ขอบคุณและอนุโมทนาบุญเว็บ http://www.visutti.com/article10.htm
ความเจ็บไข้ได้ป่วย เหตุหนึ่งมาจากการกินอาหาร เราต้องแก้ที่การกินอาหารเรียกว่า “ เอาเกลือจิ้มเกลือ ” ในขั้นแรกจะขอแนะนำการล้างพิษ เอาสิ่งที่เป็นพิษออกจากร่างกายด้วยการกิน ตามวิธี “ ธรรมชาติบำบัด ” เมื่อเราทราบว่าความเจ็บไข้ได้ป่วยเหตุหนึ่งมาจากการกินอาหาร เราต้องแก้ที่การกินอาหารเรียกว่าเอาเกลือจิ้มเกลือ ในขั้นแรกจะขอแนะนำการล้างพิษเอาสิ่งที่เป็นพิษออกจากร่างกาย (ด้วยการกิน) ตามวิธีแบบธรรมชาติบำบัดซึ่งเป็นคำแนะนำของท่านอาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา ดังนี้...
สูตรที่ ๑ ล้างไขมันในหลอดเลือด
ใช้ : โยเกิร์ต + นมสด (ประเภทพร่องไขมันก็ได้) + น้ำผึ้ง + มะนาว
นำมาผสมกันในอัตราส่วนตามความชอบ ผสมแล้วดื่มตอนเช้า ในโยเกิร์ตมีแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส เมื่อเอามาผสมกับนมสด น้ำผึ้ง และมะนาว เพื่อเพิ่มตัวแบคทีเรียให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น แล้วจะเข้าไปทำลายไขมันในลำไส้
สูตรที่ ๒ ล้างพิษด้วยเห็ด ๓ อย่าง
ใช้ : เห็ดสามชนิดที่รับประทานได้ นำมาต้มเอาน้ำมาดื่ม (ห้ามนำเอาไปผัด) หรือทำอาหารประเภทแกงจืด แกงส้ม ตุ๋นไข่
ในกระบวนการล้างพิษมันมีสูตรหลายตัวที่ช่วยในการล้างพิษหลายสูตร แต่ว่าบังเอิญอาจารย์สุทธิวัสส์ไปได้สูตรนี้มาจากผลพวงของงานวิจัย คือ สมัยที่ท่านหุ้นกันกับเพื่อนเปิดโรงงานผลิตยา และจะผลิตเห็ดหลินจือที่ดีที่สุดในโลก เพราะเห็ดหลินจือที่ขายในท้องตลาดมันไม่ดีเพราะกระบวนการผลิตยังไม่ได้ตัวของหลินจือที่ได้มาตรฐาน ก็พยายามที่จะค้นหาวิธีให้ได้เห็ดหลินจือที่ได้คุณภาพดี มีการวิจัยว่าลองใช้เห็ดหลินจือหลายตัว หลายสายพันธุ์
จนกระทั่งทดลองกับหลินจือ ลองเอาเห็ดธรรมดาไปทดลองร่วมด้วย คราวนี้สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น เราพบว่าเมื่อเอาเห็ดธรรมดาที่รับประทานได้ ๓ ชนิดขึ้นไป มาปรุงอาหารร่วมกัน ตัวอนุพันธ์ของเห็ดจะถักทอกันแล้วไปหุ้มสารพิษได้ โดยเฉพาะพวกอนุมูลอิสระ ชีสต์ เนื้องอก มะเร็ง อัลฟาท็อกซิล ที่อยู่ในตัวมันหุ้มออกมาได้ พอดีหลังจากนั้นโครงการผลิตเห็ดหลินจือจึงล้มโครงการ
อาจารย์สุทธิวัสส์ก็เอาเรื่องของการใช้เห็ด ๓ ชนิด มาเผยแพร่ทั่วประเทศ มีคนเอาเห็ด ๓ ชนิดมาปรุงเป็นอาหาร แต่ห้ามผัดน้ำมัน ขอให้เป็นแกงเลียง แกงส้ม ต้มยำ ขอให้ใส่เห็ด ๓ อย่าง (ก๋วยเตี๋ยวป้าตุ๊ ของพลตรีจำลอง ขายดี เพราะว่าน้ำซุปใส่เห็ดลงไป ๓ ชนิด บางทีคนก็มาซื้อน้ำซุปเอาไปรับประทานก็หายจากมะเร็ง ชีสต์ เนื้องอกได้ เห็ดอะไรบ้าง เห็ดที่รับประทานได้ ๓ ชนิด ขอให้หาให้ได้ ๓-๔ อย่าง เช่น เห็ดหอม เห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำ เห็ดอะไรก็ได้ที่กินได้รวมกัน ทำได้ทั้งอาหารคาวและเครื่องดื่ม
บางคนเดี๋ยวนี้ต้มขาย มี ๓ อย่าง เห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำ เห็ดหอม ต้มด้วยกัน ใส่มะตูม ใบเตย ให้หอม เติมน้ำตาลกรวดก็เป็นเครื่องดื่มที่ขายกัน ขายดิบ ขายดี เป็นตัวล้างพิษได้ เพราะว่าการสะสมของพิษไวรัสบี ลงตับก็ถูกชำระสะสางด้วยตัวนี้ได้ดีนี่ก็เป็นอีกสูตรหนึ่งที่เผยแพร่ได้ดี ถึงการล้างพิษ
สูตรที่ ๓ การล้างหินปูนในหลอดเลือด
ใช้ : กระเจี๊ยบแดงสด หรือกระเจี๊ยบแดงแห้งต้มกับพุทราไทยแห้ง ต้มดื่มน้ำ
มีหมอท่านหนึ่งจะโจมตีเรื่องน้ำตาลมาก ว่าน้ำตาลเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้เหนียวเกาะที่หลอดเลือดปกติหลอดเลือดคนจะลื่น พอน้ำตาลไปเกาะก็เหนี่ยว เวลาโคเลสเตอรอล *( cholesterol) ไหลผ่านมาน้ำตาลก็เกาะโคเลสเตอรอลไว้อีก ปกติโคเลสเตอรอล มีประโยชน์ทำให้คนอารมณ์ดี มีความสุข พอเจอน้ำตาลมันเหนียวไว้ ทำให้โคเลสเตอรอลซึ่งเป็นตัวดี กลายเป็นโคเลสเตอรอลตัวร้าย ทำให้อุดตันในหลอดเลือด
* cholesterol (โคเล็ส'เทอรัล) ไขมันในเส้นเลือด พบในมันสัตว์ น้ำดี เลือด เนื้อเยื่อสมอง น้ำนม ไข่แดง ตับ ไต ตัวที่ล้างได้ ล้างตัวโคเลสเตอรอลในหลอดเลือดได้ดี หรือบางทีเกิดหินปูนตามร่างกาย ตามสมอง ตามตัว ไม่มีอะไรเข้าไปล้างหินปูนได้ เราพบว่า การเอากระเจี๊ยบแดงสดหรือแห้ง มาต้มกับพุทรา อันนี้สูตรโบราณ เขาจะใช้พุทราป่า พุทราบ้าน พุทราอยุธยา ต้มกับน้ำกระเจี๊ยบ ถ้าหายาก ก็เอาพุทราจีน คือ พุทราแห่งทุกชนิด แต่ถ้าเป็นพุทราไทย แบบพุทราป่า จะประหยัดและหอมมาก หอมกว่าพุทราจีน แล้วไปล้างหินปูนในสมอง แก้คนเป็นอัลไซเมอร์ได้ ล้างหลอดเลือดให้สะอาด
เพราะฉะนั้นที่บอกว่าน้ำตาลมันเป็นโทษาอย่างเดียวไม่จริง ที่จริงแล้วน้ำตาลทรายมันบำรุงปอด มันมีผลทางยา แต่ว่าอย่ากินมากเท่านั้นเอง คือ ทุกอย่างไม่ว่าอะไรไม่ควรรับประทานมาก เพราะจะไปแทนที่สารอาหารตัวอื่นแทนที่เราจะได้รับอย่างละนิด ให้มันไปใช้ประโยชน์ เราไปเติมอย่างเดียว อย่างอื่นก็ไม่ได้
ไม่ใช่พอรู้ว่าอะไรมีประโยชน์รับประทานมาก ๆ อย่างเดียว อย่างนี้ไม่ได้ ต้องรับประทานให้หลากหลาย รับประทานเข้าไปเถอะ แต่ต้องรู้จักว่ารับประทาน แล้วอะไรไปแก้ นี่เป็นเรื่องของการล้าง ล้างระบบดูดซึม ล้างสารพิษ ในตัว ในตับ ล้างหลอดเลือด
สูตรที่ ๔ การล้างน้ำตาลในหลอดเลือด
ใช้ : กระเจี๊ยบ + พุทรา + รางจืด นำมาต้ม ดื่ม
น้ำกระเจี๊ยบกับพุทราที่ต้ม บางคนอาจจะเพิ่มรางจืดเข้าไป เพื่อการล้างน้ำตาลในหลอดเลือดได้ดี อีกตัวหนึ่ง
สูตรที่ ๕ การล้างสารเสพติด
ใช้ : หญ้าดอกขาวแห้งต้ม นำน้ำมาดื่ม
ที่ใช้ล้างสารเสพติดก็คือหญ้าดอกขาว เอาหญ้าดอกขาวมาสับ ตากแดดไว้สักแดดแล้วเอามาคั่วให้แห้ง คือห้ามใช้สด ๆ เพราะจะมีพวกสารพิษอยู่ในตัว เอามาต้มเลยไม่ได้ต้องทำให้แห้งก่อน แล้วจึงจะเอามาต้ม ตัวนี้จะไปล้างสารเสพติด เช่น ติดบุหรี่ ติดเหล้า ติดน้ำตาล คือสารเสพติดที่ไปเคลือบเซลล์ประสาท น้ำนี้ตัวนี้จะไปล้างออกได้ แต่ว่าถ้าคนไม่เป็นอะไร ไม่ติดอะไร ต้มดื่มก็จะแค่บำรุงธาตุทำให้มีกำลัง
หญ้าดอกขาว อยู่ในกลุ่มผัก ไม่อยู่ในกลุ่มยา ไม่เป็นอันตราย ต้มกินเล่นได้ ไม่เป็นอะไรก็กินได้ นี่ก็พวกกระบวนการล้างพิษ
สูตรที่ ๖ แก้โรคเบาหวาน
ต้นเหตุมาจากตับอ่อน ไม่แข็งแรง การฟื้นฟูตับอ่อน มีสมุนไพรอยู่ไม่กี่ตัว
๑. หญ้าหวาน จะฟื้นฟูตับอ่อนได้ดีที่สุด โดยเฉพาะตัวรากหญ้าหวาน แต่น่าเสียดายรายหญ้าหวานเป็นสินค้าส่งออก แปรรูปเป็นน้ำสกัดจากรากหญ้าหวานเมื่อส่งออกแล้วห้ามนำเข้ามาขายในประเทศได้ (กฎหมายบังคับ) ประเทศเราจึงได้รับประทานแต่ใบหญ้าหวาน ซึ่งพอจะชดเชยแก้เบาหวานได้บ้าง
๒. รากเตยหอม ต้มกับน้ำสามารถฟื้นฟูอาการเบาหวานได้มาก บุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวานก็สามารถต้มรากเตยไว้รับประทานได้ มีคุณสมบัติอีกอย่างคือ เพิ่มพลัง (เหมือนกระชายดำ)
๓. ใบมะยม สามารถฟื้นฟูตับอ่อนให้หายขาดได้ รับประทานได้ทั้งใบอ่อนและใบแก่ แต่ที่นิยมมากคือใบเพทาหลาด (ใบที่ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป) นำมารับประทานได้โดยการต้ม แกงเลียง ต้มโคล้ง ต้มยำ รับประทานสด ๆ
สูตรที่ ๗ แก้โรคหอบหืด
ใช้ : ขิงแก่ + กระเทียม + หอมแดง + มะนาว + น้ำผึ้ง
วิธีทำ : ตัวยาที่แก้อาการหอบหืดได้ไว คือ ขิง (ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือผู้ป่วย) นำขิง กระเทียม หอมแดง (น้ำหนักเท่าขิง) นำเข้าเครื่องปั่นหรือตำในครก เติมน้ำดื่ม 1 แก้ว แล้วกรองเฉพาะน้ำ พอได้น้ำแล้วใส่น้ำผึ้ง ๑ ช้อนโต๊ะ บีบมะนาว ๓-๔ ลูก น้ำจะออกเป็นสีชมพู แต่ถ้าน้ำที่ออกมาเป็นสีอื่นแสดงว่าน้ำนั้นใช้ไม่ได้ เวลาดื่ม ต้องนั่งดื่มอย่างเดียว เพราะยาแรงอาจทำให้ล้มได้ เวลาที่ดื่มถ้าดื่ม ๐๓.๐๐ – ๐๕.๐๐ น ดื่มเพียง ๓๐ วัน แต่ถ้าเลยช่วงเวลานี้ไปก็ต้องดื่มเป็นเวลา ๖๐ วัน
ปัจจุบันคนที่เป็นหอบหืดที่รักษาไม่หายเพราะว่า ร่างกายดื้อยา เรารักษาหอบหืดได้ ส่วนมากคนที่เป็นหอบหืดเพราะรับเชื้อชนิดหนึ่งมาจากในยาหมู เพราะหมูที่เขาเลี้ยงนั้นจะฉีดยาแก้หอบหืดให้มัน หรือคลุกในอาหารให้กินเพื่อที่หมูจะได้ไม่มีไขมัน หมูรุ่นใหม่ไม่มีไขมัน เพื่อที่จะได้เป็นหมูเนื้อแดง เมื่อคนเรารับประทานหมูเข้าไปจึงทำให้เราได้รับยานั้นไปด้วย พอเรารับประทานมาก ๆ เข้ายาที่แก้โรคหืดก็ไม่สามารถระงับอยู่แล้ว
สูตรที่ ๘ โรคริดสีดวง
ใช้ : มะระจีน นำมาตำ แล้วคั้นเอาแต่น้ำ ผสมเกลือ น้ำตาล ดื่มก่อน ๐๗.๐๐ น.
บางคนรับประทานกล้วยหอมไม่ได้ ท้องจะอืดก็อย่ากิน ถ้าเป็นสูตรไทยรับประทานกล้วยหอมมื้อเย็นวันละ ๒ ลูก ริดสีดวงก็จะฝ่อไปเอง สูตรจีนรับประทานกล้วยหอมทั้งเปลือกได้ตลอดวัน (กล้วยหอมสุกอย่างเดียว) สไลด์กล้วยหอมทั้งเปลือกต้มน้ำให้ท่วมกล้วย แล้วเติมน้ำตาลกรวดนิดหน่อย (๒ ลูก ต่อ ๑ วัน) รับประทานทุกวันจนหาย
อีกสูตรนำมะระพันธุ์ลูกใหญ่ ๆ (มะระจีน) ๑ ลูก เอาแต่เนื้อหั่นเป็นชิ้น ๆ เหมือนชิ้นฟัก นำมาตำหรือปั่นเวลาตำหรือปั่นห้ามเติมน้ำเพิ่มเข้าไป ได้น้ำแค่ไหนเอาแค่นั้น (ถ้าเติมน้ำจะทำให้ท้องเสีย) เติมน้ำตาลทราย ๑ ช้อนโต๊ะ เกลือครึ่งช้อนชา เวลาที่ดีที่สุดที่ควรดื่มคือ เวลา ๐๕.๐๐ – ๐๗.๐๐ น.
หมายเหตุ : กาลเวลากับการรับประทานอาหารให้เป็นยา เรื่องการกินอะไรให้ตรงเวลาก็มีผลต่อการรักษาอย่างเช่น
๑. การดื่มยาเพื่อรักษาโรคกระเพาะ เวลาที่ดีที่สุด คือ เวลาตั้งแต่ ๐๗.๐๐ – ๐๙.๐๐ น.
๒. การลดความอ้วนควรรับประทานขมิ้นชัน หรือมันเทศเวลาที่ดีคือ ๐๙.๐๐ – ๑๑.๐๐ น. จะสามารถลดได้เร็ว
๓. การบำรุงหัวใจ ถ้ารับประทานผลไม้ เวลาที่ดีที่สุดคือ ๑๑.๐๐ – ๑๓.๐๐ น.
๔. การกินยาลดไข้ เวลาที่ดีที่สุดคือช่วง ๒๑.๐๐ – ๒๓.๐๐ น. (น้ำขิงทำให้ลดไข้ได้)
การเลือกเวลาที่รับประทานให้ตรงที่กำหนดนี้ ถ้าทำได้ การรักษาโรคต่าง ๆ จะทำให้หายเร็วกว่าปกติ
อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ครับ http://www.visutti.com/article10.htm
กินอย่างไร จึงจะมีสุขภาพดี
เริ่มโดย somkiat, Dec 19 2006 08:24 AM
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 19 December 2006 - 08:24 AM
#2
โพสต์เมื่อ 19 December 2006 - 09:57 AM
ขอบคุณมากครับ ท่าน somkiat และ ท่าน ฟ้าร้าง (ความคิดเห็นที่ 2)
มีประโยชน์ดีครับ และ การดูแลสุขภาพตามที่ข้าพเจ้าได้พอจะศึกษามาบ้าง ก็คือ การพยายามได้รับ สารอาหาร (nutrient) ที่จำเป็นต่อร่างกาย ในแต่ละมื้อ ให้เหมาะสมตาม ตามแต่ละเพศ ในแต่ละวัย ให้ได้ครบทุกๆวัน ครับ
มีประโยชน์ดีครับ และ การดูแลสุขภาพตามที่ข้าพเจ้าได้พอจะศึกษามาบ้าง ก็คือ การพยายามได้รับ สารอาหาร (nutrient) ที่จำเป็นต่อร่างกาย ในแต่ละมื้อ ให้เหมาะสมตาม ตามแต่ละเพศ ในแต่ละวัย ให้ได้ครบทุกๆวัน ครับ
QUOTE
The sound mind always resides in the sound body
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดปากน้ำภาษีเจริญ คลิ๊กที่นี้
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
.
Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
.
รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า: คลิ๊กที่นี้คลิ๊กที่นี้ เพื่อ ได้รับ ภาพทั้งหมดของ คำสอนคุณยาย ฉบับรวมเล่ม และภาพ (ฉบับสมบรูณ์)
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 157 files, 557.61 MB, ธรรมมะเทศนา มงคล 38 โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตชีโว)
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
ที่มา: คลิ๊กที่นี้ ปล. สืบเนื้องมาจาก กระทู้นี้ โพสต์โดย ท่าน ฟ้าร้าง
.
เรื่อง การสร้างบารมีของพระโพติสัตว์ เข้าใจได้ไม่ยาก โปรดลอง คลิ๊กที่นี้
.
สนใจอ่าน
The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้
(With some english explanation)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
"Do not confuse having a career with having a life"
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
Lastest Revised: 16/12/2006 | 08:43 PM
#3
โพสต์เมื่อ 20 December 2006 - 08:03 PM
ขอบคุณมากค่ะ มีประโยชน์จริงๆค่ะ ต้องทำกินบ้างแล้วละค่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 09 December 2007 - 01:02 AM
ขอบคุณมากจ้ะ สำหรับน่าเรื่องมีประโยชน์น่าปฏิบัติตามจ้ะ