ภาพถ่ายพันจักรวาลของกล้องดาวเทียม Habble
#1
โพสต์เมื่อ 20 August 2007 - 04:32 PM
[/size]
ซึ่งโดยเนื้อหาแล้วก็ได้กล่าวถึง ความรู้ของพระผู้สร้างว่า ‘ท่านสามารถมองเห็นสภาวะของทารกในครรภ์มารดาว่ามีลักษณะเหมือนปลิง มากไปกว่านั้นท่านก็พูดเหมือนว่า ท่านรู้ว่าใต้ทะเลมีคลื่นกระแสน้ำไหลแรงสูงอยู่ ยิ่งไปกว่านี้ท่านบอกว่า ก่อนฝนจะตกเมฆจะรวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ ซึ่งความรู้เหล่านี้เป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์ยอมรับในปัจจุบัน
[/size]
เมื่อได้อ่านจบ ก็ได้พบว่า “โอ้สิ่งนี้มหัศจรรย์หนอ” ก็บอกเพื่อนต่างศาสนาไปอย่างนั้น โดยที่ตัวเองก็ไม่กล้าบอกเค้าไป ว่า “เพื่อนเอ๋ย พุทธศาสนาเรา เค้าบอกมากว่านี้ เย๊อะ!!!!”
เรื่อง ลักษณะทารก เหมือนปลิง เวลาคนแท้งลูก หมอตำแยก็พูดได้ เรื่อง คลื่นใต้น้ำ เรื่องอย่างนี้ ชาวประมงก็บอกถูก ส่วนเรื่องเมฆจับตัวเป็นก้อนนั่งมองดูยังไงๆวันหนึ่งก็มองเห็นจริงไหมครับ
คราวนี้มาดูเรื่องของพุทธศาสนาเราบ้าง ว่า เป็นอย่างไร???? ถ้าใครเรียนพระอภิธรรม ท่านจะรู้ว่า ในพระอภิธรรม ไม่ได้บอกเฉพาะว่า ทารกเหมือนตัวปลิงหรอกครับ บอกตั้งแต่ปฏิสนธิวิญญาณ การแตกตัวของเซล์ การแตกตัวเป็นห้าสาขา ตลอดจนบอกเวลา ว่า นานเท่าไหร่กว่าจะออกมาเป็นคน พูดง่ายๆว่าอธิบายวิวัฒนาการของมนุษย์เป็นฉากๆๆ อย่างน่าทึ่ง
มากไปกว่านั้น นอกจากเรื่องในตัวส่วนหยาบแล้ว ท่านไม่ได้บอกแค่เรื่องเมฆหรอกครับ ท่านบอกเรื่องจักรวาลอย่างที่เราท่านทั้งหลายได้รับทราบกัน ซึ่งเรื่องพวกนี้ วิทยาศาสตร์เพิ่งเดินตามก้นมาแบบติดๆ ประดุจดัง ความรู้พุทธศาสนาอยู่โลกธาตุหนึ่งแล้ว วิทยาศาสตร์ไปอยู่อีกโลกธาตุ ที่ห่างๆกันเป็นระยะทางที่นับไม่ได้ว่าไกลขนาดไหน (ติดๆมาก)
ไม่กี่ปีมานี้เองครับ กล้องดาวเทียมของฝรั่งเค้า ชื่อ ว่า The Hubble เปิดเผยเผยภาพถ่ายที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน โดยพาดหัวเรื่องว่า The Hubble Deep Field: The Most Important Image Ever Taken แปลคล้ายๆลักษณะว่า ภาพถ่ายที่สำคัญที่สุดที่เคยถ่ายมาของกล้อง Hubble (เค้าว่าอย่างนั้นนะครับ)
โดยเนื้อเรื่องแล้ว เค้าอธิบายว่าเมื่อก่อน เขาเข้าใจว่าโลกของเรา เป็นดาวดวงเดียวที่มีสัตว์มีชีวิตอยู่ ในจักรวาลนี้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ปี 1995 เหล่านักดาราศาสตร์ก็ต้องเปลี่ยนใจ เมื่อเจ้ากล้องติดดาวเทียม( Habble Space Telescope) ผู้น่ารักนี้ ได้ถ่ายภาพความละเอียดสูงไปเจอสถานที่แห่งหนึ่งในมุมเล็กๆของจักรวาล แล้วไปเจอแกแลกซี่ อยู่รวมกันหลายๆๆพันแกแลกซี่ ซึ่งจากหลักฐานโดยภาพถ่าย กล่าวว่า เป็นแกแลกซี่ที่สมบูรณ์แบบ คล้ายๆทางช้างเผือกเรา กระจายเหมือนดอกไม้หลากชนิดโปรยเต็มท้องฟ้าอะไรประมาณนั้นครับ และแต่ละแกแลกซี่ก็เต็มไปด้วยหมู่ดาวนับล้านดวง
เหล่านักดาราศาสตร์ทั้งหลายได้ตั้งข้อสมมุติฐานใหม่ทันที และทันที ว่า โอ้ ดูเหมือน เราคงไม่ได้อยู่คนเดียวในจักรวาลแล้วล่ะสินะ เพราะดูท่าทางแล้ว แกแลกซี่พวกนี้ ดูเหมือนว่าจะมีดาวคล้ายๆโลกเราอยู่ด้วย แต่ก็อย่างว่าครับ เมื่อวิวัฒนาการในโลกเรา ยังไม่สามารถเดินทางไปถึงสถานที่ที่อยู่ห่างไปกว่าหลายๆล้านปีแสงได้ เหล่า นักดาราศาสตร์ก็ได้แต่นั่งมองด้วยความหวังว่าวันหนึ่งเราจะไปให้ถึง เหมือนคุณตูบมองว่า เมื่อไหร่จะได้นั่งเครื่องบิน
หากจะเปรียบไปแล้ว จักรวาลในวิทยาศาสตร์ ก็คงเป็นแกแลซี่ในพุทธศาสนา และ โลกธาตุในพุทธศาสนาก็ประดุจจักรวาลของนักดาราศาสตร์นั่นล่ะครับ (ถ้าผมพูดผิดก็ชี้แนะด้วยครับ) ทั้งนี้ เรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใดในพุทธศาสนา เก่ากว่าสองพันกว่าปีมาแล้ว แต่ทำไมไม่ยอมเชื่อกันน้า ว่า วิทยาศาสตร์ทางใจในพุทธศาสนาก้าวหน้า กว่าที่คุณคิด
ที่กล่าวมาทั้งหมด ประเด็นก็คือ ว่า “เพื่อนรวมโลกเรานี่ ที่เลื่อมใสในเทวนิยม เมื่อไหร่นะเค้าจะรู้ ว่าเค้าไม่รู้ หรือ เมื่อไหร่น้าที่เค้าจะรู้ ว่าสิ่งที่เค้ารู้นั่นล่ะ คือ ความไม่รู้” ดูเหมือนว่า การตอบคำถามนี้น่าจะเป็นหน้าที่ของเรานะครับ… พูดแล้วเหนื่อยแทน แต่ไงก็ สู้ต่อไปนะเกียร์บัน.......................
เช่นเดิมครับ เอาวีดีโอสั้นๆ ดูได้ที่นี่ครับ
http://youtube.com/w...p...ted&search=
http://youtube.com/w...p...ted&search=
[size="3"]
ก็เป็นการนำเสนอความรู้ใหม่ๆน่ะครับ ผมเองก็ได้แต่ดู และฟังเค้าว่ามาส่วนเรื่องภาพถ่ายจะจริงๆไม่จริง ท่านผู้อ่านก็ดูในไฟท์คลิ๊ปที่ส่งมาให้ แล้วพิจารณาเองน่ะครับ แต่ยังไงเสีย ก็ขอบคุณที่เข้ามาแชร์ความรู้นะครับ
[size="3"]
#2
โพสต์เมื่อ 20 August 2007 - 06:29 PM
#3
โพสต์เมื่อ 20 August 2007 - 11:40 PM
เป็นข้อความที่อ่านแล้วน่าสนใจมากคะ รวมถึงคลิ๊ปที่แนบมาให้ดูด้วยนะคะ
การที่จะเผยแพร่คำสอนและการมีอยู่ของพุทธองค์ให้ต่างศาสนาได้รู้ ลืมมองกันไปหรือเปล่าว่าที่เรากำลังปฎิบัติและขยายธรรมกายไปทั่วโลกอยู่ตอนนี้ ก็เป็นคำตอบของคำถามไม่ใช่กันหรอกหรือ!? [ ]
#4
โพสต์เมื่อ 21 August 2007 - 08:25 AM
ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคือ...อย่ารัก...
#5
โพสต์เมื่อ 21 August 2007 - 06:59 PM
เราจะให้เขาอ่านเรื่องของพระพุทธศาสนาได้อย่างไรน้า
ว่าสิ่งเหล่านี้เรารู้มานานแล้ว
#6
โพสต์เมื่อ 22 August 2007 - 10:25 AM
_\____ ถุ ถุ ถูกต้องนะคร้าบ แต่ว่าทำไมสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราค้นพบจึงไม่เป็นที่สนใจของคนอื่นบ้างล่ะ
คำตอบคือปัจจัยต่างๆเล่านี้ครับ
1. ความแตกต่างทางความเชื่อทางศาสนา
2. รูปแบบภาษาที่ยากต่อการเข้าใจ ซึ่งส่วนใหญ่ในพระไตรปิฎกนั้นเป็นลักษณะภาษาที่ใช้กันในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่
3. ความถือตนในชาติที่เจริญทางวัฒนะธรรม ทำให้ไม่เปิดใจยอมรับสิ่งที่พระองค์ค้นพบ
นี่เป็นปัจจัยหลักๆที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายมองข้ามและไม่สนใจในสิ่งที่พระองค์ค้นพบไงครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#7
โพสต์เมื่อ 22 August 2007 - 09:53 PM
คำตอบของคำถามไม่ยากเลยคะ ณ ตอนนี้ ถ้าเราเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนตะวันที่เป็นดวงเดียว ช่วยกันเผยแพร่และแนะนำการปฎิบัติให้เข้าถึงธรรมกายให้ต่างชาติต่างศาสนาทั่วโลกได้รับรู้ คงไม่นานเกินรอถึงจะเป็นต่างชาติต่างศาสนาก้อจะเข้าใจและรับรู้ได้เช่นกัน สู้ต่อไปนะคะลูกคุณพ่อหลานคุณยายอาจารย์ทุกๆคน จะขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนและให้ตัวเองด้วยคะ
(ท้อบ้างเป็นบางเวลาแต่ก็จะไม่หยุดเดินไปสู่เป้าหมายเดียวกันคะ )
#8
โพสต์เมื่อ 23 August 2007 - 03:37 PM
#9
โพสต์เมื่อ 03 September 2007 - 01:30 PM
#10
โพสต์เมื่อ 03 September 2007 - 01:54 PM
#11
โพสต์เมื่อ 06 September 2007 - 09:07 AM
#12
โพสต์เมื่อ 10 September 2007 - 08:29 AM
#13
โพสต์เมื่อ 26 September 2007 - 03:12 PM
http://youtube.com/w...p...ted&search=
http://youtube.com/w...p...ted&search=
เจ๋งดีครับ ลุยเลย
#14
โพสต์เมื่อ 03 October 2007 - 02:26 PM
#15
โพสต์เมื่อ 04 October 2007 - 02:44 PM
#16
โพสต์เมื่อ 04 October 2007 - 09:13 PM
โมทนาสาธุด้วยนะคะ
(ไฟล์วิดีโอเยี่ยมมากเลยค่ะ)
#17
โพสต์เมื่อ 11 October 2007 - 06:45 PM
#18
โพสต์เมื่อ 12 October 2007 - 07:29 PM
ภูมิใจมากๆที่ได้เกิดในบุญเขตของพระพุทธศาสนา
และขอเป็นเช่นนี้ทุกภพทุกชาติจนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพาน
สาธุ
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#19
โพสต์เมื่อ 15 October 2007 - 05:00 PM
#20
โพสต์เมื่อ 27 October 2007 - 12:24 PM