อาตมันกับนิพพาน คือ ที่เดียวกันใช่หรือไม่ครับ
#1
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 01:22 PM
"อาตมันไม่มีการเกิด ไม่มีการดับ
ไม่เคยหมดสภาพไป
ไม่เคยมีการเริ่มต้น
เป็นอมตะไม่มีต้นกำเนิด
ไม่เปลี่ยนแปลงตราบชั่วกัลปาวสาน."
พอดีไปอ่านหนังสืออันหนึ่งที่บอกว่า พุทธศาสนา แยกมาจากศาสนาพราหมณ์ เพราะว่าศาสนาพราหมณ์เกิดมาก่อนแล้วคำสอนก็กลายเป็นพุทธในเวลาถัดมา และเมื่อพุทธศาสนามีช่วงแรกก็กลายมาเป็นแยกนิกายมหายาน กับเถรวาทอีก อันนี้คิดเห็นยังไงครับ
ถามเพิ่มเติมว่า
1.อาตมัน ใช่นิพพานหรือไม่
2.เมื่อเราตั้งใจให้ศาสนาพุทธขยายไปทั่วโลก แต่ทำไมเราไม่รวมพุทธศาสนาให้เป็นหนึ่งก่อนละครับ ไม่แยกนิกายหรือหลักปฏิบัติ
3.ทำไมต้องมีนิกาย และแยกหลักปฏิบัติ
4.พุทธศาสนาแต่ล่ะนิกาย ใครคือศาสดาครับ คือคนที่เป็นต้นกำเนิดนิกายนั้น ในเมื่อพระพุทธเจ้าเป็นผู้กำเนิดพุทธศาสนา แล้วเจ้าของนิกายละครับเป้นใคร ทำไมต้องแยกหลักธรรมของพระพุทธเจ้าออกเป็นย่อยๆ อีก (คนต้นคิดแยกนิกายแรก จะถือว่าทำสงฆ์แตกแยกหรือไม่ครับ)
5.ความคิดเห็นส่วนตัวอยากให้พุทธเราเป็นพุทธเดียวครับไม่แยกนิกาย หลักจากเป็นพุทธเดียวแล้ว ต่อไปเราขยายให้โลกนี้เป็นพุทธเดียว ศาสนาเดียว เป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
#2
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 02:37 PM
หนังสือเล่มนั้นมั่วนิ่ม..
ก็อยากให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน
แต่คงเป็นลักษณะ สมานจุดร่วม สงวนจุดต่าง
เพราะความไม่รู้
#3
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 04:29 PM
1.อาตมัน ใช่นิพพานหรือไม่
ตอบ.. ไม่ใช่ แนวความคิดกับสิ่งที่มีอยู่จริงต่างกัน แนวคิดก็คิดไปปฏิบัติก็ปฏิบัติไป เห็นจริงเมื่อไหรคงได้รู้ความจริง (งงๆ แฮะ)
2.เมื่อเราตั้งใจให้ศาสนาพุทธขยายไปทั่วโลก แต่ทำไมเราไม่รวมพุทธศาสนาให้เป็นหนึ่งก่อนละครับ ไม่แยกนิกายหรือหลักปฏิบัติ
แต่ละนิกายต่างมีเหตุผลในการแยกตัวออกจากกัน ส่วนเหตุผลในเหตุผลนั้น คงต้องเป็นเรื่่องละเอียดที่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันคงมีเหตุผลอยู่หละครับ ฮิ ฮิ
3.ทำไมต้องมีนิกาย และแยกหลักปฏิบัติ
เมื่อความเห็นไม่ใช่ความจริง สังคมก็แยกอยู่ตามความเห็นที่เราเห็น ไม่ใช่อยู่ตามความจริงที่เราเห็น (ผมว่ายิ่งอ่านยิ่งงงนะ)
4.พุทธศาสนาแต่ล่ะนิกาย ใครคือศาสดาครับ คือคนที่เป็นต้นกำเนิดนิกายนั้น ในเมื่อพระพุทธเจ้าเป็นผู้กำเนิดพุทธศาสนา แล้วเจ้าของนิกายละครับเป้นใคร ทำไมต้องแยกหลักธรรมของพระพุทธเจ้าออกเป็นย่อยๆ อีก (คนต้นคิดแยกนิกายแรก จะถือว่าทำสงฆ์แตกแยกหรือไม่ครับ)
เหม่... เจ้าของกระทู้น่าลงเรียน DOU มากๆ ขอบอก มีคำตอบชัดเจนทีเดียว :-)
5.ความคิดเห็นส่วนตัวอยากให้พุทธเราเป็นพุทธเดียวครับไม่แยกนิกาย หลักจากเป็นพุทธเดียวแล้ว ต่อไปเราขยายให้โลกนี้เป็นพุทธเดียว ศาสนาเดียว เป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
ชาตินี้หละ เราคงได้เห็นกัน... ว่าไงว่าตามกัน เด้อ :-)
Happy&Smile
#4
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 04:40 PM
คำว่าอาตมันในยุคนั้นหรือยุคนี้จึงต่างกันมาก อาตมันในความหมายหนึ่งคือการกลับไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพรหม อีกความหมายหนึ่งก็เป็นอย่างที่คุณ cheterkk บอก คำว่าอาตมันมีมาในสมัยของศาสนาพราหมณ์ ตั้งแต่ก่อนสมัยพระพุทธเจ้า เป็นจุดหมายของทุกลัทธิความเชื่อในสมัยนั้น แต่ไม่มีใครค้นพบวิธีการกลับไปสู่ธาตุแท้ดั้งเดิมของสรรพชีวิตจริง และไม่มีใครค้นพบวิธีการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดจริง จนกระทั้งมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้
ฉนั้น จึงไม่ต้องกังวลครับว่าเราจะแยกจากพราหมณ์ หรือจะไม่ได้แยกก็ตาม แต่สิ่งที่แท้จริงก็คือ ศาสนาพุทธของเรา มีพระบรมครูองค์เดียวที่ค้นพบวิชชาที่แท้จริงของชีวิต วิชาของจักรวาลและธาตุธรรม เอามาสั่งสอนพวกเรา ถึงแม้ว่าพระองค์เคยเรียนสมาธิมาจากอาจารย์ศาสนาพราหมณ์ก็ตาม แต่พระองค์ก็ค้นพบวิธีการด้วยพระบารมีของพระองค์เอง แล้วเราก็น้อมเอาวิชาของพระองค์มาเป็นศาสนาของเราจนกระทั้งปัจจุบัน
มาในยุคหลังนี้ ศาสนาบางศาสนาในอินเดียเริ่มผิดเพี้ยนจากเดิมไปมาก เน้นการบูชามากกว่าการปฏิบัติ บางนิกายเหมาเอาไปว่า พระเจ้าของเขา บัญชาให้พระพุทธเจ้ามาเกิดเพื่อค้นพบธรรมนี้ บางนิกายบางศาสนาก็บอกว่า พระพุทธเจ้าของเราเป็นอวตารของเทพองค์หนึ่งของเขา มันผิดเพี้ยนไปถึงขั้นนี้แล้ว นั่นพูดถึงภายนอกประเทศนะครับ ยังไม่ได้พูดถึงความเพี้ยนภายในประเทศเรา ที่บางวัดถึงขนาดเอาชูชก อดีตชาติคู่อาฆาตของพระพุทธเจ้า มาบูชาแทนพระพุทธรูปซะแล้ว
#5
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 04:44 PM
#6
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 04:48 PM
ความจริงคำว่า พระพุทธเจ้า นิพพาน นั้นมีมาก่อนมีพระพุทธศาสนาแล้วล่ะครับ เพียงแต่ ก่อนหน้านั้น ไม่มีใครรู้ว่า พระพุทธเจ้าต้องมีหน้าตาอย่างไร พระพุทธเจ้าต้องตรัสรู้อะไร นิพพานที่แท้นั้นเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า สุขไม่เปลี่ยนแปลง คือ รู้แบบรู้จำ รู้คิดนิพพานนักคิด แต่ไม่ใช่นิพพานของนักปฏิบัติ และได้ผลคือ ปฏิเวธครับ
ข้ออื่นให้ท่านอื่นตอบก็แล้วกันครับ
#7
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 06:34 PM
มีของดีแล้ว ไม่ดู ...ไปดูอย่างอื่น...ที่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นไง
ถ้าจะศึกษา ขอแนะนำว่าให้ลองศึกษาบทความและวีดิโอในเว็บนี้ให้หมดก่อน คำถามหลายอย่าง จะหมดไป ข้อสงสัยหมดไป
ถ้าศึกษาบทความและวีดิโอใน DMC แล้ว ไม่ได้คำตอบ ค่อยไปศึกษาที่อื่นก็ได้...ยังไม่สาย
ที่บอกแบบนี้ ก็เพราะว่าเป็นแบบคุณมาก่อน สุดท้ายก็รู้ว่าที่ DMC มีคำตอบให้ทุกอย่าง
ให้ศึกษาให้รู้ ว่าของจริงเป็นยังไง
ถ้าเรารู้จักของแท้ ว่าเป็นยังไง เวลาไปเจอของเทียม ก็จะสามารถแยกออกว่า ใช่หรือไม่ใช่
แต่ถ้า ยังไม่รู้จักของแท้ เวลาเจอของเทียม ก็แยกไม่ออกว่า ใช่หรือไม่ใช่
เรื่องแยกนิกาย ลองดู สื่อเรียนรู้พระพุทธศาสนา โครงการบวชพระ ของวันนี้ดูซิคะ
และแนะนำเพิ่มเติม ว่าควรดูช่วงรายการ รร.อนุบาลฝันในฝัน เวลา 19.30-22.00 น. ค่ะ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#8
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 09:49 PM
ถ้ากล่าว่า ศาสนาพุทธ อยู่ในกลุ่มศาสนาพรามณ์โบราณ กลุ่มศาสนาอินเดีย แบบนี้นักการศาสนาเขาพูดกันครับ
อย่าสับสนนะครับ กลุ่มศาสนา มิใช่เป็นศาสนานั้นๆซะเอง
กลุ่มศาสนาพรามณ์หรือกลุ่มศาสนาอินเดียนั้น นั้นมีอยู่หลายประเภท เช่นบูชาพระเจ้า เซ่นไหว้ นักคิดนักปรัชญาศาสนา นักปฏิบัติ บำเพ็ญตบะ นักเรียนไตรเพท ฯลฯ
ศาสนาพุทธอยู่ในกลุ่มผู้บำเพ็ญเพียรเพื่อค้นพบสัจธรรม ศาสนาร่วมกลุ่มก็เช่นศาสนาเชน และพวกฤษี ดาบส
และมีศัพท์ทางศาสนาที่เหมือนกัน แต่ความหมายไม่เหมือนกัน เช่นคำว่า ธรรมะ บุญ บาป กุศล อกุศล จิต พรามณ์ โยคี สมณะ บรรพชิต อรหันต์ นิพพาน นิรวาน ฯลฯ ต้องศึกษากันให้ดี มิฉะนั้นอาจะสับสน
................
ศาสนาพุทธค้นพบอริยสัจธรรมอันสูงสุด เป็นวิวัฒนาการทางศาสนาและความจริงอย่างสูงสุด อะไรๆต่างหาได้ในพุทธธรรมนี้ทั้งนั้น
ศาสนาพุทธนั้นรวมทั้งเหตุผลปรัชญาและศรัทธาไว้อย่างครบสูตร และสมบูรณ์บริบูรณ์ ผู้เข้าถึงอริยสัจธรรมนี้ เรียกว่า พุทธะ
ไม่ว่าจะในยุคใดสมัยใด ผู้ที่ตรัสรู้อริยสัจธรรมนี้เองในยุคนั้นสมัยนั้นเรียกว่า สัมมาสัมพุทธะ ปัจเจกพุทธะ ส่วนผู้รู้ตามเรียก อนุพุทธะ
................
ภาคปฏิบัติ
ศาสนาพรามณ์ สายที่เน้นการบำเพ็ญเพียรนี้ เช่นสายอุปนิษัท สูงสุดบรรลุไปได้ถึงระดับอรูปฌาน อรูปพรหม แล้วเข้าใจว่าเป็นเอกภาวะ เป็นนิรวาน เป็นนิพพาน เป็นสุขนิรันดร์ เป็นสังขารอันอมตะ และเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่งทั้งปวง
ศาสนาพุทธ ตรัสรู้ถึง นิพพาน ของจริง ที่พ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิดที่แท้จริง ด้วยการกำจัดอวิชชาด้วยวิชชา และวิมุตติหลุดพ้นไปจากสังขารทั้งปวง เป็นวิสังขาร ปล่อยขาดจากรูปฌาน และอรูปฌานทั้งสิ้น
พระนิพพานนี้ เป็นโลกุตตระ ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับโลกิยะทั้งสิ้น แต่จะถึงได้ก็ต้องอาศัยโลกิยะเป็นแพข้ามไป จนกระทั้งบรรลุเป็น "ตน" ที่แท้จริง คือเป็นธรรมกายที่บรรลุอรหัตผลนั่นเอง
ต่างจากพรามณ์อุปนิษัทที่เป็นการพัฒนา "ตน" ที่เรียกว่า "อาตมัน" แล้วเข้าไปรวมกับ "ปรมาตมัน" มีความเกี่ยวพันกันตลอดทั้งระดับโลกและพ้นโลกของเขา
................
ปล. ให้อ่านเรื่อง ทิฏฐิ 62 พรหมชาลสูตร ที่รวบรวมแนวคิดทุกประการทุกสำนัก ครอบคลุมความเชื่อทั่วโลกหมดสิ้นแล้วครับ สุดยอดมากมาย แล้วพระพุทธศาสนาก็ตรัสรู้สูงไปกว่านั้น
และศาสนศึกษาของ dou เพิ่มเติมด้วยนะครับ
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#9
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 11:04 PM
#10
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 02:00 PM
- ส่วนการแยกนิกายหลังพุทธปรินิพพานนั้นมีเหตุปัจจัยต่างๆจากพุทธสาวกเอง
http://84000.org/tip...t...mp;b=9&bs=6
http://84000.org/tip...k.php?t...าตมัน
4.พุทธศาสนาแต่ล่ะนิกาย ใครคือศาสดาครับ คือคนที่เป็นต้นกำเนิดนิกายนั้น ในเมื่อพระพุทธเจ้าเป็นผู้กำเนิดพุทธศาสนา แล้วเจ้าของนิกายละครับเป้นใคร ทำไมต้องแยกหลักธรรมของพระพุทธเจ้าออกเป็นย่อยๆ อีก (คนต้นคิดแยกนิกายแรก จะถือว่าทำสงฆ์แตกแยกหรือไม่ครับ)
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=1933
#11
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 07:46 PM
#12
โพสต์เมื่อ 18 October 2010 - 05:56 AM
หากว่าคิดจะไปปราบมาร แค่นิพพานจะไปทำไม
เพราะหากว่าเขาถึงที่สุดก่อนเรา นิพพานก็ไม่ใช่สถานที่่ ที่ปลอดภัย เสียแล้ว..
แต่ตอนนี้พวกเรานำไป ๖๐% แล้ว
ไฟล์แนบ
#13
โพสต์เมื่อ 18 October 2010 - 06:39 AM
งั้นจอดแจวไม่ได้แล้วต้องจั้ม ๆๆๆๆ