ช่วยแนะนำหน่อย
#1
โพสต์เมื่อ 16 December 2009 - 10:33 PM
kissy อายุ 23 ปีค่ะ เรียนจบ บัญชี เมื่อ เดือน กุมภา ที่ผ่านมา.. แต่ตอนนี้ยังไม่มีงานทำ เพราะ ไม่มีที่ไหน รับ kissy เข้าทำงานเลยค่ะ....เกือบ ปี แล้ว ที่ สมัคร... ทำข้อสอบ และ สอบสัมภาษณ์ แต่ไม่มีที่ไหน รับ kissy เข้าทำงานเลย
พ่อกับแม่ ก็ตำหนิทุกวัน.. ทุกวันเลยนะ.. ตำหนิว่า... ทำไมเรียนจบมาไม่มีงานทำ ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด คนไม่เอาถ่าน เด็กไม่มีอนาคต ทำไมไม่มีความรอบรู้ บ้างเลย แล้วก็อะไรอีก เยอะ แยะ ตำหนิ ซ้ำ ๆ แบบนี้ทุกวัน
kissy ไปสมัครงาน ก็เยอะนะ..ที่ชุมพรอ่ะ แต่ไม่ได้เลย รู้สึกท้อ...มาก ไม่รู้จะไปสมัครที่ไหนแล้ว ถ้าสมัครอีกครั้ง ก็สมัครซ้ำแล้ว
ล่าสุด ก็ไปสมัคร ที่ ที่ นึง ไปสมัคร วันนึง.... สอบวัน นึง( ข้อสอบ เป็นภาษี 100 ข้อ วิเคราะห์ 11 ข้อ คณิต 30 ข้อ )... แล้วก็ สอบสัมภาษณ์ อีกวันนึง... รวมทั้งหมดไป 3 วัน เพื่อสมัครงาน 1 ต่ำแหน่ง แต่ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ ข้อสอบ ก็ผ่าน สอบสัมภาษณ์ ก็ผ่าน ( ที่รู้ว่าผ่าน เพราะ ถามตรง ๆ ต่อหน้าเลยคะ )
แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าไป ( มันคืออะไรเนี่ย )
ตอนนี้ ความรู้สึกก็ผิดหวัง จนท้อ...มาก... พ่อ กับ แม่ ก็ตำหนิ ทุกวัน วันละ หลาย ๆ ครั้ง ก็เลยมีความคิดที่ว่า จะไปหางานทำที่อื่นบ้าง ก็ถามตัวเอง ว่า พอจะ คุ้นที่ คุ้นทาง ที่ไหนบ้าง ที่ ที่ พอจะอยู่ได้ ก็มี แต่ ชุมพร กับ กรุงเทพ
kissy ก็ไปขออนุญาต พ่อ กับ แม่ ว่า จะไปอยู่ กรุงเทพ ก็โดน ติ มาอีกว่า... จะไปทำไม เป็นผู้หญิงจะไปอยู่ คนเดียวได้ไง
........เฮ้อ.... อยู่บ้าน ก็โดนติ จะไปหางาน ก็ไม่ให้ไป จะทำยังไงดีเนอะ??????
.........ให้ไปหางานทำ..แถวบ้านก็ไปแล้ว แต่เค้าไม่รับ ทั้ง ๆ ที่ กระบวนการ การสมัครงาน ก็ทำดีที่สุดแล้ว
.........ตำหนิ kissy จนนอนไม่หลับ พอนอนไม่หลับ ก็นั่งเล่น อยู่ในห้อง kissy ก็โดน ติ ว่า ทำไมไม่ยอมนอน นอนได้แล้ว
............................แล้วถ้า กัลฯ ทุกท่าน เป็น kissy ท่านจะทำยังไงต่อไป................................
แต่ kissy อยากไปหางาน ที่อื่นนะ เพราะที่นี่ ไม่มีแล้ว
#2
โพสต์เมื่อ 16 December 2009 - 11:11 PM
ถ้าจะให้แนะนำเบื้องต้นก็เริ่มที่สวดมนต์นั่งสมาธิก่อน ไม่ทราบช่วงนี้ใช้เวลากับกิจกรรมเหล่านี้เยอะไหมครับ :-)
#3
โพสต์เมื่อ 16 December 2009 - 11:57 PM
อยากจะบอกว่าคุณมีอะไรที่คนจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาส และคุณจบปริญญาตรีทั้งที่คนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสทางการศึกษาหรือมีแต่ก็เรียนไม่จบหรือกว่าจะจบก็อายุไปตั้งสามสิบกว่าแล้ว อย่างเพื่อนผมคนหนึ่ง ทุกวันนี้ยังไม่มีงานทำเลยครับ เป็นลูกชายคนแรกของอาป๊าอาม้า เค้าเรียนมากหลายที่แล้วครับ เพิ่งจะจบว.ค.ไม่กี่ปีก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นมหาลัย ทั้งที่น้องชายคนสุดท้องจบแล้วและมีงานทำ(น้องจบ ถาปัต จุฬา) ถ้ามีโอกาสอยากให้มองดูคนที่เขาด้อยโอกาสกว่าเราอีกหลายๆคนครับ อย่างรายการละครฟื้นฟูศีลธรรมโลกหรือรายการคนค้นฅนดีของช่อง ๙ จะเห็นว่าคนบางคนไม่มีพ่อมีแม่ พิการต่างๆนานา เค้ายังมีกำลังใจจะต่อสู้ต่อไป ดังนั้นถ้าถามว่าถ้าเป็นผมจะทำอย่างไร ผมก็จะทำอย่างตอนที่ผมไม่มีงานทำคือ ผมตั้งใจทำทาน(ทำตามกำลัง) รักษาศีลให้ครบทั้งห้าข้อ และจะเจริญภาวนาไม่ขาด(ห้ามขาด) และที่สำคัญคือผมตั้งจิตอธิษฐานทุกๆวันว่า ขอให้ผมได้งานทำดีๆ เจอคนดี และมีคนคอยให้ความช่วยเหลือ ผมตกงานได้เดือนเศษๆ ต่อมาก็ได้เจอคนคนหนึ่งมาชวนไปทำงานต่างประเทศ ผมก็ตอบตกลงทันที และต่อมาได้เป็นหัวหน้าฝ่ายจัดซื้อ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ผมดำรงตำแหน่งเป็น ผจก.ทั่วไปได้โดยอาศัยบุญและความดีล้วนๆครับ ไม่อยากให้เชื่อ แต่ให้ลองทำและพิสูจน์ดูเองครับ ยังไงผมจะเป็นกำลังใจให้ (ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ)/พ่อแก้วใส
#4
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 12:10 AM
#5
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 08:01 AM
ทำใจใสๆคะ ลอง คิดนอกกรอบดู บ้าง คะไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่ตรงกับสาย บัญชีที่เราทำมา ก้อจะให้เราได้งานเร็วขึ้นหรือเปล่าคะ
วันก่อนตอนเย็นๆ ไปเดินตลาดริมน้ำ เจอ ลูกเจ้าของร้านทอง ใหญ่ ในจังหวัด มาทำอะไรรู้ไหมคะ ......
มาขายเสื้อ ผ้า เครื่องประดับ คะ แบบขาย แบบ วางแผง ขายคะ เค้าจบ มายังไม่มีงานทำ ยังหางานไม่ได้ เลยทำในสิ่งที่ตัวเองรักไปก่อน คือขายเครื่องประดับ เก๋ๆ มา 6เดือนแล้วคะ ... และเค้าก้อมีความสุข กับการขายของแบบนี้ แม่เค้า ก้อมาคอยช่วยเก็บร้าน ตอนสัก 2 ทุ่มคะ
สำหรับน้อง kissy คงได้รับคำแนะนำดีๆจากพี่ๆ ข้างบนแล้ว ย้ำนะคะ ใจที่คิดดี มองไปที่ความสำเร็จ มองเห็นภาพว่่า เราได้ทำงาน อย่างชัดเจน ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา อย่างยิ่งยวด ... งานดีๆ จะไปไหนเสีย
ขอให้ มีความสุข กับการหางานคะ
#6
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 09:18 AM
อาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ลองทำดู ไม่จำเป็นต้องตรงสายงานเสมอไป ทำไปก่อนให้คุณพ่อคุณแม่ ท่านเห็นว่าเราตั้งใจจะหางานหาเงินใช้ได้เอง
แล้วเงินก่อนแรกก็ยกให้ท่านไปเลย ทำงานจนกว่าจะเจอที่ที่ตรงสายงานแล้วค่อยเปลี่ยน
ขอบเป็นกำลังใจให้หางานได้เร็วๆนะค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 09:50 AM
ตอนที่ ไปช่วย ธุดงค์ธรรมชัย จ. ชุมพร พัฒนาวัด ก็อธิฐาน
อธิฐาน ตลอดเลย ... ทุกวันนี้ ก็ยังอธิฐานอยู่คะ อธิฐานบ่อย ๆ
แต่ไม่ได้อ่ะ
เพลงที่ส่งมา ความหมายดีจังเลย คะ
............ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ.................
#8
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 10:01 AM
- ในฐานะบุตรีคงต้องหาหนทางให้บุพการีเข้าใจว่า แม้เราอยู่ที่ กทม.เราก็สามารถอยู่รอดปลอดภัยให้ท่านคลายกังวล...เพราะจากประโยคที่ว่า
.........ตำหนิ kissy จนนอนไม่หลับ พอนอนไม่หลับ ก็นั่งเล่น อยู่ในห้อง kissy ก็โดน ติ ว่า ทำไมไม่ยอมนอน นอนได้แล้ว
- ยิ่งท่านทั้งสองยังแข็งแรง พลานามัยสมบูรณ์แล้ว น่าจะโล่งใจครับ แต่ถ้าสุขภาพท่านไม่ดีแต่มีพี่น้องคอยดูแลก็เบาใจ เมื่อมาเมืองกรุงฯก็ควรแจ้งข่าวให้ครอบครัวทราบเป็นระยะๆเพื่อมิให้ท่านเป็นห่วงกังวลใจ
- คงต้องพึ่งเพื่อนๆเมืองกรุงฯแล้วล่ะ เพราะนานไปมีแต่จะล้า
- มา กทม.ระหว่างหางาน ก็แวะมาวัดฯตั้งจิตอธิษฐาน หรือไปเข้าคอร์สอบรมระยะสั้นไว้ก่อน
- ขอให้ได้งานที่จุนเจือหล่อเลี้ยงตนเองได้ สวัสดิการดี ผู้ร่วมงานดีในทุกๆระดับ ที่ทำงานใกล้ที่พัก สำคัญคือหยุดงานวันอาทิตย์มาสร้างบุญบารมีได้สะดวก ปราศจากอุปสรรคทั้งมวล ฯลฯ
#9
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 10:16 AM
เพื่อน ๆ ในเมืองกรุง คงพึ่งไม่ได้อ่ะคะ เพราะ เค้ามี คู่ กันแล้ว
เคยขอความช่วยเหลือไปครั้งนึง แต่เค้าปฎิเสธ เค้าบอกว่า แฟนไม่ให้ มาเจอ
kissy ต้องไปเปิดห้องอยู่คนเดียว ไปไหน มาไหนคนเดียว
kissy คิดว่า kissy อยู่ได้นะ
#10
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 10:53 AM
ในฐานะที่เป็นพ่อคนเหมือนกัน ถ้าผมมีลูกสาว ก็คงพยายามให้เค้าอยู่ใกล้ตัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะในมุมมองของพ่อกับแม่ยังไงเราก็เป็นเด็กอยุ่วันยังค่ำ
ดังนั้นอันดับแรกทำใจก่อนครับ เพราะยังไงพ่อแม่ก็รักลูกมากที่สุดอยู่แล้ว
ต่อมาเรื่องการหางานทำ ไม่อยากแนะนำให้มาเปิดห้องหรือหอที่กรุงเทพแล้วมาอย่เพื่อหางานทำอย่างเดียวครับ จะมาอยู่หอได้เพียงกรณีเดียวคือได้งานทำแล้วเท่านั้น (ตอบอารมณ์แบบพ่อดุๆ หนะครับ) ยอมนั่งรถเมื่อมีการสัมภาษณ์งาน หรือมีงาน job fair เพราะชุมพรกับกรุงเทพมันก็ไกลพอสู้ และการอยู่หอคนเดียวแบบโดยที่ยังไม่มีงานทำ และไม่ค่อยรู้จักใครในกรุงเทพมันน่าเป็นห่วง
เรื่องการสมัครงาน แนะนำให้หางานจาก internet ครับ เลือกเฉพาะงานที่เราสนใจและบริษัทที่เราสนใจเท่านั้น ไม่สมัครแบบมั่วๆ เพราะถึงอย่างไร เท่าที่อ่านเราก็อยุ่ในวงบุญเหมือนกัน เรื่องหางานไม่ต้องลำบากใจเลยครับ เลือกได้ ๆ อันนี้ยืนยัน แต่นั่งสมาธิสวดมนต์ อธิฐานเยอะๆ นะครับ
สำหรับแผนการอันใกล้ ผมแนะนำเรื่องการชวนคนบวชในโครงการแสนรูปนี่หละครับ แล้วก็ลองถามๆ เรื่องการทำงานไปด้วย ผมว่าดีไม่ดี ไม่เกินต้นปีก็ได้งานแล้ว ส่วนแผนสำรองแนะนำให้ขึ้นมาธุดงค์ปีใหม่ ชวนคุณพ่อหรือคุณแม่มาด้วยนะครับ แล้วก็รู้จักกับเพื่อนใหม่เยอะๆ ลองถามเรื่องการตำแหน่งงาน ผมว่าเราเป็นเด็กไม่น่าเกลียดหรอกครับ แล้วงานสำหรับคนจบใหม่หาไม่ยากหรอกครับ เชื่อดิ
พี่เชื่อว่าไม่เกินเดือนมกราคม น้องได้งานที่ดีและอยากทำแน่นอน ฟันธง ฮ่า ฮ่า
บุญรักษานะครับ :-)
#11
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 11:20 AM
#12
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 11:41 AM
ดังนั้นอันดับแรกทำใจก่อนครับ เพราะยังไงพ่อแม่ก็รักลูกมากที่สุดอยู่แล้ว
ต่อมาเรื่องการหางานทำ ไม่อยากแนะนำให้มาเปิดห้องหรือหอที่กรุงเทพแล้วมาอย่เพื่อหางานทำอย่างเดียวครับ จะมาอยู่หอได้เพียงกรณีเดียวคือได้งานทำแล้วเท่านั้น (ตอบอารมณ์แบบพ่อดุๆ หนะครับ) ยอมนั่งรถเมื่อมีการสัมภาษณ์งาน หรือมีงาน job fair เพราะชุมพรกับกรุงเทพมันก็ไกลพอสู้ และการอยู่หอคนเดียวแบบโดยที่ยังไม่มีงานทำ และไม่ค่อยรู้จักใครในกรุงเทพมันน่าเป็นห่วง
คุณ @--แสงตะวัน--@
คิดเหมือนพ่อ kissy เลย
แบบนี้เลย
#13
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 02:36 PM
#14
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 03:07 PM
ยืนยันตัวจริงเสียงจริงเจ้าของกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
http://video.dmc.tv/programs/life_in_samsara/page5.html
หนังสือเรียนธรรมะ DOU http://book.dou.us/d...ya-book-gl.html
GL 101 จักรวาลวิทยา http://book.dou.us/gl101.html
GL 102 ปรโลกวิทยา http://book.dou.us/gl102.html
GL 203 กฎแห่งกรรม http://book.dou.us/gl203.html
GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์ http://book.dou.us/gl305.html
#15
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 04:04 PM
ลองถามตัวเองว่า เราชอบทำอะไร เอาสิ่งที่ชอบ ทำแล้วมีความสุข สุดท้าย ผลงานจะออกมาดีที่สุดจ้ะ
ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ทาน ศีล ภาวนา ทำไปเรื่อยๆ ถึงแม้ยังไม่เห็นผลทันที แต่ก็ต้องยิ่งให้ความสำคัญ เพราะบุญมาก อุปสรรคก็น้อย อุปสรรคมากก็เพราะบุญตามมาไม่ทัน ต้องรีบต่อสายบุญน่ะจ้ะ หนูจ๋า
นี้ยังโชคดี ไม่มีงานทำ แต่ยังข้าวกิน ก็เอาน่ะ ใจเย็นๆ
#16
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 04:33 PM
เตรียมความพร้อม
- อบรมคอมพิวเตอร์ เรียนภาษา ฝึกทักษะด้านต่างๆ
- จบบัญชี มีหรือยัง Certificate ต่างๆ TAX Auditor / ผู้ตรวจสอบภาษี / ประสบการณ์การลงงบประมาณ
- ระบบบัญชีที่ใช้เป็น หรือสนใจ
การสมัครงาน
- ต้องมีใบสมัครของตัวเอง ฉบับสมบูรณ์ (A4 ซัก สาม-สี่หน้า) ไทย/English
- Certificate ต่างๆ
- ใบรับรอง
- เอกสารสำคัญ
การสัมภาษณ์
- ....
อื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญใจต้องนิ่ง ก่อนไปสัมภาษณ์งานก็นั่งสมาธิเยอะๆ
เบื้องต้นแนะนำก็ลองมาหาการอบรมเพิ่มพูนความรู้ก่อน เช่น
- ปฏิบัติธรรมพิเศษ 7 วัน
- อบรมโครงการต่างๆ วันอาทิตย์ที่วัดมีเยอะมาก แต่อยู่ไกลก็ลองดูครับ ถ้ามาอาทิตย์ต้นเดือนได้ แนะนำให้มา
- อบรมสมาธิแก้ว หรือ ธรรมทายาทหญิง (2 เดือน) มีใบประกาศ
- หาทุนเรียนต่อต่างประเทศ แนะนำโครงการดวงตะวันสันติภาพ
งานช่วงนี้ หาไม่ง่ายแต่มีสำหรับผู้ที่พร้อมครับ เตรียมความพร้อมให้ตัวเองก็มีโอกาสมากกว่า นอกนั้นยังมีอบรมต่างๆ ภาครัฐที่ส่งเสริมกันอีกมาก ทั้งเรียนฟรีเรียนเสียเงิน ลองหาดูครับ
www.dbd.go.th
www.rd.go.th
#17
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 04:58 PM
ลองโทรมาหาพี่อ๋อยนะจ๊ะ พอดีที่โครงการคอนโดที่หัวหิน ต้องการประมาณ Customer service แต่ต้องเป็นภาษาอังกฤษด้วย
ช่วงปีใหม่จะต้องใช้งาน part time กำลังหาน้อง ๆ มาช่วยด้วยค่ะ ก็จะทำงานประมาณ 25/12/52 -1/1/53
8 วัน ไม่หยุดเลยนะจ๊ะ (ให้วันละ 400 บาท) ทำงาน 9.30 - 18.30 น. (ข้อเสีย อดไปธุดงค์ปีใหม่)
ถ้าสนใจคุยหลังไมค์ค่ะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#18
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 05:02 PM
ไม่ลองไปสมัครงาน เป็นครูสอนวิชาบัญชีที่ชุมพรล่ะครับ โดยเลือกเอาโรงเรียนที่มีโครงการเด็กดี V-star
จะรู้ได้อย่างไรล่ะ อ๋อ ก็โทรไปถามที่ชมรมพุทธสิครับ 02-831-1000
จากนั้น ก็ไปสมัครดู หากได้เป็นครู ก็อาสาไปร่วมเป็นครูช่วยโครงการเด็กดี V-star เลย เท่าที่ก็เรียบร้อย
เดี๋ยว V-star คราวหน้า ก็จะได้มาดู V-star 1 ล้านรวมพลังกันแล้วล่ะครับ
#19
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 05:34 PM
#20
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 05:51 PM
ขอขอบคุณ พี่ tnawut มาก ๆ นะคะ
kissy ลืมไปเลย ว่า มี TA กับ CPA
#21
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 06:43 PM
ได้งานอาชีพแล้ว...อย่าลืมงานของชีวิตที่คุณ Lucky Girl แนะไว้นะครับ
#22
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 06:56 PM
......
เคยคิดเล่นๆนะ ...ถ้าตกงานแล้ว จะทำยังไง (เคยจริงๆ)
...
ผมก็คิดว่า จะไปเป็นเด็กเสริฟร้านอาหาร ทำทุกอย่าง
ถูพื้น เช็ดโต๊ะ รับออเดอร์ เสริฟอาหาร ล้างจาน ฯลฯ
(คิดแบบ เด็กไปเรียนเมืองนอกอ่ะ) ไม่เกี่ยงค่าแรง
และเชื่อว่าด้วยความขยัน อดทน มีปัญญา ดูแลลูกค้าดี
เถ้าแก่ร้าน น่าจะรัก แล้วอาจให้ทำงานอื่นที่มีรายได้ดีขึ้น
อะไรแบบนี้ ...เชื่อว่า วันนึง อาจมีลูกค้าดีดี อยากได้คนดีไปทำงาน
อาจจะมาชวนเราไปทำงาน ตามที่เราเรียนมา หรือที่เค้าอยากให้ทำ
...ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตต้องสู้...
....
สาธุ สาธุ
#23
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 07:19 PM
แล้วก็ขอเก็บชั่วโมง สอบเป็น CPA ช่วงนั้น มีการปรึกษา อาจารย์ อย่างใกล้ชิด
และ kissy ไปขอเวลาอาจารย์ เพื่อติว กับอาจารย์ เป็นการส่วนตัว ในเรื่องข้อสอบ CPA และ TA
นั่นละครับ ตรงเป้าที่เรียนมา ติดปีก TA ก็ทำอะไรได้เยอะแล้ว... ได้ข้อมูลดีๆ แล้วอย่าลืมมาเอาบุญธุดงค์ปีใหม่นะ
#24
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 07:23 PM
-
#25
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 08:02 PM
คุณยายทองสุขค้าขายอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง มีแต่ขาดทุน
หลวงปู่เลยบอกว่า "เค้าไม่ได้ส่งเอ็ง มาทำอย่างนั้น"
อะไรประมาณนี้อะครับ ถ้าจำไม่ผิด
ยังไงถ้ายังไม่ได้งานจริงๆ ลองมาช่วยงานที่วัดได้นะครับ
"ก็เรามันเกิดมาสร้างบารมีนี้หน่า"
สู้ๆ ครับ
วินัย เคารพ อดทน
#26
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 08:29 PM
ว่าเพราะเหตุใด จึงไม่คิดไปปฏิบัติธรรม 7 วัน
การจะได้งาน ไม่โดนตำหนิ ไม่โดนว่า ก็ต้องใช้บุญเหมือนกัน
น้องบอกว่า ตอนนี้น้องทำทั้ง ทาน ศีล และภาวนา แล้ว แต่ชีวิตก็ยังไม่ดีขึ้นแบบเห็นผลชัดเจน นั่นแสดงว่าบุญที่น้องทำที่ผ่านมานั้น ยังไม่มากพอ ทางแก้มีสองทางก็คือ อดทนต่อไป หรือสั่งสมบุญให้มากๆๆขึ้น
ซึ่งพี่ขอเสนอแนวทางที่สอง คือสั่งสมบุญให้มากขึ้น และพี่ขอเสนอให้ไป ปฏิบัติธรรม 7 วัน
แม้น้องจะบอกว่า น้องเองก็ไปทำทานอยู่ทุกอาทิตย์แล้ว แต่กำลังบุญที่ได้มันเทียบไม่ได้กับการนั่งสมาธิแล้วใจหยุดนิ่งนะจ๊ะ
บุญที่ได้จากการทำทาน กับบุญที่ได้จากการทำสมาธิแล้วใจหยุดนิ่งนั้น มีกำลังบุญต่างกันเป็นพันเท่า หมื่นเท่า
พี่แน่ใจว่า การที่น้องนั่งสมาธิอยู่ที่บ้านนั้น ไม่สามารถทำใจให้หยุดนิ่งได้เท่ากับไป ปฏิบัติธรรม 7 วัน แน่ๆ
เพราะอะไรจึงพูดแบบนี้ เพราะว่า พี่เคยเจอกับตัวเองมาก่อน พี่เห็นเพื่อนๆ ของพี่ และการที่น้องบอกว่าน้องเครียดจนนอนไม่หลับ...นั่นเป็นการยืนยันได้อย่างดี ว่าน้องไม่สามารถทำใจให้สงบได้ นั่นทำให้มองต่อไปได้ว่า...น้องนั่งสมาธิแล้วใจคงไม่ค่อยหยุดนิ่ง ใจไม่ใสเท่าไหร่
พี่ขอยืนยันนะ รวมทั้งนั่งยัน นอนยันด้วยก็ได้ เพราะว่าน้องไม่ยอมไปปฏิบัติธรรม 7 วันซะที
ว่า....ถ้าน้องยอมไปปฏิบัติธรรม 7 วัน หลังจากนั้นชีวิตของน้องจะต้องมีสิ่งที่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนว่าจะดีขึ้นมากหรือน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าระหว่างการปฏิบัติธรรมนั้น ใจของน้อง kissy นิ่งมากแค่ไหน
อ้อ...สุดท้าย...ถ้าตัดสินใจไปปฏิบัติธรรม 7 วันนะ ขอแนะนำให้ทิ้งเรื่องต่างๆ ไว้ข้างหลังให้หมด ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น และให้ปิดโทรศัพท์ด้วย แล้วก็มุ่งแต่นั่งสมาธิอย่างเดียวก็พอ เรื่องอื่นเอาไว้หลังจากเลิกนั่งสมาธิแล้ว
พ่อแม่จะยังเห็นว่าลูกเป็นเด็กเสมอ แม้ว่าลูกจะโตจนผมหงอก ลูกที่โตแล้วก็ต้องอดทน และพิสูจน์ตัวเอง ให้พ่อแม่เชื่อใจ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#27
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 09:42 PM
ว่าเพราะเหตุใด จึงไม่คิดไปปฏิบัติธรรม 7 วัน
คิดซิคะ...
แต่ สิ้นปีนี้ 4 วัน ติดปฎิบัติธรรม ที่วัด แถว กุยบุรี คะ
#28
โพสต์เมื่อ 17 December 2009 - 09:56 PM
#29
โพสต์เมื่อ 18 December 2009 - 01:13 AM
#30
โพสต์เมื่อ 18 December 2009 - 02:00 AM
ให้สมมุติว่า ที่ผ่านมาคุณพ่อคุณแม่ ทำถูกทุกอย่าง ไม่มีข้อบกพร่อง หรือตกหล่นอะไรเลย
ให้ลองไปคิดดู ว่าตัวเองผิดพลาดตรงไหน ที่ทำให้พ่อแม่ห่วง และหวง และตำหนิ ในสิ่งที่น้องทำ ในสิ่งที่น้องเป็น
ส่วนเรื่องงาน อยากจะให้ความเห็นในมุมมองของนายจ้างดังนี้
ปริญญาบัตร ไม่ใช่ facter หลักในการพิจารณาการให้งาน ปริญญาบัตรเป็นแค่บัตรผ่านทางเท่านั้น
งานบางงานอาจไม่จำเป็นต้องได้ปริญญา ให้คนจบ ปวช. ปวส. ก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องจ้างคนจบปริญญาให้เปลืองงบบริษัท
ปริญญาบัตร ไม่สามารถบอกนิสัย ใจคอ ความมานะ ความอดทน ความมีมนุษยสัมพันธ์ของผู้เป็นเจ้าของได้
ผู้ สอบที่ได้คะแนนข้อเขียนมากที่สุด ไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้ได้งานเสมอไป เพราะบางที่ไม่ได้พิจารณาเลือกคนเข้าทำงานโดยดูที่คะแนนสอบข้อเขียนอย่าง เดียว
พ่อแม่ ครอบครัว สภาพแวดล้อมของตัวผู้สมัคร มีผลต่อคะแนนสอบสัมภาษ สำหรับบางบริษัท และสำหรับงานบางตำแหน่ง
บุคลิค การวางตัว นิสัยใจคอ เป็น facter หลักในการจ้างงานสำหรับบางตำแหน่ง(หลักจากดูวุฒิการศึกษาหรือผ่านการทดสอบขั้นพื้นฐานแล้ว)
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป