คนที่ตายโดยไม่ทันรู้ตัว จะรู้สึกตัวเมื่อไรครับ
#1
โพสต์เมื่อ 21 October 2008 - 10:02 PM
เคยทราบมาว่าหลังจากตายแล้ว 7 วันจะกลับมาที่ที่ตัวเองตาย แต่ไม่แน่ใจว่า 7 วันหรือวันที่ 7 ครับ เพราะถ้านับวันที่ตายเป็นวันที่ 1 พอถึงวันที่ 7 ก็จะเท่ากับ 6 วัน แต่ถ้านับจากวันที่ตายไปวันรุ่งขึ้นเป็น 1 วัน ก็จะเป็น 7 วัน อยากถามผู้ที่รู้แน่ ๆ ครับ ว่าตกลงเขานับกันยังไง
หรือว่าควรจะนิมนต์พระมาทำบุญในช่วงไหน และระหว่าง 7 วันนี้ควรทำอย่างไร และเขาจะรู้สึกตัวว่าตายในวันที่เท่าไร
ขอรบกวนทุกท่านด้วยนะครับ เขาเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวาน วันที่ 20 นี่เองครับ
#2
โพสต์เมื่อ 22 October 2008 - 12:23 AM
การทำบุญ 7 วัน คือช่วงที่กายละเอียดยังวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ สำหรับกรณีผู้ที่ไม่ได้ไปมหานรก หมู่ญาติก็จะได้มีโอกาส 7 วันนั้นทำบุญอุทิศไปให้
การทำบุญ 50 วันคือช่วงที่กำลังรอคิวคอยการพิพากษาจากพญายมราชในยมโลก
การทำบุญ 100 วัน คือช่วงที่ระหว่าง 50 วัน ถึง 100 วัน คือช่วงพิพากษาและส่งไปเกิด ไปเกิดในมหานรก ไปยมโลก ไปเป็นมนุษย์ ไปเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน หรือไปเป็นเทวดา เป็นต้น
ทั้ง สามช่วงนี้ คือ 7 วัน 50 วัน 100 วัน กายละเอียดจะรับบุญได้ นี่คือหลักส่วนใหญ่ มักจะเป็นอย่างนี้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะฉะนั้นภายใน 7 วัน 50 วัน หรือ 100 วัน ก็ต้องทำบุญทุกบุญให้เต็มกำลังแล้วอุทิศไปให้ผู้เสียชีวิตคะ
#3
โพสต์เมื่อ 22 October 2008 - 09:13 AM
แต่บางรายเช่นคนที่ประสพอุบัตเหตุ อาจจะงงงวย ไม่รู้ว่าตัวเองตายเดินวนเวียนๆงงอยู่ตรงที่ตัวเองตาย เป็นปีๆก็มี เช่นโค้งผีสิงบางแห่ง
ผีบางรายถูกฆาตกรรมตายก่อนอายุขัยบนโลก วิญญาณไม่มีบุญบาปจะไปไหน จึงวนเวียนเป็นสัมภเวสี แถวๆบ้าน หรือแถวๆที่ตัวเองตาย จึงเรียกว่าบ้านผีสิง
พูดแล้วกลัวครับ ถึงใครจะว่าเราเป็นผี แต่ผีก็ยังกลัวผีอยู่ดีครับ
#4
โพสต์เมื่อ 22 October 2008 - 09:21 AM
ถ้าอยากรู้นั่งสมาธิให้ได้ธรรมะภายในแล้วไปดูเองเลยครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#5
โพสต์เมื่อ 22 October 2008 - 09:35 AM
#6
โพสต์เมื่อ 22 October 2008 - 02:47 PM
#7
โพสต์เมื่อ 22 October 2008 - 07:41 PM
#8
โพสต์เมื่อ 23 October 2008 - 11:44 AM
2.ไม่ได้ศึกษาเรื่องชีวิตหลังความตายมามากพอ จึงยากที่จะรู้ตัวได้เร็วพอๆกับช่วงเวลาที่ตาย
3.กรรมตัดรอนชีวิตผู้อื่นมารวมกำลังส่งผลในขณะเดียวกัน จึงเกิดเร็วจนทำให้ไม่ทันตั้งตัว
4.ทั้งบุญและบาปของผู้ตายยังมีไม่ชัดไปทางใดทางหนึ่ง จึงไม่สามารถกำหนดภพได้ชัดเจนว่าจะไปสวรรค์ หรือนรก หรือภพอื่นๆ จึงทำให้ผู้ตายเอง เมื่อตายปุ๊ปก็จึงเวียนวลอยู่ในภพทีตนสามารถอยู่ได้ในทันที
5.แรงกรรมบังไว้ เช่นคนที่กระโดดตึกฆ่าตัวตาย แรงกรรมก็จะsave อัตโนมัติไปในใจของผู้ตายให้คิดได้แค่ว่า อยากจะฆ่าตัวตายเพียงอย่างเดียว ว่าแล้วก็ปีนตึกขึ้นไปแล้วก็กระโดดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็ตายไปแล้ว แต่ก็ยังนึกว่าตัวเองยังไม่ตายอีก จึงทำให้กรณีเช่นนี้ ยากต่อการที่จะรู้ได้ว่าตนเองได้ตายไปแล้ว
6. ใจผูกพันอยู่กับ คน สัตว์ สิ่งของเอามาก แม้รู้ว่าตัวเองว่าตายแล้ว อีกทั้งก็มีบุญมากพอที่จะไปสวรรค์ แต่ก็ยังไปไหนไม่ได้ ก็เพราะว่ายังคงมีความยินดีที่จะดูแลสิ่งๆนั้นอยู่
ส่วนถ้าเป็นกรณีของผู้ที่มีบุญมาก คือ
1. ตายปุ๊ปก็จะรู้ตัวเลย เพราะว่าใจไม่กระวลกระวาย คือมีสติกับสิ่งที่เกิดขึ้น
2.ศึกษาชีวิตหลังความตายมามากพอ
3.พอหลุดออกจากร่างปั๊ป เทวรถก็มารับทันที อันนี้แม้รู้ตัวว่าตายแล้ว ก็บังเกิดแต่ความปีติ และความสลดสังเวชในชีวิตของสัพพสัตว์ทั้งหลายที่สุดท้ายก็ต้องเป็นอยางนี้
4.กรณีพิเศษสุดของผู้ที่ได้ธรรมะขั้นสูง ก็จะสามารถตายก่อนตายได้ คือจะรู้ตัวว่าจะตายที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาอะไร ก็จะถอดกายไปก่อนทีจะโดนมารจับถอดกาย ถ้าเป็นในกรณีเช่นนี้ แม้ตาย ก็เรียกว่าตายอย่างผู้มีชัยชนะ และนี่แหละครับคือวิธีที่ผู้รู้ทั้งหลายเลือกที่จะทำกัน อันนี้อาจจะเข้าใจยากหน่อยนะครับ
เอาละ อย่าไปสนใจมากเลยครับว่าคนที่ตายแล้วเขาจะเป็นอะไรยังไง เพราะว่ายังไงๆ เขาก็ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว ถึงแม้ว่าจะร้องไห้จนน้ำตาท่วมโลกก็ตาม เขาก็ไม่อาจจะหวนกลับคืนมาได้อีกเป็นแน่ o.ไหม
สิ่งที่เราควรทำให้มากกว่านี้ก็คือ เราต้องทำในสิ่งที่เขาสามารถรับรู้ได้ก็คือ การทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เขาไงละครับ
สิ่งนี้ต่างหากที่เขาอยากจะได้มัน หาใช่พลังน้ำตาแห่งความรักจากใคร
กุญแจวิเศษ
#9
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 01:47 PM
#10
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 03:04 PM
#11
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 11:35 PM
จะกลัวทำไมครับ ก็ในเมื่ออยู่ในภพเดียวกัน เหมือนมนุษย์อยู่กับมนุษย์นี่แหละ จะมีก็แต่ความเกรงนั่นแหละครับเกรงอะไรละ ก็เกรงบุญกันก็เท่านั้นแหละครับ ใครบุญมากก็เป็นหัวหน้า ใครบุญน้อยก็อยู่ในความดูแลก็เท่านั้นเองครับ
O.ไหมครับ ถ้าจะเปรียบกับมนุษย์มันก็เหมือนกันกับกษัตริย์ กับสามัญชนนั่นแหละครับ O.ไหม
กุญแจวิเศษ
#12
โพสต์เมื่อ 10 September 2013 - 09:50 PM
มีคนสงสัยว่า คนที่ตายที่โรงพยาบาล วิญญาณจะกลับมาบ้านไหม
กลับ ถ้าคิดถึง ใช่ไหมคับ
#13
โพสต์เมื่อ 11 September 2013 - 08:28 AM
หลักทั่วๆไป ของชีวิตหลังความตาย
๑.ไปที่ชอบที่ชอบ(ปรโลก)ทันทีตามคตินิมิต...สุคติ หรือ ทุคติ หรือ กึ่งๆ เช่น เวมานิกเปรต
๒. ระหว่างรอคตินิมิต...เวียนวนตามกรรมารมณ์ ๗วัน เท่าที่ตนคุ้น ระลึกได้ตามสัญญา เช่น จะกลับบ้าน จะไปที่ทำงาน จะเวียนแถวโรงพยาบาล ฯลฯ
#14
โพสต์เมื่อ 11 September 2013 - 11:33 AM