ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

คิดอย่างไรกับคำว่า "มันคงเป็นวิบากกรรมที่เราเคยทำมาก่อนมาส่งผล "


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 23 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 PS-Junior

PS-Junior
  • Members
  • 247 โพสต์
  • Location:Bangkok
  • Interests:Meditation

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 12:08 AM

พอดีได้ไปสัมผัสกับคนรู้จักบางท่านค่ะ ที่มีปัญหาในชีวิต ถูกเอาเปรียบหลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น

จะสร้างบ้าน แล้วช่างทีติดตั้งแอร์มาเจาะบ้านเป็นรูโหว่ แล้วไม่รับผิดชอบที่จะซ่อมหลังจากเครียด และคุยให้ช่างมาทำแล้วไม่มา ถึงมีคนแนะนำให้แจ้งไปทางสำนักงานคุ้มครองผู้บิโภค ก็ไม่ทำ เพราะไม่อยากอื้อฉาว และก็จะบอกว่า สงสัยเป็นกรรมเก่าที่เราเคยทำเค้ามา และยอมเสียเงินเพื่อให้ช่างอีกคนมาทำให้ใหม่ หรืออีกกรณี

ไปสั่งซื้อของไว้แล้วมัดจำไว้แล้ว แต่ทางฝ่ายขายผิดสัญญา จะไม่ยอมคืนเงินมัดจำ ถ้าถึงที่สุดคุยกันแล้วทางผู้ขายเกเร ก็จะบอกว่ายอม ไม่ไปฟ้องร้องเองความ ยอมเสียเงินมัดจำไป แล้วสรุปไปว่าเป็นวิบากกรรมเราที่เคยไปทำไว้มาก่อน

เรื่องที่ยกมาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องจริงที่เจอ ยังมีอีกเยอะนะค่ะ และเจ้าตัวถึงแม้จะบอกว่าเป็นกรรมของตัวเอง แต่ก็เครียดมากเวลาถูกเอาเปรียบ จนคนรอบข้างไม่อยากเข้าใกล้เลย

ประเด็นที่อยากทราบก็คือ
1 ถูกหรือไม่ที่เมื่อมีเหตุการณ์ที่เราไม่ยินดีเกิดขึ้น แล้วไปโทษว่าเกิดจากวิบากกรรมเก่าทั้งหมด
2 และเมื่อคิดว่ามันเกิดจากวิบากกรรมเก่าของเรา ถูกหรือไม่ที่เราควรจะอยู่เฉยๆ ไม่แก้ไขตามกฎหมาย ปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น


#2 พบพาน ผ่านภพ

พบพาน ผ่านภพ
  • Members
  • 236 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 07:26 AM

กฎแห่งกรรม
เมื่อศึกษามากๆ เข้า
ก็จะเริ่มเบื่อหน่ายในสังสารวัฏล่ะครับ
แล้วก็ไม่อยากทำบาปอกุศลเลย
จะเบื่อวิบากที่จะตามมา
" พบพาน _ผ่านภพ "
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.

#3 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 08:53 AM

เคยคิด ๆ ๆ ...และสับสนเหมือนกันเลยค่ะ

#4 middleway

middleway
  • Members
  • 114 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 09:30 AM

"มันเกิดจากวิบากกรรมเก่าของเรา" คิดเพื่อปลอบใจเรา ไม่ให้เป็นทุกข์ใจ แต่คนละเรื่องกับการดำเนินคดีตามกฏหมายค่ะ
เพราะถ้าไม่แจ้งความหรือทำอะไรเลย ก็จะกลายเป็นการปล่อยให้คนไม่ดี ไปทำชั่วได้อีก

#5 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 10:15 AM

เมื่อศึกษาไปเรื่อยๆแล้ว จะพบว่า คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ละเอียดลึกซึ้งมาก เกินกว่าที่จะอธิบายด้วยคำพูดภาษาใดๆในโลก เรื่องกฏแห่งกรรม ก็เป็นสิ่งที่ซับซ้อนละเอียดลึกซึ้งมาก
แต่ก็เป็นเรื่องที่มีกฏเกณตายตัว เหมือนกับภาพของเกลียวคลื่นซัดกระทบฝั่ง เรามองดูแล้วเผินๆเราอาจเห็นว่าเป็นอะไรที่ยุ่งเหยิงซับซ้อน แต่อันที่จริงแล้ว เมล็ดอณูของน้ำแต่ละหยดในเกลียวคลื่น ถูกจัดสรรผลักดันไห้กระเซ็นไป ตามหลักฟิสิก และเป็นไปอย่างมีระเบียบมาก

กฏแห่งกรรมก็เช่นเดียวกัน ถูกจัดสรรให้เป็นไปตามกฏของมัน อย่างเป็นระเบียบที่สุด อะไรๆที่เกิดขึ้นล้วนมาจากกรรมทั้งนั้น อาจจะเหลือเชื่อแต่ก็เป็นความจริงครับ คล้ายๆกับฟองคลื่นซึ่งเราดูไม่ออกว่ามันมีระเบียบแค่ไหน แต่ที่จริงมันก็ถูกผลักดันไห้เป็นไปอย่างลงตัว

เราจะมีเคราะห์ แล้วเราจะแจ้งความ หรือไม่ ล้วนเป็นกรรมที่ถูกจัดสรรมาอย่างลงตัวพอดิบพอดี ตรงกันทั้งเบื้องนอกเบื้องใน หยาบละเอียด เศษหนึ่งส่วนล้านอสงไขยโกฏแล้วละเอียดยิ่งไปกว่านั้น วัฏฏะสงสาร ไม่มีอะไรใหม่ครับ


[attachmentid=5599] [attachmentid=5600]

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  tsunami.jpg   20.88K   16 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  tsunami1.gif   79.68K   23 ดาวน์โหลด





#6 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 11:06 AM

ผมขอแสดงความเห็น นี้หน่อยนะครับ.. smile.gif

บทนำ.
ผมคลุกคลีอยู่กับแวดวงผู้รับเหมามานาน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ต้องรักษาผลประโยชน์ของรัฐเท่าชีวิต เพราะรัฐจ่ายเงินเดือนเรา

ผมเคยได้ยินผู้หลัก+ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง

ถ่ายเอ่ยนามทุกคนทั้งประเทศต้องรู้ดี ท่านเป็นอดีตอธิบดี

ท่านบอกว่า เราเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เราจะไม่ยอมให้พ่อค้าเข้ามาแสวงหาผลประโยช์โดยมิชอบในวงราชการได้...

ในการแสดงความเห็นในครั้งนี้ ผมจะเอาข้อเท็จจริงที่ผมเคยสัมผัสมา

ในเรื่องของ HUMAN BEHAVIOUR
ของนักธุรกิจที่ขาดคุณธรรม มาแสดงให้เห็นว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับวิบากกรรม อะไรทั้งสิ้น


แต่มันเป็นพฤติกรรมมนุษย์ที่ยังขาด จริยธรรมคุณธรรม ที่เราทั้งหลายพึงจะต้องช่วยกัน

แสดงบทบาทของผู้บริโภค ที่มีสติปัญญา และวิจารณญาณ

ในการตัดสินใจและใช้บริการในสินค้า หรือ บริการนั้นๆ ขอย้ำว่ามันไม่เกี่ยวกับ

วิบากกรรมสักนิดเดียวครับ...
..........
เดี๋ยวจะเข้าสู่เนื้อหาจริงๆ ในตอนต่อไปครับ (ขอทำงานก่อน) smile.gif




จงลุกขึ้นเถิด เพื่อต่อสู้ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็น ผู้บริโภค
ให้สมกับผู้บริโภค ที่มีคุณภาพ มีอุดมการณ์ ด้วยพลังแห่งความคิด
และสติปัญญา อย่างผู้มี "ธรรมในหัวใจ"
ผู้บริโภคที่ถูกเอาเปรียบ รายต่อไปจะได้ไม่มี ถือว่าท่านได้ตัดวงจรอุบาทว์ ได้บุญ ครับ
............................
จงต่อสู้ให้ได้รับความเป็นธรรม อย่ายอมเด็ดขาด

ไม่เช่นนั้นท่านจะได้ชื่อว่าส่งเสริมคนทำความเลว..ครับ
....................................................................


ปัจจุบันมีผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก
มีความสับสนในการดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคจากหน่วยงานภาครัฐ
ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองของผู้บริโภค
มีอยู่ด้วยกันหลายฉบับและกระจายอยู่ตามส่วนราชการต่างๆ
นอกจากนี้ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ได้รับความเดือดร้อนเมื่อถูกละเมิดสิทธิ
มักคิดว่าการร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมต้องผ่านกระบวนการที่ยุ่งยากมากมาย
จนเกิดความไม่เข้าใจหรือสับสน
เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจึงละเลยที่จะร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม
ทำให้สิทธิของผู้บริโภคถูกลิดรอนไป
ทั้งที่มีหน่วยงานภาครัฐที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
มากมายหลายแห่งด้วยกัน ดังนั้น
จำเป็น อย่างยิ่งที่ผู้บริโภคควรต้องทำความรู้จักและศึกษา
เพื่อประโยชน์ต่อตนเองและสังคมโดยรวม
หากผู้บริโภคมีปัญหาหรือได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อสินค้า

หรือบริการสามารถร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้
- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขกำกับดูแลในเรื่องของ
อาหาร ยาและเครื่องสำอาง โทรศัพท์สายด่วน 1556
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการชั่งตวงวัดที่ไม่ได
มาตรฐาน โทรศัพท์สายด่วน 1570
- สำนักงานตำรวจท่องเที่ยว รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคที่ถูกบริษัทนำเที่ยวหลอกหลวง
หรือนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่ถูกหลอกหลวง

จากการซื้อสิ้นค้าหรือบริการที่มีราคาแพงเกิน
จริง โทรศัพท์สายด่วน 1155
- สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)

รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้
รับความเดือดร้อนหรือเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำของ


ผู้ประกอบธุรกิจหรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อสินค้า

หรือบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี
ถนนราชดำเนินนอก เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
หรือเขียนจดหมายส่งตู้ ปณ. 99 ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ 10302



หรือโทรศัพท์สายด่วน 1166 ต่างจังหวัดสามารถร้องเรียนได้ที่
คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด

การร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมเมื่อถูกละเมิดสิทธิ

เป็นสิทธิที่ผู้บริโภคพึงกระทำได้
อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้ประกอบธุรกิจได้เกิดจิตสำนึก

และบรรเทาการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค

ที่สำคัญคือการช่วยให้หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค
ได้รับทราบปัญหาและสามารถ
ดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.......................
คุณจังกึม รีบแนะนำผู้นั้นมาที่ผมก็ได้ครับ
ผมมีนิติกรคุณภาพที่จะคอยให้คำปรึกษาครับ..
อย่าเอาเรื่อง วิบากกรรมมาผูก คนละประเด็นครับ





ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#7 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 11:07 AM

ถ้าเราสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด นั่นคือ การพูดคุยกับเขาไม่ให้เขาทำผิดศีล น่ะครับ จะเป็นประโยชน์สมบูรณ์พร้อมทั้งเราและเขา แต่ถ้าพูดคุยแล้วไม่ได้ผล เนื่องจากเขาเป็นคนพาลมากจริงๆ ก็ต้องพิจารณาให้ดีเกี่ยวกับการฟ้องร้อง เพราะคนพาลย่อมผูกเวร เมื่อเวรได้ถูกผูกแล้ว ต้องระวังให้ดีครับ เพราะตอนแรกเขาอาจผูกเราก่อน แต่ชาติต่อๆไปเราอาจพลาดพลั้งไปผูกเข้าให้บ้าง ตอนนี้แหละครับ ที่จะเข้าสู่วงจรอุบาทย์ ของการผูกเวร ซึ่งน่ากลัวอย่างยิ่งเลยทีเดียวล่ะครับ ตั้งแต่มีทุกข์ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นเบื้องต้น และตัดหนทางนิพพานของทั้งสองฝ่ายเป็นเบื้องปลาย
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#8 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 11:27 AM

ขอแก้ไขนะครับ ที่ว่า
QUOTE
ในเรื่องของ HUMAN BEHAVIOUR
ของนักธุรกิจที่ขาดคุณธรรม มาแสดงให้เห็นว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับวิบากกรรม อะไรทั้งสิ้น

แต่มันเป็นพฤติกรรมมนุษย์ที่ยังขาด จริยธรรมคุณธรรม



ถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับกฏแห่งกรรมของเรา แต่มันเป็นกฏแห่งกรรมของเขา ที่จัดสรรให้เขาเป็นคนแบบนั้น แล้วกรรมของเราจัดสรรได้ช่องดึงดูดเขามากระทำกับเรา ดูเคสบ่อยๆเจอแบบนี้แทบทุกเคสครับ




#9 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 11:54 AM

QUOTE
1 ถูกหรือไม่ที่เมื่อมีเหตุการณ์ที่เราไม่ยินดีเกิดขึ้น แล้วไปโทษว่าเกิดจากวิบากกรรมเก่าทั้งหมด

ถ้ายอมรับว่าเป็นวิบากกรรมแล้ว
ไม่ปลง แต่กลับเครียด ก็ไม่ถูกค่ะ
ควรจะทำตัว alert เสียมากกว่า
เพราะ ซึม เหงา เศร้า เครียด
ล้วยเป็นอารมณ์ของฝ่ายตรงข้าม
เปิดช่องว่างให้เขาเข้ามาแทรกได้

QUOTE
2 และเมื่อคิดว่ามันเกิดจากวิบากกรรมเก่าของเรา ถูกหรือไม่ที่เราควรจะอยู่เฉยๆ ไม่แก้ไขตามกฎหมาย ปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น


ควรค่ะที่จะแก้ไขตามกฎหมาย
ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นการสร้างกำลังใจให้เขาทำแบบนั้นต่อไปอีก
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#10 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 12:00 PM

QUOTE
ประเด็นที่อยากทราบก็คือ
1 ถูกหรือไม่ที่เมื่อมีเหตุการณ์ที่เราไม่ยินดีเกิดขึ้น แล้วไปโทษว่าเกิดจากวิบากกรรมเก่าทั้งหมด
2 และเมื่อคิดว่ามันเกิดจากวิบากกรรมเก่าของเรา ถูกหรือไม่ที่เราควรจะอยู่เฉยๆ ไม่แก้ไขตามกฎหมาย ปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น

1 ทำใจอดทนกับสิ่งที่ได้รับ ไม่ต้องโทษอดีต เพราะอดีตก็คือตัวเขาเอง
ควรตั้งใจทำกรรมดีเพิ่มเยอะๆ ไม่ควรทิ้งตัวเองเฉยๆ โดยไม่ทำบุญอะไรเลย

2 ควรแก้ไขตามกฏหมาย
สิ่งใดที่จะสามารถแก้ไขได้นั้น ควรทำ

ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#11 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 12:10 PM

ทำไมต่างประเทศ ยุโรป อเมริกา เขามีกฎหมายที่เคร่งครัด ผู้คนมีระเบียบ เคารพในสิทธิของผู้อื่น ถึงละเมิด ก็สามารถเอาผิดผู้ละเมิดสิทธิของคนอื่นได้ ทั้งที่เขานับถือคริสต์ (เขาไม่มีคำว่า กฎแห่งกรรม อยู่ในไบเบิล) หรือเป็นเพราะว่าประชากรของเขา สั่งสมบุญมาดี ไม่ผิดศีลข้อ 2 มากนัก

แต่ทั้งๆที่ประเทศไทย นับถือพุทธแท้ๆ มีคำว่า กฎแห่งกรรมอยู่ในพระไตรปิฎก ถึงต้องถูกคนอื่นเอารัดเอาเปรียบ ผู้คนที่เกิดในแผ่นดินพุทธ มักจะไร้ระเบียบ ชอบแซงคิว ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น พอจะหยิบกฎหมายขึ้นมาพูด ก็ช่างยุ่งยากซะเหลือเกิน นี่กระมัง เลยปลงอนิจจังคิดว่า กรรมใครกรรมมัน ง่ายกว่าเยอะ

คิดเอาเอง ว่ากฎแห่งกรรม กับกฎของระเบียบ เป็นคนละเรื่องกันเดียวกันรึเปล่า
เอ๊ะ หรือว่าเมืองไทย มีคนผิดศีลเยอะ (โดยเฉพาะในอดีตชาติ) เลยต้องเจอคนเอารัดเอาเปรียบซะละมาก

ปล. เขียนเอง อ่านเอง ก็ยัง งงๆ mad.gif
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#12 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 12:39 PM

ผมว่าต้องมองเป็นสองมุม

- มุมของกฎแห่งกรรม: ก็ไม่ผิดที่จะบอกว่าเป็นเพราะวิบากกรรม เพราะตามเคสที่ดูๆ กัน มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะฉะนั้นถ้ารู้เช่นนี้แล้ว ก็ควรปลงความรู้สึก อย่าไปเครียด เศร้า ผูกใจเจ็บ หรือคิดแก้แค้นเลยครับ

- มุมของกฎหมาย: ถ้าสิ่งที่เราถูกกระทำไม่ถูกไม่ต้อง ก็ไม่ผิดที่จะเอาเรื่องตามกฎหมาย แต่ต้องระวังอย่าปล่อยให้ใจทำไปเพราะความโกรธ หรืออารมณ์เพียงอย่างเดียว เพราะถ้าเราทำเช่นนั้นก็เป็นการเปิดช่องให้มีวิบากซึ่งกันและกันไม่จบสิ้น แต่ถ้าเราคิดว่าเราทำเพราะเป็นสิ่งไม่ถูกต้องตามกฎของสังคม เราไม่ต้องการให้คนๆ นั้นทำเช่นนี้กับคนอื่น หรือเพียงเพื่อให้คนๆ นั้นรับผิดชอบต่อการกระทำของเขา ก็น่าจะดีกว่านะครับ เพราะยังไงสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ

เหมือนเคสล่าสุดเมื่อคืนวานที่ถูกโกงเพราะเคยโกงกันมาในอดีต ชาตินี้ก็ยังฟ้องร้องกันอยู่ แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีคำแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงการผูกเวร (จำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ครับ อิ อิ ยังไงลองฟังย้อนหลังกันได้เลย ที่ ปั่นสามล้อจนรวย: 20/06/2549 เลยครับผม)

#13 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 04:30 PM

ขอแสดงความเห็นจากความเห็นที่ 8 ของท่านสิริปโภ..ครับ smile.gif

.............................................................................................


ในงานวิศวกรรม มีข้อคิดให้ 2 ประเด็นครับ

1. Corrective Maintenance คือ ซ่อมบำรุงเมื่อพังแล้วถึงซ่อม

แบบนี้ค่าใช้จ่ายเยอะ เสี่ยงต่อความเสียหายมาก

2. Preventive Maintenance คือ บำรุงรักษาเชิงป้องกัน


คือประมาณว่า ป้องกันก่อนที่มันจะพัง แบบนี้ค่าใช้จ่ายน้อย ปลอดภัย
..................
สรุปเข้ากับประเด็นนี้ว่า เราควรมีการวางแผน

การ วิเคราะห์ก่อนที่จะจัดซื้อ จัดจ้าง หรือ ตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการนั้นๆ
ใช้หลักการ..บริหารงานในชีวิตโดยใช้หลักการ


MBO = Management by Objective
อย่าไปใช้หลัก


MBI = Management by Instinct.

.

เพราะว่ามองๆดูเขาเป็นคนวัดหรือ มองๆดูแล้วน่าเชื่อถือ..

ถ้าแบบนี้มีสิทธิ์เป็นแบบเจ้าของกระทู้ที่ตั้งมาครับ .. wacko.gif

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#14 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 05:08 PM

ผมคิดว่า การโทษว่าเกิดจากวิบากกรรมเก่า เป็น การปลงใจในสิ่งที่เราเรียกร้องไม่สำเร็จ

ในบทเรื่อง ความสันโดษ แนะให้เราสามารถเรียกร้องสิทธิที่เราพึงได้ไว้ครับ เพราะคนเราจะเข้าใจแต่ว่าสันโดษคือการแยกตัว พอใจในสิ่งที่ตนมี ผมเคยฟังหลวงพ่อทัตตะท่านเทศน์เรื่องนี้ การจะเรียกร้องสิทธิได้ เราจะต้องศึกษาสิทธิตามระเบียบ ข้อบังคับ รวมทั้งขั้นตอนการดำเนินงานทางธุรการและเอกสารเพื่อมิให้ผิดพลาดและเสียเวลา หรือข้ามขั้นครับ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#15 PS-Junior

PS-Junior
  • Members
  • 247 โพสต์
  • Location:Bangkok
  • Interests:Meditation

โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 05:51 PM

QUOTE
เพราะว่ามองๆดูเขาเป็นคนวัดหรือ มองๆดูแล้วน่าเชื่อถือ..

ถ้าแบบนี้มีสิทธิ์เป็นแบบเจ้าของกระทู้ที่ตั้งมาครับ


ถูกเลยค่ะ พี่เถลิงเกียรติ ด้วยเหตุที่ผู้รับเหมาที่ติดต่อและถูกเอาเปรียบนั้นเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับวัด เช่น ลูกบวชที่วัดเรา หรือเป็นผู้รับเหมาของโครงการ(ขอไม่เอ่ยนามนะค่ะ) ที่อยู่ที่วัดนั่นแหละค่ะ ทำให้ท่านผู้นี้ถึงลำบากใจที่จะทำอะไรให้เด็ดขาดไปหน่ะค่ะ

#16 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 09:10 AM

โพสต์ #8 คุณสิริปโภ smile.gif



QUOTE
ถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับกฏแห่งกรรมของเรา แต่มันเป็นกฏแห่งกรรมของเขา ที่จัดสรรให้เขาเป็นคนแบบนั้น แล้วกรรมของเราจัดสรรได้ช่องดึงดูดเขามากระทำกับเรา ดูเคสบ่อยๆเจอแบบนี้แทบทุกเคสครับ

................
ผมว่าถ้ามัวแต่ คิดแบบ FIXED IEDEA แบบนี้

สงสัยประเทศไทยคงใสสะอาดยาก

บ้านเมืองนี้คงเต็มไปด้วยนักธุรกิจขี้ฉ้อ

ที่คอยแต่จะเอาเปรียบประชาชน และประเทศชาติครับ nerd_smile.gif







ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#17 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 10:25 AM

เรียนพี่เถลิงเกียตริครับ การที่ผมกล่าวเช่นนั้น ว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรรมหมด เป็นไปตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยแท้ครับ ทุกคนมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์เป็นทายาทแห่งกรรม ฯลฯ แต่มิได้หมายความว่า จะปล่อยอะไรๆให้ไปตามยะถากรรมไปซะหมด แน่นอนบ้านเมืองย่อมต้องมีขื่อมีแป ต้องมีบทกฏหมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้พิทักษ์ และประชาชนทุกคนเป็นหูเป็นตา แต่ใครจะถูกแจ้งความหรือ ใครจะเป็นผู้แจ้งความ หรือใครจะเป็นผู้ลงโทษ ย่อมอยู่ในคำสอนที่ว่า ทุกคนมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เป็นทายาทแห่งกรรม หนีกรรมไม่พ้น




#18 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 11:29 AM

ผมก็เห็นด้วยกับคุณสิริโภน่ะครับว่า วิธีการในการจัดการคนพาลนั้น มันไม่ได้มีวิธีเดียว คือ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน น่าจะลองหาวิธีอื่น เช่น เจรจากลับจิตกลับใจเขาก่อนดีกว่า ถ้าทำไม่ได้ก็ค่อยหาทางใหม่กันต่อไป เพราะศัตรูแท้จริงของมนุษย์นั้น ไม่ใช่มนุษย์ครับแต่เป็นเชื้อโรค(กิเลส) ที่สิงอยู่ในใจมนุษย์ แต่มนุษย์กับมนุษย์แท้จริงแล้วเป็นญาติมิตรกัน (สังสารวัฏนี้ ผู้ที่ไม่เคยเกิดเป็นญาติ(รวมมิตรด้วย)กันนั้น ไม่มี)

ดังอุปมาว่า สมมุติเพื่อนกลุ่มหนึ่งของเรา ปรกติก็ดีๆอยู่ อยู่ต่อมา ถูกเชื้อโรคจู่โจม จนติดเชื้อเวลาติดเชื้อจะอาละวาดเข่นฆ่าผู้คน ถ้าเราจะคิดแก้ปัญหานี้ เราจะเลือกทำอย่างไรระหว่าง
1. ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ด้วยการเข่นฆ่าผู้ที่อาละวาดนั้น ให้ตายไปจนหมดสิ้น
2. จับขังไว้ตลอดชีวิต ริบทรัพย์สินทั้งหมดของเขา แล้วไปชดใช้แทนทรัพย์สินที่ไปทำลายผู้อื่นไว้ให้หมด
3. หรือ หาทางทำลายเชื้อโรคร้ายที่อยู่ในใจเขาให้หมดสิ้นไป ซึ่งแน่นอนวิธีนี้ยากที่สุด แต่ถ้าทำได้ ก็น่าสรรเสริญที่สุด เพราะเขาคือ เพื่อนรักของเราเอง

ก็ต้องลองคิดดูนะครับว่า ถ้าเห็นว่าเขาเป็นญาติ แล้วถูกเชื้อโรคเข้าสิง วิธีจัดการกับเขา เราควรทำอย่างไร
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#19 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 01:57 PM

ที่คุณเถลิงเกียรตินำข้อมูลมาใน Post #19 นี้ สุดยอดเลยล่ะครับ คือ เป็นการให้ความรู้ อบรม ให้ทุกคนตระหนักถึง ผลร้ายของการทุจริต และชี้แจงถึง ทศพิธราชธรรม 10 ประการ อีกทั้งปิดท้ายด้วยการให้ทุกคนแสดงความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์

ความเห็นผม นี่ก็คือ หนึ่งในวิธีการกำจัดเชื้อโลภะ และโมหะ(ความโลภ และไม่รู้) ที่สิงอยู่ในใจคนนั่นเอง ดีครับให้ทำต่อไป ให้อบรมก่อน ถ้าอบรมไม่ได้จริงๆ แล้วค่อย "อบอัด" ต่อไป (ประโยคหลังนี่สำนวนครูไม่ใหญ่)
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#20 Mai D na

Mai D na
  • Members
  • 282 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 03:03 PM




คง เป็น การ คิด ให้ กำ ลัง ใจ ตน เอง

ให้ หาย เครียด

ใน ยาม ที่ เรา ลำ บาก สิ่ง ที่ ให้ กำ ลัง ใจ เรา ได้

คือ ตัว เรา เอง พี่ คน นั้น คง คิด เช่น นี้..

จึง ให้ กำ ลัง ใจ ตัว เอง ด้วย การ ..ปลง..

***********************************

อย่าง ที่ ท่าน สิริปโภ พูด ไว้ ก็ ถูก เหมือน กัน

เพราะ เรา ดู เคส มา เยอะ แล้ว

กรรม ดึง ดูด เรา ไป หา สิ่ง เหล่า นั้น

โดย ที่ เรา ไม่ รู้ กับ อดีตที่ ผ่าน มา

*****************************
หลวงพ่อทัตตะ ท่าน พูด ให้ โอ วาท ไว้ อา ทิตย์ 18-06-49 ที่ ผ่าน มา

ช่วง นำ นั่ง สมาธิ ตอน บ่าย (ถ้าไม่หลับ)

ท่าน บอก ว่า พวก เรา ถูก ปิด บัง ด้วย ภพ

ภพ ทำ ให้ เรา ลืม อดีต ที่ ผ่าน มา

ทำ ให้ เรา จำ เรื่อง ราว ที่ ผ่าน มา ไม่ ได้..

********************************

แต่ จะ โทษ กรรม อย่าง เดียว ก็ ไม่ ได้

อย่าง ที่ คุณ เถลิงเกียรติ ว่า ไว้

เรา ควร ลุก ขึ้น สู้ บ้าง

ใน เมื่อ เจอ สิ่ง ที่ ไม่ ยุติธรรม กับ เรา

"อย่า ปล่อย คน ชั่ว ให้ ลอย นวล"





แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร




#21 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 10:17 PM

เห็นจะจริง

ลูกพระธรรม

#22 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 23 June 2006 - 12:40 PM

I agree with khun สิริปโภ ....just be neutral and acccept that's your bad karma but I also think that in order for the society to maintance the order and for the other people and goverment to keep an eye on the นักธุรกิจที่ขาดคุณธรรม. We should file a complain to the police or the department for that compain. To alert , warn and alarm the society. I think that will be a good karma for us.
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง

#23 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 June 2006 - 07:11 PM

เห็นดด้วยกับความคิดตรงนี้ ครับ
เพราะศัตรูแท้จริงของมนุษย์นั้น ไม่ใช่มนุษย์ครับแต่เป็นเชื้อโรค(กิเลส) ที่สิงอยู่ในใจมนุษย์ แต่มนุษย์กับมนุษย์แท้จริงแล้วเป็นญาติมิตรกัน (สังสารวัฏนี้ ผู้ที่ไม่เคยเกิดเป็นญาติกันมา

ลูกพระธรรม

#24 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 23 June 2006 - 10:16 PM

nerd_smile.gif เห็นอย่างนี้แล้วอดนึกถึง ไตรภูมิพระร่วง ไม่ได้ครับ... smile.gif

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม