คนที่ทำบุญอย่างต่อเนื่องจึงได้มาเกิดใกล้พระเดชพระคุณหลวงพ่อ คนที่กำลังบุญยังไม่ต่อเนื่องกว่าจะมาพบหลวงพ่อได้ ชีวิตก็เกือบจะหมดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นต้องทำบุญอย่างต่อเนื่อง แม้มีทรัพย์น้อย แต่ต้องทำถี่ๆ ไม่ใช่ทำทีๆ และต้องทำอย่างเต็มที่เต็มกำลัง
เวลามีบุญเกิดขึ้นต้องทำทันที ใจเป็นธาตุ สำเร็จ สำเร็จได้ด้วยใจ พวกเราจะกลัว คิดเอง เออเอง ความคิดเราไม่ใช่ของเรา เราแค่หุ่นเชิดนะ แม้แต่ชื่อของเราก็สมมุติกันขึ้น
มนุษย์เป็นหุ่นเชิดให้ฝ่ายบุญ ฝ่ายบาป ผ่ายกลางๆ เขาเชิด ในตัวเรามีธรรมอยู่สามฝ่าย ตลอดจนสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งหลาย ล้วนมีธรรมสามฝ่าย ยกเว้นที่เดียวเท่านั้นคือ ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดซึ่งเป็นที่เขาบังคับไม่ได้ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงผู้มีอานุภาพ เวลาเจอปัญหาอะไรหลวงพ่อท่านสอนให้เรา อย่านึกถึงสิ่งอื่น ให้นึกถึงศูนย์กลางกายเท่านั้น
หลวงพี่ขอยืนยันว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณยาย ท่านอยู่กับเราตลอดเวลา ขอให้เราระลึกถึงท่าน
พวกเราเกิดยาก ตายง่าย เราโชคดีมากรู้ไหม เพราะเราได้เจอหลวงพ่อ
ฝ่ายบุญคอยสอดละเอียดต้องให้ทาน เพราะจะทำให้ได้ทรัพย์มา เพื่อเลี้ยงกายมนุษย์
กายมนุษย์ ค่อยๆเปลี่ยนไป การโกรธ ทำให้หน้าตาเราไม่สวยงาม ตาโต ผิวไม่สวย ตายแล้วไปเกิดเป็นยักษ์ ถูกเขาปรับคดี ไปเป็นยักษ์ เป็นต้น
เขาเอาความมืด มาปกคลุมใจที่สว่าง ที่เรียกว่า มืดแปดด้าน หุ้มเสียจนมองไม่เห็นทางออก การดำเนินชีวิตจึงผิดพลาด จึงต้องนั่งสมาธิ เพื่อขจัดความโง่
เขาปิด เขาบังเราหมด อภิญญา หายเกลี้ยงเลย เมื่อต้องทำมาหากิน ได้เงินมา เอาเงินไปเปิดบาร์ เปิดบ่อน เอาบุญตัวเราเองไปทำบาปแท้ๆเพราะไม่รู้ว่าเป็นบาป นั่งสมาธิ จะได้หายโง่ ใช้ทรัพย์ให้เป็นประโยชน์ ต้องให้เท่านั้น จะได้หายจน
พวกเราโชคดี จะหาที่ไหนอีกได้ หลวงพ่อของเรา สอนให้เราทำทั้งหมด ทาน ศีล ภาวนา เพื่อให้ได้บุญมากที่สุด
บุญเกิดจากใจที่ใส ไม่ได้เกิดที่ปัจจัยเยอะ แต่ถ้าใจใสด้วยปัจจัยเยอะด้วยบุญยิ่งทับทวีมากขึ้นไปอีก
กิเลสทำให้มนุษย์ แตกแยกกัน เอากิเลส เอาความเชื่อผิดๆมาใส่ ต่างกันทั้ง วัฒนธรรม เชื้อชาติ ภาษา ทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง เลยทำงานร่วมกันไม่ได้
หวงคือไล่ ให้คือเรียก ใครให้แล้วต้องได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะเร็วหรือช้า พระนิพพานท่านไม่ทิ้งเราหรอก มีแต่ว่าเรา กล้าให้หรือเปล่า
การให้ต้องเอาบุญบริสุทธิ์ การให้เอาคุณ ไม่บริสุทธิ์ แม้ทำไปมากบุญก็หกหล่นหมดเลย เสียดาย
มาวัด ต้องไม่ติดอะไร ไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่มาคอยเอาใจเราแต่เราต้องดูแลใจของเราให้ใสๆๆจะได้บุญเยอะๆๆ
หลวงพี่สอนน้องๆเสมอว่า มาวัด อย่าติดอะไร เอาแต่บุญอย่างเดียว พอได้บุญบริสุทธิ์ จะทำอะไรก็สำเร็จหมดเลย ถ้าตั้งเป้าหมายผิด เดี๋ยวได้น้อยใจออกจากหมู่คณะไป แล้วจะลำบาก
ต้องเข้าใจ เพราะงานของหลวงพ่อ โตเร็ว จนทีมงานทำงานได้ไม่ทัน และงานของเราเป็นงานที่ใหญ่ ต้องทำงานให้สำเร็จ หลวงพ่อจะได้ทำวิชชาได้
ถามตัวเราสิว่า มาวัดจะมาเอาอะไร ????
การมาวัด คือมาวัดใจ ว่ากิเลส มัน หนาขึ้น หรือ บางลง มาวัดใจ ว่ามาสะสมกิเลส หรือ สะสมบุญ มาวัดแล้วกิเลสเพิ่มข้น มันผิดหลักวิชชา
การตัดรอนบุญบารมี เขารู้ว่าคนนี่ใจใสเวลาทำบุญได้บุญเยอะ ทีนี้เขามาสิงอีกคนเลย มาให้พูด ให้เราหงุดหงิดทีนี้บุญหกหมดเลย
หลวงพี่ถามหน่อย โยมจะมาเอาบุญ หรือ มาเอากิเลส ????
มีแต่ทำตัวเองทั้งนั้นเลย ดีชั่วรู้หมด แต่อดไม่ได้ ต้องฝึกสติให้รู้ทันใจของเรา เวลาพลาด บางทีอารมณ์ชั่ววูบ เพราะสติตามใจไม่ทันเลย พอสติอยู่กับตัว ปัญญาก็เกิด ดังนั้นต้องนั่งสมาธิ
เรามาเจอหลวงพ่อได้ เพราะท่านไปตามเรามาทั้งนั้น มาเองไม่ได้หรอก เขาปิดเขาบังหมด หลวงพ่อต้องเสียบุญไปมากเลยนะ เหมือนท่านไปประกันตัวเอาพวกเราออกมา เสียบุญมากมายโดยไม่เสียดายบุญของท่านเลย
ทำไมต้องรอหลวงพ่อเชียร์ ทำไมไม่ทำหน้าที่ ให้ถูกหน้าที่ของเรา ถ้าไม่ทำหน้าที่ ของเราอย่างเต็มที่ เรียกว่าบกพร่องหน้าที่ จะทำเต็มที เต็มที่ ตามอารมณ์ เต็มกำลัง หรือ สุดกำลัง ถ้าเราทำ หลวงพ่อท่านรู้นะ ท่านให้หมดแหละ ต้นสมบัติอยู่ที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ หรือพระเดชพระคุณ หลวงพ่อ ถ้าคนไหนทุ่ม ท่านก็ทุ่มให้ นี่ยุติธรรมนะ
คนที่ให้ได้มาก แสดงว่าใจเขาใสมาก คนที่หวงไม่ให้ ความตระหนี่มันเกาะมากๆ
บริหารจัดการทรัพย์สินของเราให้ลงตัว แล้วทุ่มให้เต็มที่
คนใจใส ทุ่มเต็มที่ แต่ทรัพย์ยังไม่มา ยังมาไม่ทัน ตรงนี้ไม่ใช่บุญไม่ช่วยนะ เราต้องรู้ว่า
1. เราทำถูกหลักวิชชาไหม
2. ทำเต็มที่ไหม
3. ชาติในอดีตทำไว้แค่ไหน บางคนทำมาในชาติอดีตมาก เหมือนน้ำเกือบเต็มตุ่ม เติมอีกนิด ก็ล้นแล้ว บางคน ก็ทำมาน้อยนี่ เหมือนน้ำก้นตุ่ม ก็ต้องสู้
4. และต้องอธิษฐานจิตด้วย
หลวงพี่อธิษฐานจิตว่า บุญใด ที่เลิศ ที่ประเสริฐ ขอให้ได้ยิน ได้ฟัง ได้ทำ และ ทำได้สำเร็จเป็นอัศจรรย์
หลวงพี่จึงได้มีโอกาสสร้างบุญพิเศษมาโดยตลอด โอกาสที่เกิดขึ้นกับหลวงพี่ ไม่เคยเลยที่จะปล่อยผ่าน
และ นิสัยหลวงพี่ ได้รับมอบหมายงานใดจากหมู่คณะ ไม่เสร็จ ไม่เลิก ไม่กลัวตาย ไม่ทิ้งงาน ยอมตายในหน้าที่
หลวงพ่อพูดกับหลวงพี่ว่า ท่าน(หลวงพี่)จะตายหลายครั้งแล้ว แต่ ท่าน ยอมตายเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ท่าน จะไม่ตาย
หลวงพี่บวชเพื่อจะศึกษาวิชชาธรรมกาย คุณยายบอกว่า การศึกษาวิชชาธรรมกาย ต้องมีบารมีมาก
หลวงพี่ศึกษาชีวิตของพระเดชพระคุณ หลวงปู่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณยาย อาจารย์ ทำให้รู้ว่า ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
เกิดยาก ตายง่าย ทำอะไรต้องรีบทำ
หลวงพ่อท่านสันโดษมากๆ ในความเป็นอยู่ของท่าน แต่ เรื่องบุญท่านไม่เคยสันโดษเลย ท่านเอาชีวิตเป็นเดิมพันมาตลอด
ทำไมคุณยาย ถึงนั่งธรรมขาดรู้ได้ เพราะ คุณยายฝึกหยาบมาเฉียบ ละเอียดเลยฉิว
ฝึกหยาบคือ ฝึกคุณธรรม ทั้ง วินัย เคารพ อดทน โดยท่านฝึกแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
เป้าหมายบุญเป็นหลัก ความกระทบกระทั่งไม่มองเลย
ใครจะกระทบกระทั่งอย่างไร เราก็อดทน ดวงขันติก็สว่างขึ้น และ กลั่นตัวไปเรื่อยๆ กลายเป็นขันติบารมี ต้องอดทนไม่ก่อเวร เดี๋ยวมารเขาจะปรับคดี ให้ต้องวนเวียนต่อไป
ดังนั้นมาวัดต้องฝึกฝนตนเองด้วย เพราะคุณธรรมนี่แหละ จะเป็นเกราะป้องกันชีวิตในการสร้างบารมีของเรา
พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสอนให้เราทำอะไรง่ายๆ ทำสิ่งที่ยากออกมาในเชิงปฏิบัติที่ง่ายๆ
ตอนนี้เหลือ อาคาร 100 ปีคุณยายนี้เท่านั้น เพราะ พื้นที่สองพันไร่นี้เต็มหมดแล้ว หลังจากโครงการนี้ ไม่ว่าจะโครงการอะไร ที่เหลือ ทีนี้จะแย่งกันทำแล้ว ตลาดใกล้จะวายแล้ว ระดมทุนประเดี๋ยวเดียว มีสตางค์แต่มาที่หลังก็ไม่ทันแล้ว
อาคารนี้เป็นหัวใจในการเผยแผ่วิชชาธรรมกาย สร้างถึง15 ชั้นUN ที่แท้จริงจะเกิดขึ้น เป็นอาคารที่แก้ปัญหาที่แท้จริงของโลก คือแก้ปัญหาทางใจของคนทั้งโลก
อาคารนี้เป็นอาคารสำคัญสุดท้ายแล้ว ต่อไปที่เหลือ หลวงพ่อท่านไปทำวิชชา พวกเราก็ทำได้
เวลาหลวงพี่บอกบุญ คิดแต่ว่าสำเร็จเท่านั้น แม้ว่าเขาไม่ทำ เราก็ได้บุญแล้ว เวลาไปบอกบุญ มีแค่คนสามฝ่ายนี้เท่านั้น กุศล อกุศล และ กลางๆ
เราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง ต้องมี Unity ทำความปรารถนาของ หลวงพ่อ และ คุณยายให้สำเร็จ
และเราจะได้รู้สึกปลื้มปีติ องอาจ อาจหาญ ร่าเริง ทั้งในมนุษย์โลก และ เทวโลก
ในโอกาสนี้ ขอกราบขอบพระคุณ พระอาจารย์ที่แสดงธรรมเป็นอย่างสูง ที่ท่านได้เมตตากลั่นเอาประสบการณ์การสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันของท่านออกมาเป็นธรรมที่มีคุณค่า เป็นกำลังใจในการทำหน้าที่ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร เพื่อภาระกิจ ทุ่มสุดฤทธ์ ปิดกฐินยาย สถาปนาอาคารคุณยาย 100 ปี เพื่อถวายเวลาแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ
และพระอาจารย์ท่านยังได้เมตตา ตรวจแก้บันทึกธรรมฉบับนี้ให้สมบูรณ์ ทำให้ผู้บันทึกรู้สึกประทับใจมากๆ ในความเป็นต้นแบบที่ยอดเยี่ยมของท่าน ในการสร้างบารมีแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เป็นขุนพลกล้าของตะวันธรรม
จึงขอกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ เป็นอย่างสูง และ กราบอนุโมทนาบุญครับ
แผ่นดิน (จะพยายาม) ไม่หวั่นไหว ต่อ ของหอม หรือ ของเหม็น
16 กันยายน 2552
โปรดติดตามตอนต่อไป เร็วๆนี้ครับ