จอห์น ดอนเน นักเขียนชาวอังกฤษกล่าวไว้ว่า “ไม่มีมนุษย์หน้าไหน อยู่ได้อย่างโดดเดี่ยว”
.. ชีวิตคุณจะได้สักกี่น้ำ ขึ้นอยู่กับความเอ็นดูที่คุณมีต่อผู้อ่อนเยาว์ ขึ้นกับน้ำจิตที่เผื่อแผ่แด่ผู้สูงอายุ
ขึ้นกับความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ทุกข์ร้อน
รวมถึงใจเสมอภาคระหว่างบุคคลที่อ่อนแอและแข็งแรง
เพราะชีวิตในวันหนึ่งของคุณ
จักต้องกลายเป็นบุคคลเหล่านี้ทั้งหมด ... จอร์จ วอชิงตัน คาร์เวอร์
ในอาชีพการทำงานที่เกี่ยวข้องกับผู้คน ผมได้มีโอกาสสังเกตเห็นบุคคลสองประเภท กลุ่มแรกประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดในอาชีพการงาน ชีวิตส่วนตัว และสัมพันธภาพต่อคนรอบข้าง
กลุ่มที่สอง มีปัญหาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากสุขภาพร่างกายที่เจ็บป่วยเกินธรรมดา การทำงานและสัมพันธภาพที่มีปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่มีความสามารถในการทำงานและมีประสบการณ์มานานชนิดหาตัวจับยาก แต่ยิ่งทำยิ่งไม่ประสบความสำเร็จ
สาเหตุสำคัญ คือ ทัศนคติและมุมมองที่คนเหล่านี้มีต่อตนเองและโลกนี้ เท่านั้นเองจริงๆ!
บุคคลที่ไม่สามารถให้ความรัก ความเมตตา ให้ความชื่นชมในตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจเข้าออก อวัยวะน้อยใหญ่ รวมทั้งเซลล์ทั้งหลายในร่างกาย บุคคลนั้นจะไม่สามารถหยิบยื่นความรัก และให้ความชื่นชมต่อคนรอบข้างได้เป็นอันขาด การเริ่มต้นสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี คือ การรู้จักรักและเมตตาตนเอง รู้จักใส่ใจ ทะนุถนอมและดูแลอวัยวะต่างๆ ของร่างกายและจิตใจด้วยความอ่อนโยน ละมุนละม่อม
ให้หมั่นขอบคุณลมหายใจของเรา ทั้งหายใจเข้า หายใจออก ให้รู้สึกขอบคุณที่เรายังมีลมหายใจ เป็นลมหายใจที่ทำให้เรายังคงสภาพเป็นมนุษย์ สามารถประกอบกรรมดี ทั้งกาย วาจา ใจ ได้ต่อไป
จากมุมมองที่รัก เมตตา และชื่นชมตัวเองได้อย่างจริงใจแล้ว เราจึงสามารถรัก เมตตา และชื่นชมคนรอบข้างได้อย่างจริงใจ จุดนี้จะทำให้เราเริ่มประสบความ
สำเร็จมากขึ้นในทุกสิ่งทุกอย่างที่ก้าวเดินไป
การใช้ชีวิตของคนเราจำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนมากมาย ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ แต่เมื่อใดที่เราได้พบปะเจอะเจอผู้คน คนเหล่านั้นผู้ซึ่งอยู่เฉพาะหน้าเรา ในรัศมี 1-5 เมตร คนเหล่านั้นคือ บุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิต ไม่ว่าเขาจะเป็นคนกวาดถนน พนักงานทำความสะอาด เด็กปั๊ม เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง ตำรวจจราจร หรือใครก็ตาม
เราเคยได้ส่งรอยยิ้ม ได้ทักทาย ได้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับคนเหล่านี้ที่ได้ผ่านพานพบในชีวิตประจำวันบ้างรึเปล่า ลองทำดูสิครับ แล้วจะพบว่า ชีวิตนี้ช่างมีความหมายมากมายกว่าที่เราเคยรู้จัก
ธีโอดอร์ รูสต์เวลต์ อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกากล่าวว่า “ส่วนผสมสำคัญเพียงหนึ่งเดียวในสูตรแห่งความสำเร็จของชีวิต คือ การรู้ว่าจะทำตัวกลมกลืนกับ
ผู้คนได้อย่างไร” ตรงนี้เป็นมุมมองของฝรั่งที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาทักษะเรื่องคน
แต่มุมมองทางพระพุทธศาสนามีความละเอียดลึกซึ้งมากกว่าหลายเท่า พระพุทธองค์ทรงสอนให้เรามีความเมตตาโดยเสมอภาคกับสรรพสัตว์ทั้งหลาย โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่แบ่งแยก ไม่มีอคติ ไม่มีญาติพี่น้องพวกพ้อง เพราะเรามักจะให้ความสำคัญและความเมตตากับคนที่เป็น “พ่อแม่พี่น้อง” เรา “เพื่อน” เรา เมื่อใดที่มีคำว่า “เรา” เข้ามากำกับ ความเมตตาจะมากขึ้นมาโดยธรรมชาติ เท่ากับการปล่อยให้ใจติดสินบน ไม่เป็นธรรม ไม่เสมอภาค ไม่เท่าเทียม
ลองฝึกดูสิครับ ฝึกให้ใจมีความเป็นธรรม ให้ความสำคัญและความเมตตาต่อบุคคลที่อยู่ข้างหน้าเราในขณะนี้ ให้ตระหนักรู้ว่า เขาคือบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา หากทำได้เช่นนี้ นอกจากเราจะได้เดินตามรอยบาทพระศาสดาแล้ว เรายังจะเป็นผู้ที่มีความสุข ประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตส่วนตัวและที่ทำงาน
เลิกปล่อยใจให้ติดสินบน ตกจากทำนองคลองธรรม โดยการเลือกที่รักมักที่ชังกันได้แล้วครับ!
รายงานโดย :เรื่อง : ดนัย จันทร์เจ้าฉาย:
คนสำคัญที่สุดในชีวิต... คือใคร
เริ่มโดย kuna, Aug 26 2008 05:08 PM
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 05:08 PM
#2
โพสต์เมื่อ 26 August 2008 - 09:18 PM
อนุโมทนา ครับ
ชอบวลีนี้ครับ
สาเหตุสำคัญ คือ ทัศนคติและมุมมองที่คนเหล่านี้มีต่อตนเองและโลกนี้ เท่านั้นเองจริงๆ!
เคยอ่านมาบ้างว่า
ทัศนคติสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้
ก่อนที่จะคิดเปลี่ยนอย่างอื่น ควรเปลี่ยนทัศนคติ[ให้ถูกต้อง ดีงาม]ซะก่อน
ซึ่งเข้ากันได้กับหลักธรรมในพระพุทธศาสนา เรื่อง สัมมาทิฎฐิ นะครับ
ถ้าเพียงมนุษย์ สามารถ เปลี่ยน มิจฉาทิฎฐิ เป็น สัมมาทิฎฐิ ได้
โลก สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของมนุษย์ จะยิ่งสงบสุข มีสันติภาพกว่าทุกวันนี้
ชอบวลีนี้ครับ
สาเหตุสำคัญ คือ ทัศนคติและมุมมองที่คนเหล่านี้มีต่อตนเองและโลกนี้ เท่านั้นเองจริงๆ!
เคยอ่านมาบ้างว่า
ทัศนคติสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้
ก่อนที่จะคิดเปลี่ยนอย่างอื่น ควรเปลี่ยนทัศนคติ[ให้ถูกต้อง ดีงาม]ซะก่อน
ซึ่งเข้ากันได้กับหลักธรรมในพระพุทธศาสนา เรื่อง สัมมาทิฎฐิ นะครับ
ถ้าเพียงมนุษย์ สามารถ เปลี่ยน มิจฉาทิฎฐิ เป็น สัมมาทิฎฐิ ได้
โลก สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของมนุษย์ จะยิ่งสงบสุข มีสันติภาพกว่าทุกวันนี้
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม
#3
โพสต์เมื่อ 27 August 2008 - 06:04 PM
ทำไมต้องพิมพ์แบบเว้นพยางค์ด้วยอ่ะครับ มันอ่านยากหน่ะครับ แต่ก็เป็นบทความที่ดีนะครับ โมทนาด้วยครับ
#4
โพสต์เมื่อ 23 September 2008 - 01:25 PM
ขอขอบคุณกับบทความดี ๆ ค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#5
โพสต์เมื่อ 23 September 2008 - 01:25 PM
ขอขอบคุณกับบทความดี ๆ ค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#6
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 01:33 PM
ขอบคุนค่ะ
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 16 October 2010 - 01:45 PM
หนังสืออีกเล่มของคุณ ดนัย ที่อยากแนะนำให้ทุกคนอ่านคือ หนังสือ White ocean strategy ครับ
เป็นแนวคิดกลยุทธ์ทางการตลาดน่านน้ำสีขาว ซึ่งมีให้อ่านฟรีด้วยครับ ลองค้นหาดูนะครับ
เป็นแนวคิดกลยุทธ์ทางการตลาดน่านน้ำสีขาว ซึ่งมีให้อ่านฟรีด้วยครับ ลองค้นหาดูนะครับ
Website Coach Kitti http://coachkitti.com
ความดี คนดีทำได้ง่าย คนชั่วทำได้ยาก
ความชั่ว คนชั่วทำได้ง่าย คนดีทำได้ยาก
ดังนั้น ความดี ทำได้ง่ายมากๆๆๆ
ความชั่ว คนชั่วทำได้ง่าย คนดีทำได้ยาก
ดังนั้น ความดี ทำได้ง่ายมากๆๆๆ
#8
โพสต์เมื่อ 17 October 2010 - 08:23 AM
สบายธรรม ขอบคุณที่นำบทความนี้มาให้ได้อ่าน
มีข้อคิดดี ๆอ่านธรรมสบาย ๆ
มีข้อคิดดี ๆอ่านธรรมสบาย ๆ