เป็นเพราะกรรมอะไรถึงทำให้ไม่มีเพื่อน
#1
โพสต์เมื่อ 09 December 2007 - 04:34 PM
#2
โพสต์เมื่อ 09 December 2007 - 05:16 PM
#3
โพสต์เมื่อ 09 December 2007 - 05:52 PM
"คำว่าเพื่อนเหมือนคำว่าเสี่ยว ต่างกันนิดเดียว เสี่ยวหนักแน่นกว่า
จะเป็นเพื่อนรักเพื่อนกินกันมา เพื่อนร่วมชะตาแม้ ตายแทนกัน
เพื่อนกินเพื่อนนอน เพื่อนสนุกสนาน เพื่อนร่วมสำราญ นั้นมีร้อยพัน......
.................................................................................................
อุปปาทาน ที่ทำให้คิดว่าไม่มีเพื่อน ทั้งที่เพื่อนจริงๆในทางพุทธศาสนา คืออะไร
อวิชชา ทำให้เกิด อุปปาทาน
ธรรมะของ พระพุทธเจ้านั้น มีหลายบท ถ้าไปหาอ่านใน นวโกวาท ก็มีหลายบทที่ชัดเจนอยู่แล้ว
เพียงแต่ขอให้ จขกท. พิจารณาความจริง ตามที่ปรากฏอยู่ในสังคมปัจจุบัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรพิจารณาที่ชีวิตของตนเอง สังคม
สมาคมต่างๆ ในโลก ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะธาตุแท้
เพราะแนวโน้มของอัธยาสัยบุคคลเป็นมูลฐาน
ไม่ว่าจะเป็นสมาคมแพทย์,สมาคมทางกฎหมายม,สมาคมวิศวกรรมก็ตาม หรือสมาคมตลก สมาคมมวย ฯลฯ
ย่อมส่อถึงธาตุแท้และอัธยาสัยของบุคคลผู้เป็นสมาชิกอยู่ไม่น้อย
ตลอดถึงแหล่งการพนัน และแหล่งอบายมุขต่างๆ ก็เช่นเดียวกัน
ย่อมส่องถึงส่วนลึกในจิตใจของบุคคลเป็นอย่างดี
ปรากฏการณ์ต่างๆ ในโลกปัจจุบันเป็นการยืนยันอยู่เสมอว่า
ความที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้นั้นเป็นความจริงสักเพียงไร...
จขกท. ก็ไม่จำเป็นต้องไปแสวงหา ให้เมื่อยตุ้ม ถ้าใส พอเพื่อนดีๆ วิ่งเข้าหารับไม่ทันเลย
จะเป็นบุญบันเทิงเลยล่ะ จขกท.
อายตะนะ ของสรรพสัตว์ ที่คบค้าสมาคมกัน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
คูถกับคูถย่อมเข้ากันได้ ร่วมกันได้
มูตรกับมูตรย่อมเข้ากันได้ ร่วมกันได้
เขฬะกับเขฬะย่อมเข้ากันได้ ร่วมกันได้
บุพโพกับบุพโพย่อมเข้ากันได้ ร่วมกันได้
โลหิตกับโลหิตย่อมเข้ากันได้ ร่วมกันได้
แม้ฉันใด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สัตว์ทั้งหลายก็ฉันนั้นแล
ย่อมคบค้ากันย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว
คือสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
ย่อมคบค้ากันย่อมสมาคมกัน
กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
แม้ในอดีตกาล ... แม้ในอนาคตกาล ...
แม้ในปัจจุบันกาล สัตว์ทั้งหลายก็ย่อมคบค้ากัน
ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว
คือสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน
กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
น้ำนมสดกับน้ำนมสดย่อมเข้ากันได้ ร่วมกันได้
น้ำมันกับน้ำมันย่อมเข้ากันได้ ร่วมกันได้
เนยใสกับเนยใสย่อมเข้ากันได้ ร่วมกันได้
น้ำผึ้งกับน้ำผึ้งย่อมเข้ากันได้ ร่วมกันได้
น้ำอ้อยกับน้ำอ้อยย่อมเข้ากันได้ ร่วมกันได้
แม้ฉันใด
สัตว์ทั้งหลายก็ฉันนั้นแล
ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว
คือสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี
ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน
กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี
แม้ในอดีตกาล ... แม้ในอนาคตกาล ...
แม้ในปัจจุบันกาล สัตว์ทั้งหลายก็ย่อมคบค้ากัน
ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว
คือสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ย่อมคบค้ากัน
ย่อมสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ฯ
พระผู้มีพระภาค ผู้สุคตศาสดา
ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว
จึงตรัสพระคาถาประพันธ์ต่อไปว่า ฯ
กิเลสเพียงดังหมู่ไม้ในป่า
เกิดขึ้น เพราะการคบค้าสมาคม
ย่อมขาด เพราะไม่คบค้าสมาคม
คนเกาะท่อนไม้เล็กๆ
พึงจมลงในห้วงมหรรณพ ฉันใด
แม้สาธุชนก็ย่อมจมลง
เพราะอาศัยคนเกียจคร้าน ฉันนั้น
เพราะฉะนั้น พึงเว้นคนเกียจคร้าน
มีความเพียรเลวนั้นเสีย
พึงอยู่ร่วมกับบัณฑิตผู้สงัด
ผู้เป็นอริยะ ผู้มีใจสูง ผู้เพ่งพินิจ
ผู้ปรารภความเพียรเป็นนิตย์ ฯ
สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ธาตุสังยุตต์
ทุติยวรรค สตาปารัทธสูตร
พระพุทธเจ้าตรัสถึงเหตุมูลฐาน ของการรวมกลุ่มทางสังคม ว่าเป็นไปตามอิทธิพลของธาตุแท้ที่อัธยาสัยตรงกัน ย่อมคบค้าสมาคมกันเป็นกลุ่มสังคม ไม่ว่าจะเป็นธาตุแท้อัธยาสัยที่ดีหรือเลวก็ตาม ที่มีธาตุมีอัธยาสัยดีตรงกัน ก็คบค้าสมาคมกับคนดีด้วยกัน มีธาตุหรืออัธยาสัยเลว ก็คบค้าสมาคมกับคนประเภทเดียวกัน สัตว์โลกย่อมเป็นไปอย่างนี้ไม่ว่าจะเป็นอดีต อนาคต หรือปัจจุบัน
พระพุทธเจ้าตรัสพลางชี้ให้ดูว่า
ภิกษุทั้งหลาย
ที่อยู่สำนักพระสารีบุตร มีอัธยาสัยนิยมปัญญา
ที่อยู่สำนักพระโมคคัลลานะ มีอัธยาสัยนิยมอิทธิฤทธิ์
ที่อยู่สำนักพระมหากัสสปะ มีอัธยาสัยนิยมธุดงค์
ที่อยู่สำนักพระอนุรุทธ มีอัธยาสัยนิยมทิพยจักษุ
ที่อยู่สำนักพระปุณณะ มันตานีบุตร มีอัธยาสัยนิยมธรรมกถึก
ที่อยู่สำนักพระอุบาลี มีอัธยาสัยนิยมวินัย
ที่อยู่สำนักพระอานนท์ มีอัธยาสัยนิยมการศึกษา
คนที่มีอัธยาสัยไม่เชื่อในเรื่องกรรม ไม่มียางอาย ไม่หวั่นเกรงความชั่วเสียหายใดๆ จมอยู่ในความเกียจคร้าน ปล่อยตัว งมงาย ย่อมคบค้าสมาคมกับคนประเภทเดียวกัน พวกเขาเข้ากันได้ง่าย ถูกอัธยาสัยกันได้ง่าย เพราะมีธาตุประเภทเดียวกัน พระพุทธเจ้าตรัสเปรียบเทียบว่า เช่นเดียวกับ
คูถเข้ากับคูถ
มูตรเข้ากับมูตร
น้ำลายเข้ากับนำลาย
น้ำเหลืองเข้ากับน้ำเหลือง
เลือดเข้ากับเลือด
(ธาตุสังยุต สังยุตตนิกาย)
ส่วนผู้มีอัธยาสัยดีงาม มีความเชื่อในเรื่องกรรม รู้สึกละอายและยำเกรงต่อความเสียหาย รักการศึกษาเล่าเรียน ขยันหมั่นเพียร ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจ มีเหตุผล ย่อมคบค้าสมาคมกับคนประเภทเดียวกัน เพราะเข้ากันกลมกลืนกันได้ง่าย เช่นเดียวกับ
น้ำนมเข้ากับน้ำนม
น้ำมันเข้ากับน้ำมัน
เนยเข้ากับเนย
น้ำผึ้งเข้ากับน้ำผึ้ง
(ธาตุสังยุต สังยุตตนิกาย)
สัตว์โลกย่อมเป็นไปเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นในอดีต ในปัจจุบัน หรืออนาคต
พระพุทธเจ้าได้ตรัสสรุปเป็นข้อความว่า
ความชั่วสุมใจคน เกิดจากการคลุกคลีกัน
จะตัดความชั่วเช่นนั้นได้ ก็ต้องตัดการคลุกคลีกัน
คนที่เกาะท่อนไม้เล็ก ๆ ข้ามมหาสมุทร
เขาย่อมจมลงในมหาสมุทรได้ ฉันใด
แม้คนที่ดำเนินชีวิตดีมาก่อนแล้ว
ถ้าเกียจคร้าน ก็จมได้ ฉันนั้น
ดังนั้น พึงเว้นคนเกียจคร้าน ไร้ความเพียร
พึงคบค้าสมาคมกับบัณฑิต ผู้รักความสงบ น้ำใจประเสริฐ
พากเพียรเอาชีวิตเข้าแลก รู้จักพินิจพิจารณา
..................................................................
มาวัดทุกวันอาทิตย์ เป็นอย่างน้อยสิ หรือไม่ก็ มารวมกลุ่มกับ กลุ่มอะไรน๊า ที่คิดระดับโลก น่ะ
ที่สภาธรรมกายสากล มีเพื่อนทางธรรมเป็นหมื่นๆ เลย เดินๆไป ยิ้มไป เพื่อนเต็มสภาเลย
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#4
โพสต์เมื่อ 09 December 2007 - 06:06 PM
#5
โพสต์เมื่อ 09 December 2007 - 07:59 PM
#6
โพสต์เมื่อ 09 December 2007 - 08:05 PM
#7
โพสต์เมื่อ 09 December 2007 - 08:40 PM
เห็นองค์พระแล้ว
จะตกหลุมรักตนเอง
แล้วคนอื่่นจะชอบเราเอง
#8
โพสต์เมื่อ 10 December 2007 - 04:06 AM
#9
โพสต์เมื่อ 10 December 2007 - 09:53 AM
#10
โพสต์เมื่อ 10 December 2007 - 12:42 PM
ผมได้คำตอบต่างๆในชีวิตก็มาจากคำสอนของหลวงพ่อฯ ง่ายๆนี่ล่ะครับ (ไม่คิดไม่แปลก ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลก)
#11
โพสต์เมื่อ 10 December 2007 - 12:49 PM
1. ทาน การให้ เราแบ่งปันเพื่อนบ้างหรือเปล่า ซื้อขนมไปฝากเพื่อนบ้างหรือเปล่า มีข้าวของเครื่องใช้ แบ่งให้เพื่อนบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่ ต่อให้คุยสนุกกับเขา เขาก็ไม่สนิทด้วยหรอกครับ
2. ปิยวาจา วาจาดีเพราะๆ ไม่ใช่วาจาตลก สนุกสนานนะครับ มีหลายคนเหมือนกัน ที่ชอบคุยสนุก แต่เวลาคุยงานแล้วไม่เข้าใจกัน อย่างนี้ เพื่อนก็ไม่อยากร่วมงานครับ ต้องเป็นวาจาดีที่เพราะ ฟังแล้วเข้าใจ ปฏิบัติตามกันได้อย่างดี โดยเฉพาะเรื่องงาน อย่างนี้ผ่านครับ
3. อัตถจริยา บำเพ็ญประโยชน์ ร่วมแรงร่วมใจทำกิจกรรมกับเพื่อน เช่น ทำเวร ก็ช่วยเพื่อน ไม่ใช่ เพื่อนทำเวร เราหนีกลับบ้าน อย่างนี้คุยตลกอย่างไร เพื่อนก็ไม่ิคิดร่วมงานครับ
4. สมานัตตา ดีเสมอต้นเสมอไป ต่อหน้าชมเพื่อน ลับหลังนินทา โดยเฉพาะถ้าชอบพูดตลก นี่ต้องยิ่งระวัง เพื่อนคนพูดตลก มักพลาดพลั้งไปแซวคนอื่น (เพื่อให้ตลก) บ่อยครั้ง และก็ย่อมจะทำให้คนอื่นนั้นไม่พอใจแน่นอนครับ จะบอกให้
#12
โพสต์เมื่อ 10 December 2007 - 01:39 PM
และวิธีของผมที่จะหาเพื่อนสนิทนั้นก็คือ การนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย หรือเราจะเจาะจงเป็นรายบุคคลก็ได้ แผ่เมตตาทุกวันทุกวัน แล้วเราจะกลายเป็นคนที่มีเมตตา และมีคนเกลียดเราน้อยลง คนที่เกลียดมากจะเกลียดน้อยลงจนค่อยๆหายไปไม่เกลียดเรา
วิธีนี้รับรองได้ผลครับ ผมเคยทำมาแล้วหลายครั้งด้วย ก็ได้ผลทุกครั้ง
#13
โพสต์เมื่อ 10 December 2007 - 04:58 PM
#14
โพสต์เมื่อ 10 December 2007 - 08:25 PM
บางครั้งสิ่งที่เราชอบกับสิ่งที่เพื่อนชอบมันต่างกัน ..ทุกคนที่เข้าเว็ปนี้ต่างชอบธรรมะ คนที่เข้าเว็ปอื่นเค้าอาจชอบแฟชั่นหรือข่าวบันเทิง
เพราะเรามีความเห็นไม่ค่อยตรงกับเพื่อน แต่ถ้าเรามีเพื่อนเยอะโลกส่วนตัวก็จะหมดไป เช้าก็โทรมาเย็นก็โทรมา
ละเมอก็ยังโทรมา บางครั้งโทรมาไม่เจอมาหาถึงที่ อืม..
สังเกตุดาราบางคนก็ได้เวลาไปไหนต้องปิดบังใบหน้าเพราะความเป็นส่วนตัวมีน้อย
..จริงๆแล้วถ้าฐานครอบครัวอบอุ่นเราจะต้องการความรักจากข้างนอกน้อยลง .. โชคเอนะ...
#15
โพสต์เมื่อ 10 December 2007 - 10:58 PM
เป็นผู้ให้ที่ดีก่อน โดยไม่หวังผลตอบแทน คิดเพียงว่า เราทำความดี เพื่อตัวเราและเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นมากพอหรือยัง
หากทำแล้วก็หมั่นพิจารณาตนเองว่า มีอะไรบกพร่องตรงไหนหรือไม่ อย่างใจเป็นกลางๆ ไม่อคติลำเอียง
ต้องสังเกต ต้องศึกษาบุคลิกพฤติกรรมตนเองว่าเป็นอย่างไร ควรปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างไร
พูดจาดีและน่าฟังหรือไม่ ไม่ว่าร้าย ไม่ส่อเสียดใคร หรือไม่
บางครั้งก็อาจต้องให้เพื่อนที่เคยอยู่ใกล้ หรือคนในครอบครัวมาวิจารณ์เราบ้างว่า เราเป็นอย่างไร
หากคิดจะปรับเปลี่ยนตนเองในแง่ไหนก็ตาม ก็ต้องวางตนให้อยู่ในศีล อยู่ในธรรม คิด-พูด-ทำแต่ความดีเท่านั้น
#16
โพสต์เมื่อ 11 December 2007 - 12:58 PM
บุญรักษาค่ะ ^0^
#17
โพสต์เมื่อ 11 December 2007 - 01:53 PM
ชาตินี้ต้องทำหน้าที่กัลยาณมิตรเยอะๆครับ
#18
โพสต์เมื่อ 11 September 2010 - 10:07 PM
#19 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 04 December 2010 - 02:28 PM
ก็เพระาคิดแบบนี้เลยทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยากนะที่จะทำได้ เฮ้ออ
#20 *คนเหงาๆ*
โพสต์เมื่อ 18 February 2011 - 10:53 AM
#21 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 02 March 2011 - 05:33 PM
#22 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 03 March 2011 - 01:53 PM
#23 *มด*
โพสต์เมื่อ 16 March 2011 - 06:39 PM
เชื่อคะ สักวันพวกคุณต้องได้เจออะไรดีดี
ยามลำบาก ท้อแท้ นึกถึงเป้าหมายในชีวิตเยอะๆค่ะ
เราควรอยู่เพื่อสิ่งไหน''
เราเป็นคนหนึ่งที่พร้อมจะเป็นกัลยาณมิตรของทุกคนค่ะ
#24 *เด็กม5*
โพสต์เมื่อ 26 April 2011 - 06:07 PM
เวลาเรียนถ้ามีงานกลุ่มให้ทำไอ่พวกที่ไม่เคยเห็นหัวผมกลับมาขออยู่กลุ่มกับผมกันใหญ่เลยเเล้วไอ่พวกนี้ก็ไม่ทำงาน ให้ผมทำตลอดเลย
เมื่อเสร็จงานกลุ่มคนเหล่านี้ก็ทิ้งผมไปไม่คุยกับผมมันเป็นเเบบนี้ทุกที ผมก็ต้องอยู่คนเดียวในโรงเรียนโดยไม่มีเพื่อนสนิทตลอดเลย
"เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ไม่มีเพื่อนหรือกำลังหาเพื่อนเเท้ทุกๆคนครับ"
#25 *ปอลูกปลา*
โพสต์เมื่อ 18 May 2011 - 12:02 PM
เพื่อนเห็นเราช่วยออกความเห็นในทุกเร่ืองที่เพื่อนทำ
แต่มีบ้างที่บางครั้งสิ่งเหล่านั้นก็ผิดเราก็ไม่ชอบก็เลยมีความเห็น
ที่แตกต่างกันแล้วก็เตือนสติเพื่อนแบบแทงใจเขาคือพูดตรงๆ
เพื่อนก็ไม่พอใจแล้วเกลียดเรา เราไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืนด้วยแหละ
เลยไม่ค่อยสนิทกะเพื่อนไม่ชอบเพื่อนที่ชอบใส่หน้ากากเข้าหากันมันอึดอัด
เราอยากมีเพื่อนแท้(ญ)สักคนจัง ที่นิสัยชอบทำบุญ ชอบเที่ยวธรรมชาติ(ต่างจังหวัดที่สวยๆเยอะแยะ)
ไม่ขี้อิจฉาริษยาคนอื่น ใจเย็น ต่อหน้าเป็นอย่างไรลับหลังก็เป็นอย่างนั้น ส่วนเรื่องนินทานาๆจิตตังค่ะเข้าใจ(แต่อย่าให้รู้ถึงหูเราละกันเพราะเราคงเสียความรู้สึกน่าดูถ้ารู้
ว่าเพื่อนว่าแต่คงต้องทำใจยอมรับเพราะที่เพื่อนนินทามันคือเรื่องของสิทธิมีสิทธิ์ที่คนคนหนึ่งจะพูดถึงคนคนหนึ่ง ซึ่งห้ามกันไม่ได้ ดั่งที่พระพุทธองค์ท่านได้เคยบอกไว้ว่า
ห้ามปากคนมิให้นินทา ห้ามพระอาทิตย์มิให้มีแสงยังง่ายเสียกว่า(เพราะฉะนั้นตัวเราเองทำใจให้เข้าใจยอมรับในสิ่งนี้ง่ายที่สุดค่ะ)
อยากเจอเพื่อนที่จริงใจไว้ใจได้จริงๆ เตือนกันได้ยามที่อีกฝ่ายทำผิดแค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ ที่สำคัญต้องกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดาด้วยนะเราชอบที่สุดนะจ๊ะ
ใครสนใจอยากเป็นเพื่อนกะเราเรายินดีนะ เมื่อเคยเป็นคนไม่ดีก็ทำตัวใหม่เราให้โอกาสทุกคนเป็นเพื่อนเสมอ เพราะเราก็เคยผิดพลาดมาก่อนจร้า
คนดีชอบแก้ไข คนจังไรชอบแก้ตัวคร้า บายๆๆๆๆๆๆ เราเช่อป
#26 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 17 June 2011 - 03:44 PM
#27 *นะ*
โพสต์เมื่อ 30 June 2011 - 12:02 AM
ไม่มองหน้า ไม่ถาม ไม่ไถ่ไม่ทักทาย พอเราคุยก็ตอบมาคำสองคำและพยายามเลี่ยงตลอด พอเราลุกไปนั่งเรียนตรงอื่นก็จะโทรมาถามมาไถ่มาเปงอะไร ไม่ชอบนะที่ทำแบบนี้ อ้าว แล้วจะให้ทำไงล่ะ พออยู่ก็ไม่สนใจเหมือนโดนกดดันให้ออกจากกลุ่ม พอออกมาก็เหมือนเรียกร้องให้กลับไป พอกลับเข้าไปก็สภาพเดิม บางวันไม่ได้คุยกันเลยก็มี ยอมรับว่าเมื่อก่อนสนิทกันมาก ตัวติดกันตลอด แต่หลัง ๆ ไม่รู้ทำไมเขาถึงตีตัวออกห่าง ไม่ไปไหนด้วย ไม่ค่อยคุยด้วย พอถามว่าเป็นอะไร ก็ได้คำตอบเหมือนเดิม คือ ไม่เป็นอะไร ไม่มีอะไร พอเปิดเทอมมาก็ไม่มีคนสนใจเมิน แต่ก็ยังอยู่กลุ่มเดียวกัน
แรก ๆ เครียดมาก แต่หลัง ๆ ก็ยอมรับสภาพที่เป็นอยู่ได้และทำใจ ไม่ต้องสนิทก็ได้ว่ะ แค่ผิวเผินก็ช่างมัน อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนร่วมโลก เป็นเพื่อนมหาลัยเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะเข้ามาพูดจาดี ๆ ด้วยเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือจากเรา แต่เราก็ยินดีทำให้โดยไม่เกี่ยงงอน แต่พอหลังจากที่เขาได้สิ่งที่ต้องการแล้วล่ะ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม คือ ไม่ใส่ใจ ไปไหนก็ไม่เรียกไม่บอก แต่ก็ ช่างเถอะ หลัง ๆ เริ่มจะปลงได้ ปล่อยเขาไป ถือซะว่าการช่วยเขาก็คือการทำบุญ ใช้หนี้กรรมที่เคยทำด้วยกันมา จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก
ทุกวันนี้ก็ทำตัวเหมือนเดิม ปกติของเรา นั่งเรียนเราก็เรียนของเรา ถึงเวลากินข้าวไปกินด้วยกันเราก็กินของเรา คุยบ้างเล็ก ๆ น้อย ทำอะไรคนเดียวบางทีมันก็สะดวกดี แต่มันแค่เหงาก็เท่านั้นเอง
[email protected] ว่าง ๆ ก็มาคุยกันได้นะ
#28 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 19 July 2011 - 09:11 AM
จนวันหนึง เราไปเล่นเกมออนไลน์เกมส์นึง แล้วบังเอิญไปเจอผู้หญิงคนนึง เค้าอายุแก่กว่าเราปีนึง ซึ่งตอนแรกกะเป็นเพื่อนกันในเกมตามปรกติ คือไม่ได้สนิทอะไรกันมาก พวกเราอยุในเกมกะเล่นด้วยกัน ตั้งแต่เราเวลเล็กๆจนตอนนี้เวลสูงแล้วเรากะยังเป็นเพื่อนกัน ฉันยอมรับเลยว่า เธอคือเพื่อนสนิทของฉัน ถึงพวกเราจะไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน แต่ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยทิ้งเราไปไหนเลย ให้กำลังใจเราตลอดเวลาเลย ใครจะไปรู้ เพื่อนออนไลน์ก็เป็นเพื่อนสนิทเราได้เหมือนกัน ฉันมีความสุขบนโลกออนไลน์ทั้งที่ในชีวิตจริงฉันไม่มีใครเลย ฉันรักเพื่อนของฉันมาก ขอบใจนะที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของฉัน และคอยเป็นกำลังใจให้ฉันตลอด "เพื่อนรัก"
#29 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 02 August 2011 - 11:36 AM
#30 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 13 September 2011 - 07:25 PM
[size="5"]ตอนนี้เราอยู่ปี1แล้วแต่เหตุการณ์ที่เราเจอคือม.ปลายอ่ะคือไม่เคยมีเพื่อนสนิทเลยคิดอะไรก็แตกต่างจากคนอื่นทำงานก็เหมือนเป็นส่วนเกินเวลาจับกลุุ่มหรือจับคู่อ่ะเราเศร้ามากแล้วเวลาอยู่ที่โรงเรียนออกความคิดเห็นก็ไม่ได้ต้องนั่งเงียบเราก็งงกะชีวิตที่ต้องเกิดมาเป็นแบบนี้อะนะหรือค.คิดเรายังเป็นเด็กอยุอ่า(ขอระบายหน่อยเหอะคนที่ทำให้เพื่อนเศร้าร้องไห้ด่าว่าแกล้งนินทาว่าร้ายลุมด่าเพื่อนให้เจ็บชํ้านํ้าใจระวังให้ดีเวรจะตามสนองควรคิดว่าถ้าคนนั้นเป็นตัวเองบ้างล่ะจะเป็นยังไง!!การทำร้ายจิตใจเพื่อนนานๆระวังเวรจะตามทันเพราะคนที่โดนทำให้เศร้ามากๆก็อาจจะเป็นโรคซึมเศร้าและอาจหนีปัญหาด้วยความตายความแค้นที่่มีคนทำกับเค้าเค้าคงลืมไม่ลงและอาจตามท้วงหนี้พวกมันทุกๆชาติไปที่เรียกว่าเจ้ากรรมนายเวรนั่นเอง) เราสงสารทุกคนนะแต่ขอให้สู้ๆเพราะ..ใครทำเวรไรไว้มันต้องชดใช้ แต่เราไม่อยากพูดให้ทุกคนแค้นมันนะ แต่เราอดไม่ได้เพราะเราทนจนเหลืออดแล้ว แต่เราก็แนะนำให้ทุกคนแผ่เมตตาให้มันเยอะๆจะได้ไม่มีเวรกรรมกันอีก และเราควรชวนคนอื่นมาทำบุญทำดีกันเยอะๆจะได้เป็นการทำหน้าที่กัลยาณมิตรชาติหน้าเราจะได้มีเพื่อนเยอะๆค่ะ เราเข้าใจนะคนที่ไม่สามารถจะออกความคิดเห็นพูดหรือแสดงความรู้สึกที่มีออกมาได้มันน่าสงสารมากเช่นเห็นเพื่อนสนุกสนานแต่เราอินไปด้วยเลยขำก็จะมีคนด่าว่าไม่เกี่ยวไรด้วยมาขำ..คนประเภทนี้มีเยอะพวกปากหมาพวกชอบแส่เรื่องชาวบ้านพวกชอบนินทาคนอื่น เรายอมรับว่าเราเคยนินทาคนอื่นตอนนี้เราก็เหมือนชดใช้กรรมแต่เราอยากจะเตือนว่าการนินทาเป็นสิ่งไม่ดีอย่างน้อยลองมองกลับกันว่าถ้าคนที่ถูกนินทาคนนั้นคือเราเราจะรู้สึกยังไงคนทีถูกนินทาคงเป็นเหมือนกัน ขอฝากเรื่องใจเค้าใจเราไว้ด้วยน่ะค่ะ แต่ถ้ากำลังเจออยุเราต้องอดทนถือว่าชดใช้กรรมละกัน สู้ๆจ่ะแต่เราก็อย่าไปยอมมันนะถ้าเราไม่ผิดเพราะมันจะได้ใจแล้วมันจะข่มเหงเราอยุเรื่อยไป..
การยอมคนเป็นสิ่งดีในบางครั้งเพื่อจะได้จบเรื่องไปแต่ถ้ายอมมากไปเราจะกลายเป็นคนโง่และคนอ่อนแอจงเดินทางสายกลางอ่านธรรมะเยอะๆแล้วชีวิตจะดีค่ะ