อยากหาฤกษ์สึกดีๆให้พี่ชายค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 26 April 2010 - 09:30 PM
พี่ชายเกิดวันเสาร์ ที่ 4 พฤษภาคม 2528 ปีฉลู เวลาคลอด 7.35 น.
อยากได้ช่วงหลังวันที่ 20 พฤษภา 2553 ค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 26 April 2010 - 09:46 PM
เพราะถ้าดีจริงๆ ต้องไม่สึกต่างหาก
ถ้าคิดจะสึก แค่คิดก็ไม่ดีแล้ว
เพราะชีวิตที่ดีที่สุด คือ ชีวิตในเพศสมณะ
อีกอย่างพระพุทธเจ้าของเรา ท่านไม่เคยสอนให้ถือกฤษ์ยามเลยนะ
แต่อย่างว่า ถ้าไม่มีใจจะครองเพศสมณะซะแล้ว
ก็อยู่ได้ยาก เพราะจะเกิดอาการร้อนผ้าเหลือง
สรุป เลยละกัน สะดวกสึกเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ
ไม่ต้องไปหาฤกษ์ให้เสียเวลา
สึกแล้วจะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่ที่ว่า
สึกแล้ว ได้นำธรรมะที่ได้ศึกษาตอนบวชมาใช้หรือไม่
ถ้าเอามาใช้ ทำแต่สิ่งดีๆ ชีวิตก็จะมีแต่สิ่งดีๆ เจริญรุ่งเรือง
ถ้าสึกมาแล้ว ไปเผลอทำชั่วเข้า
ต่อให้ดูกฤษ์สึกมาดีขนาดไหน
ชีวิตก็ไม่อาจเจริญรุ่งเรืองได้หรอก
สิ่งดีหรือไม่ดี ที่เกิดขึ้นในชีวิต
มันอยู่ที่เราทำดีหรือไม่ดี
ไม่ได้อยู่ที่กฤษ์ยาม
กฤษ์ยามดี แต่เอาไปใช้ทำไม่ดี
ยังไงมันก็ไม่ดีอยู่วันยันค่ำ
#3
โพสต์เมื่อ 26 April 2010 - 09:49 PM
#4
โพสต์เมื่อ 26 April 2010 - 10:02 PM
#5
โพสต์เมื่อ 26 April 2010 - 10:24 PM
ผมก็เข้าใจทั้งคนจะสึก กับคนเชียร์ให้อยู่อ่ะนะ แต่ให้มองบุญบาปเป็นหลัก แม้นไม่ชอบวัดก็อย่าได้สร้างบาปอีกเลย แม้ไม่คิดจะสร้างบุญก็ขออย่าเพิ่มบาปอีกเลย ขอให้คุยกับพี่ชายดีๆนะ
#6
โพสต์เมื่อ 26 April 2010 - 10:49 PM
เพราะท่านอื่นจะเชียร์ให้บวช สาธุๆๆ ครับ ถูกต้องแล้ว
ถ้าพระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ก็คงตรัสเทศนาให้บวชต่อได้
แต่ ณ ขณะนี้ ก็คนละกาละเทศะ คนละเหตุปัจจัย
ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้พระท่านไม่สึก แล้วสนใจศึกษา ปฏิบัติกิจพระศาสนา มีใจ มีอุดมคติเพื่อพระศาสนา จะสุดยอดมากเลยครับ
แต่เท่าที่สังเกตุ ถ้าท่านบวชอยู่วัดธรรมดาๆที่ไม่มีการอบรมสั่งสอนให้อุดมคติ มันเป็นจุดอ่อนของวัดพุทธเรานะครับ เมื่อเป็นเช่นนั้น ใจท่านคงรู้สึกอึดอัดไม่น้อย ถึงท่านอยู่ก็คงไม่ได้ทำประโยชน์ให้แก่พระศาสนาเท่าไรเลย หากขาดสติไป อาจจะทำเรื่องไม่ดีก็เป็นไปได้
ถ้าอินทรีย์ยังไม่แก่กล้า ก้ให้ท่านสึกไปก่อนเถอะครับ บังคับไปไม่เกิดผลดี
หรือไม่งั้นให้ท่านมาอบรมพระธรรมทายาท หรือมาฝึกปฏิบัติที่วัดพระธรรมกาย ก่อนสึก แล้วให้ท่านตัดสินใจอีกทีนะครับ ถ้าท่านจะยืนยันสึก ก็ถือว่าท่านได้แนวในการดำเนินชีวิตในพรพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกายแล้ว ถ้าท่านไม่สึก อยู่ต่อด้วยใจมุ่งมั่นตามอุดมคติยิ่งดีเข้าไปใหญ่ครับ
ผมสรุปว่า ฤกษ์สึกแบบ ฤกษ์ ยาม ดวงดาว อย่าสนใจครับ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ดวงดาวจักช่วยอะไรได้ ฤกษ์สะดวก ฤกษ์ที่คิดดี พูดดี ทำดี นั่นแหละคือฤกษ์ดี เรื่องฤกษ์ยาม ดูดวงอื่นๆ ผมไม่สนใจเลย
ผมจะให้ฤกษ์ครับ ให้ท่านมาอบรม หรือมาเข้าโครงการพระธรรมทายาท ที่วัดพระธรรมกายก่อนครับ นี้แหละฤกษ์ดีที่ประเสริฐที่สุดครับ
อบรมฝึกฝนนั่งสมาธิเสร๊จสรรพ สึกได้เลย หรือว่าอยากอยู่สร้างเนกขัมมะบารมีต่อก็ยิ่งดี
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#7
โพสต์เมื่อ 26 April 2010 - 10:59 PM
เริ่มด้วย
1. หาสาเหตุที่พระท่านอยากสึกก่อน
2. แล้วตัวพระท่านอยากประกอบอาชีพอะไร พื้นฐานจิตใจเป็นอย่างไร เค้าตัดสินใจเองดีำกว่า หรือให้เรากับคุณแม่ตัดสินใจให้ดีกว่า
3. แล้วเรากับคุณแม่อยากให้บวชหรือให้สึก
4. แล้วพรรษาที่จะถึงถ้าท่านไม่สึกท่านจะจำพรรษาที่ไหน
ุ5. สามารถดึงพระท่านให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการในพรรษาที่จะถึงได้ในรูปแบบใดได้บ้าง
ุ6. ถ้าพระท่านอยู่ต่อจะได้บุญมากขึ้น หรือได้บาปมากขึ้น (อันนี้แรงไปหน่อยโทษทีๆ ขออโหสินะครับ)
ปล. ส่วนเรื่อง ฤกษ์ สึก ก็คิดๆ เอา ตามสะดวกครับ ตามจุดหมายทั้ง 6 ข้อข้างต้นก็จะได้ ฤกษ์ สึกออกมาได้ นิ :-)
#8
โพสต์เมื่อ 26 April 2010 - 11:05 PM
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#9
โพสต์เมื่อ 26 April 2010 - 11:16 PM
หรือ ว่า อด กับ ทน
อดทนได้แค่ไหน ก็แค่นั้น แหละ(ถ้าอดทน สำหรับการสร้างความดี)
แต่ว่าความอดทน ของแต่ละคนไม่เท่ากัน นะครับ
*-*
เราพันธุ์ดีสุดขั้ว ชั่วลืมไปหมดแล้ว,จิตใจสูงส่งเหลือเกิน,มีปัญญา,มีมงคล,ทำที่ท่านได้ที่เรา
#10
โพสต์เมื่อ 27 April 2010 - 11:29 AM
#11
โพสต์เมื่อ 27 April 2010 - 09:47 PM
#12
โพสต์เมื่อ 28 April 2010 - 10:42 AM
#13
โพสต์เมื่อ 15 August 2011 - 03:44 PM