นำบุญงานคุ้มครองโลก 22 เมษา 49 มาฝากทุกคนที่ไม่ได้ไปร่วมงานครับ
#1
โพสต์เมื่อ 22 April 2006 - 11:39 PM
1) พิธีเจริญพระพุทธมนต์กลั่นมหารัตนวิหารคด
2) ถวายไทยธรรมวัดทั่วประเทศมากกว่า 10,000 วัด พระนับ 100,000 รูป
3) พิธีหล่อพระธรรมกายประจำตัว 100,000 องค์
สำหรับผู้ที่ติดภาระกิจไปร่วมงานไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกพระธัมฯ ที่อยู่ต่างแดนครับ ผมเอาบุญทั้งหมดของวันนี้มาฝากทุกคนด้วยนะครับ
อนุโมทนาบุญซึ่งกันและกันนะครับ...สาธุ สาธุ สาธุ
#2
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 05:48 AM
#3
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 07:02 AM
#4
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 07:12 AM
#5
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 09:00 AM
รวมถึงการแสดงพลุที่สวยงามมากๆ และชื่นใจกับเหรียญ "รวยอัศจรรย์"
น่าเสียดายที่ผู้มีบุญหลายท่านไม่ได้อยู่ส่งพระสงฆ์ก่อน
ทำให้บรรยากาศดูยุ่งเหยิงไปเล็กน้อย เพราะพระสงฆ์เดินปะปนกับโยม
อยากให้ทุกท่านได้รับบุญเพิ่มขึ้นไปอีกจาก 3 บุญใหญ่ คือ บุญในการส่งพระสงฆ์ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ
#6
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 10:00 AM
ระบบเสียงน่าจะมีการขัดข้องนิดหน่อย การกระจายเสียงจึงไม่ทั่วถึงทำให้บางท่านออกมาก่อน
พระสงฆ์
ดีใจได้รับเหรียญรวยอัศจรรย์มาด้วยเอาไปบูชาที่ร้านเหมาะเลย
#7
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 10:07 AM
#8
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 11:07 AM
แต่ถ้าฝนไม่ตก ไม่ให้ความชุ่มเย็นฉ่ำ งานหล่อพระคงจะร้อนอบอ้าวกว่านี้
แม้ผมจะพลัดหลงกับคุณแม่ พี่น้องที่มาวัดตั้งแต่เช้า เนื่องจากสัญญานมือถือเต็ม แต่ผมก็ได้ร่วมถวายจตุไทยธรรมพร้อมกับทุกท่าน
ขณะที่ผมมองหาครอบครัว พิธีกำลังเริ่ม ก็มีอุบาสิกาท่านหนึ่งเรียก"คุณ คุณ ตรงนี้ไม่มีคนถวายของให้พระ"ผมจึงตัดสินใจนั่งตรงเสา ดี2 ขณะนั่งอยู่ผมก็ไม่ได้สนใจเสียงพลุกพล่าน เมื่อถึงเวลาถวายสาธุชนที่ถวายของข้างๆผมหยิบเครื่องไทยธรรมกัน ส่วนผมหันหลังไปมองก็เห็นสาธุชนท่านอื่นนั่งด้านหลังผมอยู่ จึงตัดสินใจแจกจ่ายย่ามให้คุณป้าท่านหนึ่งอธิษฐาน ท่านดีใจมากที่ผมให้ย่าม ส่วนกล่องยากับเหรียญที่ระลึกผมก็ยกให้อุบาสิกาที่อยู่ข้างหลัง อีกท่านหนึ่งผมก็นำร่มให้ แม้ผมไม่รู้จักใครแต่ผมกลับได้ความรู้สึกถึงบรรยากาศแบบครอบครัว ที่ได้ร่วมถวายโดยมีพระภิกษุจาก วัดสลัก จังหวัดตราดเป็นผู้รับสังฆทานนี้
นำบุญและบรรยากาศบางส่วนมาฝากครับ เริ่มจากภาพขบวนเวียนรอบมหารัตนะวิหารคด นำโดย 4พระรัตตัญญู ผู้รู้ราตรีอันยาวนาน
หลังฝนตก ฟ้าก็ใส
บรรยากาศเป็นใจ ใจใสใสเพิ่มพูนบุญ
จุลเศรษฐี มหาสุวรรณนิธิ ฉันจะหย่อนเพื่อนำเธอไปเป็นส่วนหนึ่งขององค์พระภายนอกแล้วนะ
ใกล้เวลาแล้ว
ฟ้าเป็นรอย ฉลองหลังงานบุญ
ปิดท้ายด้วย การอธิฐานจิตแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ ร่วมรอส่งพระภิกษุ
สาธุ....สาธุ.....สาธุ
ไฟล์แนบ
#9
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 11:27 AM
คือว่าตอนถวายไทยธรรมให้แก่พระภิกษุสงฆ์ 10.000 วัด นั้นเป็นช่วงน่าปลิ้มใจมากค่ะ แต่ในขณะที่กำลังสวดมนต์อยู่ก๊ได้ยินเสียงรองเท้าลาก แกรกกกกกกก แกรกกกกกกกกกก เสียสมาธิไปหน่อยนึง ลองแลตาดูเห็นเป็นน้อง ๆ เจ้าหน้าที่เขากำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน เราก็เข้าใจ
จึงมาเล่าสู่กันฟังค่ะ และอยากรบกวนผู้ที่เกี่ยวข้องให้สร้างวัฒนธรรมการเดินเบา เดินไม่ลากเท้า เดินให้เงียบเชียบประดุจช้างย่างกรายไปบนปุยนุ่น (ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ที่เดินเงียบที่สุดในพงไพร) โดยเฉพาะกับท่านเจ้าหน้าที่ ที่ต้องมีกิจเดินไปมาระหว่างพิธีการค่ะ พิธีการจะได้ศักดิ์สิทธ์ยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ
ขอบคุณค่ะ นำบุญมาฝากทุกทุกท่านด้วยเช่นกันค่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 12:54 PM
ผมก็ไปร่วมงานไม่เห็นมีใครนำมาแจกเลยหนิครับ งง เจงๆ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#11
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 12:56 PM
อนุโมทณาสาธุค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 01:08 PM
สาธุ
#13
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 02:21 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
#14
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 02:57 PM
ผมเห็นสาธุชนบางส่วนไม่ได้เดินเข้าศูนย์กลางพิธีตอนหล่อพระ แต่เห็นนั่งร่วมประกอบอยู่ในส่วนที่เป็นวิหารคดแทน ดังนั้นผู้ที่ร่วมพิธีกรรมอยู่ในวิหารคด หรือ นั่งอยู่ที่สภา ก็จะไม่ได้เหรียญที่ระลึกครับ ดังนั้น สำหรับงานต่อไป ขอให้ทุกคนไปอยู่ในส่วนศูนย์กลางพิธีทุกงานบุญตามที่โฆษกประกาศครับ ก็จะได้รับแจกของที่ระลึกครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#15
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 03:21 PM
#16
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 03:29 PM
จะแจกพระอย่างไรที่ไหนแบบนี้
สาธุชนที่มาใหม่คงตรัสรู้ได้เองกระมังครับ 555+
ความจริงน่าจะแจกขณะนั่งนะครับ ให้พระท่านเดินแจกหลังจากหย่อนสุวรรณนิธิก็ได้หนิครับ
ไม่เป็นรัยครับเหรียญรวยอัศจรรย์ไม่ได้แต่ก็ยังได้ที่ระลึกพระธรรมกายประจำตัวครับ แก้ขัดได้ครับ หุหุ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#17
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 03:30 PM
#18
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 03:55 PM
อย่าใจขุ่นนะครับ ที่ไม่ได้เหรียญที่ระลึก แต่ก็ได้บุญไปเต็มๆ ครับ ใจขุ่นเดี๋ยวบุญหกหมด แล้วก็อนุโมทนาบุญสำหรับการสร้างพระธรรมกายประจำตัวด้วยนะครับ...สาธุ สาธุ สาธุ
ที่คุณ xlmen เสนอมาว่า ให้พระเดินแจกเหรียญตอนหลังจากหย่อนมหาสุวรรณนิธินั้น ผมคิดว่า การทำแบบนั้นไม่น่าจะได้นะครับ เพราะ
1) วิธีเดินแจกนี้ ที่วัดเคยทำเมื่อหลายปีก่อนครับ ผลที่ได้คือ สาธุชนได้ไม่ครบ เพราะบางคนได้เหรียญไปหลายเหรียญ บางโซนพระท่านก็เดินไปแจกไม่ถึง สาธุชนในโซนนั้นก็จะไม่ได้เหรียญเลย ยิ่งสาธุชนมาร่วมงานหลักแสนคนและนั่งกระจัดกระจายในพื้นที่กว้างๆ การที่จะให้ท่านลงไปมอบในพื้นที่อย่างทั่วถึงยิ่งเป็นไปได้ยาก และยิ่งมีญาติโยมเป็นผู้หญิงด้วย การให้พระภิกษุเดินเข้าไปในพื้นที่ที่มีผู้หญิงนั่งอยู่กลุ่มใหญ่บ้างเล็กบ้าง มีผู้ชายบ้างไม่มีบ้าง ดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่ถ้าแค่หลักร้อย หลักพัน พื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก ในทางปฏิบัติยังพอเป็นไปได้ครับ
2) ถ้าแจกกันในพื้นที่ สาธุชนบางส่วนจะลุกฮือกันไปรุมพระภิกษุที่แจกเหรียญ หรือ ส่งเสียงเรียกพระภิกษุนิมนต์ให้มามอบเหรียญในบริเวณที่พระภิกษุยังเดินมาไม่ถึง ทำให้เกิดความวุ่นวายได้ในระหว่างประกอบพิธีกรรม ซึ่งอาจจะทำให้เสียบรรยากาศความสงบในช่วงที่มีการหลับตาเจริญภาวนา หรือ อธิษฐานจิตได้ครับ
3) ถ้าแจกกันในระหว่างประกอบพิธีกรรม ก็อาจจะมีสาธุชนบางส่วน พอได้เหรียญที่ระลึกแล้ว ก็เดินออกจากศูนย์กลางพิธีทำให้ สาธุชนเหล่านั้น ไม่ได้บุญในการหล่อพระครบถ้วนจนจบพิธีทั้งๆ ที่เค้าหลายนั้นมีโอกาสที่จะได้บุญอย่างเต็มที่ครับ
ด้วยเหตุนี้ การแจกพระในงานบุญครั้งหลังๆ เพื่อป้องกันความวุ่นวายข้างตน ทางวัดจึงได้ปรับระบบเป็นการแจกเหรียญที่ระลึกหลังจากพิธีกรรมเสร็จสิ้นที่ทางออกเท่านั้น ข้อดี
1) ถ้าสาธุชนทุกคน ประกอบพิธีกรรมตามทุกขั้นตอน ตามที่ไมค์กลางของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ หรือ พิธีกรบอก ไม่มีการแวปออกไปก่อนก็ย่อมได้เหรียญแน่นอน เพราะเหรียญนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อตั้งใจอยากจะมอบให้คนที่มาร่วมงานได้รับและเก็บเอาไว้ เพื่อเป็นพยานทางวัตถุในการระลึกถึงบุญกุศลที่ครั้งหนึ่งได้เคยมาร่วมงานบุญครั้งนั้นๆ ครับ ไม่ใช่ของขลังและไม่ใช่ของขายครับ
2) การแจกเหรียญที่ทางออกที่จัดเป็นช่องๆ จะทำให้สาธุชนต้องเข้าแถว เรียงคิวกัน เมื่อรับเหรียญแล้วก็เท่ากับเดินออกจากศูนย์กลางพิธี ยากที่จะเดินย้อนกลับเข้ามาใหม่ เพื่อแอบรับเหรียญที่ 2 เพราะทางเข้าจะถูกปิด เป็นการจราจรทางเดียว แต่ถ้าเค้าแอบเข้ามาได้ ก็จะต้องไปต่อหางแถวซึ่งยาวววววว มากกกกกกกกกกกกกก
3) การแจกเหรียญวิธีนี้ จะเป็นการทำให้สาธุชนทุกคน ได้ร่วมบุญจนจบพิธีครบทุกขั้นตอน ทำให้ได้บุญครบอย่างเต็มที่ไม่หกไม่หล่นครับ และทำให้ระบบพิธีบุญของงานไม่เกิดการรวนขึ้น เนื่องจากสาธุชนมัวแต่กังวลใจว่าจะไม่ได้เหรียญที่ระลึกน่ะครับ เพราะเป็นอันรู้กันว่า จะแจกหลังจากเสร็จสิ้นงานบุญในวันนั้น
4) การที่พระภิกษุยืนแจกเหรียญที่ระลึกอยู่กับที่จะทำให้สาธุชนรู้ตำแหน่งที่พระภิกษุยืนแจกครับ ถ้าเป็นคนใหม่ก็สามารถถามคนข้างเคียงได้ว่า จะรับเหรียญได้อย่างไร เมื่อได้รับคำตอบแล้วก็จะสามารถเดินไปหาพระภิกษุที่ทำการแจกได้ครับ ถ้าพระภิกษุก็เดินแจก สาธุชนก็เดินหาพระภิกษุที่แจกเหรียญ ก็จะยิ่งหากันไม่เจอครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#19
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 04:07 PM
เมื่อวานคนเยอะมากครับ
โดยเฉพาะตอนเย็น
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.
#20
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 05:33 PM
ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็คงจะสละสิทธิไม่รับเหรียญอยู่ดีแหละครับ
ไม่ชอบการรอคอย ที่ต้องค่อยนานๆ เดินนานๆ กว่าจะได้เหรียญไม่ทันใจครับ ผมคนใจร้อนครับ 555+
สมัยก่อนผมเคยมาร่วมพิธีสาธุชนจะนั่งอยู่กับที่ ห้ามลุกขยับครับ และพระท่านจะเดินแจกจนกระทั่งครบ
ปัญหาตกหล่นคนไม่ได้เหรียญคงเป็นไปไม่ได้หรอกครับถ้านั่งอยู่กับที่หนะครับ
ถ้าแจกเหรียญแล้วคนจะเดินออกกลางพิธีก็เป็นไปไม่ได้อีกครับเพราะกิจกรรมยังไม่เสร็จทุกคนยังนั่งกันอยู่
หลวงพ่อยังไม่ให้พรใครจะลุกหนีหลังจากได้พระหละครับ 555
ผมไม่ขุ่นเคืองหรอกครับ คุณ MiraclE...DrEaM พระหนะอยู่ที่ใจแต่ผมตอบป๋าผมไม่ได้เท่านั้นเองว่า
ทำไมไม่เห็นมีแจกพระตามที่พูดหนะครับ แต่ถ้าแจกตามแนวทางนี้ก็เข้าใจแล้วหละครับว่าคราวหน้าผมก็ไม่รับ
พระอีกอยู่ดีแหละครับ ผมไม่ชอบเข้าแถวรอนานๆ ครับ แค่เข้าแถวรับข้าวก็แย่แล้วครับ หุหุหุ
โมทนาบุญกับทุกท่านที่มาร่วมงานด้วยครับสา....ธุ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#21
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 06:13 PM
เมื่อวานหลวงพี่ยังต้องหยุดแจกชั่วคราวเพราะต้องการให้พระภิกษุเดินทางกลับก่อนเลยครับ แต่ถ้าคุณ Xlmen อยากได้ เดี๋ยวถ้าเจอกันคราวหน้าใน dmc.tv meeting อีก จะเอาไปให้ก็ได้นะครับ ผมไปกันทั้งบ้านได้มาคนละเหรียญ จะได้เอาไว้เป็นที่ระลึก อนุโมทนาบุญครับ
#22
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 07:41 PM
โมทนาสาธุการด้วยครับ แค่มีจิตคิดสละไม่หวงแหนผมก็ดีใจแล้วหละครับสาธุ
เก็บพระไว้เถอะครับไว้ระลึกนึกถึงบุญ
เมื่อก่อนผมห้อยพระติดตัวครับเดี๋ยวนี้ผมไม่ห้อยพระเลยซักองค์เดียวครับ
เพราะเชื่อว่าพระนั้นต้องกลั่นมาจากใจครับถึงจะเรียกว่าพระแท้ครับ
ถ้าให้ผมมาก็แค่ขึ้นหิ้งครับ ดังนั้นผมขอฝากพระไว้บนหิ้งของคุณ yosawat ละกันครับสาธุครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#23
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 08:49 PM
ปิติมากครับ
#24
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 10:42 PM
งานนี้เป็นเหมือนกับบททดสอบ สำหรับทางวัด ในการจัดงานปี 50 หรืองานต่อๆไป ที่จะรวมคนมากกว่านี้ ถึงหลักล้านนั้น ทางวัดจะต้องเตรียมบุคคลากรให้มากกว่านี้สำหรับในวันงาน และเตรียมงานให้รัดกุมมากกว่านี้ค่ะ
ขอคอมเมนต์ค่ะ
เรื่องแรก
เรื่องน้ำที่แจก อาการหนักเลยค่ะ นึกสภาพได้ว่าเหมือนตอนให้อาหารปลาดุก คือ อากาศก็ร้อนอบอ้าว เดินมาก็ไกลแสนไกล ใครๆ ก็อยากได้น้ำเย็น คนแย่งน้ำกันเยอะมาก มีแต่เข้าคิวกันแบบพี่ไทย คือมาถึงก็ลุยแทรกไปให้ถึงหม้อน้ำ ไม่มีใครยอมต่อท้ายซักคนเดียว สุดท้าย ก็กลายเป็นก้อนครึ่งวงกลม ซึ่งที่แย่งๆกันนั้นน่ะ ก็ไม่มีใครได้น้ำเขียวเย็นๆ ชื่นใจเลยกันเลย เพราะแก้วหมด น้ำหมดซะก่อน ที่ไม่ได้อีกโข แปลว่า ใครมาก่อนได้ก่อน คนไม่ได้น้ำก็ยืนคอแห้งต่อไป เหมือนตอนให้อาหารปลาถ้าใครมาถึงช้าก็อดหมด
ขอแนะนำให้มีจุดแจกน้ำมากกว่านี้ให้มากๆ รอบวิหารคดกันไปเลย อย่าให้เดินมาไกลนัก ต้องนึกถึงคนแก่คนเฒ่าด้วยค่ะ พยายามคำนวนคนที่จะมาให้ถูกต้องและกะปริมาณน้ำให้พอเหมาะ น้ำแข็งด้วยนะคะ เพราะอากาศร้อนอบอ้าว ตัวเหนียวกันหมด
เรื่องที่สอง
พอฝนตก วิหารคดบางส่วนก็รั่วค่ะ และส่วนที่จัดอาสนะให้กับผู้ที่เป็นเจ้าภาพบรมเศรษฐี มหาเศรษฐีนั้น ก็เละเทะไม่เป็นท่าเลยค่ะ ซาแลนแฉะและอุ้มน้ำไปหมด ส่วนเบาะที่ว่านั้นก็ไม่ต้องพูดถึง ต้องแจกพลาสติกใสมาแปะๆ ทับ แล้วก็หาทางนั่งกันให้ลงกันให้ได้เอาเองก็แล้วกัน เปื้อนกันเป็นแถบๆ ดิฉันนั่งดูอยู่ เห็นลูกเด็กเล็กแดง หัวฟาดคะมำพื้นไป ไม่รู้กี่คนต่อกี่ครั้ง ทั้งสงสาร ทั้งเห็นใจ เพราะเด็กก็วิ่งไปชนคนแก่อีกตะหาก
เรื่องที่สาม
สำหรับพระเถระ พระลูกวัด ที่มาร่วมงานกันนั้น องค์ที่ดิฉันได้ไปถวายเครื่องไทยธรรม ท่านก็มีอายุร่วม 80 ปี เดินเหินก็แทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว ยังต้องหอบเครื่องไทยธรรมที่พวกเราได้ถวายท่านไปอีก หนักไม่ใช่น้อย ซึ่งเทียบกับอายุ และระยะทางจากวิหารคดฝั่งตะวันออก และที่จะเดินกลับไปขึ้นรถซึ่งจอดอยู่ตรงข้างสภาฝั่งตะวันตกแล้ว ไม่เห็นมีใครดูแลท่านเลยค่ะ รถบัสรัตตัญญูก็ไม่เห็นมีซักคัน เลยต้องให้เพื่อนเดินไปส่งท่าน ขากลับเพื่อนเล่าให้ฟังอีกว่า ทางเดินไปนั้นน่ะ เลนชัดๆ โอยๆๆ ทำไมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ถ้าหากว่าไม่มีใครไปส่งท่าน เกิดหกคะเมนไปใครจะรับผิดชอบกันละเนี่ย อีกทั้งยังต้องเดินวนหารถอีกต่างหากร่วม ช.ม. สัญญาณโทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้เอาซะเลย แล้วพระ-เณร ต่างจังหวัดรูปอื่นๆ ล่ะคะ บางท่านสงสัยหลงกันท่าจะนาน เที่ยงคืน ไม่รู้จะหากันเจอไหม
เรื่องที่สี่
ลำโพงค่ะ ไม่ได้ยินเสียง บางครั้งก็มีเสียงหอนตอนนำนั่งสมาธิอยู่นาน กว่าจะได้รับการแก้ไขค่ะ
เรื่องที่ห้า
ห้องน้ำค่ะ คิวยาวมาก โดยเฉพาะห้องน้ำหญิงที่ท้ายสภา เพราะเป็นห้องน้ำเดียวที่อยู่ใกล้ที่สุด
ญาติโยมผู้หญิง เข้าห้องน้ำพระ พระเข้าห้องน้ำโยมผู้หญิง มั่วไปหมด เดินสวนกันแทบจะชน ห้องน้ำเละเทะมากเลยค่ะ ก็เข้าใจว่าวัฒนธรรมชาววัดค่อนข้างที่จะแตกต่างกัน แต่ว่า จากที่ว่าห้องน้ำของเราจะเป็นที่เชิดหน้าชูตาถึงวัฒนธรรมอันดีงาม กาลนี้กลับไม่ใช่ซะงั้นค่ะ อยากให้รีบสร้างห้องน้ำที่วิหารคดเสร็จไวไวด้วยนะคะ แล้วก็หาวิธีป้องกันเรื่องแบบที่กล่าวมานี้ด้วย พิจารณาหาวิธีแก้ด้วยค่ะ
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเรื่องการรักษาความสะอาด ถังขยะหายากมากค่ะ
แต่เรื่องบุญนั้น ปลื้มมากทีเดียวนะคะ ใจใสได้ตลอดทั้งวัน อนุโมทนาบุญซึ่งกันและกันโดยถ้วนหน้าทั่วโลกกันเลยนะคะ :D
#25
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 11:11 PM
ครั้งหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด เคยได้ยินคุณครูไม่ใหญ่เล่าว่า มีผู้มาร่วมงานคนหนึ่งได้รับเหรียญแล้ว แต่ทำหล่นหายระหว่างเดินทางกลับ ใจก็นึกว่าคงไม่มีโอกาสได้คืน เพราะฝูงคนจำนวนมาก ก็เลยตั้งจิตอธิษฐานหากมีบุญได้เป็นเจ้าของเหรียญนั้นจริงๆ ขอให้ได้รับเหรียญคืน ไม่ทันไร ก็มีคนเก็บมาให้ อัศจรรย์ใจมากๆ คุณครูไม่ใหญ่บอกว่า เหรียญทุกเหรียญมีเจ้าของบุญ ถ้าเก็บรักษาดีๆ ก็จะอยู่กับเรา ถ้าเก็บรักษาไม่ดี ก็จะหายไป ที่สำคัญ สังเกตดูดีๆ ที่ซองบรรจุเหรียญทุกซองจะมีสลากเขียนว่า "เฉพาะผู้มีบุญ" เท่านั้น เหมือนจะเตือนสติเป็นนัยๆ นะคะ
เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)
#26
โพสต์เมื่อ 23 April 2006 - 11:23 PM
จากคำคอมเมนต์ของคุณฟ้าร้างนะค่ะ ดิฉัน ก็มานึกถึงตอนที่ เมื่อก่อนยังไม่มีวิหารคด มีเพียงศาลาจาก ที่พลิ้วไหว ไปมา คุณแม่ดิฉันพามาที่วัด (ตอนยังไม่เข้าในบุญ มาไปงั้นๆ ) ลำบากมากกว่านี่หลายเท่านัก ห้องน้ำก็เป็นเพียงสังขะสี ทางเดินมีแต่โคลน รำบากมากๆ พวกคุณแม่ และคุณป้าแก่ๆ ไม่มีใครมาบ่นให้ฟังเลยค่ะ เพราะคำของพระพ่อ ไงค่ะ
คือ เรามาเอาบุญ มิได้มาหาความสะดวกสบาย ในเมื่อมาเอาบุญ ก็ต้องอดทนค่ะ
ดังคำที่ว่า อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด นะค่ะ
ถ้าพวกเราทำดังคำที่พระพ่อกล่าวไว้ว่า ทำตัวเหมือนวัด เป็นเหมือนดังบ้านของเรา เราต้องดูแล
เห็นสิ่งไหน ไม่ดี เราก็ต้องช่วยจัดการทันที
ดิฉันเอาบุญล้วงห้องน้ำ หญิงมาฝากนะค่ะ เนื่องจาก คนเยอะมาก มาอาบน้ำ แล้วทิ้งสิ่งของลงใน
ทางระบายน้ำ จึงเกิดปัญหาท่อตัน ดังนั่น จึงต้องทำกรล้วงท่อน้ำทิ้งทันที
อ่างล้างหน้า เมื่อคนมาใช้ มากๆ ก็จะมีน้ำไหลเลอะ เทอะ
ดิฉันเอาบุญล้างอ้าง ทำความสะอาด อ้างล้างหน้ามาฝากทุกคนนะค่ะ
รักพระพ่อจากใจลูกคนหนึ่ง
#27
โพสต์เมื่อ 24 April 2006 - 02:34 AM
#28
โพสต์เมื่อ 24 April 2006 - 08:14 AM
พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว
#29
โพสต์เมื่อ 24 April 2006 - 08:30 AM
#30
โพสต์เมื่อ 24 April 2006 - 10:54 AM
สาธุ สาธุ สาธุ
คราวนี้ถือว่าซ้อมกันก่อนนะคะ คราวหน้าจะมีการรวมพุทธบุตรมากกว่านี้ และสาธุชนคงมากกว่านี้อีกเยอะเลยค่ะ ถือว่าการจัดงานครั้งนี้เราจะได้รับทราบปัญหา และเตรียมความพร้อมในงานบุญใหญ่ครั้งหน้าค่ะ