ขอคำแนะนำ
#1
โพสต์เมื่อ 07 November 2007 - 01:39 PM
รู้สึกสนุกกัน แต่เรารู้สึกเซ็งอ่ะ ?
#2
โพสต์เมื่อ 07 November 2007 - 01:56 PM
#3
โพสต์เมื่อ 07 November 2007 - 03:31 PM
#4
โพสต์เมื่อ 07 November 2007 - 03:45 PM
ขันติ แปลว่า ความอดทน
ทำไมจึงต้องอดทน ? เพราะการที่คนใดคนหนึ่งจะได้รับความดีมาเพิ่มให้แก่ตนเองนั้น จะต้องเอาความอดทนแลกมากันทั้งนั้น
เมื่อเกิดมาแล้ว จะต้องทนต่อออะไรบ้าง ?
คำตอบ คือ เรื่องที่ต้องพยายามอดทนให้ได้มีอยู่ 4 เรื่องด้วยกันคือ
1.อดทนต่อธรรมชาติที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ทนทั้งแดดที่แผดกล้า ทั้งลมทั้งฝนที่โหมกระหน่ำ ฯลฯ
2.อดทนต่อทุกขเวทนา คือ ความเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่โวยวายคร่ำครวญจนเกินเหตุ
3.อดทนต่อการกระทบกระทั่ง คือ อดทนคนอื่น
ความจริงแล้ว เราก็ต้องยอมรับว่า เราเองยังมีข้อบกพร่องที่ทำไปแล้วรู้สึกขัดใจ ไม่ได้ดังใจตัวเองหลายอย่าง ยิ่งเวลาทำงานเร่งรีบต้องการความปราณีตมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยังมีเรื่องขัดใจตนเองจนได้
การที่หลายครั้งเราเองยังไม่ค่อยถูกใจตัวเอง นั่นคือข้อบกพร่องที่กลายเป็นนิสัยไม่ดี แล้วเราสังเกตไม่เห็น ยังมีอยู่อีกมาก
เพราะฉะนั้น เรื่องกระทบใจต้องมีกันแน่ ถ้าคิดว้าทะเลาะกันแล้ว จะไม่ทนกัน แต่ถ้าทำใจได้ คิดว่าจะทนเขาได้ ก็ต้องคุยกันให้ดีว่าจะทนกันอย่างไร มากกว่าที่จะไปคุยเรื่องอื่น
4.อดทนต่อกิเลส คือ การอดทนต่อนิสัยไม่ดีของเราเอง
ไฟล์แนบ
#5
โพสต์เมื่อ 07 November 2007 - 05:01 PM
#6
โพสต์เมื่อ 07 November 2007 - 07:56 PM
ย่อมพูดดีไม่ได้ ดังน้ันเขามักจะูพูดวนวน ให้หัวเราเวียนเวียน หมดไปวันวัน ท่านบอกว่าจงไปฟังคนที่คิดดี เขาจะพุดดี ส่วนคำ
พูดไม่ดีไม่ใช่ไม่ต้องฟัง แต่ให้คิดว่า ใจเขาไม่ดีเขาจึงหาคำพูดดีดีไม่ได้
สำหรับตัวผู้ตอบนี้ ถ้าผู้ใดมาถามก็จะบอกว่า ระหว่างเขากับเรานั้นหากเปรียบใจกันแล้วเหมือนภาชนะ เช่น ชาม ที่จะต้องบรรจุอาหาร ถามว่า ใครสะอาดกว่ากัน คนใจสะอาดย่อมต้องมีความสุขมากกว่ามิใช่หรือ แต่ถ้าเราทุกข์เราก็สะอาด
ไม่จริงคือไปหยิบของทีั่เขาทิ้งไว้มาใส่ใจเรา ให้มันเน่ามันสะอาดอยู่แล้วไปหยิบเอามาใส่ทำไม เขาทำสิ่งทีสูงกว่าหรือต่ำกว่าเรา ถ้าเขาต่ำกว่าเราเราจะต้องลดตัวไปฟังไปรับรู้ทำไม ไม่แตกต่างกับมีถนนให้เดิน ไปสุ๋เป้าหมาย ถนนหนึ่งมีน้ำครำ กับถนนหนึ่งมีสองข้างทางสวยงาม ทำไมต้องวกไปคลุกน้ำคลำ มันสะดวกหรือเป็นทางลัดหรือก็เปล่า หลวงพ่อเคยบอกคนที่มาถามว่า การที่บริเวณที่เราอยู่มีความน่ำเบื่อหน่ายเราต้องเทียนที่สว่างตรงนั้น ไม่ใช่ต้องอดทนแต่เราทำตัวเราให้คนชั่วละอายใจในวันหนึ่งที่เขาคิดได้ ถ้าเราเอาแต่เบื่อตรงนั้นจะมีอะไรไปเปรียบเทียบระหว่างคนที่สร้างบารมีกับไม่สร้าง ดังนั้นต้องโยนิโสมนสิการให้ได้
#7
โพสต์เมื่อ 07 November 2007 - 10:08 PM
ถ้าชอบงานนี้อยู่ก็ลองทนให้มากขึ้น ถ้ายังทนไม่ไหวก็ให้ทนมากขึ้นไปอีก ทนไปเรื่อยๆ จนทนได้นั่นแหละครับ โชคดีบุญรักษานะครับ
#8
โพสต์เมื่อ 08 November 2007 - 09:40 AM
ส่วนงานที่ทำก็ยังคงชอบ และ รักอยู่ ก็ยังพออดทนได้ค่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 08 November 2007 - 09:43 AM
เราไม่มองก็ไม่อุดจาดตา
เราไม่ดม ก็ไม่เหม็น
ถ้าเปรียบได้เหมือนเนื้อบนหลังหมา ล่ะครับ
หมามันเห็นเนื้อ มันอยากกิน มันก็กระโดด เหยงๆๆ
เพื่อจะกินเนื้อ
พอหัวโดดงับ ... ตัวก็ขยับหนี ... เพราะหมามันกัดหลังตัวเองไม่ถึง
ยิ่งโดดงับเร็ว ... ก้อนเนื้อ ก็หนีเร็ว
โดดไม่หยุด ... เนื้อก็หนีไม่หยุด ... น่าสงสารหมามาก
ถ้าเรา ... มีความรู้สึกว่า ...
รู้สึกสนุกกัน แต่เรารู้สึกเซ็ง ล่ะก็
เรากำลังจะเข้าหาของสกปรก ครับ...
เมื่อรู้สึกโกรธ เบื่อๆ หรือ เคืองใจใครก็ตาม
ให้ตั้งสติระลึกนึกถึงความดีของคน ๆ นั้นไว้ในใจ
เช่นเขาเคยทำดีอะไรให้แก่เราบ้างไหม หรือ เขามีส่วนดีอื่นๆ
ที่น่าประทับใจอะไรบ้างนึกอย่างนี้มาแทนความคิดไม่ชอบใจ
ความโกรธก็จะหายไปเอง ครับ
เช่นคุณ sunshining ไม่ชอบหน้าเพื่อนๆคุณ เพราะเพื่อนคุณ
ชอบพูด พูดเสียงดัง ๆ บางทีพูดหยาบ
คุณก็ พยายามคิดว่าเพื่อนๆคุณ ถึงจะชอบพูดพูดเสียงดัง ๆ บางทีพูดหยาบ
แต่ก็ยังดีที่ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ คิดได้ดังนี้คุณsunshining
ก็เกิดความรู้สึกที่ดีต่อเพื่อนๆคุณขึ้นมาบ้าง ครับ
ไปดูวิธีระงับความอาฆาต ด้วยการมองเห็นความดีของเขา
จากพระไตรปิฎกที่
เพิ่มเติมได้ครับ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#10
โพสต์เมื่อ 08 November 2007 - 07:24 PM
#11
โพสต์เมื่อ 09 November 2007 - 12:36 AM
โดยส่วนตัวก็ทำเฉย ๆ รู้และเข้าใจว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นคนไม่รักษาศีล แต่เราผู้รักษาศีล ต้องตั้งสติ สัจจะไว้ให้มั่น ว่า จะไม่เผลอเป็นแบบเขาไปด้วย เท่านั้นก็พอแล้ว อย่าไปตำหนิ หรือแสดงความรังเกียจต่อเขา เพราะเขาถนัด ที่จะตอบโต้เรา ตัวเราเองจะอยู่ไม่ได้
หากเรารักษานิสัยคนดีมีศีลอยู่เสมอต้นเสมอปลาย พวกเขาก็จะเกรงใจเรา
#12
โพสต์เมื่อ 09 November 2007 - 12:05 PM
ดิฉันก็พยายามเข้าใจถึงธรรมชาติ ของเพื่อน คนนั้น เช่น เขาเป็นคนตัวใหญ่ กล่องเสียงเขาคงใหญ่
ทำให้เวลาพูด ทำให้เสียงออกมาใหญ่ และ ดัง ลดเสียงได้ลำบาก หริอ การได้ยินของเขาอาจจะ
ไม่ค่อยชัด จึงทำให้ต้องพูดเสียงดังโดยไม่รู้ตัว หรือ แก้ไขลำบาก
ดิฉันก็สำรวมกิริยา เสมอ เขาก็เกรงใจ ค่ะ ถ้าเขานึกได้เขาก็จะลดเสียงลงบ้างค่ะ
ก็คงเป็นที่บางอารมณ์ของเดิฉันเท่านั้น ที่บางทีอาจอ่อนแอจนเรื่องเหล่านี้เขามากระทบที่ใจได้โดยง่ายค่ะ เลยทำให้เป็น
ทุกข์ขึ้นมาได้
โชคดีที่สิ่งแวดล้อมที่ว่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน
วันนี้รู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ กลับมาเป็นคนเดิมที่อารมณ์ปกติแล้ว
ก็ทำให้ดิฉันได้คิดค่ะ ว่า จริง ๆ แล้วทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทุกอารมณ์ ไม่มีความคงที่ มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
เป็นธรรมดา ความเปลี่ยนแปลงก็เป็นเรื่องที่ดี และ ไม่ดีได้ ในตัวเอง
ถ้าสิ่งที่ไม่ถูกใจ มีการ เปลี่ยนแปลง ก็อาจทำให้เรารู้สึกพอใจ ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ถูกใจ เปลี่ยนไป
อาจจะทำให้ไม่พึงพอใจ ก็ทำให้ขาดความสุข เกิดเป็นความรู้สึกเซ็งได้
ไม่ทราบว่าดิฉันคิดถูกรึเปล่า ? แต่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นแล้วค่ะ
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ