สาธุๆๆ...Lp'Ping ตอบได้ชอบแล้ว หวังว่ากระทู้นี้คงทำให้คุณตำรวจรักบุญได้สบายใจขึ้นนะครับ และ่ยังเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นๆอีกด้วย เพราะตามตัวอย่างในพระไตรปิฏกที่ยกมาก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ พระอรหันต์บางท่านจะหมดกิเลส ยังต้องไปบรรลุธรรมในปากเสือเลย แสดงบุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป ถ้าอนันตริยกรรมเป็นกรรมหนักฝ่ายอกุศล มหัคตกุศลของฝ่ายบุญที่สามารถตัดรอนวิบากกรรมเก่าของเราได้ ถ้าในพระไตรปิฏกก็ต้องได้อัปปนาสมาธิตั้งต้นแต่ปฐมฌานขึ้นไป ถ้าในภาษาของเราก็คือต้องใจหยุดสนิทจนถึงดวงปฐมมรรคภายใน ไม่ใช่แค่กุศลนิมิตที่เรานึกได้นะครับ หมายถึงดวงธรรมจริงๆที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ บุญศักดิ์สิทธิ์จึงจะได้ช่องสอดละเอียด มาเจือจางวิบากกรรมเก่าของเราได้อย่างฉับพลัน
ฉะนั้นถ้าเราจะทำให้กรรมเก่าของเราเจือจางลง ก็ต้องหมั่นรักษาศีล นั่งธรรมะด้วยใจที่ปราศจากความกังวลต่างๆ ทำใจให้อยู่ในอารมณ์สบายให้สม่ำเสมอ ต้องทำย้ำๆซ้ำๆไปเรื่อยๆ จนเราหมดความสงสัยในตัวเรา และเราก็เป็นที่พึ่งของตัวเราได้ อันนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสอนเสมอๆ แม้ผู้ใจละเอียดแล้ว ที่ไปศึกษาธรรมะที่ละเอียดลึกซึ้งยิ่งๆขึ้นไป ท่านก็ไม่ทิ้งพื้นฐานตรงนี้เลย ยังต้องทำตลอดเวลา ต้องทำจิตให้บริสุทธิ์ยิ่งๆขึ้น ต้องสะสางธาตุธรรมตัวเองให้บริสุทธิ์ยิ่งๆขึ้น บาปฝ่ายอกุศลจึงจะเจือจางลง ถ้าใจใสมาก สว่างมาก ก็เจือจางมาก ถ้าใจเราใสน้อย ยังปนด้วยความกลัดกลุ้มต่างๆ บาปอกุศลก็เจือจางช้า
สุดท้ายนี้ ก็ขอให้ทำใจใสๆกัน รอรับบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันทอดกฐินนี้กันนะครับ
- ธรรมะสร้างกำลังใจ ทำให้คุณเป็นสุขใจได้ตลอดเวลา
- → ดูโปรไฟล์: โพสต์: Yenta4
สถิติเว็บบอร์ด
- กลุ่ม Members
- โพสต์ 21
- ดูโปรไฟล์ 12583
- อายุ ไม่เปิดเผย
- วันเกิด ไม่เปิดเผย
-
Gender
ไม่เปิดเผย
-
Interests
Dhamma
0
Neutral
เครื่องมือผู้ใช้งาน
เพื่อน
Yenta4 ยังไม่มีเพื่อนในตอนนี้
ผู้เยี่ยมชมล่าสุด
โพสต์ที่ฉันโพสต์
ในกระทู้: ทางเลือกที่เหมาะสม(สำหรับคุณตำรวจรักบุญ)
06 November 2010 - 09:08 PM
ในกระทู้: ขอคำแนะนำครับ
03 November 2010 - 05:17 PM
อ่านจากเรื่องคร่าวๆ ก็น่าเห็นใจครับ แต่อย่างที่หลายๆกระทู้บอกมา คนเราก็มีมุมมองที่แตกต่างกันไป ทั้งเจ้าของกระทู้ และอดีตผู้ปกครองของคุณ แต่มาดูประเด็นเรื่องการมาวัดของเจ้าของกระทู้ดีกว่า จริงๆหลวงพ่อทั้งสองและคุณยายอาจารย์ท่านบอกไว้เสมอๆว่า ท่านสร้างวัดให้เป็นวัด สร้างพระให้เป็นพระ สร้างคนให้เป็นคนดี ท่านสร้างวัดเอาบุญใหญ่โดยการถวายวัดกับพระศาสนา ดังนั้นวัดพระธรรมกายจึงเป็นวัดที่ๆผู้ที่มีใจที่จะฝึกฝนอบรมตนเอง ก็จะเข้ามาวัดเพื่อศึกษาธรรมะ ถ้าเจ้าของกระทู้มีความสุขกับการมาวัด ทำบุญ และการปฏิบัติธรรม ก็มาเถอะครับ สร้างบารมีต่อ อย่าไปติดแค่คนใดคนหนึ่ง หรือภาพเก่าๆในอดีต คิดเสียว่าเป็นแค่สถานการณ์ที่เราได้ผ่านพ้นไปแล้ว ให้เราอยู่กับปัจจุบันดีกว่า เพราะวัดนี้เป็นของพระศาสนาอยู่แล้ว ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เราอย่าตัดรอนการสร้างบุญของเราเองด้วยความรู้สึกเก่าๆเลย หลวงพ่อท่านเคยบอกว่า กว่าจะตามลูกๆสักคนนหนึ่งให้กลับเข้ามาในเส้นทางการสร้างบารมี ให้มารู้จักวิธการเข้าถึงองค์พระภายใน ท่านใช้บุญไปเยอะครับ ยิ่งถ้ามาถึงแล้ว กลับหลุดออกไปอีก น่าเสียดายครับ
แล้วก็เวลามาวัดก็อยู่ร่วมพิธีตามที่ใจปรารถนาเถอะครับ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องรู้สึกว่าต้องหลบหน้าหรืออะไร ลูกๆหลวงพ่อไม่ว่าจะสร้างบารมีในสถานะไหน ก็เป็นนักสร้างบารมีลูกหลวงพ่อ หลานคุณยายอยู่ดี ให้มีความอาจหาญในการทำความดีครับ แล้วที่เรายังเจออุปสรรคต่างๆนานา เพราะเรายังมีความกังวลในเรื่องต่างๆอยู่มาก ทำให้เวลาเราทำบุญ นั่งธรรมะ ใจเราก็ไม่ใสไม่สว่างเต็มที่ องค์พระที่เคยเห็น ก็เลยเลือนๆ เหมือนเราจุดเทียนที่ไส้เทียนเปรอะเปื้อน แสงสว่างที่เกิดขึ้นก็สว่างไม่เต็มที่ ถ้าเราค่อยๆปล่อยความกังวลเรื่องราวในอดีต และเรื่องของอนาคตที่ยังมาไม่ถึง คุณเจ้าของกระทู้จะกลับมานั่งธรรมะได้ดีเห็นพระท่านได้เหมือนเดิม แล้วบุญที่เราทำก็จะมีช่องส่งผลได้มากขึ้น ชีวิตของเราก็จะค่อยๆดีขึ้นแน่นอนครับ
ส่วนคำถามข้ออื่นๆถ้าคิดถึงแล้วฟุ้งซ่าน ให้เจ้าของกระทู้นึกถึงบทสวดมนต์ทำวัตรเย็น ที่บอกว่า "เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม เราจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น" แล้วท่องพุทธภาษิตนี้ทุกวันๆ "กมฺมุนา วตฺตตี โลโก...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" พุทธภาษิตบทนี้จะเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ได้แน่ๆครับ...
แล้วก็เวลามาวัดก็อยู่ร่วมพิธีตามที่ใจปรารถนาเถอะครับ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องรู้สึกว่าต้องหลบหน้าหรืออะไร ลูกๆหลวงพ่อไม่ว่าจะสร้างบารมีในสถานะไหน ก็เป็นนักสร้างบารมีลูกหลวงพ่อ หลานคุณยายอยู่ดี ให้มีความอาจหาญในการทำความดีครับ แล้วที่เรายังเจออุปสรรคต่างๆนานา เพราะเรายังมีความกังวลในเรื่องต่างๆอยู่มาก ทำให้เวลาเราทำบุญ นั่งธรรมะ ใจเราก็ไม่ใสไม่สว่างเต็มที่ องค์พระที่เคยเห็น ก็เลยเลือนๆ เหมือนเราจุดเทียนที่ไส้เทียนเปรอะเปื้อน แสงสว่างที่เกิดขึ้นก็สว่างไม่เต็มที่ ถ้าเราค่อยๆปล่อยความกังวลเรื่องราวในอดีต และเรื่องของอนาคตที่ยังมาไม่ถึง คุณเจ้าของกระทู้จะกลับมานั่งธรรมะได้ดีเห็นพระท่านได้เหมือนเดิม แล้วบุญที่เราทำก็จะมีช่องส่งผลได้มากขึ้น ชีวิตของเราก็จะค่อยๆดีขึ้นแน่นอนครับ
ส่วนคำถามข้ออื่นๆถ้าคิดถึงแล้วฟุ้งซ่าน ให้เจ้าของกระทู้นึกถึงบทสวดมนต์ทำวัตรเย็น ที่บอกว่า "เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม เราจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น" แล้วท่องพุทธภาษิตนี้ทุกวันๆ "กมฺมุนา วตฺตตี โลโก...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" พุทธภาษิตบทนี้จะเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ได้แน่ๆครับ...
ในกระทู้: โบสถ์วัดทำไมหรอ?
11 October 2010 - 04:59 PM
ลองอ่านจากกระทู้เก่าดูนะครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับโบสถ์วัดพระธรรมกาย มีตอบได้ละเอียดจากกระทู้นี้แล้ว
http://www.dmc.tv/fo....php/t8256.html
คาวมรู้เกี่ยวกับการผูกสีมา
http://www.vajira.or...l...edge&id=206
สำหรับในพระวินัยไตรปิฏก การผูกสีมา เป็นการกำหนดเขตของสงฆ์ไว้เป็นเอกเทศ เพื่อทำสังฆกรรม มีรายละเอียดอยู่ในตำรา สารัตถทีปนี นาม วินยฎีกา สมันตปาสาทิกา วัณณนา (ตติโย ภาโค) ซึ่งเป็นหนังสือเรียนบาลีของชั้น ประโยค 6 ซึ่งไม่ได้บอกว่าจะต้องสร้างโบสถ์ในรูปแบบไหน เพียงแต่บอกไว้ว่าต้องกำหนดเขตแดนของสงฆ์ให้ถูกต้องตามพระวินัยเท่านั้น ก็ถือว่าใช้ทำสังฆกรรมได้ ซึ่งนอกจากการกำหนดบนพื้นดิน ยังมีการกำหนดเขตในน้ำและที่อื่นๆอีกด้วย
ลองออ่านดูข้อที่ 6 นะครับ
http://www.larnbuddh...awinai/4.9.html
รายละเอียดเกี่ยวกับโบสถ์วัดพระธรรมกาย มีตอบได้ละเอียดจากกระทู้นี้แล้ว
http://www.dmc.tv/fo....php/t8256.html
คาวมรู้เกี่ยวกับการผูกสีมา
http://www.vajira.or...l...edge&id=206
สำหรับในพระวินัยไตรปิฏก การผูกสีมา เป็นการกำหนดเขตของสงฆ์ไว้เป็นเอกเทศ เพื่อทำสังฆกรรม มีรายละเอียดอยู่ในตำรา สารัตถทีปนี นาม วินยฎีกา สมันตปาสาทิกา วัณณนา (ตติโย ภาโค) ซึ่งเป็นหนังสือเรียนบาลีของชั้น ประโยค 6 ซึ่งไม่ได้บอกว่าจะต้องสร้างโบสถ์ในรูปแบบไหน เพียงแต่บอกไว้ว่าต้องกำหนดเขตแดนของสงฆ์ให้ถูกต้องตามพระวินัยเท่านั้น ก็ถือว่าใช้ทำสังฆกรรมได้ ซึ่งนอกจากการกำหนดบนพื้นดิน ยังมีการกำหนดเขตในน้ำและที่อื่นๆอีกด้วย
ลองออ่านดูข้อที่ 6 นะครับ
http://www.larnbuddh...awinai/4.9.html
ในกระทู้: ถามเรื่อง ท่านพญายมราช กับ พระอินทร์ หน่อยครับ
05 April 2010 - 06:53 PM
ลองอ่านเรื่องพญายมจาก link นี้ดูครับ
http://www.dmc.tv/fo....php/t8732.html
เรื่องของพญายมราชในพระสูตรครับ
http://th.wikisource...ki/อรรถ...ตสูตร
http://www.dmc.tv/fo....php/t8732.html
เรื่องของพญายมราชในพระสูตรครับ
http://th.wikisource...ki/อรรถ...ตสูตร
ในกระทู้: โลกันตนรก...สงสัยครับ
05 April 2010 - 06:25 PM
ลองไปอ่านเคสนี้ ตรงคำถามและคำตอบข้อ 7 ครับ จะมีตัวอย่างของผู้ที่ไปโลกันตนรกเนื่องจากเป็นผู้มีนิยตมิจฉาทิฐิ..อนุโมทนากับเจ้าของ Case ด้วยนะครับ...
(นิยตมิจฉาทิฐิ หมายถึงความเห็นผิดอย่างแรงที่ไม่เชื่อในเหตุในผลของเจตนาในการกระทำบุญบาป ทั้งหลายว่า จะต้องมี รวมทั้งปฏิเสธทั้งเหตุและทั้งผล ว่าสักแต่เป็นการกระทำขึ้นเองเฉยๆ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การทำชั่วทั้งหลาย ไม่มีผลเกิดขึ้นเองเป็นต้น)
http://www.dmc.tv/pa...2549-05-04.html
(นิยตมิจฉาทิฐิ หมายถึงความเห็นผิดอย่างแรงที่ไม่เชื่อในเหตุในผลของเจตนาในการกระทำบุญบาป ทั้งหลายว่า จะต้องมี รวมทั้งปฏิเสธทั้งเหตุและทั้งผล ว่าสักแต่เป็นการกระทำขึ้นเองเฉยๆ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การทำชั่วทั้งหลาย ไม่มีผลเกิดขึ้นเองเป็นต้น)
http://www.dmc.tv/pa...2549-05-04.html
- ธรรมะสร้างกำลังใจ ทำให้คุณเป็นสุขใจได้ตลอดเวลา
- → ดูโปรไฟล์: โพสต์: Yenta4
- Privacy Policy
- เงื่อนไข ข้อตกลง และกฏระเบียบของเว็บไซต์ DMC ·