ต้องการกำลังใจและคำแนะนำอย่างมากเลยคะ
#1
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 09:36 PM
ตอนนี้หนูรู้สึกอ่อนแอ ทุกข์ทรมานและเจ็บช้ำมากเลยคะ เหมือนคนหลงทางที่เดินวนเวียนไปมา สับสนวุ่นวาย หาทางออกไม่ได้จนบางครั้งแอบรู้สึกว่าไม่อยากจะอยู่เผชิญกับความจริงเลยด้วยซ้ำ หนูขอเล่าปัญหาโดยสรุปนะคะ
หนูคบกับคนๆนึงมาเป็นเวลา3ปี แล้วเราก็เลิกกันเพราะหนูไปมีคนอื่น สาเหตุที่หนูมีคนอื่นก็เพราะว่าเราเข้ากันไม่ได้ ทะเลาะกันบ่อยมาก ต่างคนต่างไม่ยอมให้กัน จนสุดท้ายหนูรู้สึกเหนื่อยมาก ประจวบเหมาะกับมาเจอคนใหม่ หนูเลยตัดสินใจผิดพลาดด้วยอารมณ์ทำให้ต้องเลิกกับเค้า ซึ่งหนูยอมรับว่าหนูผิดมากที่ทำร้ายเค้า เค้าเสียใจมาก หลังจากนั้นประเกือบปี เค้าก้อมีแฟนใหม่ซึ่งเค้าก็รักมากเหมือนว่าแฟนใหม่เค้ามาเติมเต็มส่วนที่เค้าขาดได้ คือส่วนที่หนูทำให้เค้าไม่ได้ (ในเรื่องของความเข้าใจ)
หนูคบกับแฟนใหม่ได้6เดือนก็เลิกกันไป หนูยอมรับว่ารู้สึกเจ็บและเสียใจมาก หลังจากนั้นแฟนเก่าของหนูคนนี้ก็มีปัญหากับแฟนของเค้าเหมือนกัน ประจวบเหมาะกับที่หนูกับเค้าก็ยังคงติดต่อคุยกันมาเรื่อยๆ ช่วงนี้ที่หนูไม่มีใครและเค้าก็กำลังสับสนและมีปัญหากับแฟนเก่าของเค้า สุดท้ายหนูกับเค้าเลยกลับมาคบกันอีกครั้ง หนูยอมรับว่าในตอนแรกๆมันเกิดจากความรู้สึกเหงาและไม่มีใครแต่พอได้คบกันหนูก้อรู้สึกถึงความรู้สึกเก่าๆที่เราเคยมีด้วยกัน หนูคิดว่าหนูรักเค้า ด้วยความรู้สึกหลายๆอย่าง ในตอนแรกหนูยอมที่จะอยู่ข้างๆเค้าในขณะที่เค้ายังตัดใจเลิกกับแฟนเค้าไม่ได้ แต่พอเค้าเลิกได้แล้วเราก็เลยคบกันอย่างเต็มตัว แต่สุดท้ายหนูก็มีบางอย่างที่ไม่เป็นอย่างที่เค้าต้องการ เค้าเลยเลิกกับหนู ประจวบเหมาะกับที่แฟนเก่าเค้าก็ยังไม่ยอมเลิกและอยากจะกลับมาคบกับเค้า สุดท้ายหนูก็เป็นคนที่โดนทิ้งและเค้าก็กลับไปคบกับแฟนเค้าเหมือนเดิม
เค้าบอกว่าตอนนี้เค้าสับสนมาก เค้าไม่รู้ว่าหัวใจเค้าต้องการใครกันแน่จริงๆแล้ว แต่ตอนนี้เค้าเลือกจะให้หนูไปเพราะคนเก่าของเค้ากลับมา เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากให้หนูอยู่อีกแล้วเพราะหนูจะเจ็บไปมากกว่านี้
หนูเสียใจมากคะ เสียใจที่สุดเท่าที่เคยเสียใจมา ทำใจไม่ได้ ทรมาน คิดอะรไม่ออกนอกจากเรื่องเค้า มีชีวิตเหมือนไร้วิญญาณ เหนื่อยเหลือเกิน แม้กระทั่งยามนอนเค้าก็ยังมาอยู่ในฝันตลอด หนูเครียดมากจิงๆ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว หนูไม่อยากเป็นแบบนี้แล้วคะ แต่หนูยังไม่เข้มแข็งพอที่จะทำใจได้ หนูควรจะคิดหรือควรจะทำยังไงดีคะ ขอรบกวนคำปรึกษาจากผู้รู้และผู้เชี่ยวชาญทุกคนด้วยนะคะ :'( :'( :'(
#2
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 09:39 PM
ตอนนี้คุณคือผู้โชคดีที่ได้เห็น ทุกข์ และ สมุหทัย แล้วครับ ต่อไปเพื่อนๆในบอร์ด จะมาแนะนำคำว่า นิโรธ กับมรรคให้ครับ ต่อไปนี้คุณจะได้ศึกษาหลักธรรมอันเป็นหัวใจอันสำคัญยิ่งในการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยทีเดียวครับ (หรือเรียกว่า อริยะสัจสี่ครับ)
#3
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 09:43 PM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#4
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 09:50 PM
มาวัดแล้วมีทางออกเสมอ
#5
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 09:52 PM
#6
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 09:56 PM
ถ้าไม่มีเวลาไปไหน ก็เปิดดู D M C The Only one ทุกวันและมาวัดพระธรรมกายทุกวันอาทิตย์นะครับ และควรหาหนัง
สื่อชื่อ "ความรักที่น่ารัก" มาอ่านแต่ถ้ายังทำไม่ได้อีก ให้มาอ่านกระทู้ใน DMC.tv บ่อยๆ และสวดมนต์และนั่งสมาธิทุกวัน
นะครับ แล้วอาการจะค่อยๆดีขึ้น
#7
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 10:02 PM
"หากคิดให้ออก ก็ให้ออกจากความคิด"
หาเวลามาวัด มาร่วมงานบุญ หรือมาเป็นอาสาสมัคร จะได้มีกัลยาณมิตรที่เป็นเพื่อนแท้และรักเราอย่างจริงใจนะ
เป็นกำลังใจให้จ้า
#8
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 10:16 PM
#9
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 10:32 PM
ที่วัดทุกคนรักและจริงใจต่อกันครับ มาเป็น อาสาสมัคร ที่วัดดูซิ
รับรอบมีคนช่วยแก้ความโศกให้ได้แน่นอน มีีความสุข และเพื่อนเยอะด้วย
#10
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 10:37 PM
(ครั้งแรกพิมพ์ผิดจ้ะ )
#11
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 10:51 PM
- อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เริ่มจากตัวเรา...
- ทำใจออกจากความคิด ทำจิตให้สงบ แล้วจักพบทางออก คือ ที่พึ่งภายใน
- หมั่นคบกัลยาณมิตร(ที่พึ่งภายนอก)ไว้คอยปรึกษา สร้างภูมิคุ้มกัน
#12
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 11:19 PM
#13
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 11:40 PM
จะพยายามนำเอาไปคิดให้ได้มากที่สุด
T____________________T
อยากได้คำแนะนำเยอะๆนะคะ
ขอบคุนมากคะ
#14
โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 11:56 PM
#15
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 12:19 AM
.....
ยังเรียนอยู่ด้วย อายุยังน้อย
คิดเสียว่า หัดกินวาซาบิใหม่ๆ
ครั้งแรก น้ำตาทะลักเลย
....
คิดแบบนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยานะจ๊ะ
เราเคยทำแบบนี้มาก่อน ข้ามภพ ข้ามชาติ ซ้ำซ้ำ
จากที่เล่ามา มาดูที่ตัวเองเป็นหลักเลย
ต้องทำตัวเป็นที่รัก คือ มีทาน ปิยวาจา อัตถจริยาและสมานัตตตา
แต่เหลืออยู่ข้อเดียวคือ ยอม
ถ้าเค้าดีจริง เราดีจริง และเป็นคู่กันจริง ก็Happy ending
ถ้าต่างจากนี้ ก็ Sad movie
....
ครั้งต่อไปก็จะชินหรือเบื่อ
...
สุขที่แท้จริง คือ สุขที่เกิดขึ้นภายในใจเรา
ไม่ใช่จากเขา จากสิ่งของ หรือจากอื่นๆ
....
วกวกวนวนหน่อยนะ
แต่ก็ขอให้สู้ต่อไป ตั้งใจเรียนก่อน โอเค!!!
ไฟล์แนบ
#16
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 01:17 AM
จิตไม่สงบ ยากที่จะหาทางออกได้ดี
ถามสักนิดว่า คิดยังไงกับการที่เค้ากลับมาหาจขทก.เพราะรักหรือกลับมาเพราะต้องการแก้แค้น
มีวิธีเดียวจะออกจากปัญหาได้เร็วที่สุด คือ เปลี่ยนวิธีคิดใหม่น่ะ
อย่าคิดว่าโดนทิ้ง คิดซะว่าเค้าให้โอกาสเราไปเจอคนใหม่ๆ ไปทำสิ่งใหม่ๆ
ชีวิตคนเรายังต้องเจออะไรอีกเยอะแยะ
มารเค้าเล่นเราทุกวิถีทางที่ทำได้หมด ไม่ได้ทางนี้ก็มาทางโน้น
#17
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 01:31 AM
หาสิ่งอื่นมาเป็นสิ่งที่ทำให้เราให้ความสำคัญแทน เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง หรือ ทำกิจกรรมใด ๆ ที่ทำให้เราไม่ว่าง จนไม่มีเวลาคิดเรื่องที่ทุกข์ คิด และ พูด เรื่องนี้ ให้น้อยลง
คิดง่าย ๆ หากว่าวันนี้เราเป็นนักมวย ชกบนเวที เก่งแค่ไหน เราก็เจ็บ แต่ coach ดูนักมวยอยู่ขอบเวที
เห็นทุกอย่างในมุมกว้าง สามารถให้คำแนะนำแก่นักมวยจนชนะได้ โดยไม่เจ็บ
เราก็ถอยหลังออกมาจากปัญหานั้นก่อน ไม่ได้หนี แต่หากเราอยู่ตรงนั้น มันเจ็บจนเราทำไรไม่ได้จริง ๆ
เมื่อถอยออกมา มองมุมกว้าง มองปัญหาของเรา เป็นปัญหาของคนอื่น
เรา สามารถหยิบผงในตาคนอื่นออกได้ เพราะว่าเรามองเห็น
หากปัญหานี้ เป็นปัญหาของคนอื่นที่ไม่ใช่เรา เราจะตอบได้ดีมาก ๆ เลย
แต่ ต้องซื่อสัตย์ ว่า นี้เป็นปัญหาของคนอื่น เราจะให้คำแนะนำอย่างไร
สรุป
1.เอาใจออกห่างจากปัญหา หากิจกรรมอื่นทำ จนนึกถึงปัญหานี้น้อยลงกว่าเดิม จนไม่มีเวลามานึกถึงปัญหานี้ เพราะยุ่งจนไม่มีเวลามาคิด มานึกถึง
2.ให้คำแนะนำกับปัญหาตัวเอง เหมือนปัญหานี้ เป็นปัญหาของคนอื่น (ปัญหาชาวบ้าน เราเข้าใจ และจัดการได้ซาเหมอ)
ลองดูนะคะ
หากว่าลองแล้ว ได้ผลอย่างไร มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
และที่สำคัญ ร่างนี้ กายนี้ เกิดมาเพื่อสั่งสมบุญบารมี และทำพระนิพพานให้แจ้ง ค่ะ
#18
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 01:59 AM
หนูขา พี่ขอให้กำลังใจด้วยเพลงของหลวงพ่อค่ะ ค่อยๆฟังไปทีละเพลงนะคะ
"ชีวิตก็เป็นอย่างนี้"
http://www.dmc.tv/pr.../mv/page9.html#
"หลุมรักที่แท้จริง
http://www.dmc.tv/pr.../mv/page8.html#
"อยากมีคนอยู่กลางกาย"
http://www.dmc.tv/pr.../mv/page7.html#
ขอให้หนูโชคดีมีบุญได้พบคนกลางกายจ้า...
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#19
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 02:22 AM
ได้อ่านแล้วค่อนข้างสงบขึ้น และได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่าง
คิดอยู่คนเดียว เหมือนวนอยู่ในอ่าง ที่สำคัญคือคอนแต่จะคิดหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองตลอด
คิดว่าเค้าเพียงแค่สับสน แต่เค้าอาจยังรักเราอยู่ก็ได้
ก็เลยตัดใจไม่ได้สักที รวมกับว่าเราก็ยังรักเค้าอยู่มาก ขนาดเค้าพูดว่าไม่ได้รักเราแล้ว ไม่อยากให้เราอยู่ไม่อยากให้เรารอ
เราก็ยังคงัรกเค้า..นี่คือสิ่งที่ทรมานที่สุด
#20
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 02:58 AM
เคยเจ็บมาเหมือนกัน แต่พอหันหลังกลับไปดูแล้วมีความสุขที่จบไปซะได้ค่ะ
เจ็บนิดนิด
ปวดนิดนิด
แต่ไม่ยักกะตาย
เอาเรี่ยวแรงของเรามาดูแลพ่อแม่ดีกว่า ท่านรักเรา ไม่เคยทิ้งเรา คนสองคนนี้สิที่เราควรรักให้มาก ๆ
#21
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 07:08 AM
คุณ สิริปโภ เปิดฉากได้ดีมากครับ
ขอเสริมข้อคิดเรื่องนี้ อีกมุมมองนะครับ
ผมมองว่า
การเจ้าของกระทู้ ที่รู้จัก ทุกข์ จะทำให้ชีวิตเติบโตมากขึ้นนะครับ
ไม่ได้ โสน้าน่า นะ
แต่ชีวิตมนุษย์ ที่ผ่านทุกข์ สุข สมหวังมาก ผิดหวังบ้าง
เจออุปสรรค ปัญหากันบ้าง
เมื่อรู้ต้นตอของทุกข์ และแก้ไขปัญหา นั้น ๆ ได้ ชีวิตจะแกร่ง เยอะเลย
เพียงแต่ถ้าเจ้าของกระทู้
เรียนรู้ทุกข์อย่างมีสติ โดยมีเพื่อนกัลยาณมิตรรอบตัวที่ให้คำแนะนำที่ดี
คือ ชี้ให้เห็น สมุทัย สาเหตุแห่งทุกข์ ที่เกิดจากความรักของหนุ่มสาว
และแนะแนววิธีบำบัด บรรเทาทุกข์นั้นด้วย
เหลือแต่ตัวเจ้าของกระู้เอง น่ะแหละครับว่า
จะอาศัยวิกฤต ให้เป็นโอาสที่ดี หรือไม่ ???
ร่วมเป็นกำลังใจ ให้เช่นกันครับ
ป.ล. ๑ แนะนำกระทู้สาระธรรม เหตุแห่งความรัก
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=13224
ป.ล. ๒
ไหน ๆ ชีวิตเรา ต้องเจอทุกข์ กันอยู่แล้ว
ไม่ว่า จะทุกข์เรื่องอะไร แต่สุดท้ายมันก็เป็นโรคทางใจ ในความคิด ความรู้สึก
ทำให้คนส่วนมาก มองทุกข์ แต่ในแง่ร้าย ๆ
งั้น เราลอง มา มองทุกข์ อีกด้านกันไหม
เพื่อที่ว่า อย่างน้อย เราจะได้อยู่กับความทุกข์ อย่างไม่ทุกข์เท่าที่ควร
หรือ อยู่กับทุกข์ อย่างสนุกขึ้น
ข้อดีของความทุกข์
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=7982
1.ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น
2.ทำให้รู้ถึงค่าของความสุข
3.ทำให้เรามีความสามารถมากขึ้น
4.ทำให้เรามีสิ่งที่ต้องทำ(ทำเพื่อให้หายทุกข์ )
5.ทำให้เรามีประสบการณ์ในการแก้ปัญหามากขึ้น
6.ทำให้เรามีความอดทนมากขึ้น
7.ทำให้ความสุขมีค่ามากขึ้น
8.ทำให้มีความระมัดระวังมากขึ้น
9.ทำให้เรามองโลกกว้างมากขึ้น
10.ทำให้เราเห็นได้ว่าใครคือคนที่เป็นที่พึ่งยามยากของเรา
11.ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่ห่วงเรา
12.ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่เป็นมิตรแท้ของเรา
13.ทำให้รู้ได้ว่าเพื่อนของเรามีความสามารถแค่ไหน
14.ทำให้เรารู้ว่าใครมีความสามารถขนาดไหน
15.ทำให้เรารู้ได้ว่ามีคนไหนที่รักเราจริง
16.ทำให้เรารู้ว่าการหัวเราะเป็นสิ่งจำเป็น
17.ทำให้เราพยายามที่จะมองโลกในแง่ดีมากขึ้น
#22
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 07:23 AM
#23
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 08:33 AM
อย่าอยู่คนเดียวครับ หากิจกรรมทำโดยเฉพาะการไปวัดทำบุญ ถ้าเป็นไปได้ก็นั่งสมาธิ แล้วเวลาจะช่วยเอง และสุดท้ายจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นอะไรที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปและสามารถเกิดได้กับคนทั่วไป เมื่อเราโตขึ้นจะรู้สึกว่ามันก็เป็นอย่างนั้นเอง
#24
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 08:54 AM
ทุกอย่างคือ.. สิ่งสมมุติทั้งสิ้น.. มันเป็นภาพลวงตา.. จริงๆนะ..
พี่เอง.. เคยมีความรักกับคนๆนึง.. คบกันมา 5 ปี.. เราผูกพันธ์กันมาก
พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แต่งงาน มีครอบครัวที่อบอุ่น..
พี่ซื้อบ้านผ่อนคนเดียว.. โดยให้เค้ามีชื่อเป็นเจ้าของบ้านด้วยทั้งที่เค้าไม่เคยช่วยผ่อนเลย..
เราเข้าใจกันรักกันมากๆ.. แต่เค้าเป็นคนเจ้าอารมณ์.. ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน.. 100% มาจากเค้าเป็นคนเริ่ม..
แต่ทุกครั้ง.. จะจบลงด้วย.. พี่เป็นคนไปง้อเขา..
และสิ่งนี้ทำให้.. อยู่มาวันนึง.. พี่เบื่อและเงียบไปเฉยๆ.. ไม่โทรไปหา..
เชื่อไหมว่าแค่เพียงไม่ได้โทรไปหาตั้งแต่เช้า.. ถึงราวๆ 2 ทุ่มเท่านั้น.. เขาเข้าใจเลยว่า.. พี่จะทิ้งเขา..
(คิดดูว่าเราผูกพันธ์กันแค่ไหน..) ค่ำวันนั้นเขาโทรมาร้องไห้ฟูมฟาย.. คาดคั้นคำตอบ..
แต่พี่ก็ไม่ตอบเขา.. ซึ่ง.. ไม่ว่าเขาจะเลวร้ายเพียงไร.. พี่ก็ไม่สามารถพูดคำนั้นออกมาจากปากได้จริงๆ..
คงมีแต่ความเงียบเท่านั้นที่เป็นคำตอบ.. ซึ่งเขาเข้าใจ.. และร้องไห้ฟูมฟาย ขอโทษสารพัด.. และขอโอกาสแก้ตัว..
ความจริงพี่ไม่อยากให้.. แต่สุดท้ายด้วยความสงสารจึงให้โอกาสเขา.. และเรา.. กลับมารักกันอีกครั้ง..
เวลาผ่านไปประมาณ 3 เดือน.. ทุกอย่าง OK..
แต่อยู่มาวันนึง.. เขาก็โทรมาบอกขอเลิก.. ด้วยเหตุผลที่ไม่เข้าท่า..
ซึ่งพี่เข้าใจเลยว่า.. ที่ผ่านมาทั้งหมด.. มันคือเกมส์การแก้แค้น..
หากเลิกกัน เขาจะไม่ยอมให้เราทิ้ง.. เขาจะไม่ยอมเสียฟอร์ม.. แต่เขาต้องเป็นฝ่ายทิ้งเรา..
หลังจากนั้น.. พี่อยู่ในความทุกข์ทรมานอย่างมาก.. ประมาณเกือบ 2 ปี..
ทำงานกลับมาถึงบ้าน.. ไม่ทำอะไรเลย.. ล้มตัวลงนอนบนโซฟาที่เราไปเลือกซื้อมาด้วยกัน..
นอนมองผ้าม่านที่เราไปเลือกซื้อมาด้วยกัน.. มองดูตู้หนังสือที่บ้านเธอโล๊ะมาให้.. และอีกสารพัด..
ทำอย่างนี้อยู่เป็นปีๆ.. คิดดูว่ามันเจ็บแค่ไหน..
ทั้งๆที่มีคนผ่านมาในชีวิตมากมาย.. และมีคนอีกมากมายที่รอซับน้ำตาพี่อยู่..
แต่พี่คิดเสมอว่า.. นั่นคือรักครั้งสุดท้าย.. พี่ทุ่มเททุกอย่างและไม่สามารถให้อะไรใครได้อีกแล้ว..
วันนึง.. เมื่อรู้สึกว่าเราจะอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ได้.. สุดท้าย.. พี่ต้องไปหยิบเอาความรักในวัยเด็กมาเยียวยา..
สิ่งที่อยากเป็นในวัยเด็ก.. และจบลงที่การทำร้ายตัวเอง.. เพื่อไม่ให้มีความรักกับใครได้อีก..
มาถึงตรงนี้.. พี่รู้แล้วว่า.. มันเป็นเกมส์ของใครบางคนที่บังคับเรามาข้ามภพข้ามชาติ..
บังคับให้เราทำผิดพลาด.. แล้วลงโทษด้วยกฎที่เขาตั้งขึ้นเอง.. แล้วให้เรารับผลกรรมของเรา..
เป็นมาอย่างนี้ข้ามภพข้ามชาติ..
นี่ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน.. แต่มันเป็นความจริงของชีวิต..
ถึงตอนนี้.. พี่อยากจะบอกคุณว่า..
- ใครบางคน.. สร้างกฎเกณฑ์และบัญชาให้มนุษย์.. ก่อวิบากกรรมด้านความรักเชิงชู้สาวขึ้นมา..
- คุณคือ.. 1 ในเหยื่ออีกหลายคนทั่วโลก.. (อยากจะบอกว่า และอีกแสนโกฏิจักรวาล)
ดังนั้น.. เรื่องของคุณเป็นเรื่องธรรมดา.. คุณมีเพื่อนร่วมทางมากมายจริงๆ.. ให้อุ่นใจไว้ว่าไม่โดดเดี่ยว..
- อย่าคิดอะไรที่มันจะบั่นทอนกำลังใจ และชีวิตตัวเอง.. เพราะนั่นหมายความว่า.. คุณกำลัง "เข้าทาง"
รูปเกมส์ที่.. ใครบางคนวางหมากเอาไว้ให้เป็นไป..
- ปลาเป็น.. ว่ายทวนน้ำ.. ปลาตาย.. วายตามน้ำ..
คุณจะเลือกที่จะเข้มแข็ง.. เพื่อมีชีวิตอยู่และทำภารกิจที่แท้จริงของชีวิต.. ซึ่งรอคุณอยู่..
หรือ..เป็นไปตามกระแสวังวนน้ำเน่า.. ที่ใครบางคนสร้างขึ้นมา.. และบังคับใจคุณให้เป็นไป..
อาทิตย์นี้มาวัดสิ..
แล้วหาแผ่น CD MP3 รวม Case Study เรื่องศีลข้อ 3..
เอาไปฟังให้มากๆ.. แล้วจะรู้ว่า.. ผู้หญิง.. ก็คืออดีตผู้ชาย.. ที่เคยทำวิบากกรรมกาเมมา..
ซึ่งคุณก็คือ.. 1 ในนั้น..
และผู้ชาย.. ก็คืออดีตผู้หญิง.. ที่ทำความดีกระทั่งเอาชนะวิบากกรรมกาเมมาได้.. และได้กลับมาเป็นชาย..
แล้วคุณ.. จะเลือกที่จะตกเป็นเหยื่อวังวนน้ำเน่าแบบนี้อยู่อีกหรือ.. ?
ขอให้ทำใจให้สงบ.. แล้วจะพบทางออก..
ขอให้คุณเอาชนะสิ่งเลวร้ายไปได้ด้วยดี..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#25
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 09:00 AM
สิ่งที่ใช่คืออะไร สิ่งที่ไม่ใช่คืออะไร มันก็เป็นเพียงภาพลวงตาที่ทำให้เราคิดว่าใช่ กามเปรียบเหมือนฝัน เมื่อตื่นขึ้นก็หายไป สุดท้ายสิ่งที่จะเอาติดตัวไปได้คืออะไร สิ่งที่ช่วยเราได้คืออะไรกัน ลองแสวงหาดู หากคุณพบ คุณจะรู้ว่าคุณโชคดีเพียงใด ผู้แสวงหาเท่านั้นถึงจะพบ ความทุกข์ในวังวนแห่งกามไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ที่มีดวงปัญญาจึงออกเดินทางแสวงหา ขอให้คุณมาแสวงหากับพวกเราเถอะ แม้มันจะยากลำบาก ก็คุ้มค่ามากที่สุด...
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)
#26
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 09:04 AM
ความรักของทางโลกหนูก็ได้เจอได้พบกับตัวเองมาแล้ว อยากให้หนูลองพิจารณาดู ว่าความรักทางโลกที่หนูเคยมี มันมอบความสุขหรือความทุกข์มากกว่ากัน อยากให้หนูลองสังเกตุดูให้ดี เวลาที่หนูคิดว่าเป็นเวลาดีๆสำหรับหนูกับคนที่หนูบอกว่ารัก กับเวลาที่หนูต้องเป็นทุกข์ต้องทะเลาะกับคนรัก อย่างไหนมันเยอะกว่ากัน ความเจ็บในใจที่เกิดจากการทะเลาะ กับความสุขเวลาที่หนูอยู่กับเขาอย่างไหนมันรุนแรงกว่ากัน แล้วทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวหนูว่าหนูจะเลือกอะไร จะเลือกอยู่ในความมืด อยู่ในความสุขเพียงชั่วครู่ จมตัวเองอยู่แต่กับเรื่องความรักของทางโลกต่อไปหรือเปล่าหรือจะตาสว่างหันมาอยู่คนเดียว มีความสุขกับชีวิตของตัวเองโดยไม่มีใครมาทำให้ใจชอกชําอีก จะหันมาปฏิบัติธรรมมีความสุขกับชีวิตภายในซึ่งเป็นสุขที่ถาวรหรือไม่
พี่บอกหนูได้แค่ว่า ความรักทางโลกมันไม่ยั่งยืนหรอกนะ เป็นความรักที่วกไปวนมาอยู่อย่างเดิม เป็นความรักที่ยําอยู่กับที่ ยําไปนานๆก็เจ็บก็เมื่อย เมื่อหนูหยุดพักหนูก็หายเจ็บ แต่พอหนูเริ่มรัก เริ่มยําเท้าใหม่มันก็เริ่มเมื่อยเริ่มเจ็บอีก อยู่ที่หนูเลือกนะจ๊ะ พี่แนะนำได้แค่นี้ มีประสบการณ์มาก่อนเลยรู้ดี ตอนนี้พี่เลือกอยู่คนเดียว มันเหงาบ้างช่วงแรกๆ แต่มีความสุขมากกว่าความทุกข์จ๊ะ ^ ^
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#27
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 09:21 AM
ถ้าตอนนี้กำลังสับสนอยู่ ก็ไม่ต้องคิดหรือทำอะไรเพื่อเป็นการตัดสินใจ เพราะสภาพจิตใจของเราตอนนี้มันยังไม่พร้อมที่จะตัดสินใจอะไรทั้งนั้น ต้องพยายามทำใจเฉยๆ และไม่คิดวกกลับไปหาเรื่องนี้อีก พยายามกลับไปหาเพื่อน อยู่กับเพื่อน หรือคนที่บ้าน และหากิจกรรมทำให้ได้มากที่สุด ทำให้ตัวเองยุ่งมากที่สุด อยากจะร้องไห้ก็ร้องออกมาให้พอ ร้องออกมาให้หมด
ดิฉันเข้าใจดีว่าในสภาพจิตใจอย่างนี้คงจะไม่มีสมาธิที่จะทำอะไร หรือแม้จะนั่งสมาธิก็นั่งไม่ได้ แต่ถ้าสามารถนั่งสมาธิได้ก็จะดีนะคะ ถ้านั่งไม่ได้ก็ไม่ต้องนั่งค่ะ แต่ถ้าไม่มีอะไรทำก็ลองสวดมนต์ดูนะคะ หาบทสวดที่ยาวๆ แล้วก็สวดไปช้าๆ พยายามดึงใจเราให้เข้ามาอยู่ในบทสวดมนต์นั้นให้ได้ ครั้งแรกอาจจะยากหน่อย ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน แต่ดิฉันอยากจะให้ลองทำดูบ่อยๆนะคะ แล้วจะดีขึ้นเองค่ะ
"ถ้าเราสามารถผ่านมันไปได้ เราก็จะเข้มแข็งขึ้นเยอะเลยค่ะ"
#28 *innerspot*
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 10:49 AM
#29
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 11:07 AM
หนูจ๋า แฟนหนูน่ะ โตมาค่อยเจอกัน
แต่พ่อแม่หนู่นะสิ เลี้ยงหนูมาตั้งแต่บาทาเท่าฝาหอย
และเป็นบุคคลที่รักหนูอย่างแท้จริงไม่มีแปรเปลี่ยนเลย
รักท่านมาก ๆ นะจ๊ะ
ฟังเพลงนี้อีกรอบนะ
"ชีวิตก็เป็นอย่างนี้"
http://www.dmc.tv/pr.../mv/page9.html#
#30
โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 11:29 AM
อย่าลืมหันกลับมามองคนที่ใกล้ตัว คือพ่อ แม่
ญาติพี่น้อง เขารักเราจริงใจ อย่าทำเป็นเหมือนกับว่า
ชีวิตนี้มีเพียง เขา กับ เรา เท่านั้น ไม่มี เขา...เรา ต้องตายแน่
ลองเอาไปคิดเอาไปดู เอาใจเขา(พ่อ แม่ ญาติ) มาใส่ใจเรา
......ขอให้โชคดีน่ะครับ.......