ทำไมที่วัดพระธรรมกายไม่เห็นมีสุนัขเลยซักตัว
#1
โพสต์เมื่อ 27 May 2007 - 02:42 PM
ใครพอทราบช่วยตอบทีครับ ต้องขออภัยที่กระทู้อาจไม่สร้างสรรค์แต่มันก็อดสงสัยไม่ได้ครับ
#2
โพสต์เมื่อ 27 May 2007 - 02:46 PM
#3
โพสต์เมื่อ 27 May 2007 - 08:02 PM
#4
โพสต์เมื่อ 27 May 2007 - 08:59 PM
มีการบริหารจัดการที่ดีมากครับ... จะได้เป็นเขตบุญสถานในการประพฤติปฏิบัติธรรมได้อย่างสงบ
#5
โพสต์เมื่อ 27 May 2007 - 09:59 PM
- อุจาระไปทั่ว
#6
โพสต์เมื่อ 27 May 2007 - 10:39 PM
- สิ่งที่เคยเห็นในวัดเลยก็คือสุนัขจะเดินเข้าไปในสถานที่ ๆ ไม่เหมาะจะให้สุนัขเดินเช่น ห้องเก็บของ กุฏิพระ สาธุชนหรือพระ อาจจะไม่เห็น สุนัขก็จะอุจจาระใส่สิ่งของที่เราต้องใช้ซึ่งอาจจะเก็บในห้องเก็บของนะครับ บางทีถ้าเป็นของคนก็อาจจะต้องทนใช้ แต่ถ้าเป็นของพระท่านก็ไม่อยากจะให้พระท่านใช้ของแบบนี้นะครับ คราวนี้เราก็จะต้องรับบุญกันละครับ เหอ ๆ
- เสียงของสุนัขอาจจะรบกวนการปฏิบัติธรรมได้นะครับ อาจจะทำให้เราใจขุ่นได้นะคับ เราก็ต้องทำใจใส ๆ ไว้นะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 27 May 2007 - 11:09 PM
- เรื่องของเสียงรบกวน เพราะเราห้ามไม่ให้สุนักไม่เห่าไม่ได้ เวลานั่งสามธิใจกำลังนิ่งๆสุนักเห่า เราตกใจ สุนักได้บาป
- เรื่องของอุจจาระ เวลาเข้าไปที่วัดแล้วไปเหยียบอุจจาระเขา ใจเราก็จะหงุดหงิด ตกบุญ สนุกก็บาปอีก
- เวลามาวัดถ้าพาสนักมาด้วย เราก็จะห่วงกังวล เพราะว่าไหนจะห่วงเรื่องกิน เรื่องเหยียว เรื่องอุจจาระ ฯลฯ
เรามาเอาบุญ มาทำใจใสๆ อย่าให้มีห่วงมีกังวล มีสถานที่สะอาดตา ใจก็จะสะอาด เข้าถึงธรรมได้ง่าย
#8
โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 12:42 PM
#9
โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 01:01 PM
เพราะมีหลายที่หลายวัด ประชาชนบางส่วนเอาสุนัขที่ตนเองไม่ต้องการไปปล่อยที่วัด
ซึ่งการกระทำอย่างนี้ ถือเป็นการผลักความรับผิดชอบทั้งมวล ผลักภาระทั้งมวลไปให้ พระภิกษุสามเณร
อย่าได้เข้าใจว่าเอาสัตว์ไปปล่อยไว้ ปัญหามันจะจบแค่นั้น ยังมีปัญหาที่ตามมาอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น
ภาระการเลี้ยงดูในส่วนของอาหาร ภาระในการควบคุมประชากรสุนัขไม่ให้มันแพร่พันธุ์จนเกินไป (ขอให้ จนท.ทำหมันสุนัก) ภาระในการขอให้ จนท. ฉีดยากันสุนัขบ้า ฯลฯ
#10
โพสต์เมื่อ 29 May 2007 - 12:00 AM
เนื่องมาจากสาเหตุหลายประการคะ
คือเสียงดัง เวลามันหอน หรือกัดกัน
สถานที่สกปรก
ผู้ที่เข้าวัดก็จิตใจไม่ผ่องใส
ทำให้ไม่เหมาะสำหรับปฏิบัติธรรม
รวมไปถึงเป็นภาระให้พระภิกษุ สามเณร ต้องแบ่งเวลามาดูแล ให้อาหาร ห้ามเวลามันกัดกัน
ทำให้ไม่มีเวลาปฏิบัติธรรมและศึกษาพระไตรปิฏกได้อย่างเต็มที่เลยมีนโยบาย
ส่งออกนอกวัดคะ
ส่วนท่านใดที่ต้องการเอาไปปล่อยที่วัด ไม่ว่าที่วัดใดก็ตาม
กรุณาอย่านำไปปล่อยให้เป็นภาระท่านพระภิกษุ สามเณรเลยนะคะ
ท่านมาบวชเพื่อต้องการปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โปรดสรรพสัตว์ (เทศน์สั่งสอน)
อย่าให้ท่านต้องมาทำกิจที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์เลยนะคะ
#11
โพสต์เมื่อ 29 May 2007 - 05:50 AM
#12
โพสต์เมื่อ 29 May 2007 - 11:15 AM
สาธุ สาธุ สาธุ
#13
โพสต์เมื่อ 29 May 2007 - 02:44 PM
นี่ก็คือข้อดี อีกข้อหนึ่งนะค่ะ ที่วัดพระธรรมกายไม่มีหมา แมว เลย เพราะที่วัดเป็นที่ปฏิบัติธรรม
คนที่รักสัตว์ ก็เลี้ยงเองที่บ้าน นะเหมาะที่สุดแล้วค่ะ
#14
โพสต์เมื่อ 29 May 2007 - 02:55 PM
อีกเรื่อง ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทตฺตชีโว เคยกล่าวไว้คือ
วัดที่อยู่ในชุมชนเมือง โดยเฉพาะวัดที่มีบ้านพักอาศัยของชาวบ้านอยู่ติดรั้ววัด
ถ้าพระเปิดหน้าต่างกุฏิมา ก็เห็นคู่รัก หรือ สามีภรรยา หยอกล้อกัน
หรือ เปิดหน้าต่างกุฏิมา ก็เห็นชุดชั้นในสตรี บนราวตากผ้า
หากไม่สำรวมอินทรีย์ ในการเลือกดู เลือกฟัง เลือกชิมลิ้มรส เลือกสัมผัส เลือกความคิด
ก็อาจทำให้ฟุ้งซ่าน ไปใน กามฉันทะ ได้
ทำให้ประพฤติพรหมจรรย์ได้สะอาดบริสุทธิ์ ยาก
กรณีสุนัขก็มีความคล้ายกัน คือ
เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ถ้าพระกำลังเทศน์ หรือ ฉันภัตตาหาร
หากในวัดมีสุนัขมาผสมพันธุ์ ให้เห็น
แล้วผู้ประพฤติพรหมจรรย์ไม่สำรวมอินทรีย์
ในการเลือกดู เลือกฟัง เลือกชิมลิ้มรส เลือกสัมผัส เลือกความคิด
ก็อาจทำให้ฟุ้งซ่าน ไปใน กามฉันทะ ได้
ก็เป็นไปได้ว่า การที่วัดพระธรรมกาย ไม่เลี้ยงสุนัขในวัด
ก็เพื่อช่วย ลูกพระ ลูกสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ให้ประพฤติพรหมจรรย์ได้สะอาดบริสุทธิ์
ก็เป็นน่าจะอีกเหตุผลหนึ่ง เป็นวิสัยทัศน์ไกล ของครูบาอาจารย์ ครับ
#15
โพสต์เมื่อ 30 May 2007 - 09:41 PM
จะมีได้อย่างไร
ก็ท่านเจ้าอาวาส เล่นเขียน ป้าย ตัวโตๆๆ ว่า
"ห้ามนำสุนัขมาปล่อย มิฉะนั้นจะนำไปเลี้ยงจรเข้ !!! "
ฮ่าๆๆๆ สุดยอด เลย หลวงพ่อ
คือมันสะใจ จริงๆๆ แต่เรารู้แหละ ว่าท่านไม่ทำหรอก
แต่ก้ได้ผลนะ สำหรับคนมักง่าย
ที่พอเบื่อ ก็ทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่นึกถึงความรู้สึกของมันบ้างเลย
ว่าจะรู้สึก "อกหัก" ขนาดไหน
ข้อแนะนำ สำหรับผู้รักสัตว์ :
ถ้าไม่แน่ใจ ว่าสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ จนกว่าจะตายจากกัน
ก็อย่าไปซื้อมาเลี้ยงเลย
เพราะพอมันโต มันก็ไม่น่ารักแล้ว
(เหมือนคนเลยเนอะ น่ารักแค่ๆ ตอนเด็ก แหละ พอโตแล้ว "ดื้อชะมัด" )
"รักษา อารมณ์ดี + อารมณ์เดียว + อารมณ์สบาย ทั้งวัน "
#16
โพสต์เมื่อ 13 June 2007 - 09:18 PM