ธรรมชาติ
พระธรรมเทศนาโดย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
เข้าพรรษา ปีพุทธศักราช 2546
พระธรรมเทศนาโดย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
เข้าพรรษา ปีพุทธศักราช 2546
วันนี้วันที่ 11 ของพรรษาแห่งการบรรลุธรรม พระเห็นพระ เณรเห็นพระ โยมเห็นพระ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเห็นพระในตัวได้ ถ้าให้โอกาสกับตัวเอง ฝึกใจให้หยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ให้โอกาสกับตนเองทุกวัน เราก็จะเข้าถึงได้อย่างแน่นอน เพราะว่าพระท่านมีอยู่แล้วในตัว ศูนย์กลางกายของเราก็มี ใจเราเป็นธาตุสำเร็จ วิธีการก็คือ หยุดกับนิ่ง
![วันนี้วันที่ 11 ของการเข้าพรรษา 560802-buddist-lent-1.jpg](https://www.dmc.tv/images/scoop_images/meditation-101-book/560802-buddist-lent-1.jpg)
วันนี้วันที่ 11 ของการเข้าพรรษา
ใครหยุดใจได้ตอนไหน ก็เข้าถึงตอนนั้น เป็นอกาลิโก ไม่จำกัดกาลเวลา เอาจริงกันทุกวันเลย เห็นวันไหนมันก็ดีวันนั้น และก็มีสิทธิ์เห็นได้ทั้งวันและก็ทุกวันตลอดเวลาเลย
ใครที่ท้อใจอยู่ก็ต้องเลิกท้อ วันนี้เรายังมืดอยู่แต่พรุ่งนี้ไม่แน่ ขึ้นอยู่กับว่าเราขยันหรือขี้เกียจ ถ้าขยันและทำถูกหลักวิชชา ถูกวิธีก็ต้องเห็นกันอย่างแน่นอน เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่ในตัวของเรา ไม่ได้อยู่นอกตัวเลย องค์พระในตัว พระรัตนตรัยในตัว แม้แต่มรรคผลนิพพานก็อยู่ในตัวทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นต้องน้อมใจเข้ามาไว้ในตัวจึงจะเข้าถึงสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวของเราได้ อย่าส่งใจไปข้างนอก ส่งไปข้างนอกมันก็ไม่เจอ เพราะของที่เราอยากเจอมันอยู่ข้างในที่เดียว
![วันนี้วันที่ 11 ของการเข้าพรรษา 560802-buddist-lent-1.jpg](https://www.dmc.tv/images/scoop_images/meditation-101-book/560802-buddist-lent-1.jpg)
วันนี้วันที่ 11 ของการเข้าพรรษา
ใครหยุดใจได้ตอนไหน ก็เข้าถึงตอนนั้น เป็นอกาลิโก ไม่จำกัดกาลเวลา เอาจริงกันทุกวันเลย เห็นวันไหนมันก็ดีวันนั้น และก็มีสิทธิ์เห็นได้ทั้งวันและก็ทุกวันตลอดเวลาเลย
ใครที่ท้อใจอยู่ก็ต้องเลิกท้อ วันนี้เรายังมืดอยู่แต่พรุ่งนี้ไม่แน่ ขึ้นอยู่กับว่าเราขยันหรือขี้เกียจ ถ้าขยันและทำถูกหลักวิชชา ถูกวิธีก็ต้องเห็นกันอย่างแน่นอน เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่ในตัวของเรา ไม่ได้อยู่นอกตัวเลย องค์พระในตัว พระรัตนตรัยในตัว แม้แต่มรรคผลนิพพานก็อยู่ในตัวทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นต้องน้อมใจเข้ามาไว้ในตัวจึงจะเข้าถึงสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวของเราได้ อย่าส่งใจไปข้างนอก ส่งไปข้างนอกมันก็ไม่เจอ เพราะของที่เราอยากเจอมันอยู่ข้างในที่เดียว
๏๏ การเกิดเป็นมนุษย์ยาก
เป้าหมายของการมาเกิดเป็นมนุษย์ในแต่ละชาติคือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง และสร้างบารมี ถ้าเราเข้าใจตรงนี้ถูก เราจะดำเนินชีวิตได้ถูกต้องและมีความสุข สนุกกับการดำเนินชีวิตที่แสวงหาพระนิพพาน สั่งสมบุญกุศล เพราะทำแล้วมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้เราไม่ขี้เกียจ เพราะเรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้จำกัด
![การเกิดเป็นมนุษย์ยาก 560802-buddist-lent-3.jpg](https://www.dmc.tv/images/scoop_images/meditation-101-book/560802-buddist-lent-3.jpg)
การเกิดเป็นมนุษย์นั้นยาก
กว่าจะมาเกิดเป็นมนุษย์ได้นั้นยากมาก ๆ เราจะมองว่า ก็เห็นมนุษย์เกิดในโรงพยาบาลหรือที่ต่าง ๆ ตั้งเยอะแยะ ก็เห็นเขาเกิดกันง่าย ๆ จนกระทั่งปริมาณของมนุษย์มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เราจะมองเพียงแค่นั้นไม่ได้ ความจริงแล้ว แต่ละชีวิตรวมทั้งตัวเราด้วยกว่าจะมาเกิดเป็นมนุษย์ได้นั้นยากมาก ไม่ใช่แค่ว่าพ่อแม่ประกอบธาตุธรรมส่วนหยาบถูกส่วนแล้วก็เกิดขึ้นมาก็ไม่ใช่ จะต้องมีกายละเอียดของผู้ที่จะมาเกิดด้วย
กายละเอียดนั่นแหละ กว่าจะมาเกิดได้ยากมาก ๆ ไม่ว่าจะมาจากสุคติหรือทุคติก็ตาม ถ้ามาจากในอบาย ต้องผ่านขั้นตอนเยอะแยะ ตั้งแต่เป็นสัตว์นรก เป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน แล้วจึงมาเป็นมนุษย์ แล้วแต่ละภูมิก็ยาวนานมาก ๆ 6,000 ล้านล้านปีอย่างนี้ หรือเป็นกัป เป็นมหากัป ซึ่งในอบายจะนานกว่าในสุคติภพ เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดมาแล้วต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ต่อการสร้างบารมี อย่าเอาสังขารไปถล่มทลาย หรือไปทำในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ นี่ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องตอกย้ำซ้ำเดิมกันอยู่เรื่อย ๆ
เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้วต้องตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม ไม่มีใครหนีพ้นเลยแม้แต่เพียงคนเดียว เมื่อยังอยู่ในภพสามนี้ล้วนแต่ตกอยู่ในกฎแห่งกรรมทั้งสิ้น
มันก็น่าแปลกนะ ทำไมกายมนุษย์ถึงได้เป็นที่สนอกสนใจของผู้ที่ออกกฎแห่งกรรมนัก?
ทั้งนี้เป็นเพราะเวลากายมนุษย์ทำ ใจหยุดนิ่งได้จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผู้รู้ภายใน เมื่อนั้นจะเร็วแรงมากในการที่จะเรียนรู้แล้วก็ไปสู่จุดหมายปลายทาง เนื่องจากกายมนุษย์มีเปลือก แต่กายอื่นไม่มีเปลือก เพราะฉะนั้นกายมนุษย์จึงถูกทำให้เสื่อมคุณภาพโดยปกติ ทั้งความคิด คำพูด และการกระทำนอกจากนี้ยังโดนถลุงเข้าไปอีกในหลาย ๆ เรื่อง เช่น ทำให้มีเวลาอยู่ในโลกมนุษย์ไม่นาน แป๊บเดียวก็หมดเวลาไปแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ซับซ้อน
๏๏ การต่อสู้ของบุญบาป
เราเคยเรียนรู้เรื่องบุญกับบาปว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริง ไม่ใช่มนุษย์กับมนุษย์บุญเป็นเครื่องมือของพระ บาปเป็นเครื่องมือของพญามารที่กำลังปะทะกันอยู่ ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ บุญบาปเป็นพลังงานหรือเป็นกระแสชนิดหนึ่ง แต่ถ้าพูดให้ละเอียดลงไปอีกก็คือ เป็นธาตุสำเร็จที่มีธรรมรองรับอยู่เป็นธาตุสำเร็จที่ทำให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เช่น ความโลภ ก็มีบาปธาตุที่เป็นธาตุสำเร็จของความโลภได้ส่งพลังงาน และกระแสนี้เข้ามาบังคับในเห็นจำคิดรู้ในจิตใจของมนุษย์แล้วมนุษย์ต้องโลภ เหมือนเอาแตงกวาไปแช่อิ่มในน้ำปลา เดี๋ยวแตงกวานั้นก็เค็ม ไปแช่ในน้ำมะนาวเดี๋ยวแตงกวานั้นก็เปรี้ยว ไปแช่ในน้ำตาลแตงกวานั้นก็หวาน แต่นี่ไปแช่ในความโลภมันก็โลภ ไปแช่ในความโกรธมันก็โกรธ แช่ในความหลงมันก็หลง เขาบังคับเช็ตโปรแกรมกันอยู่ภายในอย่างนี้ เอาไปแช่อิ่มอยู่อย่างนี้
![ถูกกักขัง 560802-buddist-lent-4.jpg](https://www.dmc.tv/images/scoop_images/meditation-101-book/560802-buddist-lent-4.jpg)
ถูกขังอยู่ในกายของสัตว์เดรัจฉาน
แล้วก็ตั้งภพ ตั้งกาย มียูนิฟอร์มมารองรับ เอาไปขังอยู่ในแต่ละกายของสัตว์นรกบ้าง เปรตบ้าง อสุรกายบ้าง สัตว์เดรัจฉานบ้าง พอเข้าไปอยู่ในยูนิฟอร์มนั้นก็ลืมความเป็นมนุษย์ จะมีชีวิตจิตใจเป็นไปอย่างที่เขาอยากจะให้เป็น ไปเป็นไก่ก็คิดแบบไก่ เป็นแมวก็คิดแบบแมว ร้องแบบแมว กินอาหารแบบแมว นี่เขาบังคับกันอยู่อย่างนี้ เพราะฉะนั้นจะล้างบาปได้ต้องใช้พลังแห่งบุญ กระแสแห่งบุญเท่านั้น ถึงจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริงได้
![ถูกกักขัง 560802-buddist-lent-4.jpg](https://www.dmc.tv/images/scoop_images/meditation-101-book/560802-buddist-lent-4.jpg)
ถูกขังอยู่ในกายของสัตว์เดรัจฉาน
แล้วก็ตั้งภพ ตั้งกาย มียูนิฟอร์มมารองรับ เอาไปขังอยู่ในแต่ละกายของสัตว์นรกบ้าง เปรตบ้าง อสุรกายบ้าง สัตว์เดรัจฉานบ้าง พอเข้าไปอยู่ในยูนิฟอร์มนั้นก็ลืมความเป็นมนุษย์ จะมีชีวิตจิตใจเป็นไปอย่างที่เขาอยากจะให้เป็น ไปเป็นไก่ก็คิดแบบไก่ เป็นแมวก็คิดแบบแมว ร้องแบบแมว กินอาหารแบบแมว นี่เขาบังคับกันอยู่อย่างนี้ เพราะฉะนั้นจะล้างบาปได้ต้องใช้พลังแห่งบุญ กระแสแห่งบุญเท่านั้น ถึงจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แท้จริงได้
๏๏ ธรรม 3 ประการ
คำ ว่า “ธรรมชาติ” เป็นคำที่เราได้ยินจนคุ้นหู แต่แปลความหมายกันไปคนละแบบ ถ้าพูดถึงคำนี้ เราก็จะนึกไปถึงทะเล น้ำตก ป่าเขา หรือสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทีนี้มาอีกทัศนะหนึ่งธรรมชาติ มาจากคำว่า ธรรม + ชาตะ ชาตะ แปลว่า การเกิดธรรมชาติ ก็คือ เกิดโดยธรรม ซึ่งมีอยู่ 3 ประการ ผสมผสานกันอยู่คือ กุสลาธัมมา ธรรมที่เป็นกุศล อกุสลาธัมมา ธรรมที่เป็นอกุศล อัพยากตาธัมมา ธรรมที่ไม่เป็นบุญไม่เป็นบาป สามอย่างนี้ปรุงกัน ผสมกัน ไม่ว่าจะเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นสิ่งของ จะปนกันอยู่อย่างนี้
กุศลก็เป็นเรื่องดี คิดดี พูดดี ทำดี ถ้าอกุศลก็คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี พังทลาย ความเสื่อมอะไรต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นต้น ถ้าอัพยากตาธรรม ไม่ดีไม่ชั่ว เป็นกลาง ๆ เช่น กินข้าว อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เป็นต้น ธรรม 3 อย่างนี้อยู่ในตัวเรา อยู่ในสรรพสิ่งทั้งหลาย แต่ที่อยู่ในตัวเราจะเห็นง่าย
บางทีเราก็คิดดี นั่งธรรมะดีกว่า นั่นธรรมที่เป็นกุศลปรุงแต่ง บางทีก็คิดไม่ดี ไม่นั่งดีกว่าไปเล่นไพ่ อย่างนี้แสดงว่าธรรมที่เป็นอกุศลปรุงแต่ง บางทีก็ง่วงแล้วนอนดีกว่า อย่างนี้ก็ไม่เป็นบุญเป็นบาป ธรรม 3 อย่างนี้ ผสม ๆ กันอยู่ในตัวเรา ในคนสัตว์สิ่งของก็คล้าย ๆ กันอย่างนี้ ล้วนแต่เกิดโดยธรรม 3 ประการ ธรรมเป็นบุญ ธรรมเป็นบาป แล้วก็ธรรมที่เป็นกลาง ๆ ที่เป็นบุญธรรมนั้นก็ขาวใส ที่เป็นบาปธรรมนั้นก็ดำมืด ที่ไม่บุญไม่บาปก็เป็นสีเทาๆ
![เข้าพรรษา เข้าถึงธรรม 560802-buddist-lent-2.jpg](https://www.dmc.tv/images/scoop_images/meditation-101-book/560802-buddist-lent-2.jpg)
นั่งธรรมะดีกว่า
24 กรกฎาคม พ.ศ. 2546
จากหนังสือบางสิ่งที่แสวงหา
โดย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
โดย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)