คำสอนของหลวงพ่อขัดกับพระไตรปิฎกจริงหรือ
#31
โพสต์เมื่อ 11 October 2006 - 12:53 PM
แล้วทำไงล่ะ ถึงจะรู้แน่ชัด อ๋อ ต้องระลึกชาติไปดูครับ ไปดูตอนหลังจากที่กัปเริ่มต้นขึ้น กำเนิดโลกใหม่ออกมาเรียบร้อย ตอนนั้น ไก่หรือไข่กันแน่ทีเกิดก่อนกัน
อ้าวแล้วถ้าไปดูแล้ว เห็นแล้ว สมมุติเห็นว่า ไก่เกิดก่อนไข่ แล้วไปบอกคนอื่น ใครเขาจะเชื่อเหรอ
ก็ใช่นะสิครับบอกไปใครจะเชื่อ ยกเว้นเชื่อใจกันอยู่ก่อนแล้ว(พวกคิดที่เหมือนกัน) มันเป็นของรู้ได้เฉพาะตน เห็นได้เฉพาะตน เหมือนดังเรื่องนิพพานนี่แหละครับ
#32
โพสต์เมื่อ 11 October 2006 - 01:40 PM
หากปฏิเสธนิพพาน ว่าไม่มีอยู่ ..นั่นคือปฏิเสธเป้าหมายสูงสุดของพุทธศาสนา นั่นแล
ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่
เมื่อนั้น ความสงสัยทั้งปวงของพราหมณ์ย่อมสิ้นไป
เพราะมารู้แจ้งธรรมพร้อมทั้งเหตุ
(พุทธอุทาคาถา วินัย มหาวรรค มหาขันธกะ ๔/๑/๒)
.ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ
#33
โพสต์เมื่อ 11 October 2006 - 01:44 PM
ว่างก็มี
[quote]NOT สุข = ทุกข์[/quote]
ว่าง
[quote]NOT ความไม่เที่ยง = ความเที่ยง[/quote]
ว่าง
[quote]NOT ความเที่ยง = ความไม่เที่ยง[/quote]
ว่าง
[quote]NOT นิจจัง = อนิจจัง[/quote]
ว่าง
[quote]NOT ทุกขัง = สุขขัง[/quote]
ว่าง
[quote]NOT สุขขัง = ทุกขัง[/quote]
ว่าง
[quote]NOT อนัตตา = อัตตา[/quote]
ว่าง
[quote]NOT อัตตา = อนัตตา[/quote]
ว่าง
[quote]NOT ควรแสวงหา = ไม่ควรแสวงหา[/quote]
ว่าง
[quote]NOT ไม่ควรแสวงหา = ควรแสวงหา[/quote]
อันนี้ก็ว่าง อีกแล้วแหะ^^
----------------
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#34
โพสต์เมื่อ 11 October 2006 - 01:48 PM
oองบีก็มีเพื่อนที่เค้าอคติกับวัดเหมือนกันค่ะ เค้าคงได้ยินข่าวที่วัดถูกใส่ร้ายต่างๆนาๆมาเยอะ น้องบี๊ก็อธิบายให้เขาฟังพอเข้าใจ ว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนี้จากเห็นผิด ใจเขาก็เริ่มเป็นกลางแล้วค่ะ บีบอกเขาว่า เมื่อก่อนบีก็เคยได้ยินข่าววัดเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มีอคติอะไร จนคุณแม่พามาที่วัด มาดูมาเห็น มาทำด้วยตัวเอง จึงได้รู้ว่าที่แห่งนี้มีดีอย่างไร ที่นั่งสมาธิแล้วเห็นดวงแก้วนั้นก็เห็นจริงๆค่ะ นั่งครั้งแรกเห็นเลย (ปลึ้มจัง) แต่หลังจากนั้นก็ตกใจ ดวงแก้วก็หายไปเลย -*- แต่ตอนนี้น้องบีก็นั่งสมาธิอยู่สม่ำเสมอค่ะ แล้วก็ชักชวนให้เพื่อนๆนั่งด้วย บอกประโยชน์ของการนั่งให้เขาฟัง เขาก็เชื่อเพราะผลมันเกิดขึ้นแล้วกับตัวบีเอง เรื่องบุญบาปกฏแห่งกรรมก็เหมือนกันค่ะ ถ้ามีโอกาสบีก็พยายามอธิบายว่าเนี่ย ตบยุงเนี่ยถึงเป็นชีวิตเล็กๆก็เป็นการฆ่าเหมือนกันนะ ฯลฯ มีความสุขที่ได้บอกให้คนอื่นๆเข้าใจวัดมากขึ้นค่ะ ^^
#35
โพสต์เมื่อ 11 October 2006 - 03:10 PM
สาธุค่ะ
#36
โพสต์เมื่อ 11 October 2006 - 03:34 PM
#37
โพสต์เมื่อ 11 October 2006 - 05:29 PM
#38
โพสต์เมื่อ 11 October 2006 - 05:33 PM
#40
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 10:37 AM
#41
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 11:40 AM
สาธุๆๆๆๆ (ลูกพระธัมฯ)
#42
โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 02:40 PM
Now I am proudly called myself a 100% "ลูกพระธัมฯ".
If anyone ever thinks Luangpor' Dhammachaiyo's teachings are wrong, it is not his/her time yet. It is the duty of all Kallayanamitr to be the guiding light.
#43
โพสต์เมื่อ 29 January 2008 - 10:01 PM
การถวายข้าวพระพุทธเจ้า สามารถกระทำได้ ทั้งตอนที่มีกายเนื้อ และไม่มี กายเนื้อ แม้ตอนมีกายเนื้อ ถ้ามีเหล่าบรรดาบุคคล ที่มีความศรัทธา เป็นจำนวนมากเรือนแสน ในแต่ละวัน จะถวายข้าว และอาหาร แด่พระพุทธองค์ พระพุทธองค์ ก็รับฉัน ได้เพียงแค่อิ่ม เท่านั้น แล้วแบบนี้ บุคคลอื่นๆที่ถวายอีกเป็นจำนวนมากด้วยความศรัทธาจะมีประโยชน์ อันใด
ดังนั้น การถวายข้าวพระแมนพระพุทธองค์ จะทรงมีกายเนื้อ หรือไม่ก็ตาม ความสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนี้ ความสำคัญอยู่ที่ บุคคลใดก็ตามที่ถวายข้าวพระด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า บุคคลนั้นรับบุญไปเต็มๆ
พระพุทธเจ้า และพระอรหันตื ครั้นเมื่อดับขันธ์ห้า ทุกๆพระองค์ล้วนอยู่ภายในพระนิพพาน ถ้าหากบรรลุพระอรหันต์ ครั้นเมื่อดับขันธ์ห้าแล้วสูญหมด เราจะปราถนาไปนิพพานไปทำไมกัน เพราะดับแล้วสูญ แต่ความเป็นจริงแล้ว ครั้นเมื่อเข้าพระนิพพานแล้ว จะเข้าศูนย์กลางอายตนนิพพานตางหาก นิพพานจึงเป็นสุขอย่างยิ่ง
สมองของมนุษย์นั้นคิดได้แต่เพียงหยาบๆ เหมือนกายหยาบเท่านั้น การบรรลุไม่ใช่การคิดเอาเอง ว่าใช่หรือไม่ใช่ หากแต่การบรรลุธรรมนั้น เกิดขึ้นเองจากสภาวะ จิตเป็นศูนย์ เข้าศูนย์ได้ตรงพอดี เหมือนเลฃศูนย์ นั้นและ เลขศูนย์อยู่ หน้า หรือ อยู่หลัง ล้วนมีค่าในตัวของมัน อยู่หน้า เป็นศูนย์ แห่งความเป็นอิสระ เป็น นิพพาน อยู่หลังเป็นศูนย์ ที่กำลังสะสมบารมีอยู่ เหมือนคำพูดของเราจับต้องไม่ได้ แต่มีพลังอำนาจเมื่อคำพูดนั้น มาจากผู้ที่มีบารมี เช่นคำพูด ของกษัติย์ มีผู้คนสนใจฟังทั่วประเทศเป็นต้น
ขอท่านทั้งหลายจงเข้าถึงธรรมะเทอญ สาธุ
#44
โพสต์เมื่อ 29 January 2008 - 10:09 PM
การถวายข้าวพระพุทธเจ้า สามารถกระทำได้ ทั้งตอนที่มีกายเนื้อ และไม่มี กายเนื้อ แม้ตอนมีกายเนื้อ ถ้ามีเหล่าบรรดาบุคคล ที่มีความศรัทธา เป็นจำนวนมากเรือนแสน ในแต่ละวัน จะถวายข้าว และอาหาร แด่พระพุทธองค์ พระพุทธองค์ ก็รับฉัน ได้เพียงแค่อิ่ม เท่านั้น แล้วแบบนี้ บุคคลอื่นๆที่ถวายอีกเป็นจำนวนมากด้วยความศรัทธาจะมีประโยชน์ อันใด
ดังนั้น การถวายข้าวพระแมนพระพุทธองค์ จะทรงมีกายเนื้อ หรือไม่ก็ตาม ความสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนี้ ความสำคัญอยู่ที่ บุคคลใดก็ตามที่ถวายข้าวพระด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า บุคคลนั้นรับบุญไปเต็มๆ
พระพุทธเจ้า และพระอรหันตื ครั้นเมื่อดับขันธ์ห้า ทุกๆพระองค์ล้วนอยู่ภายในพระนิพพาน ถ้าหากบรรลุพระอรหันต์ ครั้นเมื่อดับขันธ์ห้าแล้วสูญหมด เราจะปราถนาไปนิพพานไปทำไมกัน เพราะดับแล้วสูญ แต่ความเป็นจริงแล้ว ครั้นเมื่อเข้าพระนิพพานแล้ว จะเข้าศูนย์กลางอายตนนิพพานตางหาก นิพพานจึงเป็นสุขอย่างยิ่ง
สมองของมนุษย์นั้นคิดได้แต่เพียงหยาบๆ เหมือนกายหยาบเท่านั้น การบรรลุไม่ใช่การคิดเอาเอง ว่าใช่หรือไม่ใช่ หากแต่การบรรลุธรรมนั้น เกิดขึ้นเองจากสภาวะ จิตเป็นศูนย์ เข้าศูนย์ได้ตรงพอดี เหมือนเลฃศูนย์ นั้นและ เลขศูนย์อยู่ หน้า หรือ อยู่หลัง ล้วนมีค่าในตัวของมัน อยู่หน้า เป็นศูนย์ แห่งความเป็นอิสระ เป็น นิพพาน อยู่หลังเป็นศูนย์ ที่กำลังสะสมบารมีอยู่ เหมือนคำพูดของเราจับต้องไม่ได้ แต่มีพลังอำนาจเมื่อคำพูดนั้น มาจากผู้ที่มีบารมี เช่นคำพูด ของกษัติย์ มีผู้คนสนใจฟังทั่วประเทศเป็นต้น
ขอท่านทั้งหลายจงเข้าถึงธรรมะเทอญ สาธุ
#45
โพสต์เมื่อ 31 October 2008 - 04:45 PM