อธิษฐานขอให้เกิดเป็นชาติสุดท้ายได้หรือไม่
#1
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 12:46 PM
ในที่นี้ใครอยากเกิดอีกบ้าง? และ ใครไม่อยากเกิดอีกบ้าง?...เพราะอะไรค่ะ
สำหรับตนเอง...ไม่อยากเกิดแล้วค่ะ...ถ้าต้องเกิดมาเจอสถานการณ์ร้าย ๆ เหมือนเดิม
#2
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 01:25 PM
อธิษฐานได้ครับ แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้น ไม่ทราบ จะว่าไปเหมือนอะไร...ก็เหมือนบอกว่า อยากซื้อบ้านราคา 10 ล้าน แต่เรามีเงินถึง 10 ล้านหรือไม่
ถ้าไม่อยากเกิดก็ต้องมีบุญมากมาย จนบรรลุอรหันตผล หมดกิเลสเข้านิพพาน เป็นอันเลิกเกิด
แต่ถ้าบุญยังไม่พอบรรลุอรหันตผล แล้วบอกอยากเลิกเกิด ก็เหมือนฝันลมๆ แล้งๆ น่ะครับ ตราบใดที่ยังมีเชื้อแห่งการเกิด ก็ต้องเกิด ไม่ว่าจะอยากเกิดหรือไม่อยากเกิดก็ตาม
ลองไปศึกษากระทู้นี้ดูนะครับ จะได้เข้าใจมากขึ้น
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4724
ก็สั่งสมบุญแล้วอธิษฐานให้หลุดพ้นจากเคราะห์กรรมนั้นสิครับ เราต้องเคยแสบมามากมายกับคนอื่น เราถึงต้องมาตกในสถานการณ์แบบนั้น ต้องทนเอาครับ พระพุทธองค์ทรงยกย่องนะครับ ว่า นอกเสียจากปัญญาแล้ว ทรงยกย่องขันติว่าเป็นเลิศ นะครับ
เหมือนกับที่ยายบอกว่า
ชีวิตคนเราก็เหมือนเรือ บุญเหมือนน้ำในแม่น้ำ บาปเหมือนตอที่อยู่ใต้น้ำ ถ้าบุญมาก ชีวิตคนเราก็ราบรื่น แต่ถ้าบุญน้อย ตอก็โผล่ ชีวิตก็ติดขัด มีอุปสรรค ดังนั้น เราก็ต้องเพิ่มน้ำ ตอจะได้ไม่โผล่มาขัดขวางนาวาชีวิต ของเราไงครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#3
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 02:19 PM
"ใครบ้าง ที่ทำได้จ๊ะ ทุกๆคนทำได้ ถ้า ได้ทำ " " แล้วใครบ้าง ที่ทำไม่ได้จ๊ะ คนบ้า คนตาย คนที่ไม่ได้ทำ "
ถามว่า ทำอะไร ในที่นี้ก็คือ ทำพระนิพพานให้แจ้งไงครับ
#4
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 02:28 PM
ถึงอธิษฐานขอไม่เกิดอีกยังไง ก็ยังต้องเกิดมาอีกอยู่ดี ยังออกไปจากวัฎฎสงสารไม่ได้
ถ้าไม่อยากทุกข์เพราะความเกิดอีก ก็ทำบุญทุกบุญ อธิษฐานให้บรรลุธรรม ไปพระนิพพาน ดีกว่าไปอธิษฐานว่าไม่เกิด
ที่ถามคนตอบกระทู้ว่า อยากเกิดอีกไม๊ ? ก็ตอบว่า
ก็จะเกิดอีกกี่ชาติก็แล้วแต่ ขอเกิดแล้วได้สร้างบารมีทุกชาติ
เราจะไปที่สุดแห่งธรรมกัน
#5
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 02:42 PM
อธิษฐานวันนี้ ก็ต้องดูว่าบารมีของเราเต็มเปี่ยมพอที่จะพ้นการเกิดได้ตั้งแต่ชาตินี้เลยรึเปล่า ดูยังไง ก็ดูด้วยตาของพระธรรมกายภายในยังไงละคะ
สรุปแล้ว ทำใจหยุดใจนิ่งต่อไปเรื่อยๆ อธิษฐานจิตลงไปในดวง ในองค์พระ ต่อไปเรื่อยๆ สักวัน ต้องเป็นของเราค่ะ จะเร็ว จะช้าแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับตัวของเราเองค่ะ ว่ามีความพากเพียรมากน้อยเพียงใด แล้วตัวเอง ก็จะตอบตัวเองได้ในสักวันหนึ่งค่ะ ว่าวันนี้เราจะเข้านิพพานได้แล้วยัง ??
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#6
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 03:44 PM
ซึ่งเหตุที่เจ้าของอธิษฐานขอไปนิพพานนั้น คุณครูบอกว่า เป็นเพราะชาติในอดีต เกิดร่วมกับหมู่คณะแต่ประมาทในชีวิต จึงพรากกับหมู่คณะไปเวียนว่ายตายเกิด โดนกรรมลงโทษสะบักสบอมพอสมควรทีเดียว ต่อมาในชาติหนึ่ง หลังจากสะบักสบอมแล้ว มาฟังพระรูปหนึ่งเทศน์เรื่อง นิพพานเมืองแก้ว ว่าจะมีแต่สุข ไม่มีทุกข์อีก เลิกเวียนว่ายตายเกิดตลอดไป ตนประทับใจมากจึงอธิษฐานขอไปนิพพานเมืองแก้วตั้งแต่นั้นมาน่ะครับ
ทีนี้คุณครูก็แนะมาเจ้าของเคสนี้ว่า ถ้าอยากไปนิพพาน ก็ให้สั่งสมบุญให้มากๆ (ดังที่คุณ มิราเคล ดรีม บอกมา) แล้วอธิษฐานจิตขอหมดกิเลสไปนิพพาน เมื่อมีบารมีมากพอก็จะสมปรารถนาน่ะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 04:28 PM
ขออนุโมทนาสาธุการด้วยนะครับ ก็แล้วแต่ใจปรารถนาเถิดครับ และผมจะไม่บอกกับคุณด้วยว่า "ไปที่สุดแห่งธรรมสิ ไปที่สุดแห่งธรรมกันดีกว่านะ" เพราะชีวิตของคุณๆ ย่อมมีศักดิ์และสิทธิ์ในการเลือกทางเดินชีวิตของตัวคุณเอง ผมจะไปบังคับอะไรคุณไม่ได้ทั้งนั้น และการที่คุณตั้งใจอธิษฐานเพื่อมุ่งสู่ความเป็นพระอรหันต์ ก็นับว่าเป็นความปรารถนาที่ดี ที่ประเสริฐเทียวหนา เพราะถ้าหากมีบารมีไม่ถึงนี่เป็นไม่ได้นะครับ อีกอย่างก็คือ เมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว คุณมีสิทธิ์เข้าไปประทับในพระนิพพานกับพระพุทธเจ้าได้ เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ของพอดีพอร้ายนะครับ
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#8
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 04:43 PM
และถ้าบารมียังไม่เต็มเปี่ยม
ก็ต้องรอต่อไป
ทำไมไม่ไปที่สุดแห่งธรรมด้วยกันล่ะครับ
อย่างที่ขุนศึกฯ เขาชวน
เนอะ เนอะ
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.
#9
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 04:58 PM
ลพ.จึงให้ลูกๆทุ่มเททำทุกบุญแบบไม่มีเว้นวรรค ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และท่านก็ทำเป็นต้นแบบให้ลูกๆเห็นด้วย
#10
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 05:04 PM
#11
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 05:31 PM
จะไม่เกิดอีก ก็ต้องไปนิพพาน
จะไปนิพพาน ก็ต้องบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
จะเป็นพระอรหันต์ได้ ก็ต้องมีบุญบารมีเต็มเปี่ยม
บุญบารมีจะเต็มเปี่ยมได้ ก็ต้องสร้างบารมีทั้งสิบทัศให้เต็ม
ทำบุญทุกวัน นั่งธรรมะทุกวัน เติมบารมีของเราไปทุกๆวัน
วันใดที่บารมีของเราเต็มเปี่ยม เมื่อนั้น ความปรารถนาที่ไม่ต้องเกิดอีก ของคุณก็จะสำเร็จผลเมื่อนั้นค่ะ
เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะคะ
ยิ่งมืดยิ่งสว่างค่ะ เมื่อมีอุปสรรคมากๆให้รู้เถอะว่าใกล้จะพ้นแล้ว ให้อดทน สร้างบุญ นั่งธรรมะ ต่อไปค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 07:54 PM
เกิดมาแล้วมีอุปสรรค แสดงว่า บุญน้อย
ต้องเติมบุญให้ยิ่งยวดนะครับ
ต้องเข้าใจว่า เราเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ มิใช่ เสวยสุข
แน่นอน ทุกท่านย่อมมีทุกข์
แต่ว่า เราจะบริหารจัดการความทุกข์ได้อย่างไรมากกว่า
สำหรับผม โชคดี ที่มี dmc และ www.dmc.tv
ทำให้ผมสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขได้มากยิ่งขึ้น
#13
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 08:59 PM
แต่ไงมาเกิดอีกก็ไม่รู้
#14
โพสต์เมื่อ 03 July 2006 - 09:04 PM
แต่ไงมาเกิดอีกก็ไม่รู้
อาจจะเพราะไม่อยากแบบหลอกๆ มั้งครับ แบบว่า พอเจอทุกข์ก็โอดโอยว่า ไม่อยากเกิด ก็เลยเริ่มสั่งสมบุญ พอบุญส่งผล ชีวิตสุขสบาย ก็ประมาท ไม่เห็นทุกข์แห่งการเกิด ไปทำผิดทำพลาดเข้าอีก พอทำผิดพลาดก็เจอทุกข์ แล้วก็โอดโอยว่า ไม่อยากเกิดๆ แล้วก็เริ่มสั่งสมบุญอีก วนไปวนมาแบบนี้ มั้งครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#15
โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 01:32 AM
อย่าพึ่งด่วนสรุปไปเลยครับ เพราะคนที่มีความคิดอยากบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในภพชาติเบื้องหน้าจริงๆ แล้วเขามาสร้างบารมีร่วมกับหมู่คณะของเราก็มีอยู่ถมไปครับผมเคยเจอมาแล้ว
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#16
โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 07:38 AM
รีบหาทางนั่งสมาธิ เร็ว ๆ เลยนะครับ คุณจะสามารถเข้าถึงธรรมะได้อย่างง่าย ๆ
เมื่อเข้าถึงธรรมแล้วคุณสามารถเลือกได้
#17
โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 09:33 AM
#18
โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 12:19 PM
"ใครบ้าง ที่ทำได้จ๊ะ ทุกๆคนทำได้ ถ้า ได้ทำ " " แล้วใครบ้าง ที่ทำไม่ได้จ๊ะ คนบ้า คนตาย คนที่ไม่ได้ทำ "
ถามว่า ทำอะไร ในที่นี้ก็คือ ทำพระนิพพานให้แจ้งไงครับ
ทำไมครูไม่ใหญ่ ท่านจึงไม่สอนว่า ทุกคนทำได้ ถ้าได้ทำ ถ้าบารมีเต็ม แล้วใครบ้าง ที่ทำไม่ได้จ๊ะ คนบ้า คนตาย คนที่ไม่ได้ทำ และคนที่บารมีไม่เต็ม
#19
โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 09:06 PM
ในที่นี้ใครอยากเกิดอีกบ้าง? และ ใครไม่อยากเกิดอีกบ้าง?...เพราะอะไรค่ะ
สำหรับตนเอง...ไม่อยากเกิดแล้วค่ะ...ถ้าต้องเกิดมาเจอสถานการณ์ร้าย ๆ เหมือนเดิม
เข้าใจความรู้สึกค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#20
โพสต์เมื่อ 05 July 2006 - 08:27 AM
ใคร ๆ ที่เห็นทุกข์แล้ว ต้องเห็นจริง ๆ ไม่ใช่ว่า ตอนนี้กำลังทุกข์หนัก ๆ แล้วได้คิด ไม่ได้หมายว่า จะคิดได้นะค่ะ
พอหายทุกข์ ก็ ไม่ได้คิดอีกนะ ต้องลองตรองดูด้วยความสัจจจริงก่อน
ความไม่อยากเกิด ทำยากพอๆ กับการที่โลกใบนี้ ต้องอาศัยเวลา และเหมือนคนย้ำคิดย้ำทำมาตลอด
ยากพอกับที่จะมีพระพุทธเจ้าสักองค์บังเกิดขึ้นสอนสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ ไม่ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระปัจเจกพุทธเจ้า
กว่าจะได้พระอรหันต์สักองค์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าแต่ละท่านจะได้มาซึ่งสิ่งต้องการ ท่านเหล่านั้น ต้องทำบารมี 10 ทัศ ทำบุญกิริยาวัตถุ 10
อย่างอุฤกษณ์เลยค่ะ ประมาณเอาชีวิตเป็นเดิมพัน...หากเราสำรวจตัวเองด้วยใจเป็นธรรม ว่าเราทำแบบท่านเหล่านั้นได้หรือยัง ได้มากน้อยแค่ไหน
เรื่องพวกนี้ ไม่ใช่การคิด การนึก แต่เป็นไป รู้ได้ด้วยจิตของตนแต่ละคนเท่านั้น
#21
โพสต์เมื่อ 05 July 2006 - 10:57 AM
หากเป้าหมาย ภารกิจของหลวงปู่หลวงพ่อคุณยายและหมู่คณะทหารกล้าของพระนิพพาน ยังไม่สำเร็จจะขอเกิด-ตาย ขอย่ำศึกปราบไพรีร่วมกันอยู่อย่างนี้เรื่อยไป
ทุกคนมีฝัน
จงเดินไปตามฝันที่เธอตั้งไว้ให้สุดกำลังเทอญ
.ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ
#22
โพสต์เมื่อ 09 July 2006 - 10:41 PM
#23
โพสต์เมื่อ 10 July 2006 - 09:02 AM
ชาวพุทธทั้งหลายพึงรักษาพระพุทธศาสนาด้วยความเพียรของตน โดยไม่คิดหวังพึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลแม้ฉันนั้น
#24
โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 08:22 PM
แต่หากว่า ชีวิตของเขาแสนทุกข์ เกินกว่าไครล่ะ ...
ถ้าจะเลือกเกิด มาแล้วมีสุขตลอดไป คงต้องสร้างบุญต่อไปไม่หยุดยั้ง ไม่ให้ตกหล่น ครับ
ผมเองตอนนี้ก็มีทุกข์ไม่ใช่น้อย แต่หากยังไม่ตาย จะขอสู้กันต่อไป
และตอนนี้ถึงทุกข์ แต่ก็ยังอยากเกิดต่อ รู้สึกอยากไปสู่ที่สุดแห่งธรรมครับ หรือว่า กิเลสยังดึงให้ใจคิดแบบนี้ก้ไม่รู้นะ 555+
#25
โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 07:14 PM
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#26
โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 07:37 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#27
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 08:54 PM
แม่ไก่ไม่ได้อยากให้ลูกออกมาจากไข่ แต่คอยกกไข่ไปเรื่อยๆ แม้ไม่ได้คิดอะไร ไข่ก็ฟักได้เอง
(พุทธพจน์)
#28
โพสต์เมื่อ 17 July 2007 - 10:57 AM
แต่ตอนพี่มาเจอคุณครูไม่ใหญ่ และหมู่คณะ มันเหมือนมีกำลังใจมาจากไหนไม่ทราบ คำสอนของคุณครูไม่ใหญ่ทุกๆคำ พี่ก็น้อมนำมาปฏิบัติตาม สั่งสมบุญเรื่อยมา ทุกวันนี้ชีวิตพี่ดีขึ้นมาก ตอนนี้เหลือหนี้ประมาณ 50กว่าล้าน ในเวลาเพียงปีกว่าๆ
จากที่พี่เคยคิดเบื่อหน่ายไม่อยากเกิดแล้ว แต่พอพี่ได้เจอคุณครูไม่ใหญ่รู้เป้าหมายมโนปณิธานของท่าน พี่ก็ตอบตัวเองได้ว่า พี่จะสู้ต่อวิบากกรรมที่เราทำมา อดทน อดกลั้น เพราะเราทำมาเอง พี่จะสร้างผังชีวิตใหม่ให้กับตัวเราเอง พี่จะตามติดท่านไปถึงที่สุดแห่งธรรม ที่พี่ไม่อยากไปนิพพานก่อนท่าน เพราะพี่คิดถึงพระคุณของท่าน และหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของท่าน ถ้าพี่ไม่เจอท่าน ชีวิตพี่ก็เหมือนกับคนทั่วไป ทำมาหากิน มีครอบครัว เผชิญปัญหาทุกวัน สุขผิวเผิน และก็ทุกข์ใหม่ แล้วก็ตาย โดยที่ไม่รู้จักชีวิตหลังความตายเลย มันอันตรายมาก พี่อยากตอบแทนท่านอยากจะช่วยท่านจนถึงที่สุด
ถ้าน้องอยากไปนิพพานก่อน ก็ทำได้จ้ะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้เป็นอกาลิโก ไม่จำกัดกาล
อธิษฐานบ่อยๆ เมื่อเข้าถึงพระธรรมกายก็จะทำได้
แต่พี่เสียดายนะ การที่เรามาเจอหลวงพ่อแล้ว ถ้าเราไม่ไปกับท่าน เพราะเมื่อถึงที่สุดแห่งธรรมทุกอย่างก็จบ เราจะได้เห็นอะไรอีกเยอะแยะ ที่สายโปรดไม่ได้เห็น ไปด้วยกันนะคะไปเป็นทีม