หลอกชาวมุสลิมให้กินหมูมีวิบากกรรมอย่างไร
#1
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 03:10 PM
ภายหลังจากอ่านบทความจบ รู้สึกเศร้าใจและเห็นใจพี่น้องมุสลิมที่ตกเป็นเหยื่อความเห็นแก่ตัวของผู้ผลิต ที่หวังแต่กอบโกยผลประโยชน์ จนมองข้ามความศรัทธาของพี่น้องต่างศาสนา คนที่รับประทานอาหารเจหากถูกหลอกให้ทานอาหารที่ปลอมปนด้วยเนื้อสัตว์ คงจะรู้สึกแย่เช่นกัน
อยากชวนนักเรียนอนุบาลฯทุกท่าน วิเคราะห์กันว่าวิบากกรรมจากการหลอกให้พี่น้องชาวมุสลิมกินหมูนั้นเป็นเช่นไร ?
“ไม่ได้ไม่มี ไม่ดีไม่ได้ ต้องได้และดี ให้ดีที่สุด”
#2
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 03:25 PM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 03:54 PM
#4
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 03:56 PM
****
กรุณาวิเคราะห์ด้วยความรอบคอบ ตอบกระทู้โดยไม่ไปกระทบความเชื่อของเพื่อนชาวมุสลิมด้วยนะครับ
#5
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 04:54 PM
เป็นการปล่อยข่าวกลั่นแกล้งกันเปล่านี้ เพราะเท่าที่ดูทำไมต้องเอาเนื้อหมูที่มีราคาแพงกว่าเนื้อที่เอาไปทำอาหารฮาลาล
แล้วอย่างน้อยการส่งอาหารไปขายนั้นย่อมต้องมีขั้นตอนการตรวจคุณภาพของอาหารนั้นแล้ว
#6
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 05:22 PM
คนซื้อ เขาเอาเงินที่เขาได้มาโดยสุจริต มาแลกสิ่งที่เขาต้องการ
คนขาย ก็ไม่ควร เอาสิ่งอื่นไปให้แทน -ด้วยการทำให้เข้าใจผิด
ไม่ว่าจะเป็น หมู หรือ ไม่หมู
ยิ่งเกี่ยวข้องกับศาสนา ยิ่งไม่ควรอย่างยิ่ง ไปกลั่นแกล้งเขา
เห็นด้วยค่ะ
"รักษา อารมณ์ดี + อารมณ์เดียว + อารมณ์สบาย ทั้งวัน "
#7
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 06:08 PM
ขั้นต่ำ ก็โดนแบบเดียวกัน คือ หลอกให้กินในสิ่งที่ไม่อยากกิน
แต่ขั้นสูง...
ถ้าตั้งใจหลอก มันก็ต้องผิดศีลข้อ 4
และยิ่งเกี่ยวกับการค้า เงินๆ ทองๆ ก็อาจไดรับวิบากกรรมเกี่ยวกับโรคไต หรือ โรคเลือด (เหมือนเคสที่ปลอมปนสินค้ามาหลอกขาย)
เหอะๆ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันอะเป่านะคะ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
http://sasismile.wordpress.com/
บล็อกใสๆ ของใจสูงเองค่า
#8
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 06:13 PM
100กะรัต
#9
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 06:36 PM
#10
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 08:44 PM
ข้อความข้างบนอาจจะเป็นการโจมตีของคู่แข่งค่ะ เพราะขั้นตอนการขอ Halal นั้นยุ่งยาก และมาตรฐานสูงมาก มากกว่า อย. หรือมาตรฐานอื่นๆค่ะ และเจ้าหน้าที่ที่พิจารณาก็เข้มงวดมาก
ไม่ได้ดูเฉพาะตัวสินค้านั้นๆ (Finish Product) แต่ต้องตรวจถึงส่วนประกอบอื่นๆ (Ingredients) ที่ใช้ในการผลิตอาหารด้วยค่ะ บางครั้งถึงขนาดให้ผ่านมาตราฐาน Halal ใน Ingredient แต่ละตัวด้วย ถึงจะยอมให้ผ่าน และบางครั้งที่ Ingredient บางตัวได้ผ่าน Halal จากต่างประเทศแล้ว แต่ Halal เมืองไทยก็ยังไม่ยอมเลยค่ะ เลยต้องทำเรื่องให้ผ่าน Halal เมืองไทยด้วย ดังนั้นกว่าจะผ่านได้จึงต้องใช้เงินในการดำเนินการมาก รวมถึงเสียเวลา และขั้นตอนเยอะ เรียกว่าของเค้าเขี้ยวมากค่ะ และได้เงินมากเช่นกัน
ดังนั้น บทความนั้นอาจไม่ถูกต้องก็ได้ค่ะ ยังไงลองตรวจสอบดูนะคะ
#12
โพสต์เมื่อ 29 February 2008 - 11:09 PM
ขอชี้แจงและอธิบายเพิ่มเติมดังนี้:
เป็นการปล่อยข่าวกลั่นแกล้งกันเปล่านี้ เพราะเท่าที่ดูทำไมต้องเอาเนื้อหมูที่มีราคาแพงกว่าเนื้อที่เอาไปทำอาหารฮาลาล
แล้วอย่างน้อยการส่งอาหารไปขายนั้นย่อมต้องมีขั้นตอนการตรวจคุณภาพของอาหารนั้นแล้ว
ไม่ได้ดูเฉพาะตัวสินค้านั้นๆ (Finish Product) แต่ต้องตรวจถึงส่วนประกอบอื่นๆ (Ingredients) ที่ใช้ในการผลิตอาหารด้วยค่ะ บางครั้งถึงขนาดให้ผ่านมาตราฐาน Halal ใน Ingredient แต่ละตัวด้วย ถึงจะยอมให้ผ่าน และบางครั้งที่ Ingredient บางตัวได้ผ่าน Halal จากต่างประเทศแล้ว แต่ Halal เมืองไทยก็ยังไม่ยอมเลยค่ะ เลยต้องทำเรื่องให้ผ่าน Halal เมืองไทยด้วย ดังนั้นกว่าจะผ่านได้จึงต้องใช้เงินในการดำเนินการมาก รวมถึงเสียเวลา และขั้นตอนเยอะ เรียกว่าของเค้าเขี้ยวมากค่ะ และได้เงินมากเช่นกัน
ดังนั้น บทความนั้นอาจไม่ถูกต้องก็ได้ค่ะ ยังไงลองตรวจสอบดูนะคะ
ข่าวประเด็นนี้เป็นข่าวใหญ่ ขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ ในช่วงปี 2550 สองครั้ง
สามารถอ่านข่าวย้อนหลังได้ที่
คมชัดลึก
http://www.komchadlu...?news_id=104873
ที่มาของบทความ ชื่อบทความ "สัมภาษณ์คณบดีไทยมุสลิม เมื่อมุสลิมไทย(ถูกหลอก)ให้กินหมู"
ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารคู่สร้างคู่สม ฉบับล่าสุด ประจำวันที่ 1-10 มีนาคม 2551
บทความนี้มีความน่าเชื่อถือได้สูง ที่ว่าน่าเชื่อถือได้เนื่องจากหน่วยงานที่อยู่เบื้องหลังของข่าวข้างต้น คือ "ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" เพราะว่าเป็นผู้ตรวจพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คุณดำรง พุฒตาล (เจ้าของนิตยสารคู่สร้างคู่สม) ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาของศูนย์ดังกล่าว ได้ให้คุณพิมลมาศ สัมภาษณ์ รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาโดยตรง และท่านเป็นผู้กล่าวยืนยันว่า "...มีผู้บริโภคสงสัย เมื่อนักวิทยาศาสตร์ตรวจพบและทำการตรวจซ้ำดังกล่าวตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ เก็บตัวอย่างอื่นมาเปรียบเทียบจนมั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วสุดท้ายจึงมาแจ้งที่ท่านในฐานะผู้อำนวยการ..."
จุดมุ่งหมายของการโพสต์กระทู้นี้นั้น ไม่ได้มุ่งประเด็นใครจะใส่ร้ายใคร และไม่ได้ต้องการให้กระทบกระเทือนความเปราะบางของความต่างศาสนา แต่ในมุมมองของความเข้าใจในความรู้สึกในฐานะเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย แม้ว่าเราจะมีความศรัทธาที่ต่างกันแต่เราก็เข้าใจความรู้สึกของผู้ที่ถูกกระทำ และบ่งบอกชัดเจนว่าชวนมาวิเคราะห์ผลกรรมของผู้ที่ทำวิบากกรรมเช่นนั้น ซึ่งก็ชัดเจนว่าวิเคราะห์ออกมาในแง่มุมชาวพุทธซึ่งไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมเห็นแก่ตัวเช่นนั้น
ขออภัยหากข้อมูลบางประเด็นในเนื้อหากระทู้ก่อนหน้านี้สั้นไป หรือไม่ชัดเจน ด้วยคิดว่าข่าวใหญ่นี้อาจผ่านตาท่านมาบ้างแล้ว
ท่านสามารถแจ้งลบได้ตามความต้องการ หากเห็นว่าไม่เหมาะสม แต่เจตนาของผู้โพสต์ก็ได้ชี้แจงดังข้อความข้างต้นแล้ว ซึ่งตัวผู้โพสต์เอง ปกติวิสัยก็มิใช่มั่วข้อมูลมาตั้งประเด็นแต่อย่างไร พอจะได้ใช้ปัญญาแม้มีเพียงเล็กน้อยนี้พิจารณาได้บ้างว่าข้อเท็จจริง เชื่อถือได้เพียงไร
ขอกราบอนุโมทนาบุญที่ได้ร่วมแชร์ความคิดเห็นกันมา ณ โอกาสนี้
“ไม่ได้ไม่มี ไม่ดีไม่ได้ ต้องได้และดี ให้ดีที่สุด”
#13
โพสต์เมื่อ 01 March 2008 - 05:25 PM
คิดพูดทำดี ได้ดี คิดพูดทำชั่ว ได้ชั่ว
โอ / เชียงใหม่
#14
โพสต์เมื่อ 01 March 2008 - 08:37 PM