มายากลธรรมดา หรือ พลังจิต ครับ
#1
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 09:52 PM
ขอความเห็นด้วยครับ (ใช้เวลาโหลดนิดนึงนะครับประมาณ 9.10 Mb)
http://www.stupidcol...subVideo/na.wmv
#2 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 10:12 PM
#3
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 11:40 PM
ถ้าเขาไม่ใช้เทคนิคภาพยนต์มาหลอกเรา หรือรวมหัวกับคนที่มาชมก็คิดว่าน่าจะเป็นพลังจิตจริงๆ ครับ เข้าขั้นมีอภิญญา แต่เป็นฌานโลกีย์ครับ ในสมัยพุทธกาลแม้แต่เทวทัตก็เคยได้ฌานโลกีย์มาแล้วครับ เหาะได้ เสกงูพันตัวได้ แต่ก็เสื่อมได้ถ้าประมาทปล่อยให้กิเลสครอบงำครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#4
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 12:52 AM
#5
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 02:30 AM
คนนี้เค้าเป็นนักมายากลประเภท Street magic ของญี่ปุ่น
หรือกลที่แสดงตามถนนหนทางให้คนทั่วๆไปดู ไม่ได้เป็นแบบที่อยู่บนเวที
เค้าชื่อ Sero ( แต่ชื่ออังกฤษเค้าเขียนว่า Cyril ) มีรายการมายากลออกทางโทรทัศน์
เป็นประจำ ผมมีดีวีดีรวบรวมรายการเค้าอยู่ 3 แผ่น
ที่ผมว่าเป็นมายากลเพราะว่า ผมได้ดู David Blaine ซึ่งเป็น Street magician
ของอเมริกาเค้าก็แสดงกลคล้ายๆกันนี้เหมือนกัน (ของ David Blaine เค้ายื่นแขนทะลุเข้าไปในกระจก ไปหยิบนาฬิกาออกมาจากตู้โชว์ออกมาให้ดูเลย)
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#6
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 09:08 PM
1. เล่ห์ หลอกลวงทั่วๆไป ไม่มีพลังจิต
2. กล หลอกลวงที่ตบตามากขึ้นมา ไม่มีพลังจิตเช่นกัน
3. มนต์ คาถา ไม่ได้ตบตา ทำอย่างนั้นได้จริงๆ แต่หลอกลวงว่ามีฤทธิ์ ความจริงเป็นการช่วยเหลือของวิทยาธร (ภุมเทวาที่อยู่ใกล้ๆ กับมนุษย์ ชอบให้มนุษย์มานับถือพวกตนเยอะๆ) แต่ก็ต้องใช้พลังจิตขั้นต้น เพื่อให้ติดต่อกับวิทยาธรมาช่วยเหลือได้
4. ฤทธิ์ ทำได้จริง โดยไม่ต้องใช้การช่วยเหลือของวิทยาธร เป็นพลังจิตขึ้นสูง
ทั้งหมดนี้ ถ้านำไปทำชั่ว ก็มีอบายเป็นที่ไป
#7
โพสต์เมื่อ 23 January 2006 - 02:56 AM
2. ถ้าผิด นักแสดงก็ต้องผิดข้อมุสาด้วยใช่รึเปล่าครับ?
3. ถ้าเปรียบนักมายากลเหมือนพวกคนทรง (ใช้เล่ห์กลหลอกให้เชื่อว่าสามารถทำสิ่งอัศจรรย์ต่างๆได้) เวลาเราตายไป จะต้องไปเป็นบริวารของนักมายากลเหมือนกับต้องไปเป็นบริวารของคนทรงรึเปล่า?
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#8
โพสต์เมื่อ 23 January 2006 - 11:58 AM
2. นักแสดงไม่ผิดศีลข้อมุสาครับ แต่คำของคนพาลที่บอกว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล นี่ไม่ได้หมายถึงเล่นกลให้คนดูสนุกๆ แบบนักมายากลนะครับ แต่หมายถึงใช้กล ประทุษร้ายผู้อื่น ยกตัวอย่างคำนี้ ก็เช่น เคส Study ออกลูกเป็นงู เพราะในอดีตชาติ งูนั้นเป็นพ่อ แล้วก็ช่วยลูกสาว (ชาตินี้เป็นแม่) ใส่ร้ายเมียน้อย โดยสลับเอาลูกเมียน้อยไปทิ้ง แล้วเอาลูกงูมาแทน นี่แหละเรียกว่า กล คือใครๆ ก็เข้าใจไปว่า เมียน้อยออกลูกเป็นงู แต่ไม่ได้ใช้ฤทธ์หรือวิทยาธรช่วยอะไร
3. ต่างกันครับ เพราะวิทยาธรเหล่านั้นมีพลังจิต (เพราะฝึกสมาธิมา) ตั้งแต่ตอนเป็นมนุษย์ บุญจากการทำสมาธิเบื้องต้น จึงทำให้เป็นภุมิเทวา และเมื่อประกอบกับความคิดอยากเก่ง จึงไปวุ่นวายกับมนุษย์ หาศิษย์มนุษย์ที่ศรัทธาตนต่อไป โดยการช่วยเหลือศิษย์มนุษย์นั้นเป็นเครื่องตอบแทน แต่นักมายากล ไม่ได้มีพลังจิต (ไม่ได้ฝึกสมาธิมา) ไม่มีบุญจากสมาธิ ถ้ายิ่งไม่มีบุญจากทาน และศีลอีกด้วย ตายแล้ว ได้สูงสุดแค่ภุมเทวา (ไม่ต้องพูดถึงที่ไปอบาย) ที่แทบไม่ได้มีฤทธิ์อะไรน่ะครับ (เพราะไม่ได้ฝึกพลังจิตมา) เมื่อไม่ได้มีฤทธิ์อะไร ก็ไม่อาจช่วยมนุษย์ได้ เมื่อไม่อาจช่วยมนุษย์ได้ ก็ไม่มีใครมานับถือนั่นเอง
#9 *มดแดง*
โพสต์เมื่อ 23 January 2006 - 03:58 PM
ดูแล้ว....ทำได้อย่างไร..???
แต่คงไม่เท่าไร...
สู้...สามารถ...ทำให้...คนดู...มีจิต....สงบลง..
..เข้าถึง..ธรรมอันสงบ...ว่าง...เย็นจิตเย็นใจ....ไม่ทุกข์..ร้อน.. ดีกว่าครับ
อยาก พบ..กับ..ผู้ที่...แนะนำธรรม(แสดง..ธรรม(ไม่ใช่มายากลทะรุกระจก))..
ทำให้คนดู...(ฟังธรรม)....บรรรุ..ธรรม......เหมือนใน..สมัย..พระพุทธเจ้า... .จังเลย
สาธุ....สาธุ....สาธุ... ^_^
#10
โพสต์เมื่อ 24 January 2006 - 04:59 PM
ไฟล์แนบ
#11
โพสต์เมื่อ 24 January 2006 - 07:18 PM
ไฟล์แนบ
#12
โพสต์เมื่อ 24 January 2006 - 09:00 PM
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#13
โพสต์เมื่อ 25 January 2006 - 02:14 AM
แล้วถ้าคนดูไม่รู้ว่าเป็นการแสดง แต่นึกว่าเค้าทำได้จริงๆ อย่างนี้ผิดศีลใช่มั้ยครับ
เพราะเจตนาของเค้าต้องการให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
#14
โพสต์เมื่อ 25 January 2006 - 01:56 PM
#15
โพสต์เมื่อ 25 January 2006 - 02:15 PM
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#16 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 01 February 2006 - 06:04 PM
#17 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 01 February 2006 - 06:12 PM
อภิญญา 5 ข้อแรกเป็นของโลกี ขอหลังเป็นโลกุตตระ อภิญญา 6 คือ
1 . แสดงฤทธิ์ได้ต่าง ๆ เช่น เหาะเหิน เดินอากาศเป็นต้น
2. ระลึกชาติได้
3. มีหูทิพย์
4. มีตาทิพย์
5. รู้จิตผู้อื่นว่าคิดอะไรอยู่
6. ทำกิเลสอาสวะที่หมกหมุ่นอยู่ในจิตใจให้หมด
ห้าข้อแรกมีแล้วก็เสื่อมได้ ขอสุดท้ายประเสริฐที่สุด
เขมคนฺโธ นาม
#18 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 01 February 2006 - 06:14 PM
#19 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 01 February 2006 - 06:30 PM
#20
โพสต์เมื่อ 01 February 2006 - 07:33 PM
ห้าข้อแรกมีแล้วก็เสื่อมได้ ขอสุดท้ายประเสริฐที่สุด
อภิโมทนาบุญด้วยครับ สาธุๆๆๆๆๆ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#21
โพสต์เมื่อ 13 February 2006 - 01:45 PM
ตอนแรกดูแล้วตื่นเต้น
ดูมากๆ เซ็ง
เจ้าอีกแล้วเหรอเนี่ย
หลวงพ่อเคยพูดในฝันในฝัน ว่านักมายากลบางท่าน
มีวิทยาธรช่วย แต่เจ้าตัวไม่ทราบ รู้แค่ว่าทำแบบนี้แล้วได้ผล
เช่นกัดเหรียญให้ขาดสองท่อน พออมในปากก็ต่อได้สนิท
คนนี้ก็คงแบบนี้แหละง่ะ ไม่ใช่ฌาณอะไรหรอก
ผู้สำเร็จเขาไม่ต้องมาแสดงเพื่อหาตังหรอกจ้า
ผู้สำเร็จเขาแสดงฤทธิ์เพื่อโปรดสัตว์เท่านั้นจ้า
แต่พวกจาตุนี่ ต้องการให้คนอื่นนิยม เป็นความชอบพิเศษเลย
ถ้ายิ่งคนนิยมมาก ฤทธิ์เขาจะมาก ลูกศิษย์ลูกหาจะมาก
#22 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 15 February 2006 - 10:47 AM
#23 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 17 February 2006 - 08:53 AM
#24
โพสต์เมื่อ 19 February 2006 - 10:09 PM
#25 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 05:04 PM
โดยสรุปก็คือ "ความบันเทิง"
#26
โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 03:14 PM
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง
#27
โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 06:47 PM
ทำดีต้องทำจริง ต้องตัวจริงเท่านั้นที่ทำได้
และนั่นคือพวกเรา ได้รวมพลังยิ่งใหญ่
เป็นดาวแห่งความดี ต้องดีจริงต้องตัวจริง
#28
โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 07:48 PM
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#29
โพสต์เมื่อ 23 October 2006 - 06:34 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#30
โพสต์เมื่อ 09 November 2006 - 07:07 PM