วันนี้ผมได้ไปกราบคุณยายอาจารย์ตรีธามาครับ
#1
โพสต์เมื่อ 30 September 2007 - 05:30 PM
วันนี้ผมมีโอกาสได้ไปวัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยผมได้ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรให้กับเพื่อนคนหนึ่ง ไปถึงวัดประมาณเกือบๆ9โมงเห็นจะได้ครับ พอถึงวัดก็นำพวงมาลัยดอกมะลิสดไปกราบพระเดชพระคุณหลวงปู่ที่หน้าหีบทองของท่าน และว่าจะไปไปกราบคุณยายอาจารย์ตรีธา แต่อุปัฏฐากบอกว่าท่านนอนหลับอยู่ ให้มาตอน 11 โมง ผมกับเพื่อนเลยชวนกันขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่หอวิปัสนาหรือตึกขาวระหว่างที่รอคุณยายตรีธา หลังจากลงมาก็มานั่งรอคุณยายทานข้าว คุณยายชวนกระผมกับเพื่อนทานข้าวโต๊ะเดียวกับท่าน แต่ผมไม่กล้าครับ คุณยายชวนตั้งหลายครั้งครับ(แต่ก็มีคนไปเยียมท่านหลายคน ก็ทานร่วมโต๊ะเดียวกับท่านครับ) รอคุณยายทานข้าวเสร็จประมาณ 11:45 คุณยายก็มานั่ง ผมกับเพื่อนก็นำพวงมาลัยมากราบท่าน และท่านก็ถามว่า มามีธุระอะไร มีอะไรจะให้ช่วยหรือป่าว ใจจริงของผมอยากจะถามเรื่องต่างๆมากมาย แต่ผมไม่กล้าครับ (อยากจะถามว่าปู่ผมตายแล้วไปไหน เหมือนกับที่หลายๆท่านส่งCase study ถามคุณครูไม่ใหญ่ครับ) เพราะผมเห็นท่านชรามากแล้ว (ปีนี้ท่านอายุ 82 ปีแล้วครับ)
ท่านก็เมตตาเล่าเรื่องให้ฟังว่า ที่ท่านได้เข้าวัดเพราะแม่ของท่านป่วยตั้งแต่ตอนท่านอายุได้ 2 ขวบ รักษาเท่าไรก็ไม่หาย พอมาให้หลวงปู่เรารักษา โดยไม่ได้กินยาเลย ใช้เวลา 13 เดือน โรคที่เป็นอยู่ก็หายขาด และแม่ท่านก็มีชีวิตอยู่ได้อีก 24 ปีครับ ท่านได้สอนธรรมะว่า "คนเราถ้าจะเดินทาง เดินบ่อยๆโดยไม่พักก็ถึงเร็ว เดินไปพักไปก็ถึงช้าหน่อย แต่อย่าลืมว่าทางที่เดินก็มีเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาอีก ทำให้หลงทาง " ท่านบอกว่า เราต้องขยัน เพราะธรรมะเป็นเรื่องละเอียดมาก
ผมก็เลยถามต่อว่าปัจจุบันท่านยังทำวิชชาอยู่อีกหรือป่าวครับ ท่านบอกว่าทำทุกวัน ตอน 4-5 โมงเย็น มีแม่ชี30กว่ารูปและท่านฆราวาส 1 คน ผมก็เลยดีใจว่าถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่จะมรณภาพไปแล้ว 48 ปี แต่ยังมีแม่ชีวัดปากน้ำทำวิชชาได้ถึง 30 กว่ารูปครับ
ผมก็ถามท่านต่อว่า คุณยายยังสอนธรรมะอีกหรือป่าว ท่านบอกว่า มีคนมาให้สอน ให้ท่านคุมบุญให้นะ ที่ห้องของท่าน (ห้องของท่านก็กว้างคล้ายบ้านของเรา ใหญ่ประมาณ 1 ห้องคูหา ตั้งอยู่ในวัดปากน้ำครับ) แต่ท่านไม่สอน ท่านให้ไปปฏิบัติที่บนหอวิปัสนา เพราะท่านไม่อยากให้ลูกศิษย์หลวงปู่แตกกัน และท่านบอกว่า ท่านก็สนับสนุนการตั้งหอวิปัสนาตั้งแต่แรกแล้ว ท่านยังบอกต่ออีกว่า ตอนที่ท่านจะติดแอร์ที่บนห้องปฏิบัติธรรมบนหอวิปัสนา มีคนเค้าว่าท่านว่า "จะทำให้ท่านสมเด็จล่มจม เพราะค่าไฟมันแพง เดือนๆหมดหลายบาท" แต่คุณยายบอกว่า ท่านสมเด็จ (สมเด็จพระมหารัขมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน) ท่านเข้าใจ และทีสำคัญคุณยายอาจารย์ตรีธาบอกว่าให้ติดหม้อมิเตอร์ไฟที่หอวิปัสนาอันใหม่ ไม่ให้ใช้รวมกับวัด เพราะท่านจะจ่ายค่าไฟเองทั้งหมด และท่านยังบอกอีกว่า ค่าน้ำปานะพระวัดปากน้ำ กับค่าไฟหอวิปัสนา ท่านก็เป็นคนถวายมาโดยตลอด ท่านบอกว่า ก็ได้ลูกศิษย์ที่มาถวายปัจจัยกับท่าน
ท่านใจดีมากๆครับ ผมนั่งติดกับท่านมากๆ เวลาท่านพูดตาท่านจะมองมาที่ดวงตาผม(หน้าท่านกับหน้าผมห่างกันประมาณ 1 ฟุตเห็นจะได้ครับ) ผมก็สบตากับท่าน รู้สึกว่าตาของท่านสวยมาก ยิ่งมองยิ่งรักเคารพท่านครับ และที่ผมเห็นได้ เวลาคนมาเยี่ยมท่านไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือหลายคน ท่านจะให้อุปัฏฐากตั้งโต๊ะอาหารใหม่ทุกครั้ง ท่านจะปฏิสันถารทุกคนดีมากๆครับ
ผมได้เล่าให้ท่านฟังว่า "ผมอายุยังน้อย (ปัจจุบันอายุ 22 ปีครับ) แต่จะปวดที่ขาและหัวเข่าบ่อย โดยเวลาลุกนั่งจะมีเสียงดังของกระดูกหัวเข่าขบกัน โดยจะได้ยินชัดมาก" คุณยายตรีธา ท่านเมตตาบอกผมว่า ให้ไปปิดทองที่บริเวณหัวเข่าพระเดชพระคุณหลวงปู่ ผมก็ทำตาม และได้เขียนใบแจ้งโรค ใส่ไว้ที่ตู้รับแจ้งโรค เพื่อให้แม่ชีในโรงงานทำวิชชาแก้ไขโรคให้ครับ
แต่น่าเสียดายผมมีโอกาสได้สนทนาธรรมกับท่านประมาณครึ่งชั่วโมง ท่านต้องขอตัวไปรับแขกท่านอื่นก่อน เพราะช่วงบ่ายท่านต้องพักผ่อนต่อครับ
ผมกับเพื่อนเลยชวนกันไปนั่งธรรมะต่อที่หอวิปัสนาช่วงบ่ายและได้เดินทางกลับบ้านครับ
วันนี้ผมได้ร่วมบุญถวายภัตตาหาร บุญบูชาดอกไม้ของหอมแด่พระเดชพระคุณหลวงปู่ บุญน้ำปานะ บุญค่าไฟหอวิปัสนา และได้นั่งธรรมะที่หอวิปัสนาสองรอบครับ เอาบุญมาฝากกับนักเรียนอนุบาลทุกๆท่านด้วยครับ
สาธุ
#2
โพสต์เมื่อ 01 October 2007 - 12:19 AM
#3
โพสต์เมื่อ 01 October 2007 - 02:30 PM
อืม ไม่ทราบว่า พี่ ลูกหลานหลวงปู่ ทำตามที่คุณยายอาจารย์ตรีธา แล้วยังคะ ขาจะได้หายและจะได้ทำบุญง่ายขึ้นคะ
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด
#4
โพสต์เมื่อ 01 October 2007 - 03:04 PM
#5
โพสต์เมื่อ 01 October 2007 - 03:10 PM
น้ำว้า_0_7_2 *-*
#6
โพสต์เมื่อ 01 October 2007 - 03:43 PM
#7
โพสต์เมื่อ 01 October 2007 - 05:39 PM
อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
ไฟล์แนบ
#8
โพสต์เมื่อ 01 October 2007 - 05:43 PM
#9
โพสต์เมื่อ 01 October 2007 - 08:31 PM
#10
โพสต์เมื่อ 01 October 2007 - 10:17 PM
หอวิปัสนาเปิดทุกวันครับ ตอนเช้าจะเริ่มรอบแรกตอน 9 โมงเช้าครับ ข้อดีของการนั่งธรรมะที่หอวิปัสนานั้นคือจะเปิดเทปเสียงพระเดชพระคุณหลวงปู่นำนั่งครับ เพราะแม่ชีที่วัดหลายท่านจะบอกว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านคุมบุญให้เอง (แต่ที่วัดปากน้ำมักเรียกว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ) แต่จะมีพระภิกษุ 1 รูปมานั่งธรรมะข้างๆเทปด้านหน้า จะผลัดเปลี่ยนกัน โดยมีเวรที่แน่นอน มีตารางติดให้ดูเวรทั้งปีเลยครับ ผมสันนิษฐานว่าพระภิกษูเหล่านี้ท่านน่าเข้าถึงพระธรรมกายที่ละเอียดเพราะผมสังเกตทุกรอบ ท่านนั่งตัวตรงสง่ามาก ไม่มีกระดุกกระดิกแม้แต่นิดเดียวเลยครับและเวรจะมีชื่อคุณยายอาจารย์ตรีธาด้วยครับ แต่เดือนหนึ่งท่านจะขึ้นมาเพืยง 2-3 ครั้งเองครับ พอถึงเวลาเลิกก็จะมีเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาครับ และเวลาจะตรงมากๆ เหมือนกับว่าได้ตกลงกับทีมงานข้างบนไว้แล้วครับ ไว้ถ้าผมไปอีกจะกราบถามคุณยายอาจารย์ตรีธาให้นะครับ แต่วันอาทิตย์นี้ผมต้องไปบูชาข้าวพระที่วัดพระธรรมกายก่อนครับ เพราะเป็นบุญใหญ่มากๆครับ
แต่ที่สำคัญที่สุด ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อเรานี่แหละครับ นั่งกับท่านดีมากๆทุกครั้งเลยครับ รถด่วนขบวนสุดท้ายครับ
อย่าลืมช่วยกับบอกบุญโมดุลด้วยนะครับ อธิษฐานตอกย้ำทุกๆวันด้วยนะครับ (ผมเองก็พยายามครับเพราะตอนนี้กำลังสอบครับ ยุ่งไปหมดเลยครับ ทางโลกนี่ครับ) บ่นมากไปหรือป่าวไม่รู้ครับ
นั่งธรรมะกันทุกวันนะครับ ผมจะพยายามเช่นกันครับเพราะชัวร์ที่สุด ดีที่สุดครับ
#11
โพสต์เมื่อ 01 October 2007 - 10:39 PM
#12
โพสต์เมื่อ 02 October 2007 - 12:51 AM
#13
โพสต์เมื่อ 02 October 2007 - 09:01 AM
100กะรัต
#14
โพสต์เมื่อ 02 October 2007 - 10:31 AM
#15
โพสต์เมื่อ 02 October 2007 - 02:32 PM
#16
โพสต์เมื่อ 02 October 2007 - 03:48 PM
#17
โพสต์เมื่อ 02 October 2007 - 03:53 PM
ขออนุโมทนาบุญกับบุญความดีที่คุณลูกหลานหลวงปู่ได้ทำและตั้งใจจะทำในอนาคตด้วยค่ะ
#18
โพสต์เมื่อ 02 October 2007 - 09:07 PM
ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำของพี่ความคิดเห็นที่ 22 ผมจะเก็บมาน้อมนำปฏิบัติกับตัวผมครับ ไม่ทราบว่าพี่ได้พรว่าอะไรครับ เพราะผมเห็นส่วนใหญ่คุณยายอาจารย์ตรีธาจะให้พรว่า ขอให้มีธรรมกายที่แกร่งกล้า ครับ
พี่ๆทุกท่านเรียกผมว่าต่ายก็ได้นะครับ ผมเรียนวิศวะไฟฟ้า ปี3 ครับ
#19
โพสต์เมื่อ 03 October 2007 - 02:04 PM
#20
โพสต์เมื่อ 04 October 2007 - 02:02 AM
#21
โพสต์เมื่อ 04 October 2007 - 05:17 PM
#22
โพสต์เมื่อ 04 October 2007 - 06:07 PM
#23
โพสต์เมื่อ 29 August 2010 - 05:41 PM
สิ่งที่ต้องแสวงหา คือ พระรัตนตรัยภายใน
เป้าหมายชีวิต คือ ที่สุดแห่งธรรม
#24
โพสต์เมื่อ 02 September 2010 - 11:43 PM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป