เอาบุญทำความสะอาด เตรียมงานวันคุ้มครองโลกมาฝากค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 04:46 PM
โดยวันแรกได้ช่วยกวาดพื้นลานธรรม และถูลานธรรมหน้าธรรมกายเจดีย์ เริ่มตั้งแต่ประมาณ 4โมงกว่า อยู่จนกระทั่งเก็บงานเสร็จ ซักผ้าที่ถูพื้น ล้าง เช็ด ถังน้ำ กว่าจะเสร็จก็ ทุ่มครึ่ง กลับไปเ้ข้าโรงเรียนพอดีเลยค่ะ ปลื้มมากๆ ค่ะ เพราะเป็นคนที่ไม่อยากทำอะไรค้างไว้ แล้วทิ้งไปกลางคัน ใครที่ได้อยู่เก็บงานจนถึงทุ่มครึ่ง ประมาณ 20 คนได้ คงเข้าใจความรู้สึกนี้น่ะค่ะ
อีกวันรับบุญเช็ดเก้าอี้ 15/4/51 ได้ไปช่วยประมาณ 5 โมงเย็น โดยเช็ดเก้าอี้ฝั่งตะวันออก
วันนั้นพลังมดจริงๆ ค่ะ เก้าอี้กองโต 3-4 กอง เป๊บเดียวก็เสร็จแล้วล่ะ่ค่ะ
พอประมาณ 6 โมงก็ย้ายไปทำทางด้านฝั่งตะวันตก วันนั้นทุกคนต่างก็ทำงานกันด้วยรอยยิ้ม
พอเช็ดเก้าอี้เสร็จพวกเราก็คิดกันว่าจะเอายังไง กลัวว่างานเช็ดโต๊ะพรุ่งนี้จะมีคนน้อย ก็เลยตกลงใจเ็ช็ดโต๊ะกลมกันต่อ น้องๆ อาสาสมัครมีการหลอกล่อนะคะ พอเช็ดกองแรกเสร็จมีการบอกว่าอีกแค่นิดเดียว ช่วยกันเช็ดกองโน้นด้วย ตอนนั้นประมาณสองทุ่มเกือบสามทุ่มแล้วล่ะคะ
สุดท้ายก็ตกลงใจเช็ดกันต่อ ตอนนั้นก็ยอมรับนะคะว่าใจน่ะ อยากทำจนเสร็จ แต่ร่า่งกายเริ่มงอแงอยากพักแล้วล่ะ พอกองที่สองเสร็จ คุณน้องมีเดินมาบอกเหลืออีกกอง กองสุดท้ายแล้ว... คราวนี้สุดท้ายจริงๆ มีพนังงานที่ดูแลการปิดไฟ ขับรถมาถามว่าจะทำถึงกี่โมง เดี๋ยวสี่ทุ่มก็ปิดไฟแล้วนะ
ช่วงระหว่างนั้นอาสาสมัครที่บริการน้ำ ขนม พยายามหาของมาให้พวกเราทานแก้หิวกันสุดฤทธิ์ พอเห็นพวกเราไม่หยิบนมในถัง ก็บอกว่าเดี๋ยวจะไปเอาถังใหม่มา เพราะถังนี้ไม่มีอะไรให้เลือกแล้ว
อยากบอกพี่ที่บริการน้ำกับขนมว่า เราไม่ค่อยหิวหรอกค่ะ อิ่มบุญแล้ว มีการเปิดเพลงให้กำลังใจตลอด ....แค่ร่างกายเริ่มล้าเท่านั้นเอง พวกเราหลายๆ คนก็ถือศีล 8 กัน
สุดท้ายกว่าจะเช็ดโต๊ะเสร็จก็สี่ทุ่มครึ่งพอดี พอเช็ดตัวสุดท้ายเสร็จ เค้า็ก็ปิดไฟพอดี วันนั้นสุดยอดจริงๆ ค่ะ มีน้องๆ วัยรุ่นไม่ยอมถอยบอกว่าจะเช็ดให้เสร็จ คนไม่วัยรุ่นประเภทไม่อยากทิ้งอะไรกลางคัน ก็ทนไม่ได้อีกตามเคยล่ะค่ะ ก็ต้องช่วยจนเสร็จ
ประทับใจอะไรบ้าง?
ปลื้มใจที่เห็นความร่วมแรงร่วมใจ พระท่าน หลวงพี่ที่วัด คงมีกำลังใจในการดำรงพระพุทธศาสนาต่อไป เมื่อเห็นสาธุชนร่วมแรงช่วยงานกันอย่างไม่ย่อท้อ
มีคำพูดของพี่ผู้ชาย(บ้านอยู่ที่มหาสารคาม สุดท้ายก็ไม่ได้ถามว่าชื่ออะไร)ที่เช็ดโต๊ะอยู่ด้วยกันพูดว่า "ก็เราอยู่ทีมเดียวกันนี่" (จะทิ้งกันได้อย่างไร ก็เช็ดโต๊ะด้วยกันมาตลอด) ช่างเป็นคำพูดที่กินใจ ปีติ ตื้นตันใจ อธิบายไม่ถูก คงไม่สามารถหาคำพูดมาบรรยายให้ี่ตรงกับความรู้สึกได้ พี่เค้าพยายามทำลายสถิติเช็ดได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ เพราะเราเป็นกลุ่มแรก ที่ริเริ่มเช็ดโต๊ะกลมใหญ่เป็นทีม พอเช็ดเป็นทีมจะสามารถเช็ดโต๊ะกลมใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว กับคุณน้าผู้หญิงอีกคน(บ้านอยู่ที่ตราด ที่เช็ดโต๊ะอยู่ทีมเดียวกัน)ที่หลังจากนั้นก็พยายามดูแล เทคแคร์ เจอหน้าก็ชวน..'ไปกันเถอะ'
หน่วยบริการน้ำ ขนม ที่พยายามดูแลหาของกินมาให้ พอพวกเราไม่ทาน ก็ิคิดมาก ว่าเราไม่ถูกใจของที่เค้าเอามา ไม่มีของให้เลือก จนต้องถ่อสังขารไปขนน้ำและขนมมาใหม่ อยากบอกว่าพวกเราล้า แต่ในท้องเต็มไปด้วยน้ำปานะ อีกทั้งอิ่มไปด้วยบุญ
น้องวัยรุ่นผู้ชาย อายุคงยังไม่ถึง 20 ปี อยู่จนถึงสี่ทุ่มครึ่งเหมือนกัน แถมไม่ได้ค้างที่วัดอีกตะหาก บอกว่าบ้านอยู่แถวรัชดาฯ เลยมีกัลฯ ใจดีขับรถไปส่งที่หน้าวัด ...ช่างเป็นเด็กที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจในการสร้า่่งบารมีจริงๆ ไม่ย่อท้อ
สุดท้ายก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านที่ได้ช่วยกันเตรียมงาน ขอให้ได้ใจใส ใจสว่าง วรรณะผ่องใส มีกำลังกายแข็งแรงที่จะสร้างบารมีกันยิ่งๆ ขึ้นไป(เหมือนพื้น เหมือนโต๊ะ เก้าอี้ ที่เราเช็ดจนสะอาด ด้วยแรงกาย และแรงใจ) และขออนุโมทนาบุญกับท่านอื่นๆ ที่เตรียมงานด้านอื่นๆ ที่ดิฉันไม่ได้มีโอกาสไปร่วมบุญด้วย
สาธุ สาธุ สาธุ ค่า
และท้ายที่สุดเอาบุญมาฝากคนที่ไม่มีโอกาสได้ไป ขอให้ได้รับผลแห่งบุญนั้นกันทุกๆ คน
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#2
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 05:05 PM
#3
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 05:17 PM
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 07:15 PM
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#5
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 07:29 PM
#6
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 07:41 PM
๑.กุศลธัมมา แปลว่า ธาตุธรรมฝ่ายกุศล เมื่อเราเห็นจะเห็นเป็นพระธรรมกายสีขาวใส กายในกายขาวใสทั้งหมด เรียกว่าภาคพระ ภาคขาว ภาคบุญ
๒.อกุศลาธัมมา แปลว่า ธาตุธรรมฝ่ายอกุศล เมื่อเราเห็นจะเห็นเป็นพระธรรมกายสีดำ กายในกายดำทั้งหมด เรียกว่า ภาคมาร ภาคดำ ภาคบาป
๓.อัพยากตาธัมมา แปลว่า ธาตุธรรมฝ่ายอัพยากตา เมื่อเราเห็นจะเห็นเป็นพระธรรมกายสีตะกั่วตัด กายในกายสีตะกั่วตัดทั้งหมด เรียกว่า ภาคกลาง ภาคไม่บูญไม่บาป
ทั้ง ๓ ธาตุธรรมนี้ ย่อมมีต้นธาตุ ทำหน้าที่ปกครองธาตุธรรมตลอดสาย
ต้นธาตุถือเป็นผู้บัญชาการในธาตุธรรมนั้นๆ ทำหน้าที่ปกครองธาตุธรรมในนิพพาน
#7
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 08:05 PM
#8
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 10:06 PM
ทำให้ผมนึกเสียดายเลยที่ไม่ได้ไปร่วมด้วย
ไม่ได้แล้ว คราวหน้าพลาดไม่ได้ เดี๋ยวมานั่งอิจฉาคนที่ได้ทำอย่างนี้อีก
อนุโมทนาบุญด้วยครับ
#9
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 10:12 PM
#10
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 10:29 PM
#11
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 11:01 PM
#12
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 11:22 PM
เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)
#13
โพสต์เมื่อ 19 April 2008 - 08:16 AM
#14
โพสต์เมื่อ 19 April 2008 - 03:15 PM
#15
โพสต์เมื่อ 19 April 2008 - 11:25 PM
อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ จ้า
#16
โพสต์เมื่อ 20 April 2008 - 07:28 PM
ตอนประมาณ สองทุ่มกว่า น่ะจะได้ของวันที่ 15/4/51
มีไฟตกด้วย ระยะเวลาประมาณ 20 นาทีได้ ไฟก็ดับมาจนถึงบล็อกที่พวกเราเช็ดโต๊ะกันอยู่ มีไฟสว่างที่บล็อกถัดไป (ก่อนหน้านั้น น้องๆ อาสาสมัครบอกว่าพายุจะเข้า แล้วอาจทำให้ไฟดับ) แต่ลูกหลานหลวงปู่ คุณยาย ก็ยังไม่ย่อท้อ เช็ดกันต่อ (แต่ก็ต้องบอกก่อนนะคะ ว่าไม่ค่อยมั่นใจในความสะอาด)
ช่วงนั้นก็ีมีเหตุการณ์ที่ไม่รู้จะเีรียกว่าอนุภาพของมหาธรรมกายเจดีย์ หรือบารมีหลวงปู่ หรือเพราะอะไร
ได้มีลมพายุพัดกรรโชกมาอย่างแรง ฝุ่นฟุ้งตลบไปหมด ดิฉันก็นึกในใจ... แล้วเก้าอี้ โต๊ะ ที่พวกเราเพิ่งจะเช็ดเสร็จไป มิเสียแรงเปล่าหรือ? แล้วก็หันหน้าไปมองทางธรรมกายเจดีย์และนึกถึงบารมีของหลวงปู่ ดิฉันก็คิดว่าคนอื่นๆ ที่อยู่ ณ ที่นั้นก็คงคิดเหมือนๆ กับดิฉัน หรือบางคนอาจกำลังอธิฐาน บางคนก็พูดว่า "ด้วยบารมีหลวงปู่ และความตั้งใจมั่นของพวกเรา อุปสรรคอะไรก็ไม่อาจมาขวางได้" แปลกนะคะ 3-4 นาทีผ่านไป สายลมที่กรรโชกแรงเหมือนจะพัดพาทุกสิ่งที่ขวางหน้าให้พังทลายไป กลับนิ่งสนิทอย่างน่าอัศจรรย์
ปล. วันนี้อยากอยู่ช่วยทำเงาะพันธุ์พิเศษมากๆ แต่โอกาสก็ไม่เอื้อ อยากช่วยทำตั้งแต่ปีที่แล้ว...เงาะพันธุ์ที่มี ที่นี่ที่เดียวในโลก ....ปีหน้าไม่พลาดแน่ๆ ถ้ายังมีเงาะพันธุ์พิเศษ ...สาธุ ส้า..ธุ กับทุกๆ ท่าน ที่ยังอยู่ช่วยเตรียมงานกันต่อ
ปล.2 ถึงคุณทัพพีในหม้อ กะคุณkasaporn
ถ้าไม่เล่าให้เห็นภาพ ก็คงไม่ช่วยกันปลื้มใจ จนไม่อยากพลาดในคราวหน้า(สาธุ..ด้วยผลแห่งบุญนี้...จะได้มีลูกพระธรรมฯ มาเป็นพลังมดกันแยะๆ) แม้งานเข็นครกขึ้นภูเขา ก็คงกลายเป็นงานง่ายๆ ถ้าเพียงแค่..มาเจอกะพลังมดจิตใจแข็งแกร่ง ...แม้ขุนเขาก็ไม่อาจขวางกั้น และเพื่อขอเป็นกำลังใจให้กับลูกพระธรรมฯ ท่านอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ หรือที่อยู่ห่างไกลแผ่นดินเกิด ที่ต้องแยกย้ายกันทำงานอยู่ ณ ขณะนี้ ที่อาจกำลังท้อแท้ กำลังเหนื่อยล้า แม้พวกเรามิได้ยืนอยู่เคียงข้าง เคียงบ่าเคียงใหล่ แต่ขอให้เชื่อมั่นเถอะว่า พวกเรายังคิดถึง ยังเอาใจช่วยอยู่เสมอ
ถ้้าไม่เล่าให้เห็นภาพ ก็คงไม่เห็นความร่วมแรงร่วมใจ ความไม่ย่อท้อแม้เจออุปสรรค(ความร่วมแรงร่วมใจที่ก่อให้เกิดกำลังใจที่ใหญ่หลวง ซึ่งกันและกัน)
ถ้าไม่เล่าให้เห็นภาพ ก็คงมองไม่เห็นภาพความเอื้ออาทรต่อกันเหมือนพวกเราเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรก
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#17
โพสต์เมื่อ 20 April 2008 - 08:24 PM
#18
โพสต์เมื่อ 21 April 2008 - 08:49 AM
#19
โพสต์เมื่อ 21 April 2008 - 01:47 PM
#20
โพสต์เมื่อ 22 April 2008 - 07:17 AM
I would like to go but now I stay in USA.
#21
โพสต์เมื่อ 22 April 2008 - 09:49 PM
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
#22
โพสต์เมื่อ 25 April 2008 - 03:48 PM
สา๐๐๐ธุ สา๐๐๐ธุ