ย่อเรื่อง ตาของหลานยังหวานอยู่ (9 กุมภาพันธ์ 2546) โดย Extra
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่า “บุพเพสันนิวาส เกิดขึ้นด้วยเหตุ 2 ประการคือ เคยอยู่ร่วมกันมาก่อนในอดีต กับสองปัจจุบันเกื้อกูลกัน เหมือนดอกบัวที่อาศัยโคลนตมและน้ำ” ในวันแห่งความรัก ควรจะเอาดอกบัวให้กัน ผู้รู้จะนำดอกบัวไปให้คนที่รักที่สุดในบ้าน แล้วประคองดอกบัวไปบูชาพระพร้อมกัน อธิษฐานจิตว่าสองเราจะเป็นคู่บุญคู่บารมี เหมือนพระบรมโพธิสัตว์สร้างบารมีรวมกันกับพระนางพิมพา นับภพนับชาติไม่ถ้วนไม่เคยพรากจากกันเลย จนกระทั่งชาติสุดท้ายต่างก็แยกย้ายเข้านิพพาน
“ยามรักให้พร้อมกัน แต่โกรธกันต่างเวลา ต่างก็ดูนาฬิกาซึ่งกันและกัน” นั่นคือ ยามรักให้พร้อมกัน โกรธกันต่างเวลา อย่างนี้อยู่กันได้ เป็นเนื้อคู่กันได้ แต่ถ้าโกรธ อย่าไปพร้อมกัน “ชีวิตคู่จะมีชีวา ถ้าหันหน้ามายิ้มกัน” ยิ้มสยาม ยิ้มออกจากภายใน เพราะเราต่างระลึกนึกถึงว่า “เราได้สมรส เพราะเรามีศรัทธาในพระรัตนตรัย มีศีล มีความเห็นตรงกันเป็นสัมมาทิฐิ มีรสแห่งธรรมเสมอกัน” หรือ “การแต่งงาน คือทำงานของผู้รู้ งานการสร้างบารมีให้สมบูรณ์ ให้สวยขึ้น” ไม่ใช่ว่าอยู่กันไปนาน ๆ พอเกิดคุ้นเคยกัน ก็เลยมองข้าม จนไปกินข้าวนอกบ้าน ต้องยิ้มแย้ม ต้องเยือกเย็น ต้องยกย่อง และต้องยืดหยุ่น ทำทุกวันอย่างเคย ไม่ขัดคอ ยอตะบัน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเปรียบการแต่งงานเอาไว้ว่า
1. เหมือนยักษ์กับยักษ์ ชายยักษา หญิงยักษี ฝ่ายหญิงถือกระบอง ฝ่ายชายถือปังตอ สามีกินเหล้า ภรรยาเล่นไพ่
2. เหมือนเทพบุตรกับนางยักษี สามีเรียบร้อยอารมณ์ดี ภรรยาเฉ่งตั้งแต่เช้า สามีไปวัด ภรรยาเล่นไพ่
3. เหมือนเทพธิดากับยักษา ฝ่ายหญิงดี ฝ่ายชายก็ลุยกันตั้งแต่เช้า ขอยืมเป็นคู่ซ้อม ภรรยาไปวัด สามีกินเหล้า
4. เทพบุตรกับเทพธิดา เป็นคู่ที่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ชีวิตกัน ใช้ภาษาดอกไม้ เข้าวัดด้วยกันทั้งคู่ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เป็นคู่บุญคู่บารมีอยู่ด้วยกันในเมืองมนุษย์
สี่แบบนี้มีอยู่ในโลก เราเป็นแบบไหน ให้นึกทบทวนดู
วันแห่งความรัก มักจะไปจดทะเบียนที่บางรัก คำว่าบางแปลว่า สถานที่ หรือไม่หนา อยู่ ๆ ไป รักก็บางลงไปเรื่อย ๆ จืดจางไปเรื่อย ๆ เธอมันดีเกินไป จะถือว่าคำเป็นมงคล มงคลนักคิดติดที่คำ มงคลนักธรรมติดที่ปฏิบัติ บางคนเลือกสถานที่หย่าที่บางพลัด ทำไมเราไม่แปลว่า พลัดจากความจน พลัดจากความเจ้าชู้ พลัดจากความตระหนี่
การรักตัวเอง รักการสร้างบารมี รักที่จะรื้อวัฏฏะ รักพระรัตนตรัย รักบุญ รักกุศล ถึงจะเป็นวันแห่งความรักที่แท้จริง ยิ่งเรามองผ่านแสงสว่างแห่งภายใน เห็นโลกที่ชัดเจน ความรักเราจะเป็นสากล รักทุกคนด้วยใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความปรารถนาดี ไม่มีอะไรแอบแฝง ทุกวินาทีเราเกิดยากตายง่าย เกิดมาแล้วต้องสร้างบารมี อย่าทำอะไรที่ไม่รักตัวเอง อยากให้ตัวเองมีความสุข ต้องสร้างเหตุแห่งความสุข อยากจะให้ตัวเองมีบุญก็ต้องสร้างบุญ อยากให้ตัวเองมีความดีก็ต้องสร้างความดี เวลาในโลกนี้ประเดี๋ยวประด๋าว ยิ่งเราเป็นพันธุ์รื้อวัฏฏะ ต้องรีบกอบโกยสร้างบุญสร้างบารมีให้เต็มที่ เวลาเราเหลืออีกไม่นาน
ชื่อเรื่องของเคส คือ “ตาของหลานยังหวานอยู่” เจ้าของเคสตายก่อนถึงวัยอันควรเพราะกรรมปัจจุบันเปิดช่องให้กรรมในอดีตส่งผลมาตัดรอน กรรมปัจจุบันคือชอบฆ่าสัตว์ฆ่าเป็ดฆ่าไก่ จึงดึงดูดบาปเก่าที่เคยเป็นหมอแผนโบราณ ให้ยารักษาเขาผิดโดยไม่เจตนา ทำให้ตายก่อนวัยอันควร ตายเมื่ออายุห้าสิบกว่า
เจ้าของเคส เป็นลูกคนจีน เป็นคนเชือดไก่เวลามีการไหว้เจ้าหรือตรุษจีน ภรรยาห้ามเขาและบอกให้รู้เรื่องบาปในการฆ่าสัตว์ เขาจึงเลิก เขาเป็นคนใจดีมาก ด้วยความใจดี จึงมีแฟนเยอะ ชอบทำบุญแบบคนจีนคือกินเจ เขาจะได้รับเลือกเป็นกรรมการหรือประธานโรงเจทุกครั้ง และชอบทำทาน บางครั้งซื้อข้าวสารไว้หลังรถ เวลาขับรถผ่านเจอเด็กยากจน ก็เอาของลงไปแจกไม่ว่าจะเป็นใคร บางครั้งก็กลับบ้านมาพร้อมไข่เค็มและขนมที่ซื้อจากคนแก่ขายของอยู่ริมถนน วันที่ละโลก ขณะนั้นอายุ 54 ปี จู่ ๆ เกิดแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก เลยจอดรถแวะหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง เพื่อนโทรมาบอกให้มาดูใจสามี เพราะเสียชีวิตไปแล้ว หมอฉีดยาให้เข็มแรกนี่สดชื่น พอฉีดเข็มที่สอง ก็ตายไปเลย วินิจฉัยเป็นโรคหัวใจล้มเหลว ใคร ๆ เชียร์ว่าให้เอาเรื่องหมอ แต่ภรรยาบอกว่า เจตนาหมอคงตั้งใจรักษาให้ดี ไม่มีเจตนาร้าย ปัจจุบันเจ้าของเคสเสียชีวิตมา 11 ปีแล้ว
ภรรยาพาเจ้าของเคสเข้าวัดพระธรรมกาย มาสร้างบุญกุศลอยู่พอสมควร เขายังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เพราะเป็นคนจีน ไม่ขัดใจ แต่ก็เตือนว่าอย่าทำบุญเยอะ เห็นบางวัดเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ภรรยาทำบุญมาตลอดด้วยใจเป็นกุศล
เมื่อละโลกแล้ว ลูก ๆ บอกว่าเห็นภาพพ่อมานั่งก้มหน้า อยู่หน้าโลงศพ เห็นอย่างนี้ด้วยความผูกพัน ทำให้ตาเห็น ไม่ใช่ผู้ตายมาทำให้เห็น บางครั้งภรรยารู้สึกว่าเขามาถูกตัวบ้าง ก็เกิดจากความผูกพัน
เจ้าของเคสตายแล้วไปไหน ตายกะทันหัน ยังไม่ทันตั้งหลักเลย ใจไม่หมองไม่ใส วนเวียนอยู่ 7 วัน เจ้าหน้าที่พาไปยมโลก ผ่านขั้นตอนไปเรื่อย ๆ จนไปถึงที่พิพากษาท้องพระโรง มีการซักถามประวัติ ถามสุวรรณเลขา เกี่ยวกับกรรมชั่ว มีเรื่องฆ่าสัตว์ และเจ้าชู้ เกี่ยวกับกรรมดี เห็นภาพการทำบุญชัดเจน อายุยังไม่ถึงฆาต แต่บาปมาชิงช่วงก่อน กำลังบุญปัจจุบันสามารถไปถึงดาวดึงส์ได้ บุญของตัวไม่เท่าไหร่ แต่บุญที่ลูกกับภรรยาอุทิศให้ส่งไปถึงดาวดึงส์ ยังไปตอนนี้ไม่ได้ ต้องเอากลับไปส่งในเมืองมนุษย์ก่อน อยู่จนกว่าจะอายุครบ 75 ปี บุญจะได้ช่องแล้วค่อยไปดาวดึงส์ แล้วพามาอยู่ที่บ้าน เป็นภุมมเทวา ตามมาวัดบ้างเพื่อรับบุญ
เนื่องจากภรรยาที่บ้านเป็นคนดี และจากที่พึ่งผ่านยมโลกมา จึงหมดอารมณ์เจ้าชู้ ไม่กล้าโปรยเสน่ห์ ไม่ได้ถูกเนื้อถูกตัวภรรยา เพราะภรรยาแก่ไปเยอะ เวลาผ่านไป สังขารก็เสื่อมไปเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่ใช่กายพระนิพพาน “หากกายเราแก่คล้ายธรรมกาย กาลจะหมดความหมายแน่แท้” เขาได้แต่อยู่ใกล้ ๆ คอยอนุโมทนา ชวนนั่งหลับตาก็นั่งด้วย ชวนเข้าวัดก็มาด้วย
2546-02-09 ย่อเรื่อง ตาของหลานยังหวานอยู่
เริ่มโดย extra, Jul 12 2006 06:43 PM
มี 1 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 06:43 PM
#2
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 08:15 PM
อนุโมทนากับธรรมทานดีๆ ครับ...สาธุ สาธุ สาธุ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย