วันธรรมชัย
เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
----------------------------------------------------------
เหลือ เวลาอีก ๘ วัน ก็จะถึงวันธรรมชัย วันธรรมชัยก็เป็นวันที่หลวงพ่อบวช ได้เกิดใหม่ในเพศสมณะ แล้วเราก็สมมุติเรียกกันว่า วันธรรมชัย โดยเอาฉายาของหลวงพ่อ คือ ธัมมชโย เลยเรียกกันจำง่ายๆ ว่า วันธรรมชัย ซึ่งไม่ได้ตั้งเอง ใครตั้งก็ไม่ทราบเหมือนกัน เขาเอาหัวมารวมกันเป็นกอง เอาใจมารวมกัน พอใจรวมกันแล้วเขารวมหัวกันตั้งว่า วันธรรมชัย
ตรง กับวันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ ผ่านมา ๓๘ ปี เข้าไปแล้ว เผลอประเดี๋ยวเดียว แค่บวชไปวันต่อวัน ไม่ได้อู้เลยซักวัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน ทำแต่งานตลอดเลย ใครว่าพระขี้เกียจ มาลองดูสัก ๓๘ พรรษา แล้วจะรู้สึกว่า บวชเป็นพระดีนะ ไม่ได้หยุดเลย ขนาดไม่ได้อู้ยังเพิ่งทำได้แค่นี้ เพราะกลัวเขาหาว่า พระขี้เกียจ กับตั้งใจสร้างบารมี
นี่ถ้านะ แต่ไม่สำเร็จสักที ถ้าคิดปลีกวิเวก มันง่ายมากเลย เพราะเป็นอัธยาศัยที่แท้จริงของหลวงพ่อ คือ ชอบอยู่เงียบๆ ลำพังๆ ชอบสันโดษ ตอนแรกก็อยู่อย่างสันโดษดีๆ กับคุณยายสองคน อยู่ไปอยู่มา โดดมาจากไหนก็ไม่ทราบ มากันทีละคน สองคน สามคน คุณยายท่านก็ต้องคิดสร้างวัดให้อยู่
พอสร้างวัดก็กะว่า เอาแค่นี้พอ มีกุฏิอยู่ ๒๑ หลัง กระจัดกระจายกันไป เพราะจะปลีกวิเวก ก็มีพระแค่นั้น แล้วคิดว่า ใครมาวัดคนนึงก็จะชวนเขานั่งธรรมะคนนึง ใครมาสองคนก็จะชวนนั่งธรรมะสองคน ไม่มีใครมานั่งเราก็จะนั่งเอง ก็คิดแค่นี้ ไม่ได้คิดอะไร
แต่ แปลกนะ คนที่เคยทำบุญร่วมกันแล้ว บุญในตัวที่มีอยู่มาก มันทนไม่ได้ จะอยู่ที่ไหนของโลกมารวมกันเลยทุกที อยู่ที่โน่น ที่นี่ก็มากัน ทีนี้มาแล้วจะปล่อยให้เขาตากแดดตากฝนได้ไง ตอนแรกก็ทำใจแข็งๆ นะ ปฏิบัติธรรมอยู่ในอาคารตอนนั้นเรียกว่าอาคารดาวดึงส์ เป็นเรือนไม้สีเขียว ใช้เป็นที่นอนด้วย เวลานอนหลับเป็นสุขเลย ยิ่งหน้าฝนยิ่งเป็นสุขมากเลย จะเอากะละมังมารองน้ำไว้ข้างๆ หัวนอน ฝนช่วยบรรเลงเพลง หลังคาเป็นใจมันทะลุ ฝนรั่วทะลุฝ้าเพดาน ลงมาตกกระทบกะละมังเสียงเพราะดีนะ
ก็ จะไม่สร้างอะไรตอนนั้นคิดอยู่แค่นั้น ต่อมาก็นั่งกันเต็มอาคารดาวดึงส์ ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นตึกเป็นเรือนไม้ อาทิตย์ถัดมาก็ล้นอีก แล้วก็ไปนั่งกลางแดด ก็ต้องไปซื้อร่มที่ทหารพลร่มเขาโดดร่มกัน เอามากาง ยังไม่ได้มีเต็นท์เลย กางเอากลางแดด ตามมีตามเกิด เอาว่าทนได้ก็ทนไป ทนไม่ได้เขาก็จะกลับบ้านของเขาเอง ที่นี้เขาทนได้นะสิ นั่งกลางแดดแต่เขาทนได้ แต่คนทนไม่ได้คือหลวงพ่อ ก็สร้างศาลาจาตุมหาราชิกา จุได้ ๕๐๐ คน พอแล้ว ยืนยันกับทุกคนที่มาว่าพอแล้ว
คราวนี้มาเป็นพันคน ก็ต้องไปเช่าเต็นท์กางเรียงรายรอบๆ ก็นึกว่าจะพอ ก็ยังมีคนไปนั่งกลางแดดอีก มีหนูน้อยอยู่คนหนึ่ง ตอนนี้โตแล้วบวชเป็นพระ หนูน้อยน่ารักมีประวัติศาสตร์ชีวิตที่งดงาม ไปนั่งกลางแดดเอาเสื่อไปปูบนรังมด ไม่รู้ว่ามีมดเพราะเป็นเด็ก อายุ ๑๑ -๑๒ ขวบ ใจเด็ดจริงๆ ที่ไปนั่งกลางแดด ปูเสื่อมดมันก็ขึ้นมากัด เพราะเหงื่อของเด็กออก แล้วแดดก็ส่อง แต่หนูน้อยคนนี้นั่งสมาธิไม่หวั่นไหว ที่ไม่หวั่นไหวเพราะใจตกศูนย์ เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า ตกศูนย์มันตกดังป็อก เข้าไปข้างใน เด็กๆ เวลาพูดน่ารักดี ดังป็อก เห็นเป็นดวงใสๆ ลอยขึ้นไปอยู่ในกลางท้อง มีความสุขมาก มดก็เต็มไปหมดเลยมันมาดื่มน้ำไม่ได้ตั้งใจมากัด แค่จะดื่มน้ำเหงื่อ รู้แล้วก็ทนไม่ได้ ก็เป็นอย่างนี้อีกหลายๆ คน
ต้องมาสร้างหลังคาสภาจาก กะว่าคราวนี้จุหมื่นคน เลิกแล้วไม่สร้างแล้ว สร้างหลังคาจากเสร็จปีพุทธศักราช ๒๕๒๘ หลังคาหลังนั้นจุได้หมื่นเศษนิดๆ ๑๐ ไร่ ๑๖,๐๐๐ ตารางเมตร ตัดทางเดินตัดอะไรเสร็จก็หมื่นเศษๆ ปรากฏว่าคนมา ๓๐,๐๐๐ คน เอ้า ไปเช่าเต็นท์มากางอีกรอบๆ ไม่พอก็สงสารเขาอีกนั่นแหละ ไม่ได้อยากสร้าง แต่สงสารเขาก็มาสร้างสภาหลังนี้ คิดว่าไม่เอาแล้วคราวนี้เลิกแล้วเข็ดจริงๆ
ที่โดนคำถามว่า ทำไมสร้างใหญ่ ก็คนมาเยอะจะให้สร้างหลังเล็กได้ยังไง สร้างแล้วใช้ทุกวันนะ ก็สร้างเอาไว้ใช้ ไม่ได้สร้างเอาไว้โชว์ ใช้ฝึกอบรมศีลธรรมให้กับทุกๆ คน ที่มาอบรม มีทั้งนักเรียน นิสิตนักศึกษา ประชาชน ทหาร ตำรวจ พลเรือน มาหมด อบรมกันไปเพื่อจะสร้างคนดีที่โลกต้องการให้มาเกิดขึ้นกับสังคม ก็ทำกันมาอย่างนี้ เราจะเห็นได้วันงานใหญ่ๆ เห็นไหมว่า ล้นออกไปอีกแล้ว ต้องไปเดินโต๋เต๋ข้างนอก พอล้นก็ต้องขยายด้านข้างออกไป มันขัดใจเลยไปสร้างที่ลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์
ที่นั่นจุได้ล้านเศษ คงเป็นชุดสุดท้ายแล้ว เพราะว่าอายุหลวงพ่อใกล้จะร้อยปีแล้ว ก็เอาแค่นี้ไปก่อน ให้รุ่นหลังเขาทำบ้าง ขอรวมพุทธบุตรก่อน อยากเห็นภาพและสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในโลก การได้เห็นพุทธบุตรมารวมกันจำนวนเรือนล้าน เป็นภาพมหัศจรรย์์ ภาพใดจะมางดงามเท่ากับภาพพุทธบุตรมารวมกันเรือนล้านเป็นไม่มี มันอยู่เหนือเกินที่เราจะส่งเข้าประกวดภาพถ่ายที่ดีงาม มันมหัศจรรย์แล้วถ้ารวมได้แล้ว ที่มีจารึกไว้ในพระไตรปิฎกว่า ในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระองค์นี้มีพุทธบุตรมารวมกันเป็นเรือนหลายๆ แสน เป็นเรือนล้าน เราอ่านแล้ว เราไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ กลัวเขียนผิด กลัวเติมศูนย์เข้าไปต่างๆ เราต้องทำให้เป็นจริง
เพราะ ภิกษุมีจริงอยู่ในโลกนี้จำนวนมาก แล้วเราจะได้มีโอกาสฟังธรรม ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญบุญกับพุทธบุตรที่มากันเรือนล้าน เป็นมหาสังฆทานที่ยิ่งใหญ่ เรียกว่าน้องๆ อสทิสสทานเลย คือทานที่ทำได้ยาก ยากเพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นพระองค์หนึ่งทำได้ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะพระราชาแข่งกับชาวเมืองในการถวายทานพระสงฆ์ แต่จำนวนพุทธบุตรยังไม่มากขนาดนี้ เราไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ เราก็เอาสงฆ์เยอะๆ มารวมกัน มันจะมหัศจรรย์ขนาดไหน เราจะปลื้มขนาดไหน ความปลื้มนี้แหละจะติดตัวเราไป นึกครั้งใดก็ปลื้ม เล่าให้คนอื่นฟังเขาก็ปลื้ม และอยากจะเอาอย่างด้วยอยากเห็นด้วย และตอนใกล้จะตายภาพนี้จะทำให้เราปิดอบายไปสวรรค์ ไปดุสิตบุรีวงศ์บุญพิเศษ เขตบรมโพธิ์สัตว์ อย่างสง่างามนะจ้ะ ดังนั้นเราต้องสร้างกันให้เสร็จ