มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[ลูกอินทรีย์หัดบิน]

ผมมาคิดเล่น ๆ คนตาบอดเค้ามองไม่เห็น จึงไม่มีสิ่งยั่วเย้าให้ใจฟุ้ง ทางสายตา
ซึ่งเป็นทางเปิดสำคัญที่ให้กิเลสเข้าแทรกใจเราได้

เคยมีใคร นำวิชชาธรรมกายไปสอนโรงเรียนเด็กตาบอดบ้างมั้ยครับ
แล้วผลการปฏิบัติธรรมเค้าเป็นยังไงบ้างครับ

[ทัพพีในหม้อ]

ใครๆก็นั่งธรรมได้ดีทั้งนั้นครับ ยกเว้นคนตาย คนบ้า และคนที่ไม่ได้ทำ

แต่จะให้ก้าวหน้าในธรรมคงจะยากกว่าคนปกติมาก

เพราะเขาจะใช้จินตนาการมากกว่าปกติ ทำให้ใจรวมสงบได้ยากกว่าครับ

เขาอาจจะไม่เห็นสิ่งยั่วยุ แต่นั่นจะยิ่งทำให้เกิดการเพาะนิสัยของการคิดไปเองและจินตนาการมากกว่าคนปกติ ซึ่งผิดวิสัยของการนั่งธรรม

แต่ยังไงก็แล้วแต่ นั่งธรรมก็ดีกว่าไม่นั่งแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นใคร

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

[tnawut]

น่าคิดครับ

เพราะเห็นคนตาบอดหลายๆท่าน จะมีพรสวรรค์ด้านต่างๆที่ต้องใช้สมาธิ... แต่อย่างไรก็ตาม ตาดีคงจะดีกว่าเพราะได้ทำบุญสร้างบารมีได้สะดวก

[หัดฝัน]

คุณครูเคยนำเรื่องราวมาออก DMC หลายปีมาแล้วครับ เธอชื่อ น้องมะนาว

[ติงตังมาว]

ผมว่านะ การหลับตามีส่วนนิดหน่อย ในช่วงแรกๆ
แต่หลังจากนั้นจะเนียนหรือไม่ อยู่ที่การวางใจมากกว่าครับ

[ณ ๐๗๒]

จริงอยู่การไม่มีตาจะทำให้สามารถติดกิเลศทางตาไปได้

แต่ความเข้าใจในเรื่องต่างๆ มาจาก
การได้เห็นภาพต่างๆ ที่อธิบายเกี่ยวกับเรื่องธรรมะ ก็ทำให้เข้าใจได้มากขึ้นกว่าไมไ่ด้เห็นภาพ
ภาพเพียงหนึ่งภาพ สามารถอธิบายอะไรๆ ได้ตั้งหลายอย่าง โดยไม่ต้องพูดมากมาย

เมื่อคืนเพิ่งได้อ่านหนังสือป้าหวิน ท่านเล่าว่า ในสมัยที่ท่านเป็นหัวหน้าสถานศึกษา
มีครูได้มาฟ้องว่า อย่าคิดว่าการสอนนักเรียนตาบอดจะง่าย
มีอยุ่วันหนึ่ง ครูได้พาเด็กนักเรียนตาบอดเหล่านั้นไปดูหนัง ด้วยคิดว่าหนังเรืืองนั้นมีคติสอนใจดี สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม ทำให้ครุท่านนั้นปวดหัวมาก
เนื่องจากพอกลับมาจากดูหนังก็เกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้คือ
มีนักเรียนชาย-หญิงที่ชอบพอกัน มานั่งจูบกันในที่สาธารณะ โดยที่ครูพยายามอธิบายอย่างไร เธอก็ไม่เห็นจริงอย่างที่ครูพูด และบอกเหตุผลให้ฟัง ว่าการทำอย่างนั้นเป็นเรื่องน่าอายเพียงไร จะโดนผู้คนดูถูก
แต่เด็กกลับให้เหตุผลว่า ก็เห็นในหนังยังสามารถทำได้ มีคนมานั่งดูตั้งมากมาย ถ้าไม่ดีเค้าคงไม่ทำ พอเค้า(เด็ก)ทำก็รู้สึกว่าก็ดี อย่างทีเห็นในหนังเลย และเพื่อนๆ ก็ไม่เห็นว่าอะไร
แม้แต่ป้าหวิน ที่สามารารถอธิบายเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่ายได้ ท่านยังคิดว่าท่านไม่สามารถทำให้เด็กเข้าใจได้ ท่านเลยไม่ได้ช่วยอธิบายให้เด็กเหล่านั้นฟัง

และท่านก็สรุปว่า แม้ว่าจะสามารถตัดประสาทการรับรู้ออกไป ทำให้ไม่ได้รับกิเลศที่มายั่วยุ แต่สิ่งที่เสียประโยชน์ไปจากการขาดสิ่งนั้นก็คือ การสามารถรับรู้ธรรมะได้ และการมีร่างกายครบสามสิบสอง ย่อมสามารถสร้างบารมีได้ยิ่งยวดกว่า

[Tree]

น่าจะอยู่ที่ตัวบุคคลและ บุญในอดีตมากกว่านะครับ

[สุภาพบุรุษ072]

คนตาบอด จะไม่ฟุ้งเรื่องภาพที่ปรากฎ หรืออาจจะมีฟุ้งบ้าง แต่จะฟุ้งเรื่องเสียงมากกว่า เพราะใช้สมาธิในแต่ละวันกับการฟังเยอะ ..เรื่องการทำสมาธิจุดสำคัญคือเมื่อหลับตา ต้องวางใจให้หยุด ทั้งตาบอดหรือตาดี อาจจะฟุ้งมาก หรือฟุ้งน้อย ไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ทำใจให้หยุด เมื่อฟุ้ง ก็ทำให้ไม่ฟุ้งได้ จากฟุ้งมาก ก็ฟุ้งน้อย จนมาฟุ้งนิดๆ และไม่ฟุ้งเลย หรือกลับมาฟุ้งใหม่อีก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ...หยุด?

[ลูกอินทรีย์หัดบิน]

อนุโมทนาบุญ กับ คุณ ทัพพีในหม้อ tnawut innerspot หัดฝัน MASON ณ 072 Tree L MeritNoteที่ให้คำตอบทุกท่านครับ

[WISH]

คนตาบอดเค้ามองไม่เห็น จึงไม่มีสิ่งยั่วเย้าให้ใจฟุ้ง ทางสายตาซึ่งเป็นทางเปิดสำคัญที่ให้กิเลสเข้าแทรกใจเราได้

- เป็นการมองด้านเดียว กิเลสเข้าแทรกได้ทุกอายตนะ ทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
- ตาบอดแล้ว หูยังฟังเพลงยั่วยุ เรื่องหนักๆ จมูกยังติดในกลิ่น ลิ้นยังติดในรส กายยังติดในผัสสะ ใจยังฟุ้ง ก็ไม่ต่างจากคนตาดี
- ยิ่งเป็นสายตาพิการแต่กำเนิด ถือว่าด้อยโอกาสที่จะมองเห็น แต่ก็ยังได้โอกาสบรรลุธรรมหากประกอบความเพียรอย่างยิ่งยวด ด้วยสัมมาทิฐิ

[usr25160]

Blind people walk by faith, not by sight. People who can see walk by sight only.

[usr25160]

I once was blind, but now I see!