อาชีพต้องห้าม
#1
โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 11:57 AM
#2
โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 12:19 PM
#3
โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 01:27 PM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#4
โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 02:35 PM
1. ทาน ให้ทำทานทุกวัน
2. ศีล รักษาศีลทุกเวลา
3. ภาวนา ทุกวัน
4. อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
5. บำเพ็ญประโยชน์ให้สังคม
6. แสดงธรรม
7. ฟังธรรม
8. อุทิศบุญ ให้หมู่ญาติ
9. อนุโมทนาบุญ กับคนที่ทำดี
10. มีความเห็นถูกต่อโลกและชีวิต เชื่อว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
#5
โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 03:02 PM
อย่างที่เพื่อนๆแนะนำ...ไม่ตัดสินว่าความลำบากที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้มาจากอดีตที่ผิดพลาด...เดี๋ยวใจหมองหรืออาจเข้าใจว่าจะหมดกรรมแล้ว
#6
โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 03:35 PM
#7
โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 04:05 PM
#8
โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 04:18 PM
อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด
บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มขึ้นอีกอย่างเด็ดขาด (เด็ดให้ขาดอย่าให้เหลือเยื่อใย)
...
#9
โพสต์เมื่อ 30 July 2008 - 09:54 PM
#10
โพสต์เมื่อ 31 July 2008 - 08:42 AM
#11
โพสต์เมื่อ 31 July 2008 - 12:37 PM
- มีโอกาสจะลองเป็นกัลยาณมิตรให้ Boss ก็ดีนะ จะได้พลิกสถานการณ์(อาจปิดโรงงานสุราเป็นเชื้อเพลิงทดแทนทำนองนี้...)
#12
โพสต์เมื่อ 31 July 2008 - 12:48 PM
ในอดีตกาล หญิงนางหนึ่งบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน แต่ไปเป็นภรรยาของนายพราน ทุกๆ วัน นางจะคอยปรนนิบัติสามี รวมทั้งส่งหน้าไม้ให้สามีไปล่าสัตว์ด้วย พอสามีกลับมาพร้อมเนื้อสัตว์ที่ล่ามาได้ ภรรยาก็นำเนื้อนั้นมาปรุงอาหารให้รับประทาน
พระภิกษุถามพระพุทธเจ้าว่า นางไม่มีบาปหรือ พระพุทธเจ้าตอบว่า นางเป็นพระโสดาบัน(ศีลบริสุทธิ์) ไม่มีบาปเลย เพราะนางทำไปเช่นนั้น ด้วยจิตคิดแค่ว่า ต้องการทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด (โดยไม่คิดไปไกลกว่านั้น ว่าหน้าไม้นั้นจะเอาไปฆ่าสัตว์นะ สัตว์นั้นต้องตายเพราะเรามีส่วนนะ นางไม่ได้คิดตรงนั้นเลย)
ถ้าคนธรรมดา กรณีเป็นเลขา ไม่ได้ผลิดน้ำเมาโดยตรง แล้วทำใจได้อย่างพระโสดาบัน ก็ไม่มีบาปอันใดครับ แต่ยากนะครับ ที่จะทำใจอย่างนั้นได้ ดังนั้น สั่งสมบุญกุศลเข้าไว้เถิดประเสริฐนักครับ
#13
โพสต์เมื่อ 31 July 2008 - 01:24 PM
อย่าดูเบาแม้บุญเพียงเล็กน้อย..รวมกันเข้า ดุจมหานทีบุญได้เหมือนกัน..
#14
โพสต์เมื่อ 31 July 2008 - 04:43 PM
กฏแห่งกรรมนั้นยุติธรรมเสมอ แต่ที่ไม่ยุติธรรมคือ ที่เราต้องออยู่ใต้กฏแห่งกรรมนี่แหละ เพราะฉะนั้น เราต้องหาทางหลุดพ้นจากกฏนี้ไปให้ได้
ด้วยการทำหยุดทำนิ่งดิ่งเข้ากลางครับ
#15
โพสต์เมื่อ 02 August 2008 - 05:58 PM
และเร่งทำความดีตั้งแต่นี้ต่อไปตลอดค่ะ ทั้งครอบครัว
ความดีจะส่งผลดีให้กับครอบครัวและตัวเราค่ะ
หมั่นนั่งสงบทำสมาธิ ทำใจให้นิ่งให้ว่างนะคะ แรกๆ อาจจะไม่เห็นดวงใสในกายเรา แต่ก็นั่งไปเถอะค่ะ
เพราะความนิ่งจะพิชิต ความเคลื่อนไหว
(ตัวเราก็ยังไม่เห็นดวงใสๆ เหมือนกัน แต่เราก็นั่งเกือบทุกวันที่เราจะทำได้)