีในปัจจุบันชาตินี้
ซึ่งก็ไม่แน่นอน ว่าเมื่อไหร่
แต่แน่นอนว่า ส่งผลดีในอนาคต ( อนาคเต กาเล = กาลที่ยังมาไม่ถึง , แต่สักวันย่อมมาถึงแน่นอน )
แต่วิธีพิเศษที่ทราบมา คือ
บุญจากการบริจาคโลหิต สามารถนำมาอธิษฐาน ให้บุญส่งผลไวขึ้นได้
เรื่องนี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทตฺตชีโว เคยถามคุณยายอาจารย์ฯ
(ความหมายโดยรวม)
บุญจากการบริจาคโลหิต มีอานิสงส์พิเศษอย่างไร ? ( นอกจากอานิสงส์ทั่วไป เช่น สุขภาพแข็งแรง ฯลฯ )
คุณยายอาจารย์ฯ ตอบว่า
ถ้าอยากได้บุญมากๆ ต้องนั่งสมาธิให้ใจใสๆ และให้คนอนุโมทนาบุญด้วย
ถ้าอยากรู้ว่า จริงไหม จริงแค่ไหน
คุณ ต้องพิสูจน์ ด้วยตนเองแล้วครับ
ผมรับประกันไม่ได้ แค่บอกวิธี ที่เคยทราบมาให้พิจารณาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม
สิ่งสำคัญ คือ การประกอบเหตุดี
ส่วนผลของการประกอบเหตุ เป็นเรื่องของฉากหลัง
ที่บอกอย่างนี้ ก็เพื่อไม่อยากให้คาดหวัง ในผลของหมั่นทำความดี มากเกินไป
เพราะอะไร ๆ ในโลกนี้เป็นเพียงแค่ สนามรบย่อย เท่านั้น
โลกภายนอก
ถ้า เฉย ยังไม่ได้ ก็ถูกรังแก อยู่อย่างนั้น
ไปล่ะครับ
เดี๋ยวจะโดนข้อกล่าวหา ว่า พูดไกลเกินไปอีก
#20
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 09:52 AM
ศีสเราก็รักษาได้ เหลือแค่ยังไม่ได้ตายเพื่อพระศาสนา
หมาถูกรถทับ ทำน้ำมนต์หลวงปู่ให้กินยังหายทันที
ก็แล้วทำไมหนอลูกขออะไรกี่ที จะประสบโชคร้ายเป็นอัศจรรย์เสมอ
#21
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 12:24 PM
#22
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 12:33 PM
ถ้าสิ่งที่ต้องการสำเร็จได้ดังที่เราหวัง เมื่อนั้น คำตอบใดๆ ของคำถามก็ไม่จำเป็น ว่าที่ผ่านมาเป็นเพราะอะไรนะ ที่ทำให้ได้ผลช้าอย่างนั้นอย่างนี้ คำตอบเหล่านั้น จะกลายเป็นไม่จำเป็นทันที
ในขณะเดียวกัน ถ้าสิ่งที่ต้องการยังไม่สำเร็จได้ดังที่เราหวัง คำตอบใดๆ ว่าเป็นเพราะเหตุใดที่ยังไม่ได้ดังหวัง ก็ไร้ความหมายทั้งหมดเช่นกัน เพราะถึงจะตอบไป ก็ไม่ได้ทำให้เราสมหวัง
นั่นคือ บางเวลาและบางอารมณ์ คำตอบไร้ซึ่งความหมายโดยสิ้นเชิงเพราะเราไม่ได้ต้องการรู้คำตอบ แต่ความสมหวังในสิ่งที่ต้องการต่างหากที่เราต้องการ ดังนั้น ผมก็ยังยืนยันคำตอบเดิม คือ หากอยากจะขายที่ขายทาง ให้หาช่องทางติดต่อกับคนทุกกลุ่มที่เรารู้จัก แล้วก็บอกความต้องการไปกับคนหลายๆ กลุ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ วันนี้ไม่ประสบผล พรุ่งนี้ก็ทำเช่นนี้ใหม่ไปเรื่อยๆ
อย่าถามเลยว่า เมื่อไรบุญหรือครูจะช่วย ผมว่านั่นไม่ใช่คำตอบที่เราต้องการหรอก คำตอบที่ต้องการคือ ขอขายที่ดินได้ตอนนี้เลย เท่านั้น คือ คำตอบ
#23
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 12:39 PM
แต่ถ้าครอบครัวผมตายกันหมดก่อน ก็คงไม่จำเป็นต้องขายแล้ว
เอาไงดีหนอ... ถ้าเป็นผมช่วงวิกฤตจะขอนั่งหลับตาก่อน บางครั้งอยู่กับปัญหานานไปก็จะทำให้คิดอะไรไม่ออก
ขออธิฐานช่วยให้ขายที่ได้เร็วๆ ครับ
#24
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 01:39 PM
รอจนกว่าบุญส่งผลจะพอหรือ
เพราะทรัพย์ที่ได้มา ส่วนหนึ่งสร้างบ้าน
ส่วนหนึ่งสร้างบุญ
อีกส่วนสร้างขุนพลแก้วให้หลวงพ่อ ถ้าขายได้ตั้งใจว่า
จะปลดหนี้(กยส.)ให้กับหลวงพี่เอกชัย
ผู้เป็นกำลังหลักในการผลิต/เตรียมสื่อสำหรับ
ศูนย์อบรมพระแสนรูป/อุบาสิกาแก้วทุกศูนย์ทั่วประเทศ
และปลดหนี้ให้นักรบเขตในอีกอย่างน้อยสามท่าน
นี่แหละผมจึงต้องรีบขายให้ได้
#25
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 08:20 PM
...เหตุที่บุญส่งช้า ไม่เห็นสักที เพราะใจคุณตำรวจไม่ใสอ่ะ และน่าจะมีวิบากกรรมท้าทายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือไปกล่าวร้ายติดมานะ เคยเจอประมาณนี้อยู่เคสนึง แต่จำไม่ได้ คือ เคยไม่เชื่อในบารมี หรือไม่เชื่อเรื่องบุญมาก่อน อันนั้นแหละ เป็นวิบากกรรมที่หนักมาก บางคนถึงขั้นหลุดจากบุญเขต ไปเชื่อนับถือสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระรัตนตรัยเลยไงครับ คุณตำรวจก็เกือบแล้วล่ะ
...ช่วงนี้ถ้าบาปหนุนอีก คุณจะตัดสินใจทำอะไรลงไปที่จะสนับสนุนทำให้เปลี่ยนความเชื่อได้ทีเดียวนะ ต้องส่งบใจก่อน ใจคุณหมองมากนะ ถ้าใจหมอง บุญไม่มาส่งผลแน่ แต่บาปจะได้ช่อง ส่งผล เสียบเข้ามาก่อน
...มีคนที่ผมรู้จักหลายคนก็ประมาณนี้แหละ เหมือนถูกบุญทอดทิ้ง หาที่พึ่งไม่ได้ หาความจริงไม่เจอ หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ และไม่เชื่อถืออะไรทั้งสิ้น และเชื่อว่าสุดท้าย ตัวเราเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุด ก็จะหลุดออกไปเลย นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นแห่งลัทธิ หรือความเชื่ออื่นๆ
...ถ้าคุณตำรวจอยากแก้ไขสถานการณ์จริงๆ ลองไปขอขมาพระรัตนตรัยให้หนักๆก่อน เพราะตอนนี้ จิตใจคุณได้ล่วงเกินไปเยอะแล้ว อาจจะมีคำพูด หรือการกระทำไปแล้วด้วย ถ้าอยากพิสูจน์บุญ ผมมีวิธี แต่ต้องเชื่อใจผม และเชื่อมั่นในหมู่คณะ ถ้าไม่รังเกียจหรือมองว่าผมไม่สำคัญก็ขอให้คุณ pm มาเล่าในทุกๆ สิ่งได้ไม๊? รายละเอียดของคุณจะเป็นข้อมูลในการแก้ไข ...ถ้ารักกันจริงก็ต้องเชื่อใจกัน..
#26
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 10:28 PM
ผมอยากให้พี่กลับไปอ่านข้อความส่วนตัวที่ผมเคยส่งไปให้พี่อ่ะครับ พี่จำได้มั้ยครับ ลองอ่านใหม่น่ะครับ แล้วทำตามที่ผมว่า ผมจำได้ว่าผมพิมพ์พุทธวจนะที่กล่วไว้ด้วยน่ะครับ เออ...ผมอยากให้พี่ตื่นมาใส่บาตรพระทุกวันไม่ขาดอ่ะครับ วันละรูปก็ได้ครับ
อยากได้คำรับรองใช่ไหมครับ ผมเคยรับรองไปในข้อความตัวแล้วครับ ว่าการสร้างบารมีวิธีนี่ รับรองผล
รับรองครับ
รับรองครับ
รับรองครับ
สู้ๆ เวลาผมนั่งสมาธิก่อนนอน คืนนี้ผมจะอธิษฐานให้พี่น่ะครับ
#27
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 10:50 PM
แค่สงสัยว่าผมทำอะไรพลาดไปจึงอธิฐานอย่างไรก็ไร้ผล
คำแนะนำของทุกท่านก็เป็นสิ่งที่พยายามทำอยู่แล้ว
แต่คงยังไม่สามารถทำให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้ในวันนี้
ทหารที่ขาดเสบียงจะออกศึกให้ชนะได้ยังไง
ขนาดบอกบุญในเว็บนี้ยังไม่มีใครทำกับผมเลย
แถวนี้ไม่มีพระมาบิณฑบาตรครับ
ได้แต่ไปช่วยดูแลพระธรรมทายาทที่ศูนย์อบรมครับ
แต่ไม่ได้ไปหลายวันแล้ว รถไม่มีน้ำมัน
จะเดินไปก็ไกลเกิน
จะเบิกค่าน้ำมันก็กลัวพระไม่มีค่าภัตตาหาร
#28
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 10:58 PM
อย่าคิดว่าบุญไม่ส่งผล แค่เราหายใจเข้าออกอยู่ทุกนาที นี่ก็กำลังใช้บุญเก่าทั้งนั้น
#29
โพสต์เมื่อ 18 August 2010 - 11:05 PM
กตปุญฺโญ อุภยตฺถ นนฺทติ
ปุญฺญํ เม กตนฺติ นนฺทติ
ภิยฺโย นนฺทติ สุคตึ คโต . . . ฯ ๑๘ ฯ
คนทำดีย่อมสุขใจในโลกนี้
คนทำดีย่อมสุขใจในโลกหน้า
คนทำดีย่อมสุขใจในโลกทั้งสอง
เมื่อคิดว่าตนได้ทำแต่บุญกุศล ย่อมสุขใจ
ตายไปเกิดในสุคติ ยิ่งสุขใจยิ่งขึ้น
Here he is happy, hereafter he is happy,
In both worlds the well-doer is happy;
Thinking; 'Good have I done', thus he is happy.
Furthermore he is happy,
When gone to the state of bliss.
#30
โพสต์เมื่อ 19 August 2010 - 10:45 AM
ถ้ายัง ผมจะได้ส่งหมัดเด็ดที่สุดของผม ไปในข้อความส่วนตัวอีกครั้งครับ