เกิดเรื่องอีกแล้ว
#1
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 01:56 PM
#2
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 02:40 PM
ไม่ต้องเสียใจน๊า...และไม่ต้องเครียดด้วย.... ไหน ๆ ก็ตัดใจจากเขามาแล้ว (เดาอ่ะเพราะไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน)
วิธีง่าย ๆ นะจ๊ะ
1. delete เบอร์โทรอดีตแฟนเก่าทิ้งไปเลย
2. ช่วงนี้ อย่ารับเบอร์โทรแปลก ๆ ที่เราไม่คุ้นเคยเด็ดขาด ยิ่งตอนดึก ๆ หรือช่วงที่เรานอนอยู่โทรมานะ กดทิ้งเลย
3. ปิดโทรศัพท์ก่อนเข้านอน หากมีกังวลเกี่ยวกับทางบ้านจะโทรมาก็บอกพ่อแม่ไว้ก่อนได้ หรือ เปิดระบบสั่นและ
เอาไว้ห่าง ๆ ตัวไม่ต้องสนใจ เช้าค่อยมาดู หากมีเบอร์แปลกไม่ต้องโทรกลับอ่ะ
4. ต้องตัดใจให้ได้นะ ท่องเอาไว้น๊าว่า ชีวิตของเรามีคุณค่าต่อคนที่รักเรา และเรารักอยู่ คือพ่อแม่ญาติพี่น้องอีกตั้งมากมาย
ทำไมเราจะต้องมาเสียใจและเสียสุขภาพกับ ผู้ชายคนนี้ที่จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ญาติพี่น้องเราซะหน่อย อย่าให้
"คนอื่น" มาชี้ชะตาชีวิต และทำลายหัวใจเราได้ น้ำใส เชื่อว่า พอเวลาผ่านไปไม่นานนัก สุดท้ายkissy
ก็จะลืมได้แน่นอน ทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล และยังสวยงาม รักษาตัวรักษาใจให้ดี ๆ นะคะ น้ำใสขอ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#3
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 02:59 PM
#5
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 03:25 PM
#6
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 03:30 PM
หากเมื่อไรที่ตัดเยื่อใยได้ขาดจริงๆ การกระทำของคนคู่นั้นจะไม่สามารถทำให้เราใจหมองได้เลย
เรื่องของหัวใจ ใครไม่เจอกับตัวเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน
หากยังหักดิบเลิกอาลัยอาวรณ์ไม่ได้
ก็ให้นึกถึงการเล่นชักกะเย่อ ในบางครั้งเราต้องผ่อนแรงดึงบ้าง และบางครั้งเราก็ต้องดึงแรงๆ บ้าง
ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะเป็นผู้ชนะ
ถ้าให้ดีไปปฏิบัติธรรมซัก 7 วัน อย่างที่พี่ๆ เพื่อนๆ เคยแนะนำไว้ จะทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ไว
จะเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ
#7
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 04:16 PM
ไปค่ะไกล้จะหมดวิบากกรรม แล้ว พี่ๆน้องๆ และหมู่คณะ ของเราคอยส่งใจไปช่วยค่ะ อย่าลืมนั่งสมาธิ ด้วยนะค่ะ เดี๋ยวก็ดีเองค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้
อีกคน ค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 04:44 PM
แล้วก็ด่า kissy อย่างรุนแรง ทำให้ kissy เสียใจมาก ทั้ง ๆ ที่ kissy อยู่ เฉย ๆ
- ยังเฉยๆแบบหลบหลีกนะ ไม่จัดเป็นอุเบกขาซึ่งไม่ยินดียินร้ายกับเหตุการณ์ใดๆ
- ดูยังมีจิตปฏิพัทธิ์กันอยู่ จึงเผลอไปดูดซับเรื่องราวของคนผู้นั้นไว้ในใจ ดังที่คุณ nar กล่าว
- ตราบใดที่ยังไม่สามารถ...ตัดใจจนไม่เหลือเยื่อใยได้ ความทุกข์ย่อมปะทุได้ทุกเมื่อ หากเราเปิดใจรับสิ่งนั้นเข้ามา
- ดังที่คุณน้ำใสแนะนำ ตัดสัญญาน ปิดสื่อต่างๆ ที่เป็นตัวกลางนำความทุกข์มาเชื่อมต่อใจเราให้หมด
- ถ้ายังตัดสัญญานไม่ได้ ต้องคิดเชิงอุปโลกแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยปัญญา ประหนึ่งว่าเป็นคนไม่เคยรู้จักกัน หรือ มนุษย์ต่างดาว บังอาจโทรมาก่อกวนยามวิกาล ต้องสอนมารยาทกันบ้างแล้วล่ะ ทำได้ไหม? ลองวัดใจว่าพร้อมเผชิญเหตุนี้หรือไม่
- สำคัญที่สุด คือ หยุดกับนิ่ง นิ่งกับแน่น อารมณ์สบาย ใจใสใส ในความสงัด...ค่อยๆพัฒนาจากการบ้าน10ข้อ อย่าได้ขาด สักวันต้องก้าวหน้าและชนะ ในระดับสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษให้ได้นะ...
#9
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 04:48 PM
แม้ร่างกายก็ยังไม่ใช่ของเรา เเค่ใช้สร้างบารมีในโลกมนุษย์เท่านั้น แต่ใจของเราต่างหากที่เป็นของเราต้องรักษาใจไว้ให้ดีให้เป็นบุญ เพราะบุญเป็นเบื้องหลังของความสุขและความสำเร็จนะครับ เมื่อมีบุญมากก็จะนำความสุขและความสำเร็จมาให้
ขอให้คุณมีความสุขและผ่อนคลายนะครับ
สัมมาอะระหัง ๆ ๆ ๆ ไว้
#10
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 05:09 PM
พี่เห็นมามากมาย...
น้องยังเด็ก...อาจยังไม่มีวิธีจัดการได้อย่างแยบคาย
แนะนำให้อดทน และ ฟังธรรมะบ่อยๆ เปิดกรอกหูอยู่ตลอดเวลา ทั้ง ยามหลับ ยามตื่น
ตัดช่องทางที่จะเกิดการติดต่อกับเค้าได้ เช่น เปลี่ยนเบอร์ โทรศัพท์มือถือซะใหม่
เล่าให้คุณพ่อ คุณแม่ฟัง .....ท่านรักเราที่สุด รักแบบไม่มีเงื่อนไข
เมื่อรีบปริญญาเสร็จ ขอแนะนำให้ขึ้น พนาวัส 2 อาทิตย์รวด ติดต่อกันไปเลย
อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง ..... เพราะจะฟุ้งซ่าน
#11
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 05:09 PM
ก็ทำใจว่างๆ สบายๆ อะไรที่คิดแล้วมันหนักสมองก็ปล่อยมันไปเสีย
ทำใจนิ่งๆว่างๆ นั่งสมาธิเยอะๆ อุปสรรคทั้งหมดก็จะผ่านไปด้วยดี แล้วก็ไปปฎิบัติธรรมสัก 7 วันไกลๆๆ เอาบุญเป็นที่ตั้งน๊ะจ๊ะ
ปัญหาทุึกปัญหาย่อมมีทางออก
ถ้าเรามัวแต่มองแต่ปัญหาก็จะไม่มีัปัญญา ดังนั้น ก็หาทางเพิ่มปัญญาให้รู้วิธีหาทางออกน๊ะค๊ะ
อนุโมทนาบุญจ้า
#12
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 05:13 PM
ถึงแม้จะได้เข้าวัดได้รับการอบรม นั่งสมาธิกันมาบ้างแล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ใจมันก็ยังกระทบกระเทือนอยู่ดี
ให้นั่งธรรมะทำใจนิ่งๆ หรือเลิกคิดก็คงทำได้ยาก จริงมั๊ยคะ เพราะใจก็จะคอยวนเวียนคิดถึงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่
ใจน้องยังเศร้าอยู่ ทำไมเค้าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้กับเราด้วย ยิ่งนั่งยิ่งเครียดกว่าเดิมรึเปล่า
พี่ขอแนะนำว่า หาอะไรทำเช่น มาวัดกับเพื่อน หรือออกไปทำบุญวัดใกล้บ้านกับผู้ที่รักเรามากที่สุดคือ พ่อแม่
ถ้าต้องอยู่คนเดียวให้ไปฟังธรรมก่อนดีกว่า จะเป็น รายการฝันในฝันของหลวงพ่อ
หรือเป็นธรรมะของหลวงพ่อทัตตะ เช่น มงคลชีวิต ข้อประพฤติพรรมจรรย์ หรือข้อจิตไม่โศก นี่เป็นยาชะงัดนัก
เพราะท่านได้กล่าวถึงโทษภัยของการวนเวียนอยู่ในความรักได้เป็นอย่างดี ฟังไปเรื่อยๆซ้ำๆก็ได้
ให้ธรรมะเข้าไปอยู่ในใจแทนความคิดเดิมๆดีกว่า จะเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งถึงคำสอนท่านก็ช่วงนี้แหล่ะ
เมื่อใจคลายเศร้าโศกได้บ้างแล้ว ก็ให้มาวัด ทำบุญซะ อโหสิกรรมกันไปเถิด
ความรักก็เป็นเช่นนี้นี่เอง อย่างที่หลวงพ่อท่านเทศน์เอาไว้จริงๆ
เมื่อใจสบายขึ้นบ้างแล้วก็ค่อยกลับมานั่งธรรมะใหม่นะจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้
#13
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 05:59 PM
#14
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 06:36 PM
#15
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 06:42 PM
....
นี่นะ ถ้าเวลาผ่านไปอีกซักปี-2ปี แล้วหนู"คิดสิ"ทำใจได้แล้ว กลับมาอ่านกระทู้
คงจะขำตัวเองมากเลยว่า ตอนนั้น(คือตอนนี้แหล่ะ)
เราทำไมเราอย่างนี้ ...
...
ตอนนี้ ก็อดทน ฝึกตน กรรมเราเอง เคยทำเค้าไว้แบบนี้แหล่ะเมื่อชาติก่อนๆ
ผลกรรมมาส่ง แม้จะทุกข์ แต่ก็จะผ่านไปได้
และยังทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของคนที่เจอแบบนี้ด้วย
เราจะเข้มแข็ง ....
และเตรียมใจว่า เรื่องนี้จบ แต่นี่อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย..
....
เป็นกำลังใจให้นะ สู้ สู้ ..
ไฟล์แนบ
#16
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 06:57 PM
#17
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 08:25 PM
#18
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 09:38 PM
เปลี่ยนเบอร์ก็ดีแล้วครับ ส่วนลุกค้า ก็โทรไปบอกว่าเราเปลี่ยนเบอร์แล้ว เพื่อนคนไหนที่สนิทก็โทรไปบอก แต่ถ้าเพื่อนคนไหนที่ อดีตแฟนรู้จัก ก็ไม่ต้องบอก ถ้าบอกก็กำชับว่า ถ้าเขาถามเบอร์ก็ห้ามบอก
ให้ทำเหมือนตายจากกันจริงๆ
จากนั้นก็หาเพื่อนใหม่ หาสังคมใหม่ ที่เป็นคนดีๆมีศีลมีธรรม
เวลาใจมันคิดไปในทางที่ไม่ดี ก็ให้นึกว่า ความทุกข์ในมหานรก มันทุกข์กว่านี้เยอะมาก ทุกข์แค่นี้ มันจิ๊บจ๊อยเบากว่าทุกข์ที่หนูเคยเจอในนรกเยอะมากกกกกกกกก คิดบ่อยๆ จะทำให้ทนได้
นี่มันแค่เศษของเศษกรรมแล้ว คิดซะว่ากรรมมันกำลังจะหมดแล้ว ถ้าเราเข้าใจกฏแห่งกรรม หนูก็จะรู้ว่า นี่เป็นแค่กระจกสะท้อนตัวหนูเองนั่นแหละ เราเคยทำคนอื่นมาแบบไหน เราก็จะโดนแบบนั้นแหล่ะนะ
สร้างบารมีต้องอดทนนะ ไม่งั้นจะโดนกรรมบีบคั้นให้ไปสู่วงจรต่ำของสังสารวัฏนะครับ และยากที่จะหลุดมาได้อีก ชนะครั้งนี้หนูจะชนะตลอดไป
เอาใจช่วยครับ
#19
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 10:06 PM
#20
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 10:27 PM
#21
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 10:31 PM
โดยการสมัครไปนั่งสมาธิที่สวนพนาวัฒน์จังหวัดเชียงใหม่ 7 วัน
แล้วจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร
แต่ตอนไปนั่งสมาธิ ให้ลืมเรื่องทั้งหมดไปก่อน พอใจหยุดนิ่งจากการทำสมาธิ เดี๋ยว 072 จะสอดละเอียดมาบอกเองว่าจะต้องทำอย่างไร นะครับ ขอให้พบทางสว่างนะครับ ต้องเป็นผู้รู้ และผู้ตื่น และผู้เบิกบานตลอดเวลานะครับ ขอให้โชคดีครับ
#22
โพสต์เมื่อ 03 September 2009 - 10:45 PM
ทำจิตให้สงบ
แล้วจะพบ "ทางออก"
เราให้กำลังใจใคร กำลังใจนั้นจะบังเกิดขึ้นในตัวของเรา
มันจะขยายเป็นพลังอนันต์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด และจะยิ่งสูงส่งขึ้นไปอีก
#23
โพสต์เมื่อ 04 September 2009 - 03:59 AM
ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะครับผม
#24
โพสต์เมื่อ 04 September 2009 - 07:00 AM
ยังทุกข์ทรมานกับวิบากกรรมมาก กำลังพยายามยกใจ ออกจากตรงนี้
kissy เคยได้ยินมาว่า ถ้าเราเป็นคนดี มีศีลธรรม
แล้ว ใครมาทำร้ายเรา เค้าจะมีบาปติดตัวมาก
คำกล่าวที่ว่านี้จริง ๆ หรอ
พี่ somchet ค่ะ สื่อทุกอย่าง ถูกทำลายไปหมดแล้วค่ะ
ที่ยังเหลืออยู่ ก็ความทรงจำ กับใจ นี้แหละค่ะ
หาสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ ที่เป็นคนดี ๆ มีศีลมีธรรม
ก็ที่นี่ไง กำลังหาอยู่ เพราะ kissy คิดว่า จะทิ้ง สังคมเก่า
ไปให้หมดเลย แล้วจะเริ่มต้น มีเพื่อนใหม่ที่นี่
เราจะเป็นเพื่อนกันน่ะ ไปวัดด้วยกัน ไปนั่งสมาธิด้วยกันน่ะ
#25
โพสต์เมื่อ 04 September 2009 - 12:05 PM
#26
โพสต์เมื่อ 04 September 2009 - 01:06 PM
kissy ฟัง มงคงชีวิต ที่พี่แนะนำแล้ว
ได้ข้อคิด ดี ๆ เยอะเลย
ขอบคุณมากน่ะค่ะ
ตอนนี้กำลังจะฟัง ให้ครบ 38 ค่ะ
#27
โพสต์เมื่อ 04 September 2009 - 03:40 PM
จงเอาตัวอย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้ง 2 องค์นะคะ
เมื่อครั้งที่วัดพระธรรมกายโดนกระแสข่าวโจมตีอย่างสาหัสสากรรจ์ ถึง 2 ครั้ง 2 หน
ท่านยังคงสงบนิ่ง เหมือนดั่งหินผาแท่งทึบที่ไม่เคลื่อนไหว ใจท่านไม่สัดส่ายไปตามกระแสใด ๆ ทั้งสิ้น
เมื่อผู้เขียนถามว่า..หลวงพ่อรู้สึกอย่างไร ?...
คุณรู้ไหม...ว่าคำตอบของท่านที่ตอบมาทำให้ผู้เขียนถึงกับอึ้งเหมือนโดน ณ จังงัง..
...ท่านว่า ดีเสียอีก ภพชาตินี้หลวงพ่อได้...ขันติบารมี...
#28
โพสต์เมื่อ 04 September 2009 - 08:55 PM
ติดตามอ่านเรื่องราวของน้องคิสซี่ผู้น่ารักและน่าสงสารมาหลายตอนแล้วค่ะ
ความรักในวัยเยาว์ แบบนี้ เวลารัก ก็โลกนี้เป็นสีชมพู ส่วนเวลาเลิกก็เหมือนภูเขา และท้องฟ้าถล่มทับอก น้ำทะเลท่วมปากท่วมจมูก โลกนี้ทำไมช่างโหดร้ายเหลือเกิน ใช่ไหมละคะ ??
โลกนี้ยังมีสิ่งที่สวยงามอีกเยอะแยะ แต่น้องคิสซี่ ไม่เลือกมองเอง
มันไม่ยากหรอกค่ะ ก้อแค่สลัด ผู้ชายที่เหมือนเอามีดมาปักที่อกเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหมอไม่รับเย็บ คนเดียวออกไปจากตัวน้องคิสซี่
อย่าไปโทษเลยค่ะ ว่าเขาทำร้ายเรา เพราะจริงๆแล้ว น้องคิสซี่นั่นแหล่ะ ที่ทำร้ายตัวของน้องและพ่อแม่ของน้องเอง
หยุดทำร้ายตัวเองเสียที
เพราะน้องกำลังมีอนาคตที่ดี เรียนจบ มีงานทำ ชีวิตน้องยังอีกยาวไกล มองไปรอบๆ ตัว แล้วเลือกหยิบเอาความสุขมาดู มาคิด มาพูด มาคุย อย่างเช่น ความรักของพ่อแม่ หรืองาน หรืออะไรที่ทำให้ตัวเรามีคุณค่าดีกว่าค่ะ อย่าไปจมปลักกับผู้ชายเน่าๆ ที่ทำร้ายเราอยู่เรื่อยๆ เลยค่ะ
มองให้ยาวๆ ชีวิตเรายังต้องพบต้องเจอกับอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ต้องไปวิ่งหาหรอก เดี๋ยวก็มีสิ่งที่ดีกว่า เข้ามาเองแหล่ะค่ะ ตอนนี้น้องยังไม่เห็น ก็เลยคิดว่า ผู้ชายคนนั้นดีกับน้อง แต่จริงๆ น้องมองด้วยจิตที่ขาดปัญญาต่างหาก หรือมองด้วยความหลงนั่นเอง
หลงว่าเขาจะกลับมา หลงว่าเขายังรักน้อง ฯลฯ
หาอะไรให้ตัวเองทำให้ยุ่งๆ เข้าไว้ดีกว่าค่ะ เรียนต่อ หรืออะไรก็ได้ เวลาคุยกับเพื่อนๆ ก็คุยเรื่องที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข ดีกว่าจะที่หยิบเอา topic ที่เกี่ยวกับ "เขา" ขึ้นมาย้ำๆ ซ้ำๆ ความคิดที่จะคอยหลอกหลอนและทำร้ายตัวเองจะดีกว่าค่ะ
คิดเรื่องงาน เรื่องเรียนทำให้ตัวเองไม่ว่าง จะได้ไม่มีที่ว่างในสมองไว้ให้กับผู้ชายที่ไม่ได้รักน้องแบบนี้ เพราะคนที่เขารักกัน เขาไม่ทำแบบนี้หรอก คนที่เขารักกัน เขาจะไม่ทำร้ายกันค่ะ ^^
พอเถอะนะ พี่เห็นน้องโพสท์หลายกระทู้แล้ว สงสารและเห็นใจ แล้วก็อยากให้น้องหายจากอาการเหล่านี้เสียทีน่ะค่ะ
พวกพี่ๆ ในเว็บบอร์ดนี่ เป็นคนที่ช่วยปลอบประโลมใจได้เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วยามเท่านั้น ตัวน้องเองนั่นแหล่ะที่ต้องอยู่กับตัวเอง 24 ชั่วโมง
สงสารตัวเอง แล้วก็ตัดขาดจากเขาไปซะ ไม่ต้องไปสนใจ หรือหาข้อมูลของเขาอีก จบคือจบ
กระทู้หน้าพี่อยากเห็นว่าน้องคิสซี่ ร่าเริง และหัวเราะ มองโลกให้มันสดใส และปล่อยอดีตให้มันผ่านไป ทิ้งไว้ข้างหลัง เพื่อเป็น background สู่ความสำเร็จในวันหน้า อย่าไปย้ำคิดย้ำทำ หรือตอกย้ำสิ่งที่ทำร้ายตัวเองอยู่เลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#29
โพสต์เมื่อ 05 September 2009 - 09:51 AM
ทำต่อไป และเน้นการนั่งสมาธิให้มาก
ช่วงแรกๆ นั่งเท่าที่นั่งได้ก่อน แม้ไม่นาน แต่ก็นั่งให้บ่อยเข้าไว้
นั่งแรกๆจิตจะฟุ้ง คิดโน่นนี่มากมาย ไม่เป็นไร
นั่งบ่อยๆเข้า ความฟุ้งของใจจะค่อยๆลดลง
นานเข้าจะเหลือไว้แต่ความใส
ที่สำคัญต้องคลายความผูกพัน
แล้วทุ่มชีวิตที่เหลือกับการสร้างบารมีจ้ะ
#30
โพสต์เมื่อ 05 September 2009 - 01:35 PM
เอาใจช่วยให้ผ่านเรื่องพวกนี้ไปให้ได้นะคะ
พี่ทำได้อยู่แล้ว
เกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี