สาเหตุของความรู้สึกซึมเศร้า ท้อแท้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากความไม่สมหวัง ความผิดหวังในเรื่องต่างๆ และมักเกิดกับบุคคลที่มีมุมมอง 3 ลักษณะต่อไปนี้ คือ 1. มองตนเองในแง่ร้าย 2. มองโลกภายนอกว่าร้าย
3. มองอนาคตว่าล้มเหลว จึงทำให้รู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดที่ดี จึงมักหดหู่และจมอยู่กับเรื่องร้ายๆ อยู่เสมอ จึงทำให้เกิดอาการซึมเศร้าท้อแท้ขึ้นได้ สำหรับส่วนแนวทางในการจัดการกับความเศร้าสามารถทำได้โดย
-แยกแยะหาสาเหตุของความซึมเศร้า พยายามแก้ไข หรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
-ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที เช่น เดิน วิ่ง โยคะ แอโรบิก ฯลฯ เพื่อให้ร่างกายได้ออกกำลังหยุดคิดหมกมุ่นกับปัญหา และให้ร่างกายได้หลั่งสารแห่งความสุขก็จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น
-หากิจกรรมที่ส่งเสริมจินตนาการ เช่น การเพนต์รูป เล่นดนตรี วาดรูป ฯลฯ
-มองสิ่งต่างๆ ในด้านบวก หาสิ่งดีๆ ในแต่ละวัน แม้เล็กน้อย เช่น ช่วยเก็บของให้แม่ ยิ้มทักทายเพื่อน/ครู โทรศัพท์คุยกับคุณปู่ คุณย่า ฯลฯ เพื่อให้เราได้มีมุมมองที่ดีในชีวิต มีความภาคภูมิใจและลดความคิดที่หมกมุ่นอยู่กับตัวเองมากจนเกินไป
สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการกับอาการท้อแท้ ซึมเศร้าที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ที่เราสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ด้วยตัวเราเอง
ซึมเศร้าท้อแท้แก้ไขได้
เริ่มโดย kuna, Mar 11 2008 03:38 PM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 11 March 2008 - 03:38 PM
#2
โพสต์เมื่อ 11 March 2008 - 11:26 PM
ดีมากๆครับ
มีอีกไหมครับวิธีที่ทำให้หายเบื่อ เซ็ง เศร้า เหงา กลุ้ม
มีอีกไหมครับวิธีที่ทำให้หายเบื่อ เซ็ง เศร้า เหงา กลุ้ม
#3
โพสต์เมื่อ 13 March 2008 - 03:37 PM
ทำทุกอย่างแล้ว
1. ออกกำลังกาย 30 นาที ทั้ง เช้า เย็น
2. ฟังและดูdmc ตลอด ถ้าอยู่ในบ้าน สรุปตอนตื่นอยู่และอยู่ในบ้านจะโอเค สบายดีมีความสุข
3. ก่อนนอนนั่งสมาธิตามเสียงหลวงพ่อ ก็มีความสุข แต่พอหลับ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกวัน
ฝันเป็นภาพมัวๆ เรื่องไม่ดีทุกวัน ****ตื่นมาเศร้าใจ ( มันเศร้าเองนะไม่ได้อยากเศร้า ) นาน 10-15นาที (บังคับไม่ได้ นั่งสมาธิไม่หาย ****** จนกว่าจะได้นาน 10 นาทีขึ้นไป)
4.เช้าไปเจอปลาที่ตลาดก็ปล่อยปลา
5.ก่อนนอนก็ใส่เงินในกระปุกสั่งสมบุญเพื่อสร้างพระธรรมกายประจำตัว
สรุป ***** ช่วยด้วยค่ะ*****
(ทำครบ ทาน ศีล ภาวนา อ้อ ตอนเช้าหลังสวดมนต์ทำวัดเช้า ได้อาราธนาศีลด้วย)
ทรมานคิดอยากตาย.....(บางวัน แต่ไม่ฆ่าตัวตายหรอกรู้ว่าบาปหนัก)
อย่าบอกให้ไปหาหมอกินยานะคะ (เป็นเจ้าหน้าที่รพ. ยามีอยู่ ถ้าไม่เป็นหนักจริงจริงจะไม่กิน)
1. ออกกำลังกาย 30 นาที ทั้ง เช้า เย็น
2. ฟังและดูdmc ตลอด ถ้าอยู่ในบ้าน สรุปตอนตื่นอยู่และอยู่ในบ้านจะโอเค สบายดีมีความสุข
3. ก่อนนอนนั่งสมาธิตามเสียงหลวงพ่อ ก็มีความสุข แต่พอหลับ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกวัน
ฝันเป็นภาพมัวๆ เรื่องไม่ดีทุกวัน ****ตื่นมาเศร้าใจ ( มันเศร้าเองนะไม่ได้อยากเศร้า ) นาน 10-15นาที (บังคับไม่ได้ นั่งสมาธิไม่หาย ****** จนกว่าจะได้นาน 10 นาทีขึ้นไป)
4.เช้าไปเจอปลาที่ตลาดก็ปล่อยปลา
5.ก่อนนอนก็ใส่เงินในกระปุกสั่งสมบุญเพื่อสร้างพระธรรมกายประจำตัว
สรุป ***** ช่วยด้วยค่ะ*****
(ทำครบ ทาน ศีล ภาวนา อ้อ ตอนเช้าหลังสวดมนต์ทำวัดเช้า ได้อาราธนาศีลด้วย)
ทรมานคิดอยากตาย.....(บางวัน แต่ไม่ฆ่าตัวตายหรอกรู้ว่าบาปหนัก)
อย่าบอกให้ไปหาหมอกินยานะคะ (เป็นเจ้าหน้าที่รพ. ยามีอยู่ ถ้าไม่เป็นหนักจริงจริงจะไม่กิน)
#4
โพสต์เมื่อ 13 March 2008 - 04:55 PM
สำหรับความเห็นของ usr22020
ผมว่าต้องใช้ความอดทน ปฎิบัตธรรมะเยอะๆ แล้วก็อฐิษฐานจิตช่วยน่าจะดีนะครับ พยายามมองโลกนี้ให้สดใสน่าอยู่ที่เรียกว่า positive thinking ให้มากๆเพราะถ้าเราเป็นคนมี positive thinking แล้วสิ่งดีๆก็จะเกิดขั้นกับเราเพราะอายตนะมันดึงดูดกัน คิดดี ก็จะมีแรงดูดสิ่งดีๆเข้ามาหาเราแต่เนื่องจากคนเรามีกิเลสทำให้โดยกปกติคนเราจึงมัก คิด พูด ทำชั่วโดยบางทีเราไม่รู้ตัว ที่เรียกว่า negative thinking ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนเราจะมี positive thinking ได้ การที่จะมี positive thinking ได้นั้นจะต้องอาศัยกำลังสมาธิ โดยการต้องฝึกและหมั่นสวดมนต์ นั่งธรรมะ อย่างตลอดต่อเนื่อง และในระหว่างวันก็พยายามมองโลกในแง่ดีให้กำลังใจตัวเองให้มากๆ ผมเชื่ออาการจะดีขึ้น และขอแนะนำให้อ่านหนังสือ 1. At Last You Win ของหลวงพ่อธรรมมชโย
ผมว่าต้องใช้ความอดทน ปฎิบัตธรรมะเยอะๆ แล้วก็อฐิษฐานจิตช่วยน่าจะดีนะครับ พยายามมองโลกนี้ให้สดใสน่าอยู่ที่เรียกว่า positive thinking ให้มากๆเพราะถ้าเราเป็นคนมี positive thinking แล้วสิ่งดีๆก็จะเกิดขั้นกับเราเพราะอายตนะมันดึงดูดกัน คิดดี ก็จะมีแรงดูดสิ่งดีๆเข้ามาหาเราแต่เนื่องจากคนเรามีกิเลสทำให้โดยกปกติคนเราจึงมัก คิด พูด ทำชั่วโดยบางทีเราไม่รู้ตัว ที่เรียกว่า negative thinking ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนเราจะมี positive thinking ได้ การที่จะมี positive thinking ได้นั้นจะต้องอาศัยกำลังสมาธิ โดยการต้องฝึกและหมั่นสวดมนต์ นั่งธรรมะ อย่างตลอดต่อเนื่อง และในระหว่างวันก็พยายามมองโลกในแง่ดีให้กำลังใจตัวเองให้มากๆ ผมเชื่ออาการจะดีขึ้น และขอแนะนำให้อ่านหนังสือ 1. At Last You Win ของหลวงพ่อธรรมมชโย
#5
โพสต์เมื่อ 16 March 2008 - 05:01 PM
แต่หนูเป็นโณคไม่อยากอ่านหนังสืออ่าค่ะ
ฮือๆๆๆ
ทำไมมันสอยนานๆๆแสนนานอย่างนี้
คณะอื่นเค้าปิดเทอมกันหมดแล้วอ่า
ฮือๆๆๆ
ทำไมมันสอยนานๆๆแสนนานอย่างนี้
คณะอื่นเค้าปิดเทอมกันหมดแล้วอ่า
#6
โพสต์เมื่อ 18 March 2008 - 03:13 PM
ขอบคุณนะคะ ทุกทุกท่าน และหนูตูน(toondayagokids ) อ่านแล้วขำน่ารักค่ะ