พระราชาองค์ที่มีศิลปในหัวใจ
#1
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 07:43 AM
ถ้าใครทราบช่วยบอกหน่อยนะคะ เพื่อคลายความสงสัย
ขอบคุณคะ
#2
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 08:05 AM
#3
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 08:49 AM
อธิบายหน่อยได้มั้ยครับ ใครที่รู้
ส่วนพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ พอจะรู้แล้วล่ะ 555+ ยิ่งใหญ่จริงๆ
#4
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 09:05 AM
ท้วมๆ ใส่แว่น ยิ้มเก่ง ลูกสาวมีแฟนเป็นดารา
นั่งแถวหน้าเวลามาวัดวันอาทิตย์
มีชื่อตัวหลังตรงกับหลวงพ่อฯ
..รู้ยัง..อิ อิ
ไฟล์แนบ
#5
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 09:25 AM
เคยอ่านเจอว่า ท่านมีใจรักศิลปะจริงๆ เวลาว่าง ชอบวาดภาพ ชอบสะสมภาพวาดจำนวนมากมาย ถึงขนาดส่งลูกสาวไปเรียนศิลปะ กลับมาเพื่อเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะของท่านเอง นะคะ
นอกจากนี้ท่านยังมีสำนึกรักบ้านเกิดเมืองนอน ก่อตั้งโครงการดีๆ เพื่อคนในชุมชนท้องถิ่น รากหญ้า เช่น พ่อค้าอยากได้ข้าวหอมมะลิ ก็จะสั่งซื้อผ่านอินเตอร์ เน็ตและร้านสำนึกรักบ้านเกิดก็จะสำรวจหาข้าวในพื้นที่ต่างๆเพื่อจัดส่งให้ กับพ่อค้า
บทสัมภาษณ์
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#6
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 09:33 AM
พอดีว่าเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เลยรู้น่ะ ท่านบอกว่า รักงานศิลปะมาก
#7
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 10:35 AM
แล้วนกขมิ้นหมายถึงใคร
ช่วยเฉลยหน่อย pm มาก็ได้
#8 *sky noi*
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 11:07 AM
#9
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 11:31 AM
#10
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 11:39 AM
จะรู้ว่าใครเป็นใคร หรือต้องลองทายดูบ้างมันก็สนุกดีไม่ใช่
หรอครับ อิอิ
คำถามของจขกท.เป็นคำถามที่คนเขตในบอกว่ามีถามเข้ามา
เยอะมากๆในช่วงนี้
ถ้าอยากได้"จริง"จะได้...แต่ตอนจะได้ไม่"อยาก"
#11
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 11:52 AM
หลวงพ่อท่านรอเวลานี้มานานกว่า 30 ปี เชียวนะครับ
รอที่จะบอกเล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในพุทธันดรที่แล้ว
เป็นเรื่องราวที่สำคัญกับหมู่คณะมากๆๆๆๆๆ ไม่รู้ไม่ได้
ไม่รู้ก็"เสียชาติเกิด" เกิดมาก็เหมือนไม่ได้เกิด ตายเปล่าเลย
ถ้าเป็นในสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่าน จะทรง ระลึกอดีตชาติของพระภิกษุแต่ละรูปให้ฟัง เมื่อพระองค์เทศนาจบ พระภิกษุรูปนั้นจะบรรลุธรรมเลยครับ นี่พวกเราฟังจบไปร่วมๆ 1000 เคสแล้ว บรรลุกันสักเท่าไหร่เชียว
นี่ยังไม่นับพวกที่ ไม่ได้ยินไม่ได้ฟัง
พวกที่ฟังแล้วก็ไม่ยอมเชื่อ
พวกที่เชื่อแล้วก็ยังไม่เข้าใจ
พวกที่เข้าใจแล้ว ระดับความเข้าใจก็ลุ่มลึกไปอีก ตามลำดับ
พวกที่เข้าใจแล้วก็ยังไม่ลงมือปฏิบัติ
พวกที่ปฏิบัติแล้วยังไม่ได้ผล
พวกที่ปฏิบัติได้ผลแล้วก็ยังไม่ชำนาญ
พวกที่ชำนาญแล้วก็ยังไม่เทศน์สอน
พวกที่ 2 น่าสงสารที่สุด บุญมีแต่กรรมบัง = ="
ถ้าไม่คิดจะเชื่อ ก็อย่าไปรู้ไปเห็นซะดีกว่า เสี่ยงต่อการก่อบาปกรรมมากๆ
มันก็เป็นการเรียนรู้กันไปเป็นชั้นๆ แบบนี้แหล่ะครับ เหมือนอนุบาล ก็ ประถม ต่อ มัธยม ไป วิทยาลัย ..................
เพียงแต่ที่นี่พิเศษหน่อย คือ จบอนุบาลแล้วได้ ด็อกเตอร์เลย
#12
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 11:52 AM
ใครน้า ที่เป็นประธานสร้างมหาวิหารหลวงปู่วัดปากน้ำ
ใครเอ่ย
#13
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 12:13 PM
HAPPY......D.....tac
#14
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 09:16 PM
พระราชาผู้เป็นพระอนุชาฯ ในชาติปัจจุบัน คือใครหรือคะ
#16
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 12:22 AM
ใครในเรื่องจะเป็นใครไม่สำคัญ สำคัญว่า คุณอ่าน ฟัง แล้ว ได้อะไรที่เป็นความรู้ และ นำมาใช้ปรับปรุงตนเอง
ในการสร้างบารมีให้มากขึ้น จะดีกว่าค่ะ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต หลวงพ่อท่านมีเจตนานำมาสอนให้เป็นข้อคิดข้อเตือนใจในการสร้างบุญบารมี
ทำไมทุกคนต้อนสนใจแค่ว่า คนในท้องเรื่องคือใคร ถ้ารู้ว่าเป็นใคร แล้วทำให้ คุณมีกำลังใจสร้างบุญบารมีมากขึ้น ก็คงจะดี
วันนี้คุณนั่งสมาธิแล้วหรือยังค่ะ
#17
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 10:01 AM
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#18
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 11:19 AM
ใครในเรื่องจะเป็นใครไม่สำคัญ สำคัญว่า คุณอ่าน ฟัง แล้ว ได้อะไรที่เป็นความรู้ และ นำมาใช้ปรับปรุงตนเอง
ในการสร้างบารมีให้มากขึ้น จะดีกว่าค่ะ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต หลวงพ่อท่านมีเจตนานำมาสอนให้เป็นข้อคิดข้อเตือนใจในการสร้างบุญบารมี
ทำไมทุกคนต้อนสนใจแค่ว่า คนในท้องเรื่องคือใคร ถ้ารู้ว่าเป็นใคร แล้วทำให้ คุณมีกำลังใจสร้างบุญบารมีมากขึ้น ก็คงจะดี
วันนี้คุณนั่งสมาธิแล้วหรือยังค่ะ
by usr23182
SaDhu.gif 22.04K 67 ดาวน์โหลด SaDhu.gif 22.04K 67 ดาวน์โหลด SaDhu.gif 22.04K 67 ดาวน์โหลด
ป.ล. ทัศนะส่วนบุคคล
สะเก็ด ฟังเป็นธรรมบันเทิง ใคร่รู้เรื่องราวของคนดีคนดัง
เปลือก ฟังแล้วได้ข้อคิดข้อเตือนใจในการออกแบบชีวิตนักสร้างบารมี มีกำลังใจสร้างบุญบารมีมากขึ้น
กระพี้ ฟังแล้ว ละเว้นจากบาปทั้งปวง หมั่นสร้างกุศลกรรม ขยันชำระใจกลั่นธาตุให้สะอาด กลั่นธรรมให้สว่าง ผ่องใส
แก่น ฟังที่หู ดูที่กลาง ( ฟังแล้ว เข้าถึงสภาวะธรรมภายใน และหรือเข้าถึงธรรมที่ละเอียดยิ่งขึ้นไป )
#19
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 11:52 AM
จะไม่เอ่ยถึงฉายา "อัปปมาทะเศรษฐี" นี่ก็กระไรอยู่
พระราชาผู้มีศิลปะในหัวใจ ได้รับ สมัญญานามนี้ ในภพชาตินี้ นับว่าไม่ธรรดา
อัปปมาทะ (ความไม่ประมาท - earnestness; diligence)
ลำพังแค่ อัปปมาทะ หมายถึง ความไม่เลินเล่อเผลอสติ ไม่ลืมตัวมัวเมาด้วยขาดสติขาดความยั้งคิด ระวังจิตมิให้กำเนิด มิให้ขัดเคือง มิให้หลง มิให้มัวเมา ในอารมณ์ที่สามารถดึงจิตให้กำหนัด ขัดเคือง หลง หรือมัวเมา ประคองจิตให้ระลึกนึกได้และรู้สึกตัวอยู่เสมอว่าจะทำ พูดคิดอะไร หรือกำลังทำ พูด คิดอะไร
อัปปมาทะ ในทางปฏิบัติก็คือ สติ นั่นเอง
อัปปมาทะ เป็นธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนเป็นคำสุดท้ายก่อนปรินิพพาน ถือกันว่าเป็นหัวใจหรือเป็นคำสรุปรวบยอดของคำสอนทั้งหมด เป็นที่รวมของคำสอนทั้งหมด กล่าวคือ ธรรมที่ทรงสอนทั้งปวงรวมลงในอัปปมาทธรรมนี้ทั้งสิ้น
จัดเป็นฝ่ายปัญญาธรรมข้ออื่น ที่ได้รับยกย่องคล้ายกับโยนิโสมนสิการนี้ ได้แก่ อัปปมาทะ เชียวนะครับ
นั่นหมายถึง การทำบุญกุศล เขาคิดเองได้ ชักชวนกันทำเองได้ ไม่ต้องมารอโปรเจค ไม่ต้องให้หลวงพ่อมากระตุ้น มาปลอบ โอ๋ คอยให้กำลังใจ รึมานั่งอธิษฐาน ขายที่ดินได้ก่อนแล้วจะมาทำบุญ ฯ
อภิอัครเศรษฐีผู้ไม่ประมาทในการบำเพ็ญบุญกุศล ธรรมดาซะที่ไหนล่ะนั่น
#20
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 03:17 PM
เชื่อมั่นใน คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเรื่องของกฏแห่งกรรมค่ะ
ไม่ว่าจะเป็น พระราชาที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน แม้ทำกรรมใดไว้ ทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรม
ด้วยเจตนาก็ดี มิได้เจตนาก็ดี กรรมย่อมส่งผล....
ทำใจให้สบาย ๆ ๆ นะคะ อย่าไปตึงเครียดกับข่าวสารในขณะนี้
มุ่งหน้าสร้างบารมีของพวกเราไปค่ะ เป้าหมายคือ ที่สุดแห่งธรรมค่ะ (เอ...นอกเรื่องหรือเปล่าน๊า)
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#21
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 09:50 PM
พวกเราเตรียมตัวลุยสร้างบารมีตามหลวงพ่อให้ทันแล้วกันครับ :-) อย่าประมาทเชียวน่า ซิบอกให้
#22
โพสต์เมื่อ 27 November 2009 - 01:18 AM
#23
โพสต์เมื่อ 27 November 2009 - 10:34 AM
อนึ่งจะได้รู้ว่าในอดีตหมู่คณะเราทำงานอย่างไรด้วย
#24
โพสต์เมื่อ 27 November 2009 - 11:05 AM
โดยข้อคิดในการศึกษาCase Studyนี้ทำให้รู้ถึงบุญกับบาปนั้นชิงช่วงช่วงชิงกันตลอดเวลา
ทุกสิ่งที่เป็นไปในสรรพสัตว์ทั้งหลาย ล้วนมีเพียง บุญกับบาปเป็นปัจจัยให้เกิดผล
กัมมัสสะโกมหิ กัมมะทายาโท เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
กัมมะปะฏิสะระโณ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ยัง กัมมัง กะริสสามิ เราทำกรรมใดไว้
กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ดีหรือชั่วก็ตาม
ตัสสะ ทายาโทภะวิสสามิ เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
#25
โพสต์เมื่อ 27 November 2009 - 11:44 AM
ข้อคิดที่ผมได้คือ โลกใบนี้คือละครโรงใหญ่ อย่ายึดมั่นถือมั่น สิ่งที่นำติดตัวไปได้คือบุญกับบาป ครับ
#26
โพสต์เมื่อ 27 November 2009 - 06:08 PM
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ