ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ชายสามโบสถ์


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 23 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 04:32 PM

การบวชอบรมระยะสั้น บางครั้ง มีภาระกิจ ก็บวชแค่ ๑-๒ เดือน เช่น ธรรมทายาท
ถ้าหากเกิดอยากจะบวชอีก เมื่อมีเวลาว่างจากภาระกิจ สัก พรรษา หรือ ๒- ๓ เดือนหรือ
บวชบางรุ่นน่าสนใจอยากบวชอีก อย่างนี้ผิดหลักวิชาหรือเปล่า เพราะว่าบวชแล้วก็ตั้งใจ
เข้าไปปฏิบัติหาความรู้จริง ๆ แต่เคยได้ยินมาว่า การบวช ๓ ครั้ง เขาเรียกว่าชาย สามโบสถ์
โบราณเขาถือว่าไม่ดี อะไรทำนองนั้น ไม่แน่ใจ ผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อยครับ


หยุดคือตัวสำเร็จ

#2 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 04:45 PM

ผมว่าไม่เกี่ยวนะครับ เพราะขนาดในสมัยพุทธกาล ยังมีเหมือนกันครับ บวชๆสึกๆถึง7ครั้ง ในครั้งสุดท้ายยังได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ได้เลยครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#3 ภสสรจิตโต

ภสสรจิตโต
  • Members
  • 140 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:บางบัวทอง นนทบุรี
  • Interests:ธรรมทายาท n21/590

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 04:45 PM

พระอาจารย์บอกไว้เลย ตั้งแต่ตอนบวชครั้งที่แล้ว

ถ้าอยากบวชยาวก็บวชได้เลย แต่ถ้าติดภาระกิจทางโลก ก็บวชระยะสั้นๆ

เรื่องชายสามโบสถ์ ไม่มีที่มาครับ

เป็นคำอุปมา เกี่ยวกับ การทำอะไรแล้วไม่ตั้งใจจริง คนโลเล เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำนองนี้ครับ

ยิ่งบวชยิ่งได้บุญครับ

1ครั้ง ได้ 64 กัป
2ครั้ง ก็บวกไปอีก64 สามครั้งก็บวกเข้าไปอีก

แต่ถ้าบวชไม่สึก จักนับจักประมาณมิได้

พระอาจารย์ว่าไปแบบนั้นครับ

ผิดถูกอะไร รอท่านต่อไปครับ



#4 Tanay007

Tanay007
  • Members
  • 616 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 04:46 PM

เคยฟังเพลงนี้ไหมครับ
"โบราณประนามชายสามโบสถ์ทรามชั่วช้าสามาน ประนามหญิงสามผัวผ่านเป็นคนจัณฑาลไม่หวังพบพา
โธ่เอ๋ยอนิจจาโกนหัวฝากตัวในศาสนา แต่คำเขาว่าให้ช้ำน้ำใจ .....(จำได้แค่นี้แหละ)"
ความหมายโดยรวมก็คือ เหลาะแหละเอาดีไม่ได้(ซักที) ....(ตาย...มาแก้คำผิด น่าเขกหัวตัวเองจริงๆ)
แต่ขอให้มีใจใฝ่ใจในศาสนาเถอะน่า อย่าไปทำอาบัติประเภทปาราชิก ก็ยังสามารถมาบวชได้
ท่านจิตตหัตถ์ ท่านบวชๆ สึกๆ 7 ครั้ง ทุกครั้งก็ต้องรับกรรมฐาน 5 (เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ)
ยังได้อุปนิสัย เห็นภรรยานอนน้ำลายยืด.... เท่านั้นแหละ ครั้งสุดท้ายบวชจนได้เป็นพระอรหันต์เลยครับ

#5 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 04:48 PM

ชาย 3 โบสถ์ ไม่เกี่ยวว่าเคยได้บวชเป็นจำนวน 3 ครั้ง

แต่ ชาย 3 โบสถ์ มีความหมายถึง การเปลี่ยนความเชื่อ หรือสิ่งที่เป็นสรณคือสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่น หลายครั้ง

เพราะความหมายหรือเจตนา ของคำนี้ มีนัยว่า เป็นคนมีใจโลเล

คงต้องรอความเห็นจากผู้อื่นอีกนะครับ

#6 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 04:57 PM

เป็นแค่คำพังเพยว่าหมายถึง "ทำอะไรไม่สำเร็จ ไม่เอาจริงเอาจัง เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ"

ตามที่หลายๆท่านด้านบนกล่าวมานั่นแหละค่ะ

ส่วนในทางปฏิบัติ..

ขอให้ได้บวชเถอะ

แม้จะเป็นระยะสั้น(เพราะอาจติดภาระการงานต่างๆ)

หากมีความตั้งใจจริงในการบวชแต่ละครั้ง

จะกี่โบสถ์ก็ดีทั้งนั้น

ถือว่าเป็นผู้ได้โอกาส และใช้โอกาสอย่างคุ้มค่าค่ะ

(ผู้ด้อยโอกาสอย่างเราก็ได้แต่ชะเง้อคอ..คอยอนุโมทนา.. cry_smile.gif )




ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน

#7 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 05:05 PM

จริงๆแล้ว มีหลายความหมายนะคะ เท่าที่เห็นมา เช่น

ชายสามโบสถ์ หมายถึงผู้ที่ นับถือศาสนาหนึ่งอยู่แล้ว ไม่ชอบ บอกว่าศาสนานี้ไม่ดี แล้วเปลี่ยนศาสนาใหม่แล้วก็ว่า ศาสนานี้ก็ไม่ดีอีก ก็เปลี่ยนอีก แล้วก็ว่าไม่ดีอีก เหยียบย่ำศาสนาทุกศาสนา ที่เปลี่ยนไปว่าไม่ดี อย่างนี้แหละเรียกว่าชายสามโบสถ์

ชายสามโบสถ์= ผู้ที่บวชแล้วสึกถึง 3 หน (ตำหนิว่าไม่น่าคบ) ...ลางตำราท่านหมายถึงคนที่เปลี่ยนศาสนาถึง ๓ ครั้ง ๓ คราก็มี หมายถึงเป็นไม้หลักปักเลน ไม่ซื่อตรงต่อความเชื่อ

วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้เรื่องสุทธิกรรมชาดกคำกาพย์เป็นวรรณกรรมที่สันนิษฐานกันว่า ผู้แต่งคือพระอุดมปิฎก เปรียญ 9 ประโยค สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น อดีตเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม กรุงเทพมหานคร เรื่องนี้แต่งในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้กาพย์ 3 ชนิด ในการแต่ง คือ กาพย์สุรางคนางค์ 28 กาพย์ยานี 11 และกาพย์ฉบัง 16 เนื้อเรื่องเกี่ยวกับภูมิปัญญา 3 ประการ คือ การคบมิตร การเลือกคู่ครอง และการเลือกประเทศที่อยู่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในการดำรงชีวิตของมนุษย์ มิตรที่ไม่ควรคบคือ ชายสามโบสถ์ และศิษย์ร่ายครู คู่ครองที่ไม่ควรเลือกคือ หญิงหม้ายสามผัวอย่า สาวแสร้ และหญิงแหม่ (หญิงมักมากในกาม) ประเทศที่อยู่ที่ไม่ควรเลือกคือ ประเทศหรือที่อยู่ที่พระราชาไม่มีความยุติธรรม หรือไร้การวิจารณ์ การคบมิตรดี การได้คู่ครองดี และการอยู่ในประเทศที่มีผู้นำดีจะทำให้มีความสุขและเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต วรรณกรรมเรื่องสุทธิกรรมชาดกคำกาพย์ เนื้อเรื่องสอดคล้องกับภูริปัญหาชาดก นิบาตชาดก เรื่องที่ 452 และมิตตามิตตชาดก นิบาตชาดก เรื่องที่ 473 ว่าด้วยเรื่องอาการ 16 ของผู้เป็นมิตรและไม่เป็นมิตร ในพระสุตตันตปิฎก และมีเนื้อเรื่องสอดคล้องกับทุกัมมานิกชาดก ชาดกเรื่องที่ 13 ในปัญญาสชาดกด้วย

ชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว : สำนวนนี้ ประโยคแรกหมายถึง ผู้ชายที่บวชเป็นพระ ๓ ครั้งคือบวชแล้วสึก สึกแล้วบวชอีกถึง ๓ หนด้วยกัน ส่วน "หญิงสามผัว" นั้นคือหญิงที่แต่งงานแล้วมีสามีมาแล้ว ๓ ครั้งหรือ ๓ คน โดยมีสามีคนแรกแล้วเลิกร้างกันไป มามีคนที่สองเลิกล้างกันไปอีกจนถึงคนที่สามก็ต้องเลิกล้างกันไปอีก สำนวนนี้หมายความว่าผู้ชายที่บวชมาแล้ว ๓ ครั้ง กับผู้หญิงที่ผ่านการมีสามีมาแล้ว ๓ คน โบราณมีข้อห้ามมิให้เพศตรงข้ามไปมีสัมพันธ์ทางรักใคร่หรือชู้สาวด้วย คือผู้หญิงก็ไม่ควรไปมีสามีชนิดนี้ หรือผู้ชายก็ไม่ควรไปมีภรรยาชนิดนี้เข้า ซึ่งตามความเข้าใจว่าบุคคลชนิดนี้ใจคอไม่มั่นคงหรือรวนเลได้โดยสังเกตเอาอาการกระทำเป็นเครื่องวัด แต่ตกมาถึงสมัยนี้ เข้าใจว่า คงจะไม่มีใครค่อยเชื่อว่าถือกันเท่าไรนัก.


รวมๆ แล้วน่าจะเป็นคำที่ใช้เปรียบกับคนที่ โลเล ไม่แน่นอนนะคะ

หรืออาจจะเป็นสำนวนที่เขียนขึ้นเพื่อให้คล้องจองกันก็ได้ค่ะ "ชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว" เพื่อให้เห็นว่า เป็นคนไม่หนักแน่น เปลี่ยนใจง่ายค่ะ

จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#8 เล็กหญิง

เล็กหญิง
  • Members
  • 35 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 05:12 PM

การบวชพระ/เณรในบวรพระพุทธศาสนา ยิ่งบวชมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้บุญมากเท่านั้น ส่วนสำนวนชาย 3 โบสถ์ คำว่า โบสถ์หมายถึง โบสถ์ของ 3 ศาสนา ไม่ว่าจะเป็นของศาสนาใด แต่การเปลี่ยนความเชื่อถึง 3 ครั้งในชีวิตนึง ถือว่า คนๆ นั้นไม่น่าคบค่ะ

#9 joeintra

joeintra
  • Members
  • 261 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 05:19 PM

ไม่เห็นเกี่ยวกันเลยครับ 3 โบสถ์ เป็นคำเปรียบเทียบกับคนที่มีใจโลเล โบสถ์พุทธ ก็ไม่เอาไหน โบสถ์คริส ก็ไม่แตกฉาน โบสถ์อิสลาม ก็ ยังมั่วๆ สรุปคือ คนไม่เอาถ่านนี่เอง ผมเองบวชมา 8 โบสถ์ แล้วไม่เห็นมีอะไรเลยครับ บวชแทบทุกปี 555

#10 สาคร

สาคร
  • Members
  • 764 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 05:22 PM

ชายสามโบสถ์ คือเป็นการบวชใน สามศาสนา ลักษณะจะพูดไปในทางไม่ค่อยจะดี ลักษณะเป็นเหมือนคนโลเล ไม่มั่นคงจริงจัง ผมได้ยินได้อ่านมาอย่างนี้นะครับ
ความรักความเมตตาและการให้อภัยเป็นสิ่งที่คนดีเขามีกัน


[email protected]

#11 ธนกร สงขลา

ธนกร สงขลา
  • Members
  • 192 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 05:38 PM

จากการที่ผมฟังจากผู้หลักผู้ใหย่น่ะครับ ท่านบอกว่า ชาย3โบสถ์ที่จริงคือ ชายที่นับถือศาสนามาและ3ศาสนาและไม่ดีต่างหากครับ คนเราเข้าใจว่าคือ การบวช3ครั้งแต่ที่จริงไม่ใช่เพราะบวชหลายๆมันก็ดีครับ แต่ควรจะบวชระยะยาวน่ะครับ

เพลงของพี่ช่างเพาะจริงๆเข้ากับเรื่องเลย

#12 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 05:39 PM

หลายแง่มุมล่ะอืมตกลงว่าคืออะไรเราก็เคยได้ยินมาแต่ไม่ใช่ที่กล่าวมาเลยตกลงว่าเป็นแบบใหนเนี้ยใครรู้บ้างตอบๆๆมาหน่อย
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#13 ธนกร สงขลา

ธนกร สงขลา
  • Members
  • 192 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 05:39 PM

ผมเห็นด้วยกับคุณkoonpattครับ


#14 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 05:44 PM

QUOTE
1ครั้ง ได้ 64 กัป
2ครั้ง ก็บวกไปอีก64 สามครั้งก็บวกเข้าไปอีก

แต่ถ้าบวชไม่สึก จักนับจักประมาณมิได้

พระอาจารย์ว่าไปแบบนั้นครับ

ผิดถูกอะไร รอท่านต่อไปครับ

คุณ Diamond YA รบกวนแก้ไขความเข้าใจนิดนึงนะครับ อันนี้คุณครูไม่ใหญ่เคยอธิบายเอาไว้แล้ว

สำหรับบุญการบวชนั้นได้ 64 กัปนะครับ แต่ถ้าสึกแล้วบวชใหม่ยังได้ระยะเวลาที่บุญส่งผลเท่าเดิมคือ 64 กัป แต่จะได้ความเข้มข้นของบุญมากขึ้นแทน

ดังนั้น สำหรับพระที่บวชชั่วคราวกับพระที่บวชตลอดชีวิตได้ระยะเวลาที่บุญส่งผลเท่ากัน คือ 64 กัป แต่ พระทึ่บวชตลอดชีวิตจะมีความเข้มข้นและความแรงของอานิสงส์การบวชยิ่งกว่าพระที่บวชชั่วคราว คิดง่ายๆ ตามหลักความเป็นจริงนะครับ ถ้าบวชพระ 1 ทีได้ 64 กัป อย่างงี้จะมีพระที่ไหนบวชตลอดชีวิตละครับ ก็บวชๆ สึกๆ ดีกว่า เพราะได้บุญ 64 + 64 + 64.... ไปเรื่อยๆ คุ้มกว่าบวชพระตลอดชีวิตจะตาย แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย

สำหรับคนที่สนับสนุนการบวชหรือจัดงานบวชก็เช่นเดียวกัน ได้บุญ 32 กัป ถ้าจัดบวชพระภิกษุ แต่ถ้าการบวชมีพระหลายรูป ระยะเวลาก็ยังส่ง 32 กัปเท่าเดิม แต่ความเข้มข้นของบุญจะมากกว่าการบวชพระรูปเดียวนะครับ เพราะมีหลายคนเข้าใจว่า จัดงานบวชทีนึงมีพระบวชเป็นพันรูป คงได้อานิสงส์ 32 x 1,000 = 32,000 กัป ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเลย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ผู้จัดงานบวชจะได้บุญมากกว่าผู้ที่บวชเอง จริงไหมครับ
QUOTE
ชายสามโบสถ์ หมายถึงผู้ที่ นับถือศาสนาหนึ่งอยู่แล้ว ไม่ชอบ บอกว่าศาสนานี้ไม่ดี แล้วเปลี่ยนศาสนาใหม่แล้วก็ว่า ศาสนานี้ก็ไม่ดีอีก ก็เปลี่ยนอีก แล้วก็ว่าไม่ดีอีก เหยียบย่ำศาสนาทุกศาสนา ที่เปลี่ยนไปว่าไม่ดี อย่างนี้แหละเรียกว่าชายสามโบสถ์

เห็นด้วยกับคุณkoonpattนะครับ เพราะ ในพระไตรปิฎกยังมีบันทึกถึงพระสมัยพุทธกาลที่บวชๆ สึกๆ หลายครั้ง แต่ก็ได้บรรลุธรรม แม้แต่พระบรมศาสดาเอง ตอนที่เสวยพระชาติเป็น บัณฑิตจอบเหี้ยน ยังบวชๆ สึกๆ ตั้ง 7 ครั้ง กว่าจะตัดใจบวชยาวได้ในครั้งที่ 7
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#15 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 05:51 PM

ถ้าบวชได้ ก็บวชไปเถิดค่ะ ไม่ต้องสนใจคำว่า" ชายสามโบสถ์ "หรอก
คำนี้เขามุ่งหมายถึงคนที่ทำอะไรไม่จริงต่างหาก เทียบคำนี้เพราะการบวชสมัยก่อน จะบวชกันตลอดชีวิต มักไม่ค่อยลาสิกขา
แต่ปัจจุบันสภาพการณ์แตกต่างจากสมัยก่อน เดี๋ยวนี้มี บวชปิดเทอมช่วงเรียน ช่วงทำงาน ก็ลามาบวช สังคมเปลี่ยนไป
เมื่อเรามีความตั้งใจบวช เอาบุญดีกว่านะ happy.gif กี่หนๆ ก็บวชเถอะ
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#16 น้อมเศียรเกล้า

น้อมเศียรเกล้า
  • Members
  • 365 โพสต์
  • Location:ถ.ลาดพร้าว
  • Interests:พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย การรักษาโรคด้วยวิธีธรรมชาติ <br />รำนาฏศิลป์ เล่นดนตรีไทย เล่นดนตรีสากล

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 06:03 PM

สรุปว่าจะบวชสักกี่ครั้งก็บวชเถอะค่ะ บวชบ่อยๆบุญก็ยิ่งทับทวี บวชไม่สึกเลยก็ยิ่งดี

เพราะคำพังเพยนี่ล่ะค่ะ คนที่ไม่เข้าใจ เลยไม่อยากให้ลูกให้หลานบวชบ่อยๆ เป็นการตัดโอกาสผู้บวช

ขนาดดิฉันเป็นผู้หญิงเคยไปบวชเป็นอุบาสิกา ไม่ปลงผม ตอนแรกๆคุณแม่ยังไม่อยากให้บวชบ่อยๆเลย ทั้งๆที่บวชครั้งหนึ่งก็ได้อะไรกลับมาเยอะทุกที

#17 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 06:05 PM

เป้าหมายสูงสุดของการบวช เพื่อให้ได้บุญมาก เช่นนั้นหรือ?^^
-----------------------------
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#18 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 08:02 PM

ขอบคุณ ทุก ๆ ท่านครับ

ลองอ่านดูครับ ชายสามโบสถ์น่าจะเป็นตำนานพื้นบ้านประมาณนั้น ตั้งขึ้นมาเพื่อแสดง
ให้เห็นความโลเล บวชแล้วสึกสึกแล้วบวชอีก แต่ในความเป็นจริงแล้วยิ่งบวชบ่อยยิ่งดี
ถูกไหมครับ แต่ถ้าให้ได้ผลบุญแรงที่สุดต้องบวชตลอดชีวิต

ใจจริงแล้วอยากบวชตลอดชีวิต แต่การบวชตลอดชีวิตต้อง เคลียร์ภาระให้หมดก่อน
หมดกังวลจึงบวชได้ แต่ถ้าบวชระยะสั้นได้บ่อย ๆ ก็ดีครับ รอบวชตลอดชีวิตก็คงอีกนาน

แล้วคนที่สร้างหนัง เรื่องชายสามโบสถ์จะบาปไหมหนอ เพราะว่าทำให้บางคนไม่กล้า
บวชหลาย ๆ ครั้ง เพราะคิดว่ามันไม่ดี




หยุดคือตัวสำเร็จ

#19 สูตรมิตร

สูตรมิตร
  • Members
  • 49 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 11:30 PM

เพลงชายสามโบสถ์

คำคนประณามชายสามโบสถ์
ทรามชั่วช้าสามานย์
ประณามหญิงสามผัวผ่าน
เป็นคนจันฑาลไม่ขอคบพา
โธ่ เอ๋ย อนิจจา
โกนหัวฝากตัวในศาสนา
แต่คำเขาว่าปวดใจให้คิดทุกที
มีมารผจญสุดแสนจะทนบวชแล้วจำลา
จากเรือนเหมือนเสือหนีป่า
มารเสาะตามมาจองล้างราวี
บวชแล้วสึกทุกทีเป็นเสียอย่างนี้
แหละพี่น้องเอ๋ย
ดังคำเขาเอ่ยบวชเสียผ้าเหลือง

ข้าบวชมาแล้วโบสถ์หนึ่ง
ซาบซึ้งได้แทนคุณแม่ค่าน้ำนมแก
แทนทดหมดเปลืองมารตามทวงหนี้
มีเรื่องต้องแหกผ้าเหลืองสึกมา
มันฟ้องอุปัชฌาย์แค้นข้ากลัดหนอง
คนมองข้าทรามเหยียดหยามหมดดี
ต้องหนีหน้าไป
เกือบเป็นเสือสางเสียใหญ่
ข้าต้องกลับใจไหว้พระคุ้มครอง
บวชซ้ำใหม่ใคร่ปอง
ใจหวังสร้างบุญในโบสถ์ที่สอง
พึ่งธรรมะส่องที่สร้างบาปมา

ข้าเป็นชายสองโบสถ์
หากโบสถ์สามนี้ยังไม่แน่
โลกหมุนปรวนแปรสุดแท้จะพา
กลายเป็นชายชั่วดังว่า
หวังศาสนากลับใจ
แต่แล้วเหตุไฉนเขาไม่อุดหนุน
จึงวอนไหว้วิง
ชายหญิงที่ฟังด้วยน้ำตาคลอ
โปรดจงสงสารขานต่อ
แต่พอข้ามีบาปเคราะห์ก็บุญ
ข้าหวังพึ่งพุทธคุณ
เซแล้วอย่าซ้ำย่ำเหยียบจนซุน
ร่มโพธิ์พระอุ่น
ข้าขอบวชนานจนตาย

#20 ภสสรจิตโต

ภสสรจิตโต
  • Members
  • 140 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:บางบัวทอง นนทบุรี
  • Interests:ธรรมทายาท n21/590

โพสต์เมื่อ 06 October 2006 - 06:52 AM

โอ้ เป็นเช่นนี้เอง
ขอบคุณ คุณI cAn AlwayS MakE U SmilE ครับ

ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้นอีกเยอะเลย สังคมที่นี่มีแต่คนดีๆ ให้ความรู้ทั้งนั้น อนุโมทนาครับ



สาธุ....


QUOTE
เป้าหมายสูงสุดของการบวช เพื่อให้ได้บุญมาก เช่นนั้นหรือ?^^




ผมเข้าใจว่า เป้าหมายสูงสุดของการบวช คือการทำนิพพานให้แจ้ง ครับ

แต่ยังไม่แจ้งเลย

#21 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 06 October 2006 - 09:18 AM

เห็นด้วยกับคุณ koonpatt ค่ะ

อ่านมา...ได้ความว่า...

คนเคยเข้าใจว่าเป็นชายที่บวชพระแล้วสึกสามหน...อย่างนี้ไม่มงคล ไม่ควรคบหา แต่ได้ถามพระอาจารย์หลายท่าน ท่านต่างตอบว่า...
***บวชกี่ครั้งกี่หนไม่เป็นอะไร ขอให้บวชในพระพุทธศาสนา เขาอยากได้ดีถึงมาบวช ที่สึกไปไม่ได้ปาราชิก ไม่ผิดอะไร แต่อาจสึกเพราะมีเหตุจำเป็นต้องสึก***

แต่ที่หมายถึงชายสามโบสถ์นี่ที่แท้คือ
นับถือพุทธไปวัดไปวา บวชเข้าพุทธแล้วสึก หันไปเข้าศาสนาอื่น แล้วเปลี่ยนศาสนา เปลี่ยนนิกาย เปลี่ยนความเชื่อไปเรื่อยๆ หาหลักไม่ได้ อย่างนี้เยกว่าชายสามโบสถ์ คบไม่ได้ มันเป็นคำเปรียบเปรย หมายถึงคนโลเล

ชายสามโบสถ์จึงหมายถึงบุคคลที่ชอบเปลี่ยนศาสนากลับไปมา มีอยู่ ๓ ศาสนาเด่นก็เป็นเสียทั้งหมด เช่น พุทธ อิสลาม คริสต์ เขาห้ามคบเพราะเป็นบุคคลที่ขาดอธิษฐานบารมี สัจจะบารมี เห็นแก่ตัวจนเกินไป เปลี่ยนศาสนาเพื่ออยากจะให้ศาสนาต่างๆนั้นสนองกิเลสของตนเพื่อความสำเร็จในทางโลกเป็นหลัก มิได้ยึดหลักเกณฑ์เพื่อทำให้ตนเองเจริญรุ่งเรืองในการเป็นมนุษย์ ไม่เกี่ยวกับการบวชหลายครั้งในพระศาสนาของพระพุทธเจ้า

#22 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 October 2006 - 10:59 AM

ชายสามโบสถ์ หมายถึงผู้ที่ นับถือศาสนาหนึ่งอยู่แล้ว ไม่ชอบ บอกว่าศาสนานี้ไม่ดี
แล้วเปลี่ยนศาสนาใหม่แล้วก็ว่า ศาสนานี้ก็ไม่ดีอีก ก็เปลี่ยนอีก แล้วก็ว่าไม่ดีอีก
เหยียบย่ำศาสนาทุกศาสนา ที่เปลี่ยนไปว่าไม่ดี อย่างนี้แหละเรียกว่าชายสามโบสถ์

เห็นด้วยกับคุณ koonpatt นะครับ

ลูกพระธรรม

#23 siriruk

siriruk
  • Members
  • 20 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 October 2006 - 06:18 PM

ชายสามโบสถ์ เป็นคำอุปมาเปรียบเปรย ว่าไม่จริงจัง โลเล ไม่เที่ยงแท้ แน่นอน เจ้าค่ะ..... nerd_smile.gif laugh.gif laugh.gif

ไฟล์แนบ



#24 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 20 December 2010 - 01:46 AM

ผมอ่านมาหากคุณคำนึงถึงความถูกต้องจริงเเล้วมันมีความเห็นขัดเเย้งอยู่ในใจครับความรู้สึกผมการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมานั้นมันเป็นไปได้ยากมากเหตุที่จะเกิดก็น้อยสิ้นดีเเล้วอีกอย่างการเรียกว่าโบสถ์นั้นมันไม่ทุกศาสนาที่ใช้สถานที่ในการประกอบพิธีกรรมว่าโบสถ์ผมไม่ได้ค้านว่าพระสงค์หรือบุคคลสาขาต่างๆที่ให้คำนิยามว่าผู้ชายสามโบสถ์นั่นเป็นการเปลี่ยนศาสนาเเต่มันเป็นไปได้อยากเเละถ้ามองในโลกปัจจุบันการบวชจะออกเเนวธุรกิจคนบางคนทึ่ไปเป็นพระก็ไม่ได้ศรัทราเเข็งแรงเหมือนคนยุคก่อนเเค่นำมาเพื่อเป็นทางออกให้กับคนที่ต้องการอะไรบ้างอย่างดังนั้นคุณจะเห็นว่าพุทธศาสนาเสื่อมถอยลงไปในปัจจุบันเพราะคนที่ตั้งใจจริงมีน้อยอาจมีคนบอกว่าการบวชเเล้วทำให้ได้บุญได้ชำระล้างมันแปลกอยู่นะครับเพราะคุณหาทางอื่นที่ดีกว่านั้นได้เพราะถ้าต้องการบวชจริงๆต้องทำให้ได้ตามหลักคำสอนจริงๆปฏิบัติจริงเคร่งครัดไม่ใช่บวชเจ็ดวันเก้าวันหรือเดือนสองเดือนมันคงไม่ได้อะไรมากมายถามว่าดีไหมคงต้องบอกว่าก็ดีเเต่มันไม่ดีพอที่คุณจะมาบวชคุณหาทางอื่นที่ดีกว่านี้ไหมทำในสิ่งที่มีคุณประโยชน์กับทางพุทธศาสนาได้ดีกว่าวิธีนี้ได้ไหมอาจมีคนบอกว่าเเล้วบวชครั้งเเรกจะได้อะไรบ้างอันนี้ต้องบอกว่ามันเป็นไปตามวัฒนธรรมของคนไทยที่ต้องบวชให้พ่อเเม่เหมืนอกับว่าทำตามสิ่งที่อดีตเขาทำมาจะมีสักกี่คนที่จะซึ้งถึงรสพระธรรมจริงๆ มีบางคนยกตัวอย่างให้ฟังว่าในบันทึกในอดีตกาลยังมีคนบวชมาตั้งหลายครั้งเเล้วบรรลุ มันเป็นไปได้ครับเพราะขนาดองคุลีมารที่เป็นโจรป่าชั่วช้าฆ่ามารดาตัวเองยังบรรลุได้สักอะไรกลับพวกโลเลจะกลับตัวกลับใจมาบรรลุไม่ได้ซึ่งนำมาโยงกันไม่ได้ เพียงเเต่ว่าคำว่าชายสามโบสถ์เขาคงต้องการที่จะสื่อว่าคุณบวชครั้งที่1ต้องการทำตามในสิ่งที่คนในอดีตเขาปฏิบัติกันมา บวชครั้งที่ 2 ครั้งนี้อาจจะมีสาเหตุต่างๆมากมายเเต่ก็ตกลงใจที่จะมาศึกษารสพระธรรมให้ถ่องเเท้ เเต่ก็มีอันต้องสึกเพราะเหตุบางอย่างซึ่งก็น่าจะเพียงพอเเล้วในการที่จะไม่กลับมาบวชอีกเเต่สุดท้ายก็หันกลับมาบวชซึ่งเหมือนกับว่าไม่มีทางไปก็กลับมาบวชเพราะเห็นว่าพระธรรมจะช่วยได้เเละเกิดเหตุต้องให้สึกอีกครั้งทำให้กลายเป็นการบวชเรียนเเล้วสึก3ครั้งซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับคำกล่าวต่างๆที่เคยรำเรียนเกี่ยวกับการให้โอกาสสามครั้งก็เพียงพอเเล้วมากกว่านั้นจะเป็นเเล้วอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนักเราให้โอกาสคุณเเก้ตัวมาสามครั้งเเล้วนะไม่ไหวเเล้วให้ไม่ได้อีกเเล้ว ส่วนในเรื่องที่จะเปลี่ยนศาสนาเป็นไปได้ยากมากในความเห็นของผมการที่นำความหมายในเเนวออกมาเผยเเพร่อาจจะเป็นเพราะว่ากลัวคนที่รับรู้ว่าคำว่าชายสามโบสถ์มี่ความหมายในลักษณะบวชเเล้วสึกสามครั้งสามคราเเล้วไม่ดีก็จะไม่มาบวชดังนั้นจึงหาความหมายที่มันไม่เกี่ยวข้องมาเพื่อลดกระเเสของชายสามโบสถ์ที่เเท้จริงทำให้คนที่บวชเกินสามคร้งรู้สึกสบายใจรู้สึกว่าได้บุญและคนทั่วไปไม่มีอคติต่อผู้ผ่านการเป็นชายสามโบสถ์ทั้งๆที่จริงเเล้วไม่สมควรเพราะเราสามารถหาทางปฏิบัติเพื่อทำนุบำรุงทางศาสนาได้ดีกว่าวิธีการบวชเพราะการที่บวชเข้าไปอาจจะกลายเป็นบาปซึ่งบุคคลที่บวชไม่รู้สึกตัวซึ่งก็เป็นเรื่องปกติว่าฉันบวชเเล้วฉันไม่ผิดหรอกฉันมีผ้าเหลืองฉันมาเพื่อศึกษารสพระธรรม อีกสาเหตุตามพจนาณุกรมก็ได้ให้ความหมายไว้ดังที่กล่าวมาข้างต้นดังนั้นถึงอย่างไรก็ตามเเต่การเป็นชายสามโบสถ์ไม่ดีเเต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เป็นชายสามโบสถจะไม่ดีทุกคน