ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

2548-09-01: ขอบคุณครับที่ไล่ผมออก


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Chadawee

Chadawee
  • Members
  • 299 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 17 February 2006 - 06:57 PM

ขอบคุณครับที่ไล่ผมออก

1/9/2548



เจ้าของเคสเกิดที่เมืองฮัตสันวิว ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 3 คน เจ้าของเคสเป็นคนเงียบขรึม ชอบเก็บตัวและพึ่งตนเองมาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณพ่อคุณแม่มีงานมาก คุณพ่อเป็นวิศวกรวิทยุในสายการบินนิวซีแลนด์ มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ส่วนคุณแม่เป็นพนักงานร้านขายของ ทำงานหนักไม่น้อยไปกว่าคุณพ่อ แม้จะไม่มีเวลาอยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว แต่ว่าเมื่อท่านกลับจากงาน ก็คอยดูแลเอาใจใส่ลูกๆ เป็นอย่างดี

เมื่อเรียนจบเจ้าของเคสก็ย้ายมาอยู่กับพี่ชายที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย และเข้าทำงานเป็นพนักงานขุด เจาะและระเบิดเหมืองแร่ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากเมืองเพิร์ธอีกกว่า 2,000 กิโลเมตร งานเหมืองแร่ หลังจากที่ต้องทำงานกรำแดดมากว่า 20 ปี ต่อมาเจ้าของเคสตรวจพบว่าเป็นมะเร็งผิวหนังบริเวณแผ่นหลังและลำคอ จึงตัดสินใจขอลาหยุดชั่วคราวเพื่อกลับไปรักษาตัวที่เมืองเพิร์ธ

ในวันที่ไปพบแพทย์ที่คลินิก เจ้าของเคสก็ได้รู้จักกับสาวชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่ง เธอเป็นเลขาฯ ของแพทย์ที่เจ้าของเคสมาตรวจรักษา เธอใจดีมาก ช่วยลัดคิวให้พบเข้าพบแพทย์ในวันนั้นเลย โดยที่เจ้าของเคสไม่ต้องรอเข้าคิวไปอีก 2 เดือน

การผ่าตัดมะเร็งผ่านพ้นไปด้วยดี เจ้าของเคสจึงได้เดินทางกลับไปทำงานที่เหมืองอีกครั้ง แต่ในใจของเจ้าของเคสนั้นเฝ้าคิดถึงเธอเสมอจึงส่งดอกไม้ไปให้เธอ และเธอก็ส่งจดหมายขอบคุณตอบกลับมาทันที ต่อมาทั้งคู่ได้แต่งงานกัน เจ้าของเคสและภรรยาอยู่ด้วยกันมา 11 ปี เธอเป็นศรีภรรยาที่คอยเคียงข้าง เป็นกำลังใจให้เจ้าของเคสเสมอ

มีอยู่ครั้งหนึ่งเจ้าของเคสถ่ายออกมาเป็นเลือดโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นอยู่นาน เดือนเศษ แต่ไม่ได้บอกให้ภรรยารู้ กลัวจะเป็นห่วง วันหนึ่งขณะที่ออกไปซื้อของด้วยกัน เจ้าของเคสรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรงจนล้มลงกับพื้น ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที หมอบอกว่าอาการรุนแรงเกินกว่าจะเยียวยา และคาดว่าเจ้าของเคสอาจจะตายภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า หมอจึงบอกให้เธอทำใจ และยังแนะนำด้วยความหวังดีว่า ก่อนจะตายให้เชิญบาทหลวงมาสวดให้พรก่อน

หลังจากบาทหลวงสวดให้พรแล้ว เธอก็เฝ้าอธิษฐานขอพรและขณะเดียวกันก็สวดขอมนต์แบบพุทธไปด้วย หลายวันต่อมาอาการของเจ้าของเคสก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหายเป็นปกติ ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ขอร้องให้เจ้าของเคสไม่กลับไปทำงานที่เดิมอีก เจ้าของเคสทำตามที่เธอขอร้อง โดยเปลี่ยนมาทำงานที่โรงพยาบาล ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน และเป็นวิสัญญีแพทย์ (หมอวางยาสลบ)

แต่เจ้าของเคสทำงานที่นี่ได้ไม่กี่ปีก็มีเหตุให้ต้องถูกหัวหน้าไล่ออก เรื่องมีอยู่ว่าหลายปีที่ผ่านมาเจ้าของเคสเคยมาเมืองไทยและประทับใจในเมืองไทยมาก เมื่อกลับไปออสเตรเลีย เจ้าของเคสได้จัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือชาวไทยทั้งที่อยู่ในออสเตรเลียและในเมืองไทย เจ้าของเคสเป็นชาวต่างชาติคนเดียวของคณะบริหารองค์กรความร่วมมือไทย–ออสเตรเลีย และเป็นกำลังหลักในการจัดกิจกรรมจนเคยได้รับรางวัลมาก่อน

เมื่อปลายปี 2547 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิถล่มจังหวัดภูเก็ต ทันทีที่ทราบข่าวเจ้าของเคสก็ไม่รอช้าได้ขอร้องเพื่อนสนิทคนหนึ่งเพื่อเขียนจดหมายรับรองไปยังโรงพยาบาลที่เจ้าของเคสทำงานอยู่ แจ้งความประสงค์ขอรับบริจาคเงินให้กับสภากาชาดไทยเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทางโรงพยาบาลก็ยินดีบริจาคเงินจำนวน 78,000 ดอลลาร์ให้กับสภากาชาดไทยโดยตรงทันที สภากาชาดไทยขอบคุณน้ำใจที่ส่งเงินมาช่วยคราวนี้

แต่เรื่องไม่จบแค่นั้นเพราะต่อมาเพื่อนสนิทคนเดิมก็มาขอเข้าพบกับทางโรงพยาบาลเพื่อขอสัมภาษณ์เรื่องการให้ความช่วยเหลือ และได้เอ่ยถึงยอดเงินที่ทางโรงพยาบาลได้บริจาคครั้งแรกและยังถามถึงเงินก้อนต่อไปที่ทางโรงพยาบาลตั้งใจจะบริจาคเพิ่มอีก แม้ว่าทางโรงพยาบาลจะยินดีบริจาคเงินอีกอย่างน้อย 3 ครั้ง แต่ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ทางโรงพยาบาลไม่ต้องการให้เปิดเผย เจ้าของเคสจึงถูกไล่ออกจากงานทันที เพราะถือว่าผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับโรงพยาบาลว่า จะไม่บอกกล่าวเรื่องราวใดๆ ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลให้บุคคลภายนอกทราบ

เจ้าของเคสจึงถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดเพราะเป็นผู้ประสานงานกับเพื่อนคนนั้น เจ้าของเคสเสียใจมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ในที่สุดเจ้าของเคสก็สามารถทำใจยอมรับได้

หลังจากตกงานได้ 2 วันก็เหมือนบุญบันดาลให้มาพบทางสว่างในชีวิตเพราะวันนั้นเจ้าของเคสได้รับการติดต่อจากศูนย์ปฏิบัติธรรมของวัดพระธรรมกายในเมืองเพิร์ธ ชักชวนให้ไปบวชธรรมทายาทนานาชาติที่เมืองไทย เจ้าของเคสดีใจมากที่ได้รับการติดต่อให้บวช เจ้าของเคสจึงรีบตอบตกลงในทันที ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเจ้าของเคสยังไม่รู้เลยว่าชีวิตพระจะเป็นอย่างไร

หลังจากที่เจ้าของเคสบวชได้ระยะหนึ่งแล้วได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่สวนสุขสันโดษ ยิ่งได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง ประสบการณ์ภายในของเจ้าของเคสก็ค่อยๆ ก้าวหน้าขึ้นเพราะเจ้าของเคสไม่ได้ห่วงอะไร ตั้งแต่เริ่มเห็นดวงแก้วผุดขึ้นทีละดวง ผุดเป็นสาย จนกระทั่งเห็นพระแก้วใสที่ใหญ่โตเท่าพระประธานในอุโบสถ ชัดใสสว่างมาก ทุกวันนี้เจ้าของเคสนั่งธรรมะวันละ 8 – 9 ชั่วโมง ใช้เวลาจำวัดเพียงวันละ 3 ชั่วโมง แต่กลับมีความสุขสดชื่นเบิกบานจนกลับพูดไม่ออก บอกไม่ถูกเลย แต่ก่อนนั้นเจ้าของเคสต้องนอนวันละ 8 ชั่วโมง แล้วจะมีความรู้สึกว่าสดชื่น แต่เดี๋ยวนี้ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมงสำหรับการพักผ่อนก็เพียงพอแล้ว แต่ละวันเจ้าของเคสตื่นขึ้นมาด้วยความภูมิใจในความเป็นพระของตน เจ้าของเคสได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งทุกคนจะเข้าถึงอย่างเขาบ้าง และเจ้าของเคสก็ปรารถนาที่จะเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปสู่ใจของชาวโลกให้สำเร็จโดยเร็ว

หลับตาฝันเป็นตุเป็นต๊ะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที แล้วนำมาเล่าเป็นนิยายปรัมปรา


1. บุพกรรมใดที่ทำให้เจ้าของเคสต้องทำงานกลางแดดเป็นเวลากว่า 20 ปี จนกระทั่งป่วยเป็นมะเร็งผิวหนังที่แผ่นหลังและลำคอ
เจ้าของเคสเป็นมะเร็งแผ่นหลังและลำคอ อีกทั้งต้องทำงานหนักกลางแดดถึง 20 ปีเพราะ กรรมในอดีตเจ้าของเคสได้เกิดเป็นทหาร ได้คุมเชลยศึกทำงานขุดคู ทำค่ายกลางแดดและข่มขู่เชลยด้วยคำหยาบ เพื่อเร่งให้เชลยทำงานให้เต็มที่ วจีกรรมนี้จึงทำให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนังบริเวณแผ่นหลังและลำคอ วจีกรรมเป็นหลัก ถ้าหยาบมากๆ ผิวก็จะหยาบและเป็นมะเร็งด้วย อันนี้เป็นวจีกรรม

2. เมื่ออายุ 2 ขวบ เจ้าของเคสถูกผ่าตัดเนื้องอกที่สมอง ต้องนอนสลบไป 1 เดือน โดยหมอให้อาหารผ่านทางสายยาง และยังต้องมาล้มป่วยถ่ายออกมาเป็นเลือด เป็นเพราะวิบากกรรมใด เจ้าของเคสรอดมาได้เพราะบุญอะไร และจะมีวิธีการแก้ไขได้อย่างไร
เมื่ออายุ 2 ขวบถูกผ่าตัดเนื้องอกที่สมอง ต้องนอนสลบไปหนึ่งเดือน โดยหมอต้องให้อาหารทางสายยางและต้องถ่ายออกมาเป็นเลือดเพราะกรรมในอดีตในชาติที่ได้เป็นทหารดังกล่าว ได้ฆ่าข้าศึกตายเป็นจำนวนมาก วิบากกรรมนี้ได้ตามมาส่งผล ซึ่งตอนนี้เป็นเศษกรรมที่เบาบางแล้วจ๊ะ เบาบางแล้วในชาตินี้ เจ้าของเคสรอดมาได้เพราะบุญที่ได้ทำกับหมู่คณะมา จะแก้วิบากกรรมนี้เจ้าของเคสต้องสั่งสมบุญทุกบุญ แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ที่เจ้าของเคสเคยเบียดเบียนเค้าไว้บ่อยๆ โดยเฉพาะนั่งสมาธินี่ อุทิศส่วนกุศลไปให้เรื่อยๆ เลย หนักจะเป็นเบา เบาก็จะหาย

3. เพราะเหตุใดเจ้าของเคสจึงชอบงานสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะอยากจะช่วยเหลือคนไทย และก็รู้สึกผูกพันกับเมืองไทยมากเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่เห็นเด็กไทยและสามเณรน้อย เจ้าของเคสจะรักและเอ็นดูมาก เจ้าของเคสเคยเป็นคนไทยมาก่อนหรือเปล่า
เหตุที่เจ้าของเคสชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เพราะเจ้าของเคสมีอุปนิสัยเป็นแบบพระโพธิสัตว์ที่ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ติดตัวมาหลายชาติแล้ว ที่ชอบสามเณรน้อยเพราะเคยบวชพระเณรมาหลายชาติ โดยเฉพาะชาติที่ผ่านมาก็ได้บวชพระมา กับมีอุปนิสัยเอ็นดูเด็กๆ และที่ชอบคนไทยเป็นพิเศษก็เป็นเพราะบุญที่เคยสร้างกับหมู่คณะมาในอดีตได้ดึงดูดให้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะอีก เพราะว่าชาตินี้หมู่คณะได้อยู่บนผืนแผ่นดินไทย

4. ทำไมเจ้าของเคสชอบเข้าไปนั่งเงียบๆ ที่วัดโพธิ์ ฟังเสียงสวดมนต์ อยากจะนั่งใกล้คณะสงฆ์ เป็นเพราะเหตุใด หรือเพราะเจ้าของเคสเคยบวชพระมาในอดีต
ในอดีตเจ้าของเคสก็เคยบวชเป็นพระมา จึงชอบเงียบๆ และก็ชอบฟังพระสวด กับอยากนั่งใกล้คณะสงฆ์

5. บุญอะไรที่ทำให้เจ้าของเคสได้มารู้จักกับศูนย์ปฏิบัติธรรมที่เมืองเพิร์ธ จนได้มีโอกาสมาบวชธรรมทายาทนานาชาติที่วัดพระธรรมกาย
บุญที่เคยทำกับหมู่คณะมาทำให้มาได้รู้จักกับศูนย์ปฏิบัติธรรมที่เมืองเพิร์ธ กับบุญที่เคยบวชพระมา จึงได้มีกุศลศรัทธามาบวชพระธรรมทายาทนานาชาติที่วัดพระธรรมกายอีก

6. หากเจ้าของเคสไม่ถูกไล่ออกจากงานในครั้งนี้ เจ้าของเคสจะได้มีโอกาสมาบวชหรือไม่
บุญที่เคยทำมากับหมู่คณะและที่เคยบวชพระจะดึงดูดให้มาบวชพระกับหมู่คณะจนได้ ไม่ว่าเจ้าของเคสจะถูกไล่ออกหรือไม่ไล่ออกก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่จะต้องบวช บุญก็จะบันดาลให้เจ้าของเคสต้องออกจากงานมาบวช จึงไม่เกี่ยวกับการไล่ออกหรือไม่ไล่ออก แต่ที่ไล่ออกนั้นเป็นทางลัด เจ้าของเคสก็มาเร็วหน่อยเท่านั้น

7. การที่เจ้าของเคสปฏิบัติธรรมได้ผลดีนั้น เป็นเพราะเคยสั่งสมมาในอดีตอย่างไร ธรรมะปฏิบัติของเจ้าของเคสตอนนี้อยู่ในระดับไหน ทำอย่างไรประสบการณ์ภายในจึงจะก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ
เจ้าของเคสเคยนั่งสมาธิข้ามชาติมา จึงทำให้ชาตินี้มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี ที่ผุดขึ้นมาทีละองค์ได้เพราะเคยผุดกันขึ้นมาก่อน ธรรมปฏิบัติของเจ้าของเคสอยู่ในขั้นเข้าถึงองค์พระซึ่งตอนนี้มั่นคงในระดับหนึ่ง ถือว่าดีมาก แต่ก็อย่าประมาท ดั้งนั้นข้อแนะนำสำหรับเจ้าของเคสก็คือ ให้เจ้าของเคสตัดสินใจบวชต่อไปเพื่อบำเพ็ญสมณธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป อย่าไปลาสิขา เพราะการบวชเป็นพระจะมีโอกาสในการทำความเพียรมากกว่าเพศคฤหัสถ์ จะได้บุญมากกว่าเพศคฤหัสถ์ จะทำให้ใจของเจ้าของเคสหยุดนิ่งได้ดีกว่าเพศคฤหัสถ์ เพราะว่าไม่มีเครื่องกังวลใจ ถ้าเป็นคฤหัสถ์ เป็นฆราวาสล่ะก็มันจะมีเครื่องกังวลเยอะเกี่ยวกับเรื่องการทำมาหากิน เกี่ยวกับเรื่องสังคมอะไรต่างๆ

8. ในขณะที่เจ้าของเคสกำลังนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ใต้โคนต้นไม้ที่สุขสันโดษ งูเห่าตัวใหญ่ยาวเกือบ 2 เมตรกำลังชูคอแผ่แม่เบี้ยมาทางเจ้าของเคส ทำท่าจะฉก แต่ขณะนั้นเจ้าของเคสทำใจนิ่งมา สักพักงูเห่าตัวนั้นก็เลื้อยจากไป เจ้าของเคสรอดจากงูเห่าฉกมาได้อย่างไร
บุญที่เจ้าของเคสได้ทำความเพียร ประกอบด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ใจของเจ้าของเคสจึงหยุดนิ่ง บริสุทธิ์ ประกอบด้วยความเมตตา จึงทำให้งูเห่าที่กำลังแผ่แม่เบี้ยใกล้ตัวและใกล้จะฉก หมดอารมณ์ทำร้ายแล้วก็จากไปอย่างชื่นชมในตัวเจ้าของเคส จากไปอย่างสงบ ให้เจ้าของเคสได้บำเพ็ญสมณธรรมอย่างสบายใจ มาเพื่อโค้งคาราวะเท่านั้นเอง

9. โยมพ่อเสียชีวิตเมื่ออายุ 74 ปีด้วยโรคเบาหวาน ท่านทนเจ็บปวดนานถึง 2 ปี ส่วนโยมแม่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเมื่ออายุ 82 ปี เป็นเพราะวิบากกรรมใด ท่านทั้งสองละโลกแล้วไปไหน ได้รับบุญที่เจ้าของเคสอุทิศไปให้หรือยัง และได้อนุโมทนาในการบวชของเจ้าของเคสหรือไม่ มีอะไรฝากบอกเจ้าของเคสบ้างไหม
โยมพ่อเป็นโรคเบาหวาน เจ็บป่วยอยู่ 2 ปีเพราะกรรมในอดีต ท่านได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ฆ่าสัตว์ทำอาหารบ่อยๆ วิบากกรรมนั้นมาส่งผล โยมพ่อตายแล้วก็ไปเป็นเทพบุตรสายคนธรรพ์อยู่ที่ป่าหิมพานต์ ท่านยังอนุโมทนาบุญบวชไม่เป็น แต่ก็ได้รับบุญบางส่วนได้บ้างแต่ไม่เต็มที่นัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้กายท่านสว่างขึ้นเมื่อบุญจรดกลางกายท่าน ซึ่งท่านก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรนักเพราะเป็นเทวดาชั้นล่างในป่าหิมพานต์ ไม่มีทิพยเนตรเหมือนเทวดาชั้นสูงที่จะมองลงมาที่โลกมนุษย์ได้ แต่ก็ชุ่มชื่นอยู่ในหัวใจ โยมแม่เสียชีวิตด้วยหัวใจล้มเหลวเพราะหมดอายุขัย ตายแล้วก็ไปอยู่ป่าหิมพานต์กับพ่อเพราะรักและผูกพันกัน เป็นเทพธิดาสายคนธรรพ์ ได้รับบุญและรับรู้เหมือนพ่อเช่นเดียวกัน อีกทั้งมองกลับมาที่โลกมนุษย์ไม่ได้ ไม่มีทิพยเนตรเหมือนเทวดาชั้นสูง ได้แต่เพียงรับรู้ว่าลูกส่งความดีมาให้รู้สึกว่าชุ่มใจ กายสว่างขึ้นเท่านั้นเอง

10. อดีตคู่ชีวิตของเจ้าของเคสเคยมีเชื้อสายบุญในพระพุทธศาสนาและเคยสร้างบุญกับหมู่คณะมาก่อนหรือไม่ เจ้าของเคสกับเธอเกี่ยวข้องกันมาอย่างไรในอดีต วิบากกรรมใดลูกๆ ที่เกิดกับสามีเก่าของเธอจึงมักทำให้เธอเสียใจและมักจะไม่กลับมาเยี่ยมเธอเลย ไม่ทราบว่าจะมีวิธีแก้ไขได้อย่างไร
อดีตคู่ชีวิตของเจ้าของเคสก็มีเชื้อสายบุญมากับหมู่คณะแต่ไม่ต่อเนื่อง คือ บางชาติก็เจอกัน บางชาติก็ไม่เจอกัน ซึ่งต่างจากเจ้าของเคสที่สร้างบุญกับหมู่คณะอย่างต่อเนื่องมาหลายชาติ เจ้าของเคสกับเธอก็เคยเป็นสามีภรรยากันในบางชาติ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกัลยาณมิตรให้ซึ่งกันและกัน กับปัจจุบันนี้ก็ได้เกื้อกูลกัน เธอได้ลัดคิวให้นั่นแหล่ะจนกระทั่งเจ้าของเคสได้ผ่าตัดอย่างรวดเร็ว แต่อดีตภรรยาขาดบุญเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบิดามารดามาในอดีต จึงทำให้ลูกที่เกิดจากสามีเก่าไม่ยอมกลับมาเยี่ยมเธอและก็ทำให้เธอเสียใจ จะแก้ไขก็ต้องให้อดีตภรรยานั่งสมาธิ ให้เห็นพระในตัวเหมือนเจ้าของเคส จึงจะทำให้เธอมีที่พึ่ง มีความสุขและก็ไม่เสียใจ เพราะว่าใจผูกพันกับพระแต่ว่าจะไม่ผูกพันกับการกระทำของลูก

11. เจ้าของเคสมีพระพี่เลี้ยงที่สนิทกันมาก เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ทั้งคู่เคยพบกันครั้งแรกที่ภูเก็ต จากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีก จนกระทั่งเจ้าของเคสได้มาบวชที่วัดพระธรรมกาย จึงได้มาพบกันอีกเป็นครั้งที่ 2 เป็นเพราะเจ้าของเคสและพระพี่เลี้ยงเคยเกื้อกูลกันมาอย่างไร ตัวท่านมีหน้าที่อะไรในหมู่คณะ ทำอย่างไรเจ้าของเคสและพระพี่เลี้ยงจึงจะได้เกิดมาสร้างบารมีตั้งแต่เยาว์วัย เจ้าของเคสเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะมาอย่างไร มีหน้าที่อะไร และในอดีตเจ้าของเคสมีผลการปฏิบัติธรรมอย่างไร มีผังการบวชหนาแน่นหรือไม่
เจ้าของเคสกับพระพี่เลี้ยงซึ่งเคยเจอกันในภูเก็ตเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แล้วก็สนิทกันมาก เพราะเคยเป็นเพื่อนสหธรรมิกกันมาในอดีต คุ้นเคยกัน และก็เป็นกำลังเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยพุทธันดรที่ผ่านมา พระพี่เลี้ยงและตัวเจ้าของเคสต่างก็เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชและได้ออกบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิตทั้งคู่ แต่ที่มาบวชช้าในชาตินี้ก็เพราะไม่ได้อธิษฐานจิตว่าให้มาเจอหมู่คณะและได้บวชตั้งแต่ยังเยาว์วัย ดังนั้นชาติต่อไปถ้าต้องการบวชตั้งแต่ยังเยาว์วัยก็ต้องอธิษฐานจิตกันให้ดี ให้ผังบวชตั้งแต่ยังเยาว์วัยหนาแน่น อดีตทั้งคู่เมื่อพุทธันดรที่ผ่านมาก็ปฏิบัติธรรมได้เข้าถึงพระธรรมกายและก็บวชจนตลอดชีวิต ผังบวชในอดีตหนาแน่น ดังนั้นอย่าไปพังผังที่ดีเสีย ควรทำผังบวชตลอดชีวิตที่ดีนี้ให้หนาแน่นในชาตินี้อีก ก็จะได้ดียิ่งๆ ขึ้นไป

12. เจ้าของเคสอยากติดตามไปอยู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ ความปรารถนานี้จะสำเร็จหรือไม่ และจะต้องทำอย่างไร
ชาตินี้เมื่อมาเจอกันอีกก็ตั้งใจบวชให้ได้ตลอดชีวิต ตั้งใจปฏิบัติธรรมให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายและขยายวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก อีกทั้งอธิษฐานจิตให้ได้บวชยังเยาว์วัยในชาติต่อไป แล้วตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย

#2 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 February 2006 - 08:38 PM

อยู่ไกลแค่ไหน ก็ใจเดียวกัน
อนุโมทนาบุญค่ะ

#3 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 18 February 2006 - 12:35 PM

ขอร่วมอนุโทนาดฃบุญตรั้งนี้ ด้วยน่ะค่ะ
ขอชื่นชมด้วยใจจริง
จาก คนสวยเมืองอุบล


#4 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 20 February 2006 - 12:17 PM

ผมและเพื่อนๆร่วมบุญชุดหนึ่ง ได้ไปถวายชุดจานดาวธรรมให้แก่วัดเชียงยืน อ. พาน จ. เชียงราย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านเจ้าอาวาส ท่านพระครูอาทรวรวัฒน์ เมื่อได้ทราบว่า ผมและเพื่อนๆจะสร้างทีมงานตั้งกองทุนเพื่อบริจาคจานดาวธรรมให้แก่วัด โรงเรียน และโรงพยาบาล โดยไม่จำกัดจำนวน และ ณ วันนี้มีสสถานที่คอยรับการบริจาคอยู่อีก 4 แห่งในต่างอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ผมจะรีบหาเวลาพาเจ้าหน้าที่ติดตั้งจากศูนย์บริการของวัดธรรมกายประจำจังหวัดเชียงใหม่ ออกไปตืดตั้งให้โดยเร็ว ท่านพระครูจึงขอร่วมกองทุนด้วย โดยได้ล้วงปัจจัยส่วนตัวของท่าน จากย่ามมอบให้ผม 300 บาท ผมดีใจมาก ที่ท่านเอง ก็อยากได้และก็อยากร่วมทำบุญให้วัดอื่นๆด้วย น่าปลื้มจริงๆสาธุ ........

หากเพื่อนกัลยาณมิตรท่านใดประสงค์จะร่วมสร้างบุญในการร่วมบริจาคจานดาวธรรมด้วย ได้โปรดนำเงินเข้าบัญชีชื่อผมดังนี้ครับ

ชื่อบัญชี สามารถ โพธิ์ชาชาญ
เลขบัญชี 501-2-82732-5 ประเภทออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาท่าแพ ถนนท่าแพ อ.เมือง จ. เชียงใหม่

โปรดแจ้งให้ผมทราบทางอีเมล์ [email protected] เพื่อผมจะได้ส่งบุญมาให้ รวมทั้งแจ้งการดำเนินการต่างๆให้ทราบ เป็นระยะๆ