[attachmentid=2475]
ผู้ใดได้ถวายอัญชลีนี้ และชมเชยพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ผู้นั้นจักได้เสวยเทวรัชสมบัติตลอด ๓๐,๐๐๐ กัป ในแสนกัป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า อังคีรส ผู้มีกิเลสดังหลังคาเปิด จักเสด็จอุบัติในภพนั้น ผู้นั้นจักเป็นโอรสผู้รับมรดกในธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น อันธรรมเนรมิตแล้ว จักเป็นพระอรหันต์มีชื่อว่า สตรังสี
เป้าหมายสูงสุดของชีวิต คือ การทำกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป ด้วยการกลั่นใจให้ใสบริสุทธิ์ จนกระทั่งหลุดพ้นจากมลทินทั้งหลายเข้าสู่อายตนนิพพาน อายตนนิพพานนั้นเป็นที่ๆ เต็มเปี่ยม ด้วยอมตสุข เป็นสุขล้วนๆ ไม่มีความทุกข์เจือปนเลย ใครก็ตามที่เข้าถึงพระนิพพานแล้ว ได้ชื่อว่า เข้าถึงแหล่งแห่งบรมสุข อันยั่งยืน
ดังนั้น การทำพระนิพพานให้แจ้งจึงเป็นจุดหมายที่แท้จริง ภพภูมิอื่นๆ นั้น ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์ทั้งหกชั้น รูปพรหมและอรูปพรหม ล้วนตกอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ทั้งสิ้น ไม่เที่ยงแท้ยั่งยืน แต่พระนิพพานอยู่นอกเหนือกฎของไตรลักษณ์ เราจึงจำเป็นต้องตระหนักในการทำพระนิพพานให้แจ้ง ด้วยการปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา
มีวาระแห่งภาษิตที่ปรากฏอยู่ใน สตรังสิยเถราปทาน ความว่า
ผู้ใดได้ถวายอัญชลีนี้ และชมเชยพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ผู้นั้นจักได้เสวยเทวรัชสมบัติตลอด ๓๐,๐๐๐ กัป ในแสนกัป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า อังคีรส ผู้มีกิเลสดังหลังคาเปิด จักเสด็จอุบัติในภพนั้น ผู้นั้นจักเป็นโอรสผู้รับมรดกในธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น อันธรรมเนรมิตแล้ว จักเป็นพระอรหันต์มีชื่อว่า สตรังสี
ถ้อยคำที่นำมากล่าวนี้ เป็นพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ครั้งที่พระพุทธองค์ตรัสพยากรณ์ผู้มีบุญท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นพระดำรัสที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า การทำความดีถูกเนื้อนาบุญ จะต้องบังเกิดผลที่ดีงามอย่างแน่นอน พระอริยเจ้าทั้งหลายในกาลก่อน ท่านเองได้ประสบความสำเร็จในชีวิต ได้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง เพราะมีบุญอยู่เบื้องหลัง ทุกๆ พระองค์เคยสร้างบุญพิเศษกับเนื้อนาบุญ คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาแล้วทั้งนั้น การที่เราเกิดเป็นชาวพุทธนับเป็นความโชคดีอย่างมหาศาล เพราะได้มีโอกาสสั่งสมบุญในบุญเขตอันเยี่ยม
บุญทุกๆ บุญที่ทำผ่านมาในชีวิตของเรามีอยู่มากมาย แต่บุญที่คนมักจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีคือ การสวดมนต์ไหว้พระ ซึ่งกล่าวได้ว่า เป็นกิจวัตรอย่างหนึ่งของชาวไทย ทุกๆ หลังคาเรือนแทบจะไม่เคยขาดการสวดมนต์ไหว้พระ ชาวพุทธมักจะทำกันอย่างสม่ำเสมอ การสวดมนต์ไหว้พระ บูชาพระรัตนตรัย เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย เพราะไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไร เพียงแต่เตรียมใจให้สะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส และยิ่งถ้าทำถูกเนื้อนาบุญแล้ว มหานิสงส์ที่ไม่มีประมาณก็จะบังเกิดขึ้น เป็นบุญใหญ่ติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ
*ดังเรื่องของ พระสตรังสีเถระ เมื่อครั้งที่ท่านยังสร้างบารมีอยู่นั้น ได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญกุศลกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ตามวาระโอกาสจะอำนวย แต่ก็ยังไม่มีบุญพิเศษที่ควรค่าแก่การจดจำ จนกระทั่งในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ พระเถระได้บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ที่มีชื่อเสียง ยุคนั้นนับว่าเป็นยุคแห่งความดีงามก็ว่าได้ เพราะผู้มีบุญลงมาเกิดสร้างบารมีกันอย่างมากมาย
ท่านใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความรักของเหล่าวงศาคณาญาติ จนกระทั่งเติบโตขึ้นก็ได้รับการศึกษาอย่างดี โดยส่วนตัวแล้ว ท่านเป็นคนที่มีปัญญาดีมาก เป็นคนเฉลียวฉลาด สามารถศึกษาวิชาความรู้ของตระกูลพราหมณ์จนหมดสิ้น จนเป็นผู้ชำนาญการในวิชาพยากรณ์ และยังสามารถดูลักษณะของมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ด้วย อีกทั้งยังแตกฉานในไตรเพท
เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ในช่วงนั้นบุญเก่าในตัวได้ตักเตือน ทำให้มองเห็นโทษภัยของการอยู่ครองเรือนว่า ชีวิตการครองเรือนนี้เป็นทุกข์ ปู่ย่าตาทวดของเราต่างใช้ชีวิตอย่างนี้ ไม่เห็นมีใครพยายามที่จะออกจากวังวนแห่งความทุกข์ไปได้เลย ท่านจึงคิดที่จะออกบวช เพื่อแสวงหาความสุขสงบที่แท้จริง
ครั้นคิดได้เช่นนี้ จึงตัดสินใจสละความสุขสบายในทางโลก เข้าสู่ป่าบวชเป็นฤๅษี อาศัยอยู่ในหิมวันตประเทศ และตั้งใจบำเพ็ญเพียรอยู่ที่อาศรมของตนมายาวนาน โดยไม่รับรู้เรื่องราวของชาวโลกเลย จนกระทั่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมมุตตระ เสด็จอุบัติตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงประกาศพระสัทธรรมไปทั่วภาคพื้นชมพูทวีป
วันหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าปรารถนาที่จะแสวงหาความวิเวก จึงเสด็จหลีกเร้น ออกจากที่ชุมชน เสด็จขึ้นสู่ภูเขาสูงลูกหนึ่ง ประทับนั่งขัดสมาธิคู้บัลลังก์ มีฉัพพรรณรังสีออกจากพระวรกาย แลดูสว่างไสวดุจกองไฟที่ลุกโพลง
ท่านฤๅษีมองเห็นฉัพพรรณรังสีที่สว่างไสวออกมาจากพระวรกายพระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งประทับนั่งอยู่ในที่ไม่ไกลจากอาศรมของตน ท่านได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมา ตรวจตราดูก็รู้ว่า มหาบุรุษผู้นี้ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก หากอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถ้าออกบวชก็จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นเลิศในภพสาม
วันนี้นับเป็นบุญลาภของเราจริงหนอ ที่ได้เห็นพระผู้ประเสริฐอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เกิดปีติโสมนัส ประคองอัญชลีกล่าวชมเชยสรรเสริญคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้อุดมบุรุษนี้ เป็นพระผู้ห่างไกลจากกิเลส เป็นผู้บริสุทธิ์หมดสิ้นกิเลสอาสวะ ไม่ข้องในกามทั้งหลาย พระมหาวีรเจ้าเป็นผู้ประเสริฐกว่าเทวดา ทรงประกาศธรรมอันประเสริฐแวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ทรงรุ่งเรืองดังกองไฟ พระผู้มีพระภาคผู้มีพระจักษุ รู้แจ้งแทงตลอดในภพทั้งสาม ไม่ทรงกำเริบดังมหาสมุทร หาผู้ต้านทานได้ยากดุจห้วงมหรรณพ ไม่ทรงครั่นคร้าม องอาจเหมือนราชสีห์ทรงแสดงธรรมอันนำออกจากภพ หาผู้เสมอมิได้ เป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นบุญลาภของเราหนอที่ได้ประนมอัญชลีบูชา พระบรมศาสดาทรงทราบถึงความคิดของฤๅษีนั้น ทรงปรารถนาที่จะให้มหาปีติบังเกิดขึ้นกับพระฤๅษี จึงประทับยืนขึ้นในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัสพยากรณ์ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดได้ถวายอัญชลีและชมเชยพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ผู้นั้นจักได้เสวยเทวรัชสมบัติตลอด ๓๐,๐๐๐ กัป ในแสนกัป ยุคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โคดมอังคีรส ผู้มีกิเลสดังหลังคาเปิด จักเสด็จอุบัติในภพนั้น ผู้นั้นจักเป็นโอรสผู้รับมรดกธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น อันธรรมเนรมิตแล้ว
เธอผู้นั้นมีอายุ ๗ ปีโดยกำเนิด จะออกบวชเป็นบรรพชิต มีนามว่า สตรังสี สรีระของเธอจักมีรัศมีแผ่ออกไป จะเป็นผู้เพ่งฌาน ยินดีในฌาน ในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอด ๖๐,๐๐๐ กัปแต่นี้ไป เธอจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๔ ครั้ง ทรงพระนามว่า โรมะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพละมาก ชาติสุดท้าย จักถึงพร้อมด้วยคุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เธอจะสมปรารถนา บรรลุพระนิพพานในกาลที่สุด ด้วยอานุภาพบุญที่ได้กล่าวคำสรรเสริญ ประนมอัญชลี บูชาเราตถาคต
ทันทีที่สิ้นสุดคำพยากรณ์ มหาปีติอันไม่มีประมาณได้บังเกิดขึ้นมาอย่างท่วมท้น พระฤๅษีเกิดอัศจรรย์ใจยิ่งนักว่า ผลแห่งการบูชาเนื้อนาบุญอันยอดเยี่ยมนี้ น่าอัศจรรย์เหลือเกิน มหาสมบัติจะบังเกิดขึ้นในอนาคต เพราะการสรรเสริญพระคุณของพระตถาคตเจ้า ท่านก้มลงกราบแทบพระบาทของพระพุทธเจ้า ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
ด้วยอานุภาพแห่งบุญนั้น หลังจากจุติจากอัตภาพนั้น ท่านได้เสวยทิพยสมบัติในกามาวจรเทวโลกทั้ง ๖ ชั้น จากนั้นบังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ท่านได้เสวยสมบัติอันเลิศในทุกภูมิที่ไปเกิด ในสมัยพุทธกาลนี้ ท่านมาบังเกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง เมื่ออายุ ๗ ขวบ ก็ออกบรรพชาและได้บรรลุพระอรหัตทันที เพราะท่านมีญาณแก่รอบด้วยอำนาจบุญที่สั่งสมมาในกาลก่อนนั้นเอง
เราจะเห็นว่า อานิสงส์แห่งการกล่าวสรรเสริญพระรัตนตรัยนี้น่าอัศจรรย์ทีเดียว เป็นมหานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาล จะนับจะประมาณมิได้ สิ่งที่เราทำกับเนื้อนาบุญอันเลิศ มีคุณค่าเอนกอนันต์ไปชั่วกัปชั่วกัลป์ การสร้างบุญแม้ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย แต่อานิสงส์ที่ได้ไม่เล็กน้อยเลย การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา และถูกเนื้อนาบุญ จึงเป็นสิ่งที่เราต้องตระหนักและไม่ควรดูเบาอย่างเด็ดขาด หมั่นนึก หมั่นย้ำ หมั่นทำกันอย่างสม่ำเสมอ เราจะได้มีอานิสงส์ใหญ่ติดตัวไปทุกภพทุกชาติกันทุกคน
*มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๒๑๒