"ผมเป็นเด็กกรุงเทพฯ
ไม่ก้าวร้าว ไม่เกเร
รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว
จบการศึกษาแล้ว พ่ออยากให้บวช
แต่ ทำไมต้องบวช คือ อยู่วัด กลัวผี
บวชทำไม เมื่อผมก็รักพ่อรักแม่
ได้บุญอย่างไร ผมไม่เข้าใจ
พี่ อา น้า ลุง ช่วยตอบผมด้วย
แล้วผมต้องบวชหรือไม่ บวชทำไม"
ถ้าเจอแบบนี้เข้าจะตอบอย่างไรดีคะ
บวชทำไม..
#1 *sky noi*
โพสต์เมื่อ 07 December 2009 - 10:28 AM
#2
โพสต์เมื่อ 07 December 2009 - 11:00 AM
เกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี
#3
โพสต์เมื่อ 07 December 2009 - 01:42 PM
#4
โพสต์เมื่อ 07 December 2009 - 02:36 PM
บวชแล้วจะรู้เอง
เกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี
#5
โพสต์เมื่อ 07 December 2009 - 03:05 PM
ได้อะไรจากการบวช
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3086
อานิสงส์การบวช
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=15277
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการบวช
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=20979
#6
โพสต์เมื่อ 07 December 2009 - 04:26 PM
น้องเป็นคนดีที่เป็นคนไม่ก้าวร้าว ไม่เกเร รู้อะไรดีอะไรชั่ว
แต่ยังดีไม่สุด การบวชไม่ได้มีไว้สำหรับคนไม่ดี คนเลว หรือคนที่ไม่รู้อะไรดีอะไรชั่ว
การบวชถ้าพูดจากมุมของตนเอง ก็เพื่อเอาบุญ ไว้เป็นขุมกำลังให้อนาคตที่ยังไม่รู้จะเจออะไร
ทุกวันนี้ใช้บุญไปเท่าใหร่แล้ว ที่โตและรอดมาได้ขนาดนี้
รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่วไม่พอ คิดดูดีๆ ว่าเราจะเอาอะไรไปสอนคนอื่น
ถ้าต้องมีภรรยา ต้องมีลูก เอาหลักอะไรไปใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อทุกวันมีแต่ปัญหา
เราคิดแต่พักผ่อนกาย แต่พักผ่อนใจล่ะ ทำยังไง
การบวชเป็นการตอกย้ำสิ่งดีๆ ลงไปในใจ
ถ้าเราเป็นคนดีอยู่แล้ว การบวชก็เหมือนกับการตอกเสาเข็มแห่งความดีให้มันหยั่งรากลึกลงไปในใจเราอีกขั้น
เคยถามพ่อแม่มั๊ยว่าทำไมถึงอยากให้บวช ของขวัญที่พ่อแม่อยากได้ที่สุดคือเห็นลูกชายอยู่ในผ้าเหลือง
เชื่อผมเถอะว่าว่าพ่อหรือแม่ของคุณจะร้องให้ด้วยความดีใจในวันที่คุณบวช
เป็นของขวัญที่ดีที่สุด ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย และหาซื้อมาให้ไม่ได้ ถ้าไม่ทำเอง
ส่วนเรื่องกลัวผีนั่นน่ะ ไม่ต้องเป็นพระ ไม่ต้องอยู่วัดก็เจอได้
ถ้าคิดง่ายๆ แบบหนังผีทั่วไป ผีอะไรก็กลัวพระ ไม่ใช่เหรอ อิ อิ
เอาไปเท่านี้ก่อน ถ้ามีอีกมาโพสต์อีกจะลองคิดดูว่าจะตอบยังไง อนุโฒทนาบุญครับ
#7
โพสต์เมื่อ 07 December 2009 - 07:49 PM
#8
โพสต์เมื่อ 07 December 2009 - 10:21 PM
ไม่ก้าวร้าว ไม่เกเร
รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว
จบการศึกษาแล้ว พ่ออยากให้บวช
แต่ ทำไมต้องบวช คือ อยู่วัด กลัวผี
บวชทำไม เมื่อผมก็รักพ่อรักแม่
ได้บุญอย่างไร ผมไม่เข้าใจ
พี่ อา น้า ลุง ช่วยตอบผมด้วย
แล้วผมต้องบวชหรือไม่ บวชทำไม"
ถ้าเจอแบบนี้เข้าจะตอบอย่างไรดีคะ
555ถ้าเป็นผมหรือ น้องเป็นคนดีมากฉลาดมากเลยนะ มีดวงปัญญาสว่างไสว สั่งสมบุญมาดีมาก นะ ที่ทำให้รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว นะ ถ้าอย่างนั้น เราลองมาศึกษาสิว่าทำมัย เจ้าชายสิทธัตถะ ผู้เพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง ทำมัยพระองค์จีงมาออกบวชนะ ทำไม ถ้าน้องเรียนแบบสมัยใหม่ ก็ลองมาพิสูจน์กันสิ ดีมั้ยอย่ามาเอาเหตุผลเลย ว่า ผีมีหรือไม่ หรือว่ากลัวผี นะ แล้วพระองค์เมื่อตรัสรู้แล้ว พระองค์ยังไปโปรดพุทธมารดา ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และ มาโปรดพุทธบิดาด้วย เพื่อชี้ทางสวรรค์ให้พระองค์
การบวชของน้องครั้งนี้ พ่อแม่จะได้บุญก็เมื่อท่านคิดถึงเรา เป็นห่วงเรา ท่านก็ต้องมาเยี่ยม เรา ท่านคงไม่มามือเปล่านะ
ก็ต้องเอาอาหารมาถวายด้วย ก็คงไม่ใช่เรารูปเดียว ก็ยังเผื่อแผ่ไปกับ พระเพื่อนด้วยนะ นี่แหละทำให้พ่อแม่ได้บุญแบบเห็นๆๆนะ ส่วนการจะบวชหรือไม่นั้น น้องตัดสินได้นิ มาพิสูจน์กันดีก่า ว่าอะไรดีอะไรชั่วนั้น ถ้ามีวินัย คือศีล ช่วยกำกับด้วยก็จะทำให้เราตัดสินได้อีกรูปแบบนึงนะ
#9
โพสต์เมื่อ 08 December 2009 - 12:22 PM
น่าจะมีคุณสมบัติอื่นๆ อีกหรือไม่
เช่น น่าจะต้องฉลาดด้วยมั้ย หรือ น่าจะต้องมีน้ำใจด้วยมั้ย
มีมั้ยที่คนไม่ก้าวร้าว ไม่เกเร แต่เห็นญาติมิตรเดือดร้อนไม่เคยช่วยเหลืออะไรเลย
หากได้ลองคิดดู ก็จะทราบว่า คนดีที่โลกต้องการ จะต้องมีคุณสมบัติใหญ่อยู่ 3 ประการคือ
1. ไม่โง่
2. ไม่แสบ
3. ไม่แล้งน้ำใจ
จากนั้น ก็อธิบายให้เขาฟังว่า การบวชนี่แหละ จะพัฒนาคุณธรรมทั้ง 3 อย่างขึ้นมาได้
เพราะคุณธรรม
ไม่โง่ หากพัฒนาต่อไปจะกลายเป็น ฉลาด หากพัฒนาสมบูรณ์จะกลายเป็น ปัญญา
ไม่แสบ หากพัฒนาต่อไปจะกลายเป็น ซื่อสัตย์ หากพัฒนาสมบูรณ์จะกลายเป็น บริสุทธิ์
ไม่แล้งน้ำใจ หากพัฒนาต่อไป จะกลายเป็น มีน้ำใจ หากพัฒนาสมบูรณ์จะกลายเป็น กรุณา
นั่นก็คือ พระปัญญาธิคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระกรุณาธิคุณ คือ คุณสมบัติของพระเจ้าสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นเอง
สรุปว่า การบวชจะทำให้เรากลายเป็นคนดีที่โลกต้องการ ดังเช่น พระพุทธเจ้า นั่นเอง
#10
โพสต์เมื่อ 08 December 2009 - 12:52 PM
ที่พ่ออยากให้บวชเพราะ อยากเห็นลูกชายที่แสนดีน่ารัก ได้ครองผ้ากาสาวพัตร
ที่ใครได้นุ่ง ได้ห่มแล้วถือว่า สุดยอดของความเป็นลูกผู้ชายแล้ว พ่อจะมีความสุขและ
สบายใจที่สุด ถือว่าน้องได้ทำครบองค์ประกอบของความเป็น "ลูกพ่อ" ที่แท้จริงจ่ะ"
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#11
โพสต์เมื่อ 08 December 2009 - 03:02 PM
#12
โพสต์เมื่อ 08 December 2009 - 08:58 PM
จุดนี้ผมบอกตรงๆ น่าเป็นห่วงลูกหลานในนาคตมาก ยังมีคนอีกไม่น้อย ที่ขาดความรู้เรื่องบุญ อันที่จริงการเป็นลูกที่รักพ่อแม่ ไม่ก้าวร้าว อะไรเนี่ย คิดดีๆมันเป็นสิ่งที่ คนปกติทั่วๆไปควรทำอยู่แล้วเป็นเรื่องกลางๆธรรมดาๆ แต่การแสวงสร้างบุญให้พ่อแม่ นั่นจึงเรียกลูกที่ดี
#13
โพสต์เมื่อ 08 December 2009 - 11:03 PM
พ่อแม่บวชลูก ...เป็น พระ พ่อและแม่ ได้อนิสงค์ ของบุญ บวชของ พระลูกชาย ตั้ง 60 กัลป์ อะคับ
#14
โพสต์เมื่อ 09 December 2009 - 08:08 PM
แต่ ทำไมต้องบวช
- อ้าว...ไหนบอกว่า"ผมเป็นเด็กกรุงเทพฯ ไม่ก้าวร้าว ไม่เกเร รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว"
- เอ...รู้สึกว่าคำกล่าวขัดๆยังไงก็ไม่รู้
- แสดงว่ายังไม่รู้ละซิ ว่าบวชแล้วดียังไง ใช่ไหมครับท่านผู้ได้โอกาส?
- เชิญศึกษา เรื่องการบวช ที่คุณ Dd2683 ลิ๊งค์ให้นะครับ
- หากอ่านแล้วไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็ต้องมาพิสูจน์สัมผัสบทบาทของครั้งหนึ่งในชีวิตของความเป็นลูกผู้ชายเองนะครับ
#15
โพสต์เมื่อ 09 December 2009 - 08:14 PM
#16
โพสต์เมื่อ 10 December 2009 - 01:36 AM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#17
โพสต์เมื่อ 10 December 2009 - 10:04 AM
แหม แค่กลัวผี และไม่อยากจะอยู่วัดเพราะ ต้องทำตามกฏเกณท์ ต่าง ๆ ที่จะต้องอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะ นี้นะทำให้ ไม่อยากจะบวช
คุณไม่รู้เลยว่า คุณได้พลาดอะไรที่ดีๆ ไปขนาดไหน หากว่าแน่จริง ก็ต้องลองมาฝึกตัวเองดู นี้แค่ของหยาบๆ นะ คือได้ฝึกตัวเอง ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยได้รู้ แล้วไหนจะได้บุญอีก นี้คือของละเอียด ได้ผลบุญทั้งตัวเอง และ พ่อแม่พี่น้อง คนที่เขาอนุโมทนาอีก เจ้าภาพอีก
คุณเรียน หนังสือมา ยังต้องมี ระดับชั้น เริ่มจาก ป1 จนถึง ปริญญาตรี โท เอก คุณลองคิดซิว่า หากว่าคุณให้โอกาสตัวเองมาฝึกตัวเอง จากเป็นคนดีธรรมดา อาจจะแค่ ป1 หรือ กว่านั้น มาเป้นคนดีระดับแนวหน้า ระดับ ปริญญาตรี โท เอก นะ คุณจะภฺมิใจในตัวเองมากขึ้นแค่ไหน ไหนจะพ่อ แม่ พี่ น้อง อีก คนรอบตัวคุณอีก มีแต่คนสนันสนุน
แล้วท้ายสุดยังได้ เผยแพร่ศาสนาพุทธอีก คุณเป็นชาวพุทธ แต่ยังไม่รู้ว่า ในคำสอนของศาสนาที่คุณนับถื่อนั้นมีอะไรดีๆ บ้าง แค่อ่านนั้นไม่พอหรอกต้องมาฝึกภาคปฏิบัติด้วยค่ะ
คุณทำงานได้เงินมา คิดว่าพอแล้วไม่ต้องดิ้นร้นให้ดีกว่าเดิมอีกเหรอ คุณไม่ต้องการเงินเดือนขื้นหรือ เสมือนคุณบอกว่า คุณเป็นคนดี คุณพอแล้วเหรอ สำหรับความดี ที่คุณคิดว่า ดีแล้วพอแล้ว แค่นั้นเหรอ หาบุญ หาความดีใส่ตัว ก็เสมือนคุณหาเงินเพิ่มให้ตัวเองนะ ความดีไม่เคยพอ เงินก็ไม่เห็นใครเคยพอเลยนะ ความก้าวหน้าก็ไม่เคยพอ ทำตัวเองให้เป็นคนที่ดีกว่า ...ก็ยังไม่เคยพอ
คิดว่าอายุคุณคงจะยังไม่มากหรือไม่ก็ยังเป็นเด็กผู้ชาย ที่ยังไม่โตเป็นชายเต็มตัวนะ ถึงได้มีความคิดแบบเด็กๆ คือกลัวผี ไม่อยากมาอยู่วัด ไม่กล้าออกมาจาก....มุม สบายของตัวเอง
เคยมีเด็กผู้ชายที่รุ้จัก แม่ให้มาอบรมธรรมทายาท แต่ก็ต้องกลับบ้านเพราะไม่อยากจะตื่นตี่สี่ ไม่อยากทำงานต่างๆ ที่กำหนด ก็เลยต้องกลัยบ้าน ก็ให้แม่หาเลี้ยงอยู่ทุกวันนี้ กลายเป็น ...Mama boy... แม่ก็อายุมากขึ้น แต่ต้องทำงานมากขั้นมาเลี้ยงลูกชายที่โตแต่ตัว แต่หัวใจ ยังเป็นเด็กผู้ชายเล็กๆ ยังอยากให้แม่หาเลี่้ยง สบายดี
ก็ลองคิดดูนะ ว่า คุณจะเป็นคนดีแบบไหน แบบเด็กชายคนดี หรือว่า เป็น ชายแมนๆ ที่สามารถเป็นที่พึงของทุกคนได้ ที่แข็งเกร่งพอตัว ทนแดด ทนฝน ทนควาามไม่ดีรอบตัว
ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว หากว่าทำให้คุณลำบากใจก็ขออภัยคะ
#18
โพสต์เมื่อ 15 December 2009 - 11:14 PM
#19
โพสต์เมื่อ 16 December 2009 - 10:11 PM