ไปที่เนื้อหา


อยู่กับยาย

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 19 Feb 2008
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Apr 24 2008 04:58 PM
-----

กระทู้ที่ฉันเริ่ม

เรื่องเล่าจาก...แดนประหาร

31 March 2008 - 12:14 PM

มีพระอาจารย์ท่านหนึ่งได้รับนิมนต์ไปบรรยายธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงท่านได้รับนิมนต์ให้ไปบรรยายธรรมให้กับนักโทษตามเรือนจำต่าง ๆ ด้วย หลายท่านคงพอจะนึกภาพออก ว่า เรือนจำ หรือคุกคือสถานที่กักขัง ผู้ที่กระทำผิด แยกไปตามแดนต่าง ๆ การลงโทษก็ขึ้นอยู่กับความความผิดที่ทำไว้ เวลาท่านไปบรรยายธรรมที่แดนต่าง ๆ นั้น ท่านก็จะถามนักโทษว่า อยากออกไปจากที่นี่ไหม ทุกคนก็จะตอบเป็นเสียเดียวกันว่า "อยากออกไปอยู่ตลอดเวลา"

มีวันหนึ่ง ท่านได้รับนิมนต์ไปบรรยายธรรม ในแดนพิเศษ ไม่บอกก็คงพอจะเดากันได้ว่าเป็นแดนอะไร มันคือแดนประหาร นักโทษที่นี่ทุกคนต้องโดนประหารทั้งนั้น ตายอยู่ที่นี่กันทุกคน แต่ที่นี่จะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ อยู่รวมกันชาย- หญิง ไม่มีการแยก บ้างก็มีเพศสัมพันธ์กันจนมีลูกมีหลานในคุกนั่นเอง ไม่มีอาหารเลี้ยงก็รอประหารอยู่แล้ว จะต้องทำเลี้ยงไปทำไม อยู่กันตามกำลังความสามารถของตัวเอง หากินกันเอง อยู่ภายในแดนคุกนั้น ๆ แต่ถ้าจะขุดหนีออกไป ก็ได้ไม่ว่าอะไร ไม่ได้ห้าม แต่ก็ไม่มีใครคิดจะขุด หรือหนีเลย พระอาจารย์ท่านก็ถามนักโทษเหล่านั้น เหมือนกับถามนักโทษที่แดนอื่น ๆ ว่าอยู่ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง อยากออกไปจากที่นี่ไหม แต่นักโทษที่แดนนี้ ตอบพระอาจารย์ว่า "ไม่คิดจะหนีหรอก อยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว จะต้องไปดินรนให้เหนื่อยทำไม" ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น พระอาจารย์ท่านก็เลยสงสัย ไปถามผู้คุมนักโทษว่า เคยมีคนคิดหนีออกไปจากที่นี่หรือไม่ ผู้คุมกล่าวว่า "อ๋อเคยมีคนหนึ่ง ขุดหนีออกไปก็ไปเจอกำแพงต่าง ๆ ทั้งกำแพงดิน กำแพงหิน และกำแพงเหล็ก ขุดออกไปแล้ว แต่ก็กลับมาใหม่บอกทุกคนถึงภายนอกที่เขาขุดออกไป ว่าไปเจออะไรมาบ้าง และก็มาชวนให้ทุกคนตามเขาออกไป แต่นักโทษที่นี่ก็แปลกนะ เขาไม่ยอมตามนักโทษคนนั้นไป กลับบอกว่าอยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว เขาไม่เห็นจำเป็นต้องไปดิ้นรนอะไรข้างนอกเลย นักโทษคนนั้นก็เลยจำใจต้องไปเพียงลำพังผู้เดียว" พระอาจารย์ก็ได้แต่สงสัยอยู่ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

บรรยายธรรม สมควรแก่เวลาแล้วพระอาจารย์ท่านก็ขอตัวกลับ ผู้คุมนักโทษท่านนั้นกล่าวยิ้ม ๆ กลับพระอาจารย์ว่า "ท่านคงไม่รู้ ว่าแดนนี้ เข้าได้แต่ออกไม่ได้ ถ้าจะออกไป ท่านต้องขุดกำแพงออกไปเอง เหมือนกับนักโทษคนนั้น" .................

จากวันนั้น พระอาจารย์รูปนั้นก็ยังคงติดอยู่ที่แดนนั้นมาจนบัดนี้...................


แดนประหารที่ว่านี้ คือโลกของเรานี่เอง คนเราต้องตายกันทุกคนใช่หรือไม่บัญญัติโทษประหารมาตั้งแต่เกิดแล้ว

นักโทษทั้งหลายที่ติดอยู่ที่นี่ก็ คือมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย

นักโทษที่ขุดกำแพงออกไปได้ และกลับเข้ามาบอกพร้อมชวนนักโทษคนอื่น ๆ ให้ขุดตามไปนั้น ก็คือ พระพทธเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ของเราทั้งหลาย

ชนะใจตัวเองได้แล้ว

31 March 2008 - 09:02 AM

ถ้าใครพอจะจำได้ เมื่อไม่นานนี้ เรามาบ่นให้ฟังว่า ตอนสวดมนต์ทำวัตรเช้าทีวัดวันอาทิตย์ มีพระอาจารย์บางรูปมานำสวด
แล้วรู้สึกว่าท่านสวดช้ามาก ไม่ทันใจเราเลย บางอาทิตย์ เราก็เลยไม่ทำวัตรเช้าไปซะเฉย ๆ เดินเล่นซะแทนที่จะมานั่งสวดมนต์ แต่เมื่อวานนี้ก็พระอาจารย์รูปเดิมนั่นแหละ มานำสวด แต่เราตั้งใจว่าจะต้องสวดมนต์ตามพระอาจารย์ให้ได้ ก็เลยทำใจใส ๆ
แล้วสวดตามไปเรื่อย ๆ กลับรู้สึกว่า สวดช้า ๆ ก็ดีไปอย่าง มีช่วงหายใจได้ยาว ๆ ไม่ต้องเร่งตามเหมือนตอนที่สวดเร็ว ๆ
พอสวดจบแล้ว รู้สึกว่ามีความสุขมาก เราได้ชนะความใจร้อนของตัวเองได้แล้ว เย้! ดีใจจริง ๆ เลย biggrin.gif

เมื่อวานเลยรับบุญมาเต็ม ๆ ครึ่งวัน เพราะตั้งใจจะไปครึ่งวันอยู่แล้ว
แบ่งบุญให้ทุก ๆ คนนะคะ เผื่อให้คนที่ไม่ได้ไปวัดเมื่อวานนี้ด้วยค่ะ

เปิดกระป๋องโซดา........แบบซ่าไม่ออก..

28 March 2008 - 04:45 PM

กระป๋องน้ำอัดลมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นโคล่า โซดา ถ้าถูกเขย่าหรือกระเทือนทีไร เปิดปุ๊บน้ำพุ่งออกมา ทั้งหกเลอะเทอะ และน่าเสียดาย...เอ แล้วจะเปิดอีท่าไหน สำหรับคนใจร้อน....

smile.gif เคล็ดไม่ลับแบบง่ายๆ สำหรับวัยรุ่นร้อนใจ ไม่อยากรอให้เสียเวลา...หยิบขึ้นมาเลยกระป๋องน้ำโซดาที่ยังไม่ได้เปิด หรือกระป๋องที่อยากจะกินนั่นล่ะ

วิธีการ biggrin.gif

1) เขย่า เขย่า เขย่า และเขย่ากระป๋องที่เตรียมการไว้ (หรือถ้าไม่อยากเขย่าก็...ใช้กระป๋องที่เพิ่งตกพื้น หรือไม่ก็ถูกเขย่าโดยไม่ได้ตั้งใจ)

2) วางกระป๋องลงบนโต๊ะ และเคาะข้างๆ กระป๋องโซดาที่เพิ่งเขย่าไปหมาดๆ ด้วยนิ้วหรืออะไรก็ได้ ขณะที่เคาะก็หมุนไปด้วย เคาะไปเรื่อยๆ สักประมาณ 5 – 10 ครั้ง เป็นอันใช้ได้

3) เคาะเสร็จแล้วก็หายใจเข้า-ออกอึดใจหนึ่ง

4) หันปากกระป๋องไปไกลๆ ตัว (ทั้งตัวคุณเองและคนอื่นๆ และอะไรก็ตามที่ไม่อยากให้เปียกปอนด้วยฟองโซดา) เปิดกระป๋อง แล้วลองดูว่าเกิดอะไรขึ้น !!

.....

omg_smile.gif อ่ะ...บอกให้ก็ได้ว่า น้ำในกระป๋องก็จะไม่พุ่งกระเด็นออกมาสักหยดเลยไง

อ้อ...แต่ถ้าจะให้ดี ต้องทดลองกับ 2 กระป๋องข้างๆ กัน นำมาเขย่าทั้งคู่ แต่ว่าเคาะแค่กระป๋องใดกระป๋องหนึ่ง ส่วนอีกกระป๋องไม่ต้องเคาะ แล้วก็จะเห็นความแตกต่าง แต่ระวังจะหกเลอะเทอะล่ะ

ไขความมหัศจรรย์ : nerd_smile.gif
เครื่องดื่มคาร์บอเนต หรือเครื่องดื่มน้ำอัดลมผสมโซดาทั้งหลาย ต่างบรรจุด้วยแรงอัด และคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งก็คือฟองอากาศ บางๆ ที่เวลาเทลงแก้ว และเกิดฟองปุ๊ดๆๆๆๆ ในแก้วพอเราดื่มเข้าไป ก็จะรู้สึกซ่าาาา....ทุกหยด...

เมื่อน้ำอัดลมผสมโซดา หรือน้ำโซดาเหล่านี้ถูกเขย่า ฟองก๊าซก็จะกระจัดกระจาย และเมื่อเปิดกระป๋องออกทันทีก็จะทำให้ฟองก๊าซเหล่านี้ พยายามยื้อแย่งออกจากกระป๋อง ไปสู่ที่ที่มีแรงดันน้อยกว่า glare.gif

การเคาะกระป๋องถือว่าช่วยกระตุ้นให้ฟองหลุดออกจากการเกาะที่ข้างๆ และก้นกระป๋อง จนทำให้ลอยขึ้นมาอยู่ที่ส่วนบนของกระป๋อง ฉะนั้นพอเปิดฝากระป๋องขึ้นมา เจ้าเหล่าฟองซ่า เลยไม่ยื้อแย่งกันออกมานอกกระป๋อง...นั่นเอง laugh.gif

เก็บตกจาก net มาฝากกันค่ะ cool.gif

...เรื่องราวดี ๆ น่าสนใจ...

25 March 2008 - 01:02 PM

..เศษของเหลือทิ้ง
เผลอดูดายเพียงวัน
สุมรุมเป็นขยะกองโต
หมดที่ว่างสะอาด

.....เศษความคิดไร้แก่นสาร
เผลอใส่ใจเพียงครู่
ก่อตัวเป็นก้อนเครียดชิ้นใหญ่
หมดที่ว่างสบายใจ


........วุ่นแล้วคิดจึงเครียด
ว่างแล้วคิดจึงคลาย
หาความหมายของว่าง
จะสง่างามท่ามกลางความวุ่น


.............เครียดเพราะคิดวน
สับสนเพราะคิดมาก
ลำบากเพราะคิดนาน
รำคาญเพราะคิดแช่


................... คลายเพราะคิดจบ
สงบเพราะคิดน้อย
ลอยลำเพราะคิดเป็น
ฉ่ำเย็นเพราะคิดดี


..เพียงไม่สั่งสมความคิดไร้แก่นสาร
ใจก็ว่างจากความเครียดอย่างถาวร...


บทความดี ดี เก็บมาฝากกันค่ะ smile.gif

พฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลัง

25 March 2008 - 10:17 AM

เกร็ดความรู้มีพฤติกรรมทำร้ายกระดูกสันหลังมาบอกกัน....

1. การนั่งไขว่ห้าง จะทำให้น้ำหนักตัวลงที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง เป็นผลให้กระดูกคด

2. การนั่งกอดอก ทำให้หลังช่วงบน สะบัก และหัวไหล่ ถูกยืดยาวออก หลังช่วงบนค่อมและงุ้มไปด้านหน้า ทำให้กระดูกคอยื่นไปด้านหน้า มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงแขน อาจทำให้มืออ่อนแรง หรือชาได้

3. การนั่งหลังงอ หลังค่อม เช่น การอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนาน ๆ เป็นชั่วโมง จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง เกิดการคั่งของกรดแลกติค มีอาการเมื่อยล้า ปวด และมีปัญหาเรื่องกระดูกผิดรูปตามมา

4. การนั่งเบาะเก้าอี้ไม่เต็มก้น ทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนัก เพราะฐานในการรับน้ำหนักตัวแคบ

5. การยืนพักขาลงน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว การยืนที่ถูกต้องควรลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 2 ข้างเท่า ๆ กัน โดยยืนให้ขากว้างเท่าสะโพกจะทำให้เกิดความสมดุลของโครงสร้างร่างกาย

6. การยืนแอ่นพุง/หลังค่อม ควรยืนหลังตรง แขม่วท้องเล็กน้อย เพื่อเป็นการรักษาแนวกระดูกช่วงล่างไม่ให้แอ่นและทำให้ไม่ปวดหลัง

7. การใส่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง จะทำให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลัง

8. การสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว ไม่ควรสะพายกระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนเป็นการถือกระเป๋า โดยใช้ร่างกายทั้ง 2 ข้างให้เท่าๆ กัน อย่าใช้แค่ข้างใดข้างหนึ่งตลอด เพราะจะทำให้ต้องทำงานหนักอยู่เพียงซีกเดียว ส่งผลให้กระดูกสันหลังคดได้

9. การหิ้วของหนักด้วยนิ้วบ่อยๆ จะมีผลทำให้มีพังผืดยึดตามข้อนิ้วมือ

10. การนอนขดตัว/นอนตัวเอียง ท่านอนหงายเป็นท่านอนที่ถูกต้องที่สุด ควรนอนให้ศีรษะอยู่ในแนวระนาบ หมอนหนุนศีรษะต้องไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป ควรมีหมอนรองใต้เข่าเพื่อลดความแอ่นของกระดูกสันหลังช่วงล่าง หากจำเป็นต้องนอนตะแคง ให้หาหมอนข้างก่ายโดยก่ายให้ขาทั้งหมดอยู่บนหมอนข้าง เพื่อรักษาแนวกระดูกให้อยู่ในแนวตรง

รู้อย่างนี้แล้ว ก็ควรจะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว จะได้ไม่ทำร้ายกระดูกสันหลังอีกต่อไป............