ทำอย่างไรดีคะ มีคนบอก จะจองล้างจองผลาญทุกชาติไป
#1
โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 07:27 PM
เราก็บอกขออโหสิกรรม ในสิ่งที่เค้าทำกับเรามาทั้งหมด
โดยบอกกับเค้าต่อหน้า จากใจ พร้อมยกมือไหว้
แต่เค้ากลับบอก ตอบกลับมาว่า เค้าไม่อโหสิกรรมให้
และจะจองล้างจองผลาญ ไปทุกชาติ เราถึงกับเข่าอ่อนเลยค่ะ
ทุกข์ใจมาก กับสิ่งที่เค้าพูด พยายามนั่ง และแผ่ส่วนกุศลให้กับเค้าตลอด
แต่เหมือนคำพูด และหน้าตาที่เค้าแสดงยังคงวนเวียนอยู่ในสมอง ตลอดเลยค่ะ
ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
#2
โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 07:38 PM
..
ถ้าเป็นเปรม เปรมจะแผ่เมตตาให้เค้าทุกวันๆ ค่ะ เพราะความโมโหไงคะ เหมือนว่าเค้าไม่มีสติไงคะ เค้าถึงได้พูดอะไรอย่างนั้นออกมา วันหนึ่งเมื่อเค้าคิดได้ เค้าก็จะเข้ามาบอกกับเราอีกแบบเองค่ะ หรือไม่ ก็คงรู้สึกผิดในสิ่งที่เค้าพูดกับเราเองค่ะ อย่าคิดมากนะคะ เดี๋ยวจิตตกใจจะไม่ใสเอานะคะ
พอดีว่า เปรมมีเคสนี้เกิดกับตัวเองเหมือนกัน ไม่นานมานี้เอง เพราะความโมโหของเพื่อนคนหนึ่งที่มีต่อภรรยา เค้าก็โทรฯ มาคุยกับเราเหมือนกับว่าจะให้เราเห็นด้วยกับเค้า แต่เรากลับมองต่างมุม เค้าก็โมโห ก็แช่งเราว่า ให้เรื่องที่เค้าเจอนี้เกิดกับเราบ้าง ตอนแรกเปรมก็โมโหมากๆ ค่ะ ที่ว่า เอ๊ะทำไมเพื่อนมาแช่งเราแบบนี้ เราอุตส่าห์รับฟัง คอยช่วยไกล่เกลี่ย กลับมาแช่งเรา แต่ในที่สุดเปรมก็คิดได้ เพราะเค้ามาขอโทษเราด้วย และรู้สึกผิด เราก็อโหสิกรรมให้เค้าไป และไม่คิดว่า การแช่งแบบนี้จะทำให้เราเป็นแบบนั้นได้ เปรมก็ใช้ความปรารถนาดีต่อเค้า แผ่เมตตา ส่งบุญให้ทุกวันๆ และคิดแต่สิ่งดีดี และไม่คิดติดใจอะไรค่ะ แผ่เมตตาไปก็ภาวนาว่า อย่าให้จองเวรต่อกัน อย่าอาฆาตต่อกัน ให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่เราจะได้มีเวรมีกรรมต่อกัน ก็ทำบุญไป แผ่เมตตาให้เค้าไปแบบนี้แหละคะ อย่าลืมนะว่า ใครทำอะไรไว้ ผลกรรมเกิดแก่ผู้นั้นนะคะ
อย่าคิดมากนะคะ 072 อย่างเดียวค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 07:48 PM
และจำได้ว่าพลวงพ่อคุณครูไม่เล็กสอนว่า การผูกเวรกันเหมือนเล่นชักคะเย่อ
คนที่ปล่อยก่อนจะไม่หกล้มค่ะ
แล้วก็ให้สวดบทแผ่เมตตาโดยไม่มีประมาณ เพราะการแผ่เมตตามีอานิสงส์มากมาย
และบทสวดนี้ไพเราะมากค่ะ คุณศิษย์มีครูเคยนำมาฝากสมาชิกใน DMC ช่องนี้ช่องเดียวค่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 08:02 PM
เหอๆ คล้ายๆกับตัวผมเลย ใช้วิธีนี้ดูนะครับ ผมลองแล้ว ใช้ได้
แล้วลองคุยว่า แม้จะคบกันแบบแฟนไม่ได้แต่ไม่ได้แปลว่าจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้นี่
#5
โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 08:57 PM
อย่าลืมมาบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 5 แสนนะค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 09:13 PM
และให้เอาธรรมมะ บทนี้ไปใช้ครับ
อกโกเธน ชิเน กํ
อสาธํ สาธุนา ชิเน
ชิเน กทริยํ ทาเนน
สจฺเจนาลิกวาทินํฯ
(ขุ.ธ. ๒๕/๒๗/๔๔)
พึงชนะคนโกรธด้วย ความไม่โกรธ
พึงขนะคนไม่ดีด้วย ความดี
พึงชนะคนตระหนี่ด้วย การให้
พึงชนะคนพูดเหลาะแหละด้วย คำสัตย์.
#7
โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 09:39 PM
แต่ จขกท เชื่อไหมครับ ไม่เกินหนึ่งปี เค้าจะลืมนสิ่งที่เค้าเคยพูดมาทั้งหมด และไปเจอคนใหม่
ไว้ตอนนั้นค่อยคุยกันอีกซักรอบก็มิสายครับ เชื่อดิ ฟันธง :-)
#8
โพสต์เมื่อ 24 March 2010 - 10:32 PM
เราเห็นคนประสบอุบัติเหตุถูกรถชน แขน ขา ขาด เรารู้ว่าเขาเจ็บปวด แต่เราไม่รู้หรอกว่าความเจ็บปวดของเขานั้นมากแค่ไหน
เราได้รับทุกข์ในครั้งนี้ ก็เช่นเดียวกัน ไม่ใครรู้หรอกว่ามันเจ็บปวดมากน้อยเพียงใด
แต่ที่สำคัญที่สุดที่เราได้พบมาก็คือหลักธรรมอันยิ่งใหญ่ คือ จิต หรือใจ เราได้แสวงหาด้วยตัวของเราแบบเอาชีวิต เข้าแลก เราไม่ได้สนใจเรื่องของการศึกษาจากตำรา เราทุ่มเท ด้วยการปฏิบัติในที่สุุดกับความจริง ที่เรียกว่าหลักของใจ
เราต้องยอมรับความจริงบางอย่าง เมื่อต้องการมีความสุขกับคนที่เรารัก พวกเราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าต้องมีทุกข์ตามมา เพราะสุขกับทุกข์เป็นของคู่กัน ไม่ใครสามารถแยกสุข กับทุกข์ออกจากกันได้
คนเราส่วนมาก หลงในทุกสิ่งทุกอย่าง โกรธ รักชัง โลบ ทิฐิ มานะ มันมีอยู่ในตัวเราทุกคน ถ้าคนใดไม่มีศีลแล้วเขาย่อมทำได้ทุกอย่าง สิ่งพูดถึงนี้มันเป็นไฟ เช่นเราโกรธเขาเหมือนกับเอาไฟเผาตัวของเราเอง ถ้าเราต้องรู้ทันโดยมีสติ
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถทำให้ใครใคร เข้าใจ หรือบังคับเขา รักเราได้ ยอมทำตามที่เราต้องการได้ ต้องเข้าใจแม้ตัวของเราเอง ปวดถ่าย เรายังบังคับไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้ มันหิว เราก็ไม่สามารถบังคับร่างกายของเราไม่ให้หิวได้ ป่วยไข้ไม่สบาย ประสาอะไร จะไปบังคับคนอื่นให้เข้าใจเรา
ที่สำคัญมีคำสอนของหลวงปู่ดุลย์ เป็นข้อคิด "ทุกข์ต้องกำหนดรู้ เมื่อรู้แล้วให้ละเสีย ไปไว้ทำไม"
"บุคคลไม่ควรเศร้าโศกอาลัยอาวรณ์ถึงสิ่งนอกกายทั้งหลายที่มันผ่านพ้นไปแล้ว มันหมดไปแล้ว เพราะสิ่งเหล่านั้นมันได้ทำหน้าที่ของมันอย่างถูกต้องโดยสมบูรณ์ที่สุดแล้ว"
#9
โพสต์เมื่อ 25 March 2010 - 07:22 AM
#10
โพสต์เมื่อ 25 March 2010 - 11:52 AM
สำหรับวิธีการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ผมจะบอกสุดยอดเคล็ดวิชา ที่แก้ได้ทุกปัญหาให้นะครับ สุดยอดเคล็ดวิชานั้นง่ายๆ คือ ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ใส ครับ
หมั่นละบาป สร้างบุญเข้าไป จะแก้ได้ทุกปัญหา
ตกงาน ก็ละบาปสร้างบุญ
ทรัพย์ไม่พอใจ ก็ให้ละบาปสร้างบุญ
นอนไม่หลับ ก็ให้ละบาปสร้างบุญ
มีคนเกลียด ก็ให้ละบาปสร้างบุญ
มีภัยอันตราย ก็ให้ละบาปสร้างบุญ
ฯลฯ ก็ให้ละบาปสร้างบุญ
เมื่อบุญเราสั่งสมไว้เพียงพอ จะไม่มีใครทำอันตรายใดๆ เราได้ครับ
#11
โพสต์เมื่อ 25 March 2010 - 04:28 PM
โดยเฉพาะถ้าเขาหลับตาลาโลกก่อนเรา เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ให้ไปขออโหสิกรรมช่วงสวดศพทุกวัน จิตใจเขารับได้ทั้งหมด และจะย่อมอโหสิกรรมให้เรา ต้องทำใจ(ใสๆๆ)หากเขาไม่ยอมและขอจองเวร น่ากลัวนะแต่แก้ไขได้ ขอให้ชนะ
#12
โพสต์เมื่อ 26 March 2010 - 12:24 PM
ช่วงแรก เค้ายังมีอารมณ์โกรธอยู่มาก ให้เวลาผ่านไป เมื่อเค้าเจอคนใหม่ ๆ อาจจะลืมเรื่องนี้ไป อย่างคุณแสงตะวัน บอก
ทุกอย่างแก้ไขได้ด้วยเวลาค่ะ แต่เราอย่าไปวิตกจริตมาก หมั่นทำใจให้ใส และแผ่เมตตาให้เค้า และคู่เวร คุ่กรรมของเราเสมอ ๆ ค่ะ ลองอธิษฐานแบบนี้ดูนะคะ
ขออำนาจบารมีธรรมของพระรัตนตรัย
อำนาจบารมีธรรม ของหลวงปู่ หลวงพ่อ และคุณยาย
ช่วยประมวลบุญทุกบุญที่เราเคยทำมาตั้งแต่ปฐมชาติ จนปัจจุบัน
ให้มาอยู่ที่ศูนย์กลางกายของเรา
และด้วยบุญนี้ขอแบ่งบุญให้กับเทวดาที่รักษาตัวเรา
เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายเรา (ทั้งดี และไม่ดี)
ญาติทั้งหลาย คู่เวร คู่กรรมของเราทุกท่าน
เมื่อท่านทั้งหลายได้บุญแล้ว
ขออโหสิกรรม และขอให้เรามีแต่ความสุข ความเจริญ ฯลฯ
ลองทำเมื่อนึกได้ตลอดทั้งวัน
ตั้งแต่ทำมาแล้วรู่สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#13
โพสต์เมื่อ 27 March 2010 - 01:09 PM
หมั่นทำดี ทำใจใสใส สู้ สู้ ครับ...
....
แหม มีเหตุให้ต้องแยกกัน..
มองแบบนักเรียนอนุบาลฯนะครับ
เหตุ ก็เป็นกรรมเก่าของฝ่ายนั้น แต่เป็นกรรมใหม่ของเรา
ถ้าเค้ารู้สึกไม่ดี และจองเวร ก็จะเป็นกรรมใหม่ของเค้า
คือถ้าเจอกันในชาติหน้าก็จะคิดไม่ดีกับเรา
เราก็ได้แต่ต้องทำความเข้าใจว่า เอ้ ทำไมเป็นอย่างนี้...
...แต่คนที่จองเวร ใจก็ถูกเผาด้วยความโกรธ พยาบาท
ถ้าตายไป ก็ไปไม่ดีครับ ส่วนเราก็แผ่เมตตา และอย่าโกรธตอบ
รู้ว่าเคยทำเค้าไว้...คืนเค้าไป...
ไฟล์แนบ
#14
โพสต์เมื่อ 27 March 2010 - 08:17 PM
ทุกวันนี้พลูด่างเอง ก็พยายามอยู่ค่ะ และจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้หลุดพ้น จากบุคคล คนนั้น พลูด่างคิดว่า ชาตินี้ พลูด่างคงไม่มีวันเจอบุคคลคนนั้นอีกแล้ว ค่ะ ได้แต่ แผ่นเมตตาำไปให้ แต่ในใจพลูด่าง ก็ไม่อยากให้เค้ามีเวรกรรม ติดตัวไปเลยค่ะ ด้วยความสัตย์จริงทุกประการ พลูด่างเคยบอกกับเค้าเสมอว่า ถ้าจะต้องมาโกหกกันในบางเรื่อง ก้อย่าเลย เพราะจะเป็นบาปติดตัวเค้าไปอีก แต่ก็ไม่เป็นผล พลูด่างพยายามชักชวนให้ทำความดี ก็ดูเหมือนเค้าจะไม่ใส่ใจ อาจเป็นบุญเราไม่เท่ากัน ก็เป็นได้นะคะ ถึงได้ต้องมีอัน พลัดพรากจากกันไป โดยที่เค้ายังไม่มีโอกาสแม้กระทั่ง คิดถึงเรื่องบุญและบาปเลยค่ะ พลูด่างเอง จากใจจริงมิเคยคิดร้ายทำลายใครเลยค่ะ มีแต่ เค้าคนนั้น ที่ไม่เคยเห็นถึงความตั้งใจในการทำความดี เลยด้วยซ้ำ ก็ยังคงเป็นห่วงเค้าในเรื่องบุญและบาปอยู่เสมอ แต่ก็จนใจค่ะ ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งนะคะ ที่ช่วยให้กำลังใจ และข้อเสนอแนะ กับพลูด่าง อิ่มใจในบุญทุกครั้งที่เข้ามา อ่านข้อความของทุกท่านค่ะ
#15
โพสต์เมื่อ 27 March 2010 - 09:13 PM
#16
โพสต์เมื่อ 27 March 2010 - 11:13 PM
พลูด่างอยากบวชมากเลยค่ะ แต่ติดที่ โครงการนี้ ยาวไปนิดนะคะ พลูด่างลางานไม่ได้ เลย ค่้ะ แต่ก็ติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดค่ะ
คอยปลื้ม ไปกับอุบาสิการุ่น แสนกะเค้าตลอดเลย และรู้สึกเสียดาย มาก ๆ เลยนะคะ แต่อย่างไรซะ พลูด่างคิดว่า หลวงพ่อ จะต้องมีโครงการบวช
อุบาสิกา อีกหลายรอบแน่นอน พลูด่างจะต้องหาโอกาสบวชให้ได้ค่ะ
#17
โพสต์เมื่อ 28 March 2010 - 06:49 PM
เขาอาจพูดเพราะเสียใจมากก็ได้ค่ะ เมื่อเวลาผ่านไป ทุกอย่างคงดีขึ้นเอง
สาธุค่ะ
#18
โพสต์เมื่อ 30 March 2010 - 07:47 AM