รบกวนถามผู้มีบุญทั้งหลาย
#1
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 12:40 PM
#2
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 12:54 PM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#3
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 01:53 PM
2 พยายามให้เขาติด dmc แล้วเขาจะสามารถคิดด้วยตัวเองได้
3 ตักเตือนด้วยความหวังดี ว่ามันไม่ถูกต้องตามหลักจริยธรรม จรรยาบรรณ หรืออะไรก็ว่าไปแล้วก็ค่อยๆ พูดคุยด้วยปิยวาจา
4 ถ้าเตือนด้วยความหวังดีแล้วก็เฉยอยู่ ควรแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อตักเตือนต่อไป
5 หากผู้บังคับบัญชาทราบแล้วยังนิ่งเฉยดูดาย หรือเตือนแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ยังทำพฤติกรรมเช่นเดิมอีกก็ต้องส่งเรืองไปยังองค์กรที่เกี่ยวข้อง
6 หากยังไม่ได้เรื่องอีก ก็ส่งเรื่องไป สคบ. หรือองค์กรสมาชิกวุฒิสภา หรืออะไรซักอย่าง ที่ป๋าเปรมออกมาเป็นพรีเซนเตอร์น่ะค่ะ
7 หากยังไม่ได้ผลอีก ก็ปล่อยไปก่อนก็แล้วกันค่ะ หาทางเกลี้ยกล่อมแบบอาศัยระยะเวลาเข้าช่วยค่ะ ปิดนรก เปิดสวรรค์ให้เขาดีกว่านิ่งดูดายนะคะ
8 หรือหาพวกที่ไม่เห็นด้วย ตั้งกลุ่มกันขึ้นมา แล้วทำการประท้วงซะเลย ให้มันรู้เห็นกันไปให้หมด ทั้งโรงพยาบาล ออกข่าวหน้าหนึ่ง ให้เห็นดำเห็นดีกันไปเลย
ปล.ข้อ 4-6,8 เป็นการทำแบบเสี่ยงว่าตัวเองจะเกิดศัตรูโดยอัตโนมัติ แต่โดยส่วนตัวนะคะ ถ้าเป็นดิฉัน ดิฉันก็ขอยอมตายเพื่อพิทักษ์ความดีค่ะ ดีกว่าปล่อยให้คนไข้นับร้อย, พัน, หมื่นรายที่หวังมาพึ่งหมอ ต้องมาเสียเงินค่ายาแบบไม่จำเป็นไปฟรีๆ แล้วก็ไม่หาย หรือรักษาผิดโรคค่ะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#4
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 01:56 PM
#5
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 04:13 PM
ปุจฉา มีรุ่นน้องหมอที่รู้ชัดว่ารับเงินบริษัทยา เพื่อที่จะสั่งยาให้คนไข้มากๆ
วิสัชนา เรื่องนี้มีมูลมานาน เพราะกระทรวงสาธารณสุขคงทราบภาพรวม จึงกำหนดให้แพทย์หรือองค์กร สมาคมแพทย์รับสินตอบแทนที่ไม่ใช่การประชุมทางวิชาการ เช่น การเลี้ยงอาหาร ได้ไม่เกิน 3พันบาท ถ้าเลี้ยงเกินเขาก็จะออกบิลเป็น 2ครั้งๆละไม่เกิน 3พันบาท อย่างไรก็ตามหากเวชภัณฑ์นั้นเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษา คงเอาผิดเขาไม่ได้ครับ แต่คุณหมอต้องระวังในเรื่องหมิ่นประมาทด้วยนะ หากคุณหมอไม่มีหลักฐานแล้วเขารู้ว่าคุณหมอเป็นผู้กระจายข่าว เขาอาจกลับมาเล่นงานคุณหมอได้ครับ
ปุจฉา ระยะหลังเค้าสั่งยาโดยที่ไม่มีข้อบ่งชี้ เพียงเพื่อสร้างยอด
วิสัชนา ก็คงต้องนำกรณีศึกษานี้เข้าที่ประชุมแพทย์ ถามเขาตรงๆในที่ประชุมครับว่ามีข้อบ่งชี้อะไร จะเกิดผลเสียกับผู้ป่วยหรือไม่ อาจมีคนไม่ชอบเขาช่วยเราร่วมซักไซร้ไล่เรียง
ปุจฉา ผมเป็นหมอคนนึง แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่ ได้ส่งเรื่องให้องค์กรแพทย์ แต่บอกแบบปากเปล่า แต่เค้าก็รับฟังได้ เพราะเค้าก็ได้ข้อมูลมาบางส่วน แต่ก็ยังไม่ทำอะไร
วิสัชนา บอกแบบปากเปล่าอาจไม่ช่วย แต่ถ้าเป็นเอกสารร้องเรียนจากผู้ป่วยที่เสียหายจากการรักษาของเขาจะเป็นประโยชน์มากกว่าครับ คงต้องรอให้น้ำหนัก(กรรม)มากขึ้นเรื่อยๆครับ หรือน้องหมอคนนี้อาจถูกเชิญไปคุยแล้วก็เป็นได้
ปุจฉา มีคนสนิทกับผมบอกว่าอย่าไปยุ่งเลย เจ็บตัวเปล่าๆ ผมจะทำอย่างไรดี ปล่อยเฉย ไม่ใช่เรื่องของผม ...ซึ่งผมเองก็อยู่เฉยไม่ค่อยได้ เพราะมีผลกระทบต่อคนไข้ ถ้าทำอะไรไป จะเป็นการถูกเค้าจองเวรหรือ เปล่า จะทำอย่างไรดี รบกวนช่วยชีแนะหน่อยครับ
วิสัชนา ถ้าทำอะไรเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ผู้ป่วยเป็นสำคัญนั้นเป็นกุศล แต่อย่าลืมครับว่าคนพาลที่มีการศึกษาไม่รู้ผิดชอบชั่วดี หรือคนฉลาดแกมโกงนั้นยังแฝงอยู่ในทุกวิชาชีพ ไม่ควรทำอะไรโดยลำพังครับต้องรวมกลุ่มผู้มีอุดมการณ์เข้าไว้ เนื่องจากคนพาลมักมีกลุ่มขณะที่คนดีๆมักไม่รวมตัวกัน การส่งเรื่องให้องค์แพทย์นั้นโปร่งใส ถูกต้องแล้ว แต่เนื้อหาควรเน้นผลเสียที่ผู้ป่วยได้รับเป็นหลัก ไม่ควรเน้นเรื่องระหว่างเรากับเขาซึ่งอาจเป็นช่องทางให้เขาแว้งกัดเราได้ว่า"เราไม่ชอบเขาส่วนตัว หรือ เราหาทางกลั่นแกล้งเขา" การจองเวร ผูกพยาบาท เป็นเรื่องของเขา แต่เราต้องอธิษฐานล้อมกรอบไว้ มิให้ผลการจองเวรทำอะไรกับเราและครอบครัวได้แม้กระทั่งเส้นขน(แบบชาติแรกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์เกิดเป็นพ่อค้าได้รับการผูกพยาบาทจากพระเทวทัต)
#6
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 04:17 PM
เพราะทนเห็น สิ่งชั่วร้ายไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่นี่ที่เดียว แต่เกิดหลาย ๆ ที่ เพราะ
ว่า ตั้งคนไม่ดีเป็นผู้นำ ถ้าใครไปเจออย่างนี้เข้ารับรองได้ว่าพูดไม่ออกครับ เพราะมีแต่ทาง
แพ้ถึงชนะก็มีศัตรูมากมาย ในสังคมเรายังขาดเครือข่ายคนดี เพื่อร่วมด้วยช่วยแก้ไขเรื่องเหล่านี้
ลำพังคนเดียวคงจะแก้ไม่ไหว เครือข่ายที่มีอยู่ก็ไม่สามารถช่วยได้ง่าย ๆ เพราะคุณจะต้องไป
หาหลักฐานให้พร้อม บางทีหลักฐานบางอย่างก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ หรือไม่พอ ก็ยังทำอะไรไม่
ได้อยู่ดี โดยเฉพาะหัวหน้าหน่วยงานจะมีหลักฐานมากที่สุด
#7
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 08:38 PM
ก่อนอื่น ชักชวนให้เขาทำความดีร่วมกับเรา แบบน้อย ๆ ก่อน เช่น ถวายสังฆทาน ปล่อยปลา
แล้วค่อย เพิ่มระดับความดี จนเห็นว่าเขาเข้าใจความดีมากขึ้น
แล้วบอกเขาถึงสิ่งที่เขาทำนะครับ
ต้องใช้ความพยายาม ความอดทน และ เวลา
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
#8
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 09:01 PM
#9
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 12:36 AM
#10
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 01:59 PM
#11
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 04:45 PM
เคย เจอ เหมือน กัน ค่ะ..
เพื่อน ไม่ สบาย เจ็บ คอ แล้ว ไอ มาก
ไป หา หมอ ..หมอ ก็ วัด ปรอท ถาม อาการ
แล้ว จ่าย ยา ให้ ค่ะ..
แต่ รู้ ไหม คะ สั่ง จ่าย ยา ให้ เพื่อน แอ๊ค ถึง
15 ชนิด
เพื่อน ขำ กลิ้ง เลย
แล้ว ก็ ไม่ กล้า กิน ยา พวก นั้น
จำ เป็น ต้อง ไป หา หมอ คน ใหม่
ตรวจ อีก รอบ ให้ ชัวร์ ชัวร์
หมอ ให้ ยา Over เกิน ไป
ลด ความ น่า เชื่อ ถือ และ ไว้ วาง ใจ ไป เลย
....
ส่วน เหตุ การณ์ ที่ พี่ เจอ
พี่ ๆ ข้าง บน ให้ คำ แนะ นำ ดี ดี
ไป แล้ว จ้า
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#12
โพสต์เมื่อ 23 June 2006 - 12:08 AM
เราผู้ป่วย ก็หวังพึ่งหมออย่างคุณหมอล่ะค่ะ
ที่รักษาคนไข้เพื่อให้เขาหายเป็นปกติจะได้อยู่สร้างบารมีไปนานๆ
ไม่ได้รักษาคนไข้เพื่อทำยอดบัญชี..เฮ้อ...น่าละอายใจแทน
การช่วยเหลือเขาให้กลับมาเห็นถูก ไม่ว่าจะบอกตรงๆ หรือผ่านความเห็นสมาคมฯ
คุณหมอก็ได้บุญเต็มๆค่ะ
หรือแม้จะการเจ็บตัว อย่างที่คุณหมอกลัว คุณหมอก็ยังได้บุญเต็มๆค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ให้ได้บุญเยอะๆ
ให้เป็นที่พึ่งของคนป่วย
ให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในค่ะ
#13
โพสต์เมื่อ 07 March 2007 - 02:10 PM