เข้าใจพระพุทธศาสนาคลาดเคลื่อนแล้วครับ
การสวดมนต์ในพระพุทธศาสนาแบ่งออกแบบ "คร่าวๆ" ได้ 2 นัยยะครับ
นัยยะแรกการสวดมนต์ในพระพุทธศาสนา คือ การสืบทอดพระธรรมคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ เป็นหลักการที่แปลกมาก ภาษาบาลีไม่มีตัวเขียน มีแต่เสียง ไม่มีรูป การจะสืบทอดได้ คือ ต้อง "หมั่น" ท่องไว้สม่ำเสมอ แม้แต่การสังคายนาพระพุทธศาสนาในครั้งแรกๆ ก็ยังไม่มีการจดบันทึกเป็นเรื่องราวแบบแผน ยังใช้การสอบจากพระอริยเจ้า แล้วทั้งหมดช่วยกันจำ ถ้าผมจำไม่ผิด การสังคายนาครั้งที่ 3 นั่นแหละ ถึงจะมีการจดบันทึกเป็นเรื่องเป็นราว และการที่เราสวดพระธรรมจากพุทธพจน์แบบนี้บ่อยๆ จะทำให้เรา "ขึ้นใจ" และ "เข้าใจ" ได้ง่ายครับ ที่สำคัญการสวดมนต์ด้วยความคุ้นเคย ไม่ต้องอาศัยหนังสือ จะทำให้ใจรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ง่าย เป็นสมาธิได้ง่ายครับ
อีกนัยยะหนึ่งก็คือเพื่อความสบายใจ จริงๆ การสวดอ้อนวอนไม่ได้เป็นของเฉพาะศาสนาพราหมณ์หรอกครับ แต่เป็นพฤติกรรมของผู้คนพื้นฐานที่มีมาแต่เริ่มแรก ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อแรกๆ เมื่อหกหมื่นปีก่อน ลัทธิบูชาไฟ บูชาน้ำ บูชาฟ้า บูชาแผ่นดิน ก็มีการสวดอ้อนวอน บุชายันต์กันแล้วครับ เมื่อคนเราไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เข้าใจในทุกข์ที่เกิดขึ้น แล้วขาดที่พึ่ง ก็มักจะใช้การสวดบูชาต่อสิ่งนับถือ หรือสิ่งที่ตนเห็นว่ามีอำนาจเหนือกว่า
เมื่อพระพุทธศาสนาเข้ามาสู่สยามประเทศ ที่มีการนับถือผีเป็นพื้น มีศาสนาพราหมณ์นับถือเทพเจ้าเป็นที่พึ่ง เมื่อพระพุทธศาสนาเข้ามาและมีอิทธิพลทางจิตใจเหนือกว่าความเชื่ออื่นๆ ก็เกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรม มีการสวดพุทธมนต์เพื่อความสบายใจขึ้นมาตามธรรมชาติของมนุษย์ จากนั้น ด้วยความเจริญทางวรรณศิลป์ผสมผสานเข้ากับความศรัทธา ก็เกิดเป็นโศลก เป็นบทพระคาถา แต่งตามๆ กันมา อีกมากมาย มีทั้งที่อ้างถึงพระพุทธพจน์เดิม เช่น บทพาหุงฯ คือ การนำเอาเรื่องราวชัยชนะแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แปดเรื่องมาร้อยเรียงกันเป็นพระคาถา ฯลฯ มีทั้งแต่งใหม่ให้ได้ความหมายตามที่ตนต้องการ เช่นคาถาคุ้มครอง คาถาโชคดีมีชัยต่างๆ ฯลฯ
เพราะฉะนั้น การสวดมนต์เป็นทั้งหลักประกันของพระพุทธศาสนา เป็นทั้งธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณีที่สืบกันมา ซึ่งพวกเราจะต้องใช้ปัญญาในการพิจารณาว่า เราควรจะสืบต่อไปหรือไม่ และจะสืบต่อไปอย่างไร
บทสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตรนี้ ถ้าดูตามความหมายแล้ว ก็คือพระปฐมเทศนา เป็นหัวใจหลักแห่งพระธรรมคำสอนทั้งมวล เป็นหลักความจริงของชีวิต จะสวดเพื่อให้เข้าใจก็ดี จะสวดเพื่อเป็นมงคลกับตัวก็ดี ผมว่ามีแต่ได้ ไม่มีเสียครับ
ใครที่เกิดพุทธิปัญญาแล้วในที่นี้ ก็มาสวดพร้อมกันในพรรษาแห่งการเข้าถึงธรรมนี้นะครับ
สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ .....
ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน .....
ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ .....
อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ